ขอนำบทความที่เขียนถึงงานของพระองค์ท่านมาเผยแพร่
วันนี้ วันที่ ๑๒ สิงหา วันแม่แห่งชาติ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงเมตตาต่อพสกนิกรตลอดมา
ข้าพเจ้าเป็นเพียงอาจารย์แพทย์โรคหัวใจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในรพ.รามาธิบดี
เมื่อหลายปีก่อน ข้าพเจ้าได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถให้เป็นแพทย์ติดตามเสด็จ และนับเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่สุดของข้าพเจ้า
ครั้งแรกที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทนั้น ข้าพเจ้า ทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล แต่ด้วยพระจริยวัตรที่งดงามและเป็นกันเอง ทำให้ข้าพเจ้าคลายความประหม่าและความกังวลลงไปได้ แม้หลายครั้งจะเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจ แต่ข้าพเจ้าอดคิดไม่ได้ว่า เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ความงดงามของการมองชีวิตจากพระองค์ท่าน
ก่อนหน้านี้ เมื่อข้าพเจ้าดูข่าวในราชสำนักโทรทัศน์มักถ่ายทอดโครงการต่างๆของท่านและจบแต่เพียงเท่านั้นแต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วส่วนที่ดีที่สุดเริ่มต้นหลังจากนั้น นั่นคือ ช่วงเวลาที่พระองค์ท่านประทับอยู่กับราษฎรหลังจากทรงตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆเสร็จแล้ว เพื่อมอบความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนของพระองค์ ข้าพเจ้าได้เห็นสมเด็จพระราชินีประทับนั่งพับเพียบกับพื้นและไถ่ถามราษฎรถึงความทุกข์ยากของเขาเหล่านั้นด้วยพระองค์เองทั้งที่พระชนมายุเพียงนี้แล้วแต่หลายครั้งที่พระองค์ทรงงานนานถึง 6 ชั่วโมงโดยมิได้ลุกเลยเพื่อให้การดูแลผู้ยากไร้อย่างดีที่สุด
ครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งใกล้พระองค์ท่านจนได้ยินการสนทนา และทราบว่าหญิงชาวบ้านผู้มาเข้าเฝ้านั้นมีความทุกข์เรื่องหนี้สินสามีจากเธอไปและทิ้งเธอให้เผชิญหนี้สินตามลำพังพร้อมด้วยลูกเล็กๆอีก 2 คนข้าพเจ้ามองเห็นว่าความทุกข์ยากแห่งชีวิตได้ฝากริ้วรอยไว้บนใบหน้าของเธอมากเพียงใดในแววตามีแต่ความสิ้นหวังและลูกๆปราศจากความเบิกบานอย่างที่เด็กๆ ควรจะมี เมื่อรับสั่งถามว่าเป็นหนี้เท่าไร เธอผู้นั้นไม่ยอมตอบเพียงแต่ทูลว่าหนี้นั้นมากมายเหลือเกินและข้าพเจ้าได้ยินสมเด็จพระราชินีรับสั่งว่า “ไปบอกเจ้าหนี้นะคะว่าพระราชินีจะใช้หนี้ให้” ข้าพเจ้าถึงกับน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว
ผู้สูงศักดิ์ที่สุดของแผ่นดินประทับอยู่ท่ามกลางชาวบ้านยากไร้ทรงมอบความรักความช่วยเหลือให้เด็กๆจะได้รับขนมแจก, ผู้ป่วยจะมีแพทย์ดูแล,ผู้สูงอายุจะได้รับแว่นสายตา,ผู้ยากไร้จะได้รับพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องทุนรอนไม่มีผู้ใดที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือข้าพเจ้าเคยสงสัยว่า ต้องใช้พระราชทรัพย์มากเพียงใดเพราะทุกครั้งที่ราษฎรนำผลผลิตของตนมาก็ได้รับคำตอบว่า พระราชินีรับซื้อทั้งหมดค่ะ
ข้าพเจ้าพบว่าพระองค์ต้องใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินที่มีผู้ทูลเกล้าฯถวายเข้ามูลนิธิศิลปาชีพหลายล้านบาทต่อวันช่วยเหลือผู้คนที่สังคมส่วนใหญ่พากันลืมเลือนผู้คนที่ไม่มีโอกาส สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็น คือ สมเด็จพระราชินีได้คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้แก่คนยากไร้ที่มิได้รับความใส่ใจจากผู้ใด ข้าพเจ้าเชื่อว่าในสายพระเนตรของพระองค์ผู้ที่ยากไร้ก็เป็นคนไทยที่พระองค์ทรงรักข้าพเจ้าเสียดายที่หลายครั้งโทรทัศน์ไม่อาจถ่ายทอดความรักความเอื้ออาทรของพระองค์ได้
ครั้งหนึ่งสมเด็จพระราชินีเสด็จไปหมู่บ้านห่างไกลติดชายแดนพม่าข้าพเจ้าอดสงสัยไม่ได้ว่า ณ.หมู่บ้านไม่กี่ครัวเรือนแห่งนี้ ทำไมต้องเสด็จมาด้วยและข้าพเจ้าก็ได้รับคำตอบว่า หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากพม่าเข้าสู่ไทย การให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจะช่วยลดปัญหายาเสพติดให้แก่ลูกหลานไทยและยังช่วยอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงได้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณทางอ้อมอันยิ่งใหญ่ต่อข้าพเจ้าเองและปวงชนชาวไทย
ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเห็นผลงานศิลปหัตถกรรมต่างๆและรู้สึกทึ่งในความวิจิตรงดงามเมื่อสอบถามว่าเป็นผลงานของผู้ใดก็ได้รับคำตอบว่าเป็นของชาวบ้านชาวเขาซึ่งไร้การศึกษา ในตอนแรกข้าพเจ้าเองไม่เชื่อแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้ สมเด็จพระนางเจ้าฯได้สอนเรื่องยิ่งใหญ่ให้แก่ข้าพเจ้านั่นคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์พระองค์ทรงใช้ความอดทนค่อยๆสอนจากชาวบ้านที่ไม่มีความรู้ใดๆสามารถสร้างงานศิลป์ที่คนไทยทั่วประเทศต้องภาคภูมิใจ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นครูแพทย์สมเด็จพระราชินีได้ปลูกฝังให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะศรัทธาในศักยภาพของผู้คนเมื่อคราวเสด็จไปเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้านทุรกันดารมีคุณลุงท่านหนึ่งมาขอรับพระราชทานความช่วยเหลือพวกเราที่เป็นแพทย์จำได้ว่าคุณลุงท่านนี้ตามมา 2-3แห่งแล้วและขอรับพระราชทานความช่วยเหลือทุกครั้งแพทย์ท่านหนึ่งจึงกล่าวตำหนิไปแต่สมเด็จพระราชินีทรงได้ยินและรับสั่งว่า “อย่าไปว่าเขาเลยค่ะคุณหมอเพราะเขาจนจึงได้ทำแบบนี้”
หลายครั้งที่พระองค์ท่านทรงประสบเหตุการณ์ในทำนองนี้แต่พระองค์ยังเชื่อมั่นในส่วนดีของผู้คนเสมอ ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกครั้งที่ประทับอยู่ท่ามกลางราษฎรที่ยากไร้มีปัญหาต่างๆมากมายมาให้ทรงแก้ไขแต่สมเด็จพระราชินีทรงมีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยความสุขเสมอแม้จะทรงงานหลายชั่วโมงต่อเนื่องโดยมิได้พักพระองค์มิได้มีท่าทีเหนื่อยหน่ายพระองค์ทรงจำได้แม้แต่ผู้ป่วยเล็กน้อยสักคนและมักตรัสถามแพทย์ถึงอาการผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วยความห่วงใยเสมอข้าพเจ้าพบว่าแม้คนที่ดูเล็กน้อยในสายตาของชาวโลกมีค่าเสมอในสายพระเนตรของพระองค์
นี่เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่ข้าพเจ้าประทับใจในพระองค์ท่านชาวโลกต่างรู้ดีว่า ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์และพระราชินีที่ประเสริฐที่สุดในโลก แต่น่าเสียดาย...เสียดายที่คนไทยส่วนหนึ่งมองไม่เห็นแม้แต่บางคนในรามาธิบดีเองกลับไม่ตระหนักว่าเรามีอาชีพ มีเงินเดือนมีเกียรติ เพราะเราทำงานในรามาธิบดีทำงานภายใต้พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ท่านหลายคนถูกปลุกปั่นให้เชื่อในหลักการของทุนสามานย์ถูกกระแสสังคมครอบงำความคิดเรื่องทุนนิยมเห็นค่าดัชนีตลาดหุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ สำคัญกว่าความถูกต้อง ความเป็นธรรม และจริยธรรม
สำหรับข้าพเจ้าแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่ท่ามกลางพวกเราพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความรักความเมตตา หากคนไทยไม่สนใจสิ่งที่พระองค์ทรงสอนและกระทำเป็นแบบอย่างหากสังคมไทยยังคงปล่อยปละให้ผู้คนดูหมิ่นจาบจ้วงพระองค์โดยไม่ทำอะไรและยังคงปลูกฝังระบบทุนนิยมสามานย์ให้แก่ลูกหลานของเราจุดจบของประเทศไทย คงไม่พ้นช่วงชีวิตของเรา
ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฎฐะ
หน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
บทความโดย ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฎฐะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากลิงค์