
Originally Posted by
cocoa
ตั้งใจเขียน และเขียนยาวมาก
กรุณาอ่านให้สมกับที่มาถาม
และความตั้งใจของผู้ตอบด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ตอบตรงๆ นะคะ
ธุรกิจดังกล่าวทั้งหมดที่เรียกว่า direct sales เริ่มต้นจากเจตนาดี คือต้องการตัดพ่อค้าคนกลางออก
เพื่อให้สินค้า ไปถึงมือผู้บริโภค ได้ในราคาที่ถูกกว่า โดยทางผู้จำหน่าย จะเป็นผู้แบกรับการโฆษณาและขนส่งเอง
บริษัทแม่ จะให้บรรดาเครือข่ายออกค่าใช้จ่ายเอง โดยการนำส่วนแบ่งมาล่อ
คือหากคุณขายได้มาก ส่วนแบ่งก็จะมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพยายามขายให้มากขึ้น
และถ้าคุณหาคนมาช่วยขายมากขึ้น ก็จะได้ส่วนแบ่งจากคนเหล่านั้นตามลำดับ ตามลักษณะปิรามิด
แต่
เจตนาดังกล่าวได้ถูกแปรไป เพราะตัวเงินที่มาล่อว่า ส่วนแบ่งที่มากขึ้น downline มากขึ้นย่อมเกิดจากการขายที่มากขึ้น
คนก็ขี้เกียจซิคะ เรื่องอะไรจะออกไปขายให้เหนื่อย หา downline อย่างเดียวดีกว่า หาคนทำแทน
หลังๆ จึงกลายเป็นว่า ไม่มีใครขาย เพราะใช้วิธีหา downline หมด โดยให้ downline ซื้อต่อไปเป็นทอดๆ
เมื่อซื้อถึงยอดก็จะได้เลื่อนระดับ ได้ % ส่วนแบ่งการขายที่มากขึ้น
ทางลัดก็คือ ซื้อมาทั้ง lot เลยเพื่อให้ส่วนแบ่งมากขึ้น ออกไปหาเหยื่อ (ขอเรียกว่าเหยื่อนะคะ เพราะบางท่านไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลย)
เมื่อได้เหยื่อแล้ว ก็บอกให้เค้าทำแบบเดียวกัน โดยซื้อสินค้าจากคุณ เพื่อยกระดับตัวเอง แล้วไปขายให้ลำดับต่อไป
สินค้าก็ไม่ได้ออกไปสู้ผู้บริโภคจริงๆ และถูกใช้เป็นกลยุทธในการหาเหยื่อคนต่อไป ผู้ที่เคยกลายเป็นเหยื่อก็มาเป็นผู้ล่าแทน และก็มีคนโชคร้ายมาเป็นเหยื่ออีกทอดหนึ่ง
ส่วนการจะอยู่ในตำแหน่งสูงๆ นั้น ก็ต้องมียอดที่คงที่ และสูงตามตำแหน่ง
วิธีก็คือ ใช้การขายความเกรงใจ ความรำคาญ ขายความเป็นเพื่อน เป็นญาติ คือขายจากความเป็นคนดีของคนอื่น
จริงอยู่ มีคนใช้คนซื้อของจริงๆ แต่ คนขายอยากได้ยอดนี่ แล้วคุณจะทำยังงัย คุณก็ซื้อมาเก็บไว้ที่บ้านก่อน
แล้วค่อยๆ ระบายออก
วิธีระบายก็อย่างที่บอก
1. ขายความเกรงใจ ใช้ว่าเคยมีบุญคุณกันมาก่อน เคยช่วยเหลือกันในชาติปางไหนไม่รู้ ทำให้ต้องซื้อเครื่องกรองน้ำราคาเป็นแสน
คนซื้อถ้าเค้าอยากได้เค้าก็ซื้อแล้ว แต่ไม่ใช่ บางที คนที่ซื้อยังไม่ทราบเลยว่าจะเอาไปทำอะไร
2. ขายความรำคาญ มานั่งคุยนั่งเล่นตั้งแต่เช้าจนมืด เจ้าของบ้านจะนอนแล้วก็ยังไม่กลับ คือจะไม่กลับจนกว่าจะซื้ออะไรซักอย่าง หรือหลายอย่าง
หลายๆ ท่านตัดความรำคาญด้วยการเหมาๆ อะไรซักหน่อย มันจะได้เลิกมาตอแย อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง จนถึงวันตัดยอดอาจจะโผล่มาให้เซงใหม่
3. ขายความเป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นญาติ ... ไม่ช่วยเพื่อน ช่วยมิตรสหาย ช่วยญาติ แล้วจะไปช่วยใคร ยังเป็นหลักการขายที่มั่นคงมานาน
คนที่ขายไม่รู้หรอกว่า เมื่อคนเหล่านั้นซื้อไป ความเป็นอะไรทั้งหลายแหล่มันก็ไปพร้อมกับเงินด้วย อย่ามาได้บอกว่าเป็นคนรู้จักกันอีก
วิธีการขายเหล่านี้มีเขียนเป็น script ในบางเจ้า ถึงกับบอกเลยว่าให้เริ่มขายจากคนใกล้ตัวก่อน เพราะจะไม่เขิน
คือสรุปเห็นคนเหล่านั้นเป็นที่กอบโกย จะโกยจนเป็นระดับทอง ระดับเพชร ระดับลิ่มเพชร หรือโคตรเพชรก็แล้วแต่
แต่นี่ใช่เจตนาแรกของบริษัทเหล่านี่หรือ
คนที่ซื้อสินค้าไปเป็นคนที่ต้องการ และอยากใช้สินค้าเหล่านั้นจริงๆ หรือ
จรรยาบรรณของการซื้อขายน่ะมีมั้ย ไม่ซื้อก็แทบจะกลายเป็นอาชญากร คนใจร้าย ไม่รักเพื่อน ไม่ช่วยเพื่อน
จะบ้าหรอ!!!
ทั้งนี้ ถ้าคุณคิดด้วยเจตนาว่าอยากกระจายสินค้า ลดพ่อค้าคนกลาง
จะทำมาค้าขายด้วยสุจริต บรรยายสรรพคุณเพื่อมั่นใจว่าคนที่ซื้อไปจะได้ประโยชน์จริงๆ
โก้ก็โมทนาสาธุด้วย
แต่เท่าที่อ่าน ถ้าคิดอยากรวยทางลัดด้วยวิธีนี้
ก็เลือกเอาค่ะ จะมีความสุขบนกองเงินของความทุกข์ของผู้อื่นก็ตามใจ
เคยเห็นคนโดนล่อให้ up ระดับไปหมดเนื้อหมดตัว จนต้องไปหลอกคนอื่นมาเป็น donwline เยอะแล้วค่ะ