วันนี้อ่านเจอข่าวนี้ เลยเอามาบอกต่อ ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้จักโครงการนี้ของพระราชินีมาก่อน
และช่วงที่ผ่านมามีข่าว คุณครูที่ใต้ถูกทำร้ายบ่อย เลยขอเอาข่าวนี้มาลงค่ะ
รับรู้เรื่องราวของ คุณครูที่ใต้ ก็ทำให้เห็นว่า การเป็นครู โดยหน้าที่ กับการเป็นครู ด้วยหัวใจ มันต่างกัน
.................................................

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พระราชดำริให้จัดสร้างศูนย์ครูใต้ขึ้นในท้องถิ่นใกล้เคียงให้ครูได้เข้ามาพักอาศัยโดยมีการอารักขาอย่างดีเยี่ยม ศูนย์ครูใต้แห่งแรกสร้างที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2551





“ถ้าขืนปล่อยให้ข้าราชการครูต้องเผชิญกับชะตากรรมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยไม่มีหนทางแก้ไขแล้ว ในอนาคตคงไม่มีครูที่มีความรู้ ความสามารถ จะยอมเสียสละ อาสาลงไปสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกต่อไป” พระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 11 สิงหาคม 2551

ภายในระยะเวลา 3-4 ปีมานี้ โจรใต้ได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศอย่างไม่หยุดหย่อน หนึ่งในความอำมหิตนั่นคือการล่าสังหารครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนบัดนี้ประเทศไทยได้สูญเสียบุคลากรผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ลูกหลานชาวไทยไปแล้วถึง 135 คน ครูที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในท้องถิ่นเหล่านี้ล้วนแต่เสียขวัญตลอด 24 ชั่วโมง เพราะไม่อาจทราบได้ว่าวินาทีใดวินาทีหนึ่งข้างหน้าจะถูกโจรใต้บุกเข้ามาฆ่าหรือไม่

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใย และเห็นใจครูใต้ผู้บริสุทธิ์เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง ครูไม่มีอาวุธที่จะป้องกันตัวให้พ้นจากภัยร้าย จึงกลายเป็นเป้าหมายให้โจรเลือกสังหารได้ตามชอบใจ ทรงตระหนักดีว่าครูใต้ต้องเผชิญความเครียดอยู่ตลอดเวลา และยังบั่นทอนสมาธิในการสอนหนังสือ ต้องหวาดผวาระหว่างเวลาเดินทาง แม้ในยามดึกดื่นค่ำคืนก็มิอาจข่มตาลงให้หลับสนิทได้ ทำให้สุขภาพทั้งกายและใจของครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว จึงมีพระราชดำริให้จัดสร้างศูนย์ครูขึ้นในท้องถิ่นใกล้เคียงได้เข้ามาพักอาศัยโดยมีการอารักขาอย่างดีเยี่ยมทรงใช้เงินที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวายเนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษารวมกับเงินที่ทางรัฐบาลสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อการจัดสร้างศูนย์ครูใต้ขึ้นเป็นแห่งแรกที่จังหวัดปัตตานี


ภายในศูนย์ครูใต้จะมีบ้านพักครูซึ่งมีอุปกรณ์ของใช้ภายในบ้านอย่างครบครัน มีทั้งร้านค้า ร้านเสริมสวย โรงยิม สำหรับให้ครูได้ออกกำลังกาย เพื่อการพักผ่อน และผ่อนคลายความตึงเครียด รวมทั้งห้องสมุดที่มีหนังสือนานาชนิด อินเทอร์เน็ต เพื่อการสืบค้นข้อมูลไว้ให้ครูเพื่อเพิ่มพูนการศึกษาการหาความรู้เพื่อให้ครูสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข และปลอดภัย โดยไม่ต้องเดินทางออกมาภายนอก ยกเว้นเวลาไปสอนหนังสือเท่านั้น ซึ่งก็จะมีทหารคอยให้การอารักขาตลอดการเดินทาง และในระหว่างการปฏิบัติงานจริง

พล.อ.ธีระพงษ์ ศรีวัฒนกุล ผู้รับผิดชอบโครงการพระราชดำริศูนย์ครูใต้ ได้เปิดใจว่า ตั้งแต่เริ่มการจัดตั้งศูนย์ครูใต้จนมาถึงปัจจุบันนับได้ว่ามีจำนวนครูที่ได้รับการดูแลอาศัยอยู่ในพื้นที่ศูนย์ครูใต้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และในปัจจุบันหลังจากที่มีชุดรักษาความปลอดภัยครูขึ้น สามารถลดจำนวนครูที่ต้องเสียชีวิตจากการลอบสังหารครูที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ และยังเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจของครูเหล่านี้ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ทำให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถมีกำลังใจที่เข้มแข็งในการทำงานสอนต่อไป

ด้วยทรงหวังพระราชหฤทัยว่า ศูนย์ครูใต้จะเป็นที่พักพิงอันร่มเย็นเป็นสุขให้แก่ครูใต้ผู้ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมอันแสนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลาช้านาน เสมือนหนึ่งเป็นอ้อมแขนของคนไทยทั่วประเทศที่ร่วมกันโอบอุ้มคุ้มครองครูใต้ กางกั้นครูทั้งหลายไว้จากความทุกข์และความกังวล ในช่วงเวลาที่พักอยู่ในศูนย์ครูนี้ เพื่อเติมแรงใจและแรงกายให้ผองครูได้ฝ่าฟันอันตรายเพื่อออกไปทำหน้าที่ เพื่อลูกศิษย์และเพื่ออนาคตของประเทศชาติต่อไปโดยไม่ท้อถอย


.....นำมาจาก ผู้จัดการออนไลน์ 14 ก.ย. 2553