รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า สามารถช่วยร่างกายกำจัดพิษ ที่ค้างอยู่ ลึก ถึง ระดับเซลล์!!!
คลอเรลล่า สามารถช่วยช่วยให้ เซลล์ สามารถผลิต "กลูต้าไทโอน" ได้มากขึ้น (มีการทดสอบจากงานวิจัย) กลูต้าไทโอน เป็นเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่ กำจัดของเสีย ออกจากเซลล์ เอนไซม์ตัวนี้ เซลล์ทุกเซลล์มีความสามารถในการผลิตได้ แต่เซลล์ตับ จะสามารถผลิตได้มากกว่าที่อื่น เนื่องจาก ตับเป็นอวัยวะ หลัก ที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย แต่ การผลิต กลูต้าไทโอน เซลล์ จำเป็นต้องใช้ กรดอะมิโนบางตัว เป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่ง โดยทั่วไปกรดอะมิโนตัวนี้ ร่างกายเรามักมีไม่พอใช้งาน ในแต่ละวัน กลูต้าไทโอน จึงมักมีไม่ค่อยพอใช้งาน (จึงได้เป็นจุดเริ่มต้น ของการมีอาหารเสริม กลูต้าไทโอน เกิดขึ้น ซึ่ง การรับประทานกลูต้าไทโอน จากภายนอก กลูต้าไทโอน ที่ร่างกายรับมา ไม่ได้ผลิตเอง จะไปอยู่ที่ตับ และ จะถูกนำไปใช้งานเกือบทั้งหมดที่ตับ แต่ กลูต้าไทโอน มีผลข้างเคียง ทำให้เม็ดสีของผิว ของคนเอเชียผิวเหลือง จางลง เลยเห็นว่าผิวขาวขึ้น การขายกลูต้าไทโอนที่เรามักได้ยินกันในไทย ถูกนำเสนอแต่ผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวขาว)
ขอบคุณรูปจากงานวิจัย http://link.springer.com/article/10....216-009-3016-1
การทาน คลอเรลล่า จะส่งผลให้ ร่างกายได้รับสารอาหาร พอที่จะให้แต่ละเซลล์ เริ่มผลิต กลูต้าไทโอน ของตัวเอง มาใช้งาน ขับของเสีย ของตัวเองได้ นั่นหมายถึง ร่างกายเรา จะเกิดการ "กำจัดสารพิษ (ดีท๊อกซ์) ในระดับเซลล์"
ต้องรู้!!!
กลูตาไธโอน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ถูกสร้างและใช้มากที่สุดในร่างกาย นับเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสายตาของคนเรา ช่วยเปลี่ยนแป้งที่สะสมในร่างกายให้เป็นพลังงาน และป้องกันการสะสมของไขมันซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ กลูตาไธโอนทำหน้าที่ปกป้องทุกเซลล์ของร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณกลูตาไธโอน ในร่างกายจะลดน้อยลง หรือถูกผลิตขึ้นช้าลงและมีปริมาณน้อยลง คนเราเมื่อย่างเข้าอายุ 20 ปี ปริมาณกลูตาไธโอน ในร่างกายจะลดลงเฉลี่ย 8-12% ต่อ 10 ปี แต่หากร่างกายมีการบริโภคยาหรือเคมีมากเกินไป ปริมาณการลดลงของกลูตาไธโอนในร่างกายจะรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเร็วก่อนวัย และโรคต่างๆเข้าแทรกแซงได้ง่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th...8%B1%E0%B8%A2/