Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 12

Thread: มั่นใจว่าคนไทยฯเกลียดเมธาวี

Hybrid View

  1. #1
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Quote Originally Posted by Siambrandname Webmaster View Post
    ได้เข้ามาดูแล้วครับ แต่ดูไม่จบครับ เลยยังไม่รู้เรื่องว่าเรื่องอะไรครับ ใครรู้บอกทีครับ
    อ่อ ชื่อเรื่องว่า มั่นใจคนไทยฯเกลียดเมธาวี
    เป็นหนังสั้นที่เอามาจากละครโทรทัศน์เรื่องบันทึกกรรมทางช่อง 3

    ผมได้มีโอกาสดูหนังสั้นเรื่องนี้ แล้วรู้สึกว่า หนังสั้นเรื่องนี้พยายามสื่อสาร
    บทบาทของสังคมออนไลน์ ที่มีต่อสังคมไทย ในปัจจุบัน

    หนังเรื่องนี้พยายามตั้งคำถามว่า คิดอย่างไรต่อคนที่ชื่อว่า เมธาวี
    ??
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  2. #2
    Join Date
    May 2010
    Posts
    18

    ชอบมาก

    หนังทำได้ดีมาก คนเราชอบตัดสินคนจากความคิดตนเอง ทั้ง ๆ ที่ไ่ม่รู้จักตัวตนของคนๆนั้นเลย
    Thanks iDnOuSe4 ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  3. #3
    PO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    156
    เด็กๆนักแสดงๆเนี่ยแสดงดีกว่าในทีวีอีกนะเนี่ย

    หนังเก๋ๆ สนุกดี

    ชอบตอนช่วงจบ

    ทุกคนสรุปกันไปเอง บ้างก็บอกว่าเมธาวีดี แต่หาเหตุผลไม่ได้

    บ้างก็ว่าไม่ดี ก็พูดไปมั่วๆ

    แต่พอมาถามตัวเมธาวีเอง แล้วเจ้าตัวเค้ายังตอบไม่ได้เลย คนอื่นนี่รู้ดีกันจริงๆ ช่างเหมือนกับเรื่องรอบๆตัว 555
    ... po po po...
    Thanks iDnOuSe4 ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  4. #4
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Quote Originally Posted by PO View Post
    เด็กๆนักแสดงๆเนี่ยแสดงดีกว่าในทีวีอีกนะเนี่ย

    หนังเก๋ๆ สนุกดี

    ชอบตอนช่วงจบ

    ทุกคนสรุปกันไปเอง บ้างก็บอกว่าเมธาวีดี แต่หาเหตุผลไม่ได้

    บ้างก็ว่าไม่ดี ก็พูดไปมั่วๆ

    แต่พอมาถามตัวเมธาวีเอง แล้วเจ้าตัวเค้ายังตอบไม่ได้เลย คนอื่นนี่รู้ดีกันจริงๆ ช่างเหมือนกับเรื่องรอบๆตัว 555
    ครับ

    ขอบคุณที่เข้ามาพูดคุย แสดงความรู้สึกนะครับ

    ส่วนของผมดูแล้วรู้สึกว่า

    ใน Social Network ในปัจจุปันนี้ สามารถกระจายสารได้เร็วมาก

    ยิ่งตอนนี้ อยากจะเขียนอะไรลงไป ก็สามารถทำได้สะดวก รวดเร็วมาก

    เร็วจนหลงลืมไปว่าข้อความนั้นจะไปทำร้ายใครรึปล่าว

    หากคิดไม่ทัน และไม่คิดรับผิดชอบต่อข้อความนั้น คนที่เข้ามาอ่านก็จะรับสารไป โดยไม่มีข้อมูลเพื่อพิจารณาอย่างอื่นได้ จนตีความสารนั้น และรู้สึกต่อคนที่ถูกกล่าวหาในข้อความนั้นไปแล้ว และหากคนที่รับสารนั้น เผยแพร่ต่อ จะมีคนที่รู้สึกต่อคนที่ถูกกล่าวหานั้นมากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว

    ถึงแม้คนที่เขียนข้อความนั้น รู้สึกผิด และอยากรับผิดชอบ จะตามลบ ตามแก้ ก็ไม่ทันแล้ว

    ดังนั้น ผมจึงรู้สึกว่า การสื่อสารข้อความในอินเตอร์เน็ต ทุกตัวอักษรมันสำคัญมากๆ ดังตัวอย่างในหนังเรื่องนี้ก็บอกไปแล้ว หน่ะครับ
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  5. #5
    Join Date
    Aug 2010
    Posts
    8

    Angry

    ดูจบแล้ว ให้ความรู้สึกที่ หนัก ใช้ได้ (เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไม่ใช่กระแสเฮฮา facebook เฉยๆ)
    ดูเสร็จแล้วยังหนักหัวอยู่เลย
    ดูแล้วสงสาร แล้วก็กลับมาคิดถึงตัวเอง ถ้าเราเป็นคนทั่วไปในโรงเรียน แล้วมีคนแบบเมธาวี
    เราก็คงตามกระแสแหละเนาะ....
    แล้วอย่างงี้ต่อไปจะรู้ได้ไงละ ว่าอะไรดี หรืออะไรไม่ดี...
    โอ๊ย ปวดหัว แง่งๆ

  6. #6
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Quote Originally Posted by white View Post
    ดูจบแล้ว ให้ความรู้สึกที่ หนัก ใช้ได้ (เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไม่ใช่กระแสเฮฮา facebook เฉยๆ)
    ดูเสร็จแล้วยังหนักหัวอยู่เลย
    ดูแล้วสงสาร แล้วก็กลับมาคิดถึงตัวเอง ถ้าเราเป็นคนทั่วไปในโรงเรียน แล้วมีคนแบบเมธาวี
    เราก็คงตามกระแสแหละเนาะ....
    แล้วอย่างงี้ต่อไปจะรู้ได้ไงละ ว่าอะไรดี หรืออะไรไม่ดี...
    โอ๊ย ปวดหัว แง่งๆ
    ขอบคุณที่เข้ามาเขียนความรู้สึกนะครับ
    ว่าแต่หนักคือไรหว่า
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  7. #7
    itasian's Avatar
    itasian is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Location
    Usa
    Posts
    1,466
    Blog Entries
    5
    ทีแรก ดูแล้ว รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริงเลย
    แสดงกันเก่งมากครับ

    ดูแล้ว รู้สึก สงสาร เมธาวี
    เขาแค่ใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้รู้หรือสนใจเลยว่า ใครคิดกับตนอย่างไร

    มีคนสื่อสารตามความรู้สึกตนที่มีต่อเมธาวี
    โดยไม่ได้รับผิดชอบต่อสารที่ตนแสดงออกไป

    เป็นการทำร้าย เมธาวี และทำลายคุณค่าชีวิตของเมธาวี

    และคนเหล่านั้น ก็น่าสงสาร เพราะเขาไม่รู้เลยว่า เขาทำไป ทำไม

  8. #8
    PO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    156
    Quote Originally Posted by iDnOuSe4 View Post
    ครับ

    ขอบคุณที่เข้ามาพูดคุย แสดงความรู้สึกนะครับ

    ส่วนของผมดูแล้วรู้สึกว่า

    ใน Social Network ในปัจจุปันนี้ สามารถกระจายสารได้เร็วมาก

    ยิ่งตอนนี้ อยากจะเขียนอะไรลงไป ก็สามารถทำได้สะดวก รวดเร็วมาก

    เร็วจนหลงลืมไปว่าข้อความนั้นจะไปทำร้ายใครรึปล่าว

    หากคิดไม่ทัน และไม่คิดรับผิดชอบต่อข้อความนั้น คนที่เข้ามาอ่านก็จะรับสารไป โดยไม่มีข้อมูลเพื่อพิจารณาอย่างอื่นได้ จนตีความสารนั้น และรู้สึกต่อคนที่ถูกกล่าวหาในข้อความนั้นไปแล้ว และหากคนที่รับสารนั้น เผยแพร่ต่อ จะมีคนที่รู้สึกต่อคนที่ถูกกล่าวหานั้นมากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว

    ถึงแม้คนที่เขียนข้อความนั้น รู้สึกผิด และอยากรับผิดชอบ จะตามลบ ตามแก้ ก็ไม่ทันแล้ว

    ดังนั้น ผมจึงรู้สึกว่า การสื่อสารข้อความในอินเตอร์เน็ต ทุกตัวอักษรมันสำคัญมากๆ ดังตัวอย่างในหนังเรื่องนี้ก็บอกไปแล้ว หน่ะครับ

    ขอบคุณคุณจขกทสำหรับประเด็นที่น่าสนใจค่ะ

    แต่ขอแชร์คหส่วนตัวที่เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะดูลึกซึ้งมากกว่านี้เยอะเลย หากไม่ได้เน้นแค่ ประเด็น social network

    เพราะ social network เป็น "เพียงปัจจัยหนึ่ง" ในการสื่อสาร

    แต่นามธรรมที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวนี้ คือ นิสัยของมนุษย์ ที่วันๆคิดแต่จะเปรียบเทียบ และตัดสิน อย่างเต็มไปด้วยอคติ ต่างหาก

    ดังนั้นหากเรา สรุปแค่ประเด็น social network จะทำให้เราไม่เห็นว่าอะไรคือแรงขับที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมนั้น

    ยกตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่มีคนทำให้คุณโกรธ คุณจะโกรธมากจนต่อยคนคนนั้น แต่เมื่อวันนึงอุปกรณ์ที่เรียกว่า"ปืน"ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ทุกครั้งที่คุณโกรธ คุณก็จะเอาปืนยิงคนคนนั้นให้ตายเสีย

    ต่อมา คนก็จะมาพยายามพูดกันถึงความร้ายแรง ความน่ากลัวของปืน

    โดยที่ไม่มีใครพยายามพูดถึงต้นเหตุ ซึ่งก็คือผู้ใช้ปืน หรืออีกนัย "มนุษย์" นั่นเอง

    สิ่งประดิษฐก็คือสิ่งประดิษฐ์ มันจะไม่เกิดคุณ หรือ โทษ หากมันไม่ได้ถูกใช้โดยมนุษย์

    ดังนั้น ต่อให้มีสิ่งประดิษฐ์ที่ดีหรือชั่วขึ้นมาในโลก หากผู้ใช้มีจิตใจฝักใฝ่อยากให้ผู้อื่น ตกต่ำ และไม่รับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าสิ่งประดิษฐ์นั้นจะถูกสร้างออกมาเลิศเลอหรือสมบูรณ์แค่ไหน ก็ย่อมก่อให้เกิดผลเสียในวงกว้างได้พอๆกับความดำมืดของจิตใจของผู้ใช้

    ส่วนหนังเรื่องนี้ ก็ถือได้แค่ว่าเป็นอีกเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความผิดซ้ำๆของมนุษย์

    เพราะการเปรียบเทียบ แบ่งแยก ตัดสิน อย่างเต็มไปด้วยอคติ เป็นสิ่งที่ล้วนเป็นปัญหาและสร้างความทุกข์ให้มนุษย์มานมนานตั้งแต่อดีตกาลที่เคยบันทึกไว้มาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยน ดังนั้นหากวันนี้จะเกิดความผิดซ้ำซาก ไม่ว่าจะผ่าน โทรศัพท์ จดหมาย อินเตอเน็ต สื่อต่างๆ หรือปากต่อปาก หรืออะไรก็ตามที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์เดิมๆ หากผู้ใช้นั้น ยังเป็น "มุนษย์"


    ที่ต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติม เพราะเห็นว่า การที่เราสรุปอะไรจากปลายเหตุจะทำให้เราไม่เห็นต้นเหตุของปัญหา
    "เพราะหากเราดูแค่รูปแบบการเกิดขึ้นเราจะไม่รู้ถึงนามธรรมที่ซ่อนอยู่"

    เพราะวันนี้มี social network ให้พวกเราได้กล่าวโทษ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มี future network
    super network etc. ออกมาให้เราได้กล่าวโทษอีก ทั้งที่ผู้ใช้ก็ยังเป็นคนเดิม เปลี่ยนเครื่องมือไปอีกร้อยอย่าง ปัญหาเดิมจากคนใช้คนเดิมมันก็ย่อมยังอยู่ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงหรือเรียนรู้ ว่าอะไรคือต้นเหตุแห่งความผิดซ้ำซาก

    ขอทิ้งไว้ประมาณนี้ค่ะ อยากจะร่วมแชร์ความเห็น คิดเห็นอย่างไร พูดคุยกันได้ค่ะ
    Last edited by PO; 12-17-2010 at 08:31 PM.
    ... po po po...
    Like amm0pat, iDnOuSe4, itasian, Euphrates ถูกใจ ข้อความนี้ ที่สุด

  9. #9
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Quote Originally Posted by PO View Post
    ขอบคุณคุณจขกทสำหรับประเด็นที่น่าสนใจค่ะ

    แต่ขอแชร์คหส่วนตัวที่เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะดูลึกซึ้งมากกว่านี้เยอะเลย หากไม่ได้เน้นแค่ ประเด็น social network

    เพราะ social network เป็น "เพียงปัจจัยหนึ่ง" ในการสื่อสาร

    แต่นามธรรมที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวนี้ คือ นิสัยของมนุษย์ ที่วันๆคิดแต่จะเปรียบเทียบ และตัดสิน อย่างเต็มไปด้วยอคติ ต่างหาก

    ดังนั้นหากเรา สรุปแค่ประเด็น social network จะทำให้เราไม่เห็นว่าอะไรคือแรงขับที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมนั้น

    ยกตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่มีคนทำให้คุณโกรธ คุณจะโกรธมากจนต่อยคนคนนั้น แต่เมื่อวันนึงอุปกรณ์ที่เรียกว่า"ปืน"ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ทุกครั้งที่คุณโกรธ คุณก็จะเอาปืนยิงคนคนนั้นให้ตายเสีย

    ต่อมา คนก็จะมาพยายามพูดกันถึงความร้ายแรง ความน่ากลัวของปืน

    โดยที่ไม่มีใครพยายามพูดถึงต้นเหตุ ซึ่งก็คือผู้ใช้ปืน หรืออีกนัย "มนุษย์" นั่นเอง

    สิ่งประดิษฐก็คือสิ่งประดิษฐ์ มันจะไม่เกิดคุณ หรือ โทษ หากมันไม่ได้ถูกใช้โดยมนุษย์

    ดังนั้น ต่อให้มีสิ่งประดิษฐ์ที่ดีหรือชั่วขึ้นมาในโลก หากผู้ใช้มีจิตใจฝักใฝ่อยากให้ผู้อื่น ตกต่ำ และไม่รับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าสิ่งประดิษฐ์นั้นจะถูกสร้างออกมาเลิศเลอหรือสมบูรณ์แค่ไหน ก็ย่อมก่อให้เกิดผลเสียในวงกว้างได้พอๆกับความดำมืดของจิตใจของผู้ใช้

    ส่วนหนังเรื่องนี้ ก็ถือได้แค่ว่าเป็นอีกเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความผิดซ้ำๆของมนุษย์

    เพราะการเปรียบเทียบ แบ่งแยก ตัดสิน อย่างเต็มไปด้วยอคติ เป็นสิ่งที่ล้วนเป็นปัญหาและสร้างความทุกข์ให้มนุษย์มานมนานตั้งแต่อดีตกาลที่เคยบันทึกไว้มาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยน ดังนั้นหากวันนี้จะเกิดความผิดซ้ำซาก ไม่ว่าจะผ่าน โทรศัพท์ จดหมาย อินเตอเน็ต สื่อต่างๆ หรือปากต่อปาก หรืออะไรก็ตามที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์เดิมๆ หากผู้ใช้นั้น ยังเป็น "มุนษย์"


    ที่ต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติม เพราะเห็นว่า การที่เราสรุปอะไรจากปลายเหตุจะทำให้เราไม่เห็นต้นเหตุของปัญหา
    "เพราะหากเราดูแค่รูปแบบการเกิดขึ้นเราจะไม่รู้ถึงนามธรรมที่ซ่อนอยู่"

    เพราะวันนี้มี social network ให้พวกเราได้กล่าวโทษ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มี future network
    super network etc. ออกมาให้เราได้กล่าวโทษอีก ทั้งที่ผู้ใช้ก็ยังเป็นคนเดิม เปลี่ยนเครื่องมือไปอีกร้อยอย่าง ปัญหาเดิมจากคนใช้คนเดิมมันก็ย่อมยังอยู่ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงหรือเรียนรู้ ว่าอะไรคือต้นเหตุแห่งความผิดซ้ำซาก

    ขอทิ้งไว้ประมาณนี้ค่ะ อยากจะร่วมแชร์ความเห็น คิดเห็นอย่างไร พูดคุยกันได้ค่ะ
    ขอบคุณครับ มองไม่ออกเลยแหะ
    หากมนุษย์ยังคงเปรียบเทียบ แบ่งแยก ตัดสิน อย่างอคติ ยังไงก็ผิดซ้ำซากสินะ
    แต่ Social Network มาทำให้มันเร็วและกว้างมากขึ้น

    หุ้ย ชอบๆ
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •