29 พฤศจิกายน 2554
==================================================
>> กรุงเทพฯ <<
ชาวสายไหมโวยม็อบปทุมฯเปิด ปตร.พระยาสุเรนทร์
ชาวบ้านเหนือ ปตร.พระยาสุเรนทร์ อ้างน้ำเริ่มลดระดับ หลังบุกเปิด ปตร.ที่ระดับ 1.50 เมตร และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ชี้ หาก กทม.ช่วยระบายน้ำชาวสายไหมและบางเขน ไม่น่าได้รับผลกระทบ ด้านชาวสายไหมรีบโวยทันที บอกทำให้เดือดร้อน หวิดปะทะกัน แต่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วน กทม.ส่งผู้แทนเจรจาแต่ชาวบ้านยันเจรจากับผู้ว่าฯ กทม.คนเดียวเท่านั้น
วันนี้ (29 พ.ย.) ชาวบ้านย่านลำลูกกา ซึ่งอยู่เหนือประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ยังคงรวมตัวกันบริเวณสะพานด้านหน้าประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่คืนวานนี้ได้รวมตัวบุกเปิดประตูระบายน้ำจาก 1 เมตร ให้กลายเป็น 1.50 เมตร และยังปักหลักเฝ้าติดตามสถานการณ์ เพราะเกรงว่า กทม.จะปิดประตูระบายน้ำเหลือเพียง 1 เมตร โดยชาวบ้านระบุว่า เมื่อเปิดประตูระบายน้ำ ระดับ 1.50 เมตร พบว่า น้ำที่เคยท่วมสูงในชุมชนเหนือประตูระบายน้ำ ทั้ง อ.ธัญบุรี คลองหลวง และลำลูกกา จ.ปทุมธานี เริ่มลดลง หากกรุงเทพมหานครช่วยเร่งระบายน้ำ เชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้านเขตสายไหม หรือเขตบางเขน ที่อยู่ใต้ประตูระบายน้ำ น่าจะไม่มี
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านย่านสายไหม ซึ่งอยู่ด้านใต้ประตูระบายน้ำ ไม่พอใจการกระทำดังกล่าว จึงได้ออกมารวมตัวเช่นกัน โดยมีชาวบ้าน 2 ราย ที่แสดงอาการโกรธไม่พอใจ และตะโกนต่อว่า พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ซึ่งเป็นแกนนำในการเปิดประตูระบายน้ำว่า การกระทำครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านย่านสายไหม พื้นที่ใต้ประตูระบายน้ำได้รับความเดือดร้อน เพราะเชื่อว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น จากนั้น พ.ต.ต.เสงี่ยม จึงได้เดินทางเข้าไปเจรจาถึงเหตุผลในการรวมตัวกัน ก่อนที่คนทั้ง 2 จะแยกย้ายเดินทางออกไป โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังคงมีชาวบ้านย่านสายไหม บางส่วนที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า อยากให้ ศปภ.และ กทม.หาข้อยุติในเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำในจุดนี้อย่างชัดเจน เพราะไม่ต้องการให้ชาวบ้าน 2 พื้นที่ทะเลาะกัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีตัวแทนจาก ศปภ.และ กทม.ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ส่งเจ้าหน้าที่จาก สน.คันนายาว และ สายไหม เข้ามาควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากเกรงว่า หากปล่อยเวลาให้นานออกไปสถานการณ์อาจรุนแรงได้ แต่ชาวบ้านยืนยันเรียกร้องด้วยความสงบ ไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องความเดือดร้อนล้วนๆ และหากเปิดประตูระบายน้ำเพียง 1 เมตร ชาวบ้านจะหามาตรการที่เปิด 1.50 เมตรให้ได้
ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ส่ง นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการกองอาคารบังคับน้ำ เป็นผู้แทนมาเจรจากับชาวบ้านปทุมธานี นำโดย พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ เป็นแกนนำ ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยชาวบ้านเสนอข้อเรียกร้องให้คงที่การเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ 1.50 เมตร เพื่อช่วยระบายความเดือดร้อนชาวปทุมธานีในขณะนี้ลงมา
นอกจากนี้ ยังยืนยันที่จะเจรจากับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียว เพราะมีอำนาจตัดสินใจให้เปิดหรือปิดประตูระบายน้ำ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าใจผิดว่า ที่ชาวบ้านมาเรียกร้องเป็นผู้ชุมนุมที่จัดตั้งโดยรัฐบาล หรือ ศปภ.ซึ่งชาวบ้าน ยืนยันว่า ผู้ที่มาเป็นผู้ที่เดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมมานานหลายเดือน พร้อมกับขอให้ทางตำรวจเป็นพยาน ว่า ผู้ชุมนุมมาเรียกร้องโดยสันติ และจะไม่มีการทำลายทรัพย์สิน สิ่งของของทางราชการ หากเกิดความเสียหายใดๆ ให้สามารถดำเนินการได้ทั้งทางคดีอาญา และทางแพ่ง
ด้านผู้แทนกรุงเทพมหานคร ขอนำผลการเจรจากลับไปเสนอให้ผู้บริหารตัดสินใจ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มี 2 เจ้าหน้าที่ได้นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งบริเวณเสาไฟฟ้าใกล้กับประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ สายไหม 86 ด้วย
ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:29 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152211
คลองมอญน้ำยังสูง,ขยะเยอะ-ประสาน กทม.เร่งกำจัด
นายอุเทน ชาติภิญโญ ที่ปรึกษาด้านน้ำของนายกรัฐมนตรี สรุปผลการตรวจสถานีสูบน้ำคลองมอญและคลองบางกอกใหญ่ โดยสถานีสูบน้ำคลองมอญระดับสูงเกินกว่าที่ควร มีขยะกีดขวางไม่มีการเปิดเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ ทำให้น้ำไหลได้ช้า ส่วนคลองบางกอกใหญ่ระดับน้ำต่ำ คลองยังสามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกมาก และมีขยะ ส่วนเครื่องสูบน้ำขนาด 2 คิวต่อวินาทีจำนวน 5 เครื่องที่ติดตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำเคยแจ้งว่าเครื่องใช้การไม่ได้ จึงแจ้งให้นำเครื่องไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองโยง ซึ่งผ่านไปกว่า 10 วันแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงขอให้ทาง กทม.เก็บขยะทั้งหมด เพื่อเร่งระบายน้ำ และขณะนี้เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ น้ำแห้งแล้ว ทำให้เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม น้ำลดลงได้เร็วขึ้น รวมถึงการเร่งรัดให้ กทม.ประสานกรมชลประทานนำเครื่องสูบน้ำ 2 คิวต่อวินาที จำนวน 2 เครื่องไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองโยง
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:42 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152227
กทม. พร้อมส่งผู้อพยพกลับบ้าน ชวนจิตอาสาร่วมล้างโรงเรียน 1-5 ธ.ค.นี้
โรงเรียนสังกัดกทม. จำนวน 345 โรงเรียน ในพื้นที่ 40 สำนักงานเขต จะเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ในวันที่ 6 ธ.ค. 54 นี้ ซึ่งกทม. ได้กำหนดจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน โดยในวันที่ 30 พ.ย. 54 นี้ จะทยอยส่งผู้อพยพที่ประสบภัยน้ำท่วม และสมัครใจกลับบ้าน พร้อมมอบถุงทำความสะอาดเพื่อนำไปใช้ในการทำความสะอาดบ้านเรือนด้วย โดยสำนักงานเขตจะจัดรถรับ–ส่งประชาชนไปยังจุดรวมพล ณ ชุมชนต่างๆ ส่วนผู้อพยพที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้ กทม. จะเปิดศูนย์เยาวชนฯ ศูนย์กีฬาฯ รวมทั้งค่ายลูกเสือของกทม. ให้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูง จำนวน 91 โรงเรียน ในพื้นที่ 10 สำนักงานเขต ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ในวันที่ 6 ธ.ค. 54 จะเลื่อนไปเปิดเรียนในวันที่ 13 ธ.ค. 54 ประกอบด้วย เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตบางบอน เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม เขตบางแค เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี และเขตบางเขน
ทั้งนี้ กทม. ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมทำความสะอาดโรงเรียนตั้งแต่ 1–5 ธ.ค. 54 สำหรับหน่วยงานที่ประสงค์จะเข้าร่วมฯ สามารถประสานโดยตรงที่สำนักงานเขตทุกแห่ง โดยในวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. 54 คณะผู้บริหารกทม. จะร่วมกับภาคเอกชน และกลุ่มจิตอาสา ทำความสะอาด ฉีดพ่นยุง ฆ่าเชื้อรา ในโรงเรียนวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ โรงเรียนวัดดอนเมือง (ทหารอากาศอุทิศ) และโรงเรียนประชาอุทิศ (จันทาบอนุสรณ์) เขตดอนเมือง
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 19:21 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152277
"รศ.เสรี" ชี้หลัง 1 ธ.ค.น้ำต่ำกว่าตลิ่ง ระบายลงเจ้าพระยาได้ดีขึ้น
คลองพระยาสุเรนทร์ระบายน้ำช้า ติดขยะ ตอม่อทางด่วน มีคอคอดหลายจุด คลองเปรมประชากรระบายน้ำได้ดีขึ้นมาก พื้นที่ในบล็อค ถ.สรงประภา ถ.ประชาอุทิศ ต้องรอน้ำในคลองเปรมฯลด จึงระบายน้ำท่วมขังออกได้ หลัง 1 ธ.ค.น้ำทะเลหนุนลดลง ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้มากขึ้น
เมื่อเวลา 20.30 น. รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวว่า วันนี้( 29 พ.ย.)ได้ไปสำรวจสถานการณ์น้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ และคลองเปรมประชากร
ถึงแม้ปริมาณน้ำเหนือลดลงต่อเนื่อง แต่ต้องรอว่าเมื่อไรจะลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ขณะนี้ที่แม้น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมด ยกเว้นที่จ.ปทุมธานี ในวันพรุ่งนี้( 30 พ.ย.) น้ำจะลงต่ำกว่าตลิ่ง ก็สามารถระบายน้ำในทุ่งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีขึ้น โดยระดับน้ำทะเลหนุน วันนี้ยังสูงอยู่ แต่หลังจากนี้ ในวันที่ 1 ธ.ค. น้ำทะเลหนุนลดลง การระบายน้ำจะทำได้ดีขึ้น
สถานการณ์น้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ ไหลช้า เนื่องจากมีขยะ โดยเฉพาะช่วงกลางคลองก.ม.ที่ 8 ส่วนที่เป็นคลองซอยเชื่อมกับคลองพระยาสุเรนทร์น้ำก็ไหลช้า ซึ่งทำให้มีปัญหาน้ำเอ่อในพื้นที่ ถนนสุขาภิบาล 5 ถนนวัชรพล หลายจุดในคลองมีตอม่อ ทำให้น้ำเอ่อขึ้นมา น้ำไม่ไหล
สำหรับที่คลองเปรมประชากร ที่ถนนประชาอุทิศ ถนนสรงประภา น้ำยังมีอยู่บนถนน ขณะที่คลองเปรมประชากร ระบายน้ำได้ดีขึ้นมาก จาก 4 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีระบายได้เป็น 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยที่เมืองเอกมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำออก และที่ประตูระบายน้ำคลองเปรมก็มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเช่นกัน
สำหรับพื้นที่ในบล็อค ถนนประชาอุทิศ ถนนช่างอากาศอุทิศ ถนนสรงประภา มีน้ำขังประมาณ 5 แสนลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากน้ำในคลองเปรมฯบริเวณนี้ยังล้นอยู่ จึงต้องใช้เวลา ต้องรอให้ระดับน้ำในคลองเปรมฯลดลง เพราะตอนนี้มีปริมาณน้ำเข้าและออก 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่ากัน เมื่อน้ำในคลองเปรมฯลดระดับลง ก็จะสูบน้ำท่วมขัง ที่มีอยู่ 5 แสนลูกบาศก์เมตร ออกจากพื้นที่ได้
สำหรับคลองพระยาสุเรนทร์ มีความยาว 16 ก.ม. หลายจุดเป็นคอคอด มีตอม่อของทางด่วน และถนนวงแหวนหลายจุดอยู่ในคลอง ทำให้การระบายน้ำทำได้ช้า ในอัตรา 8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นการจะเปิดหรือไม่เปิดประตูระบายน้ำไม่สำคัญ ถ้าทำให้ระบายน้ำลงได้เร็วขึ้น ก็สามารถเปิดประตูระบายน้ำได้
ภาพรวมสถานการณ์น้ำในทุ่งภาคกลาง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง แต่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานครยังรับน้ำทุ่งอยู่ บนถนนอาจจะแห้ง แต่น้ำในทุ่งก็ยังมีอยู่บางแห่งท่วมสูงถึง 1 เมตร จึงต้องใช้เวลาในการระบายน้ำออก ขณะที่น้ำเหนือยังเติมอยู่ต่อเนื่อง แต่ที่กทม.มีคลองสกัดอยู่ ทั้งคลอรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองหกวาสายล่าง จึงทำให้น้ำไม่เข้ากทม. ส่วนฝั่งตะวันตกของกทม.ใช้คลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองหลักในการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าตั้งคันได้ก็จะสูบน้ำลงได้ แต่น้ำตอนนี้น้ำก็ยังมีอยู่มาก
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 21:00 น.
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000152316
5 ใน 7 นิคมฯ แห้งแล้ว ก.อุตฯ หนุนน้ำทำความสะอาด
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม รวม 7 แห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ขณะนี้สูบน้ำแห้งแล้วรวม 5 แห่ง ยังคงเหลือที่อยู่ระหว่างสูบน้ำอีก 2 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่คาดว่าจะเริ่มต้นสูบน้ำในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ และสวนอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งคาดว่าน้ำจะแห้งในวันที่ 10 ธันวาคม
นอกจากนี้ เขตประกอบการอุตสาหกรรมบางกะดี ที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา การฟื้นฟูมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นวันบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ด้วย
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางหว้า หรือนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค มีการกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เป็นวัน Restore Full Operation เพื่อดำเนินเครื่องสู่ภาคการผลิต
ทางด้านเขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ มีโรงงานเริ่มเดินเครื่องแล้ว 47 โรงงาน จากทั้งหมด 93 โรงงาน
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่า การฟื้นฟูโรงงานแต่ละแห่งใช้เวลาแตกต่างกัน เนื่องจากผลกระทบทีได้รับแตกต่างกัน ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมจะให้การสนับสนุนและการจัดหาน้ำสะอาดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ในการทำความสะอาดโรงงานและเครื่องจักร
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:25 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152209
>> นนทบุรี <<
ชาวบ้านบางกรวยเร่งกู้พื้นที่น้ำท่วม ยังคงสัญจรด้วยเรือ
บางกรวย นนทบุรี น้ำยังคงท่วม ชาวบ้านต้องใช้สะพานทางเดินเล็กในการสัญจรและใช้เรือ ในชีวิตประจำวัน คาดต้น ธ.ค.กู้ ถ.กาญจนาภิเษก ได้
สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ฝั่งตะวันตกกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น บริเวณถนนเพชรเกษม เขตบางแค ต่อเนื่องไปจนถึงตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีเพียงบางพื้นที่ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำน้ำยังท่วมขัง
ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ในพื้นที่เขตเทศบาลน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 50-70 เซนติเมตร แต่บางชุมชน เช่น ชุมชนริมถนนเทอดพระเกียรติ น้ำยังท่วมเกือบ 1 เมตร เพราะเป็นที่ลุ่ม ชาวบ้านยังเดือดร้อนเรื่องการเข้าออกพื้นที่
ตำบลปลายบาง ถนนกาญจนาภิเษก ยังมีน้ำท่วมเป็นบางจุด โดยเฉพาะในชุมชนซอยวัดส้มเกลี้ยง หลายหมู่บ้านน้ำยังท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถเข้าออกพื้นที่ได้ เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ องค์การบริหารส่วนตำบลจึงสร้างสะพานชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในเบื้องต้น แต่สะพานมีความยาวเพียง 1 กิโลเมตร
ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 20:02 น.
http://www.manager.co.th/qol/viewnew...=9540000138124
>> อุบลราชธานี <<
น้ำท่วมอุบลฯตาย 9 ราย วอนรัฐเร่งสำรวจความเสียหายจ่ายเงินซ่อมบ้าน
อุบลราชธานี -สรุปน้ำท่วมอุบลราชธานี เสียชีวิต 9 ราย ส่วนชาวบ้านเร่งซ่อมบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม พร้อมวอนเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจจ่ายช่วยซ่อมแซม โดยนายกเล็กเทศบาลเมืองวารินชำราบ ระบุ ตั้งชุดสำรวจไปถ่ายรูปเก็บข้อมูล เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ขณะที่เทศบาลตำบลคำน้ำแซบ พบบ้านทรุดตัวจากดินสไลด์เพิ่มเป็น 6 หลังคาเรือน และชาวบ้านในตำบลนี้ ยังไม่ได้รับเงินเยี่ยวยา 5,000 บาท
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ชุมชนหาดสวนยา เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นักเรียน ครูอาจารย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อฉีดลงตามพื้นห้องเรียน และขัดถูบริเวณเสาประตูที่ถูกสัมผัสจากเด็กนักเรียน เพื่อป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคอื่นที่ปะปนมาขณะเกิดน้ำท่วมในโรงเรียนเป็นเวลานาน และได้เปิดทำการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ตามปกติ ตอนช่วงสายของวันเดียวกัน
ขณะที่ชาวบ้านเริ่มซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 3 เดือน เพราะพื้นและประตูหน้าต่างถูกน้ำพัดเสียหายหมดทั้งหลัง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้มากที่สุด
นางอรัญญา แสนโคตร ชาวชุมชนหาดสวนยา ที่บ้านได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม กล่าวว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจความเสียหายเร็วขึ้น เพราะบ้านได้รับความเสียหายมาก ไม่สามารถทิ้งรอเป็นเวลานาน เพราะเป็นปัญหาในการเข้าอยู่อาศัย เมื่อชาวบ้านทราบวงเงินค่าซ่อมแซมจากรัฐบาล จะได้ซ่อมแซมบ้านได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดเป็นภาระหนี้สินที่ต้องเพิ่มขึ้นอีก
ด้าน นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศบาลเมืองวารินชำราบ กล่าว่วา ขณะนี้ยังมีประชาชนในเขตเทศบาลไม่สามารถย้ายกลับเข้าอยู่อาศัยในบ้านได้ประมาณ 10% ของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด หลังน้ำลดเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกวาดทำความสะอาดวัชพืชที่น้ำพัดพามาตกค้างในพื้นที่
สำหรับการสำรวจความเสียหายที่เกิดกับอาคารบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ 14 ชุมชน ได้ตั้งชุดเข้าสำรวจโดยการถ่ายภาพ เพื่อรายงานให้อำเภอและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของบประมาณช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเน้นจ่ายช่วยเหลือตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งการสำรวจคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนธันวาคมศกนี้
ขณะเดียวกัน ที่ชุมชนช่างหม้อ ในเขตเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดแม่น้ำมูล ดินเกิดการสไลด์ตัว เพราะถูกน้ำท่วมไหลกัดเซาะเป็นเวลานาน ทำให้บ้านพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 6 หลังคาเรือน
นายณรงค์ พันธุโสรี รองนายกเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ กล่าวว่า จากการสำรวจหลังน้ำลดพบบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ตามริมแม่น้ำมูล ถูกน้ำกัดเซาะหน้าดินจนบ้านทรุดตัวจำนวน 6 หลัง ซึ่งได้รายงานขอความช่วยเหลือไปทางจังหวัด เพื่อของบสนับสนุนการซ่อมแซมให้กับประชาชน สำหรับการแก้ปัญหาไม่ให้ดินทรุดตัว ต้องทำผนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องรองบประมาณจากรัฐบาลกลาง
ส่วนการให้ความช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกิน 7 วัน ได้ทำเรื่องขอรับงบประมาณครอบครัวละ 5,000 บาท จำนวน 207 ครอบครัวไปทางอำเภอแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับเงิน เพราะงบประมาณยังไม่ตกมา ทั้งที่พื้นที่ใกล้เคียงกันชาวบ้านได้รับเงินหมดแล้ว
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ที่ผ่านมาได้ขอเบิกเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังนานเกิน 7 วัน และถูกน้ำท่วมแบบฉับพลันไปแล้วจำนวน 3,955 ครอบครัว เป็นเงินกว่า 19 ล้านบาท และมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 9 ราย
สภาพบ้านที่สร้างริมตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะพัง
ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเรียกร้องให้รัฐเร่งจ่ายเงินชดเชย เพราะต้องใช้ซ่อมแซมบ้าน
ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:47 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152196
>> ภาคใต้ <<
4 อำเภอรอบทะเลสาบสงขลา ยังอ่วม เหตุน้ำทะเลหนุน
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลายังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมจากมวลน้ำที่ไหลมาจากลำคลองสาขาทั้งใน จ.สงขลา และ จ.พัทลุง โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 7 บ้านดอนเคดเหนือได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างหนัก
วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลา จนถึงขณะนี้เหลือเพียงพื้นที่ที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลารวม 4 อำเภอ ที่ยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำในทะเลสาบสงขลาหนุนเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมทะเล ประกอบด้วย อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.ระโนด และบางส่วนของ อ.บางกล่ำ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำในทะเลสาบสงขลาที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลมาจากลำคลองสาขาทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.พัทลุง ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก
สำหรับพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาที่สถานการณ์ค่อนข้างหนักคือที่บ้านดอนเคดเหนือ หมู่7 ต.คูขุด อ.สทิงพระ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้มีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากน้ำได้หนุนเข้าท่วมบ้านเรือน และถนนภายในหมู่บ้าน บางครอบครัวที่ไม่มีเรือต้องใช้ถังผสมปูนเป็นพาหนะในการเข้าออกจากบ้าน
ขณะที่สถานการณ์ในอำเภออื่นๆ ทั้ง อ.ควนเนียง อ.สะบ้าย้อย อ.รัตภูมิ อ.จะนะ และ อ.เมือง ซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงและเชิงเขา สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังเหลือเพียงชาวบ้าน บ้านแลแบง ใน อ.สะบ้าย้อย ทั้ง 99 ครัวเรือนที่ยังคงพักพิงอยู่ภายในศูนย์อพยพในโรงเรียนสะบ้าย้อย แม้น้ำที่ท่วมในหมู่บ้านจะลดลงแต่ชาวบ้านยังไม่กลับเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ที่จะมีมรสุมเกิดขึ้นอีกระลอก
ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:44 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152178
ประมงสงขลาเก็บตัวอย่างน้ำทะเลสาบ หลังเกิดปลาตายอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักวิชาการประมง ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำในทะเลสาบสงขลา ไปตรวจสอบหาเหตุที่ทำให้ปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรตาย เมื่อสองวันที่ผ่านมาว่ามาจากผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้น้ำจืดและมีแบคทีเรียปนเปื้อนมากับน้ำ
วันนี้ (29 พ.ย.) นายนิคม ละอองศิริวงศ์ นักวิชาการประมง ชำนาญการ สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จ.สงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บตัวอย่างน้ำในทะเลสาบสงขลาพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา หลังจากที่เมื่อช่วงสองวันที่ผ่านมาปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรใน ต.เกาะยอ ทยอยตายอย่างต่อเนื่อง
เพื่อนำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบหาสาเหตุว่า มาจากสภาพแวดล้อมของน้ำในทะเลสาบสงขลาที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งจากในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง ซึ่งจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียจากสภาพน้ำที่เพิ่มขึ้นทำให้น้ำทะเลจืด ซึ่งพบบ่อยในปลาเล็กที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ เพื่อเร่งหาทางป้องกัน และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังรอบทะเลสงขลา โดยเฉพาะใน ต.เกาะยอ ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวมากที่สุดใน จ.สงขลามีกระชังเลี้ยงปลากะพงกว่า 500 กระชัง และเป็นสัตว์เศรษฐกิจของ จ.สงขลา ที่ส่งออกไปยังมาเลเซีย และประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำใน จ.สงขลา
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:40 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152165
>> ปัตตานี <<
น้ำท่วมขังปัตตานีเริ่มลดลงแต่ชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครัวเรือนยังเดือดร้อน
ปัตตานี - จ.ปัตตานี ยังคงให้ 12 อำเภอของปัตตานีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม โดยบางจุดมีการสูบน้ำทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง ประกอบกับไม่มีฝนตกลงมา ทว่าชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครัวเรือนยังประสบความเดือดร้อน
วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี ยังคงประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอเป็นพื้นที่เกิดภัยพิบัติต่อไปอีก โดยเฉพาะ ต.ปะกาฮารัง, ต.บาราเฮาะ, ต.ตะลุโบ๊ะ, ต.ปูยุด, ต.รูสะมิแล อ.เมือง
ต.ลิปะสะโง, ต.คอลอตันหยง, ต.ยาบี, ต.ดอนรัก อ.หนองจิก ยังคงมีน้ำท่วมสูงที่สุด เนื่องจากมวลน้ำจาก จ.ยะลายังไหลหลากทำให้แม่น้ำปัตตานีได้อ้อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม ราษฎรทั้ง 2 อำเภอ เกือบ 200,000 ครัวเรือน ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ขณะที่ อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.มายอ อ.กะพ้อ อ.ทุ่งยางแดง ระดับน้ำเริ่มลดลงมีเพียงน้ำท่วมขัง ส่วนอำเภออื่นๆ สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายลงแล้ว ทั้งนี้สืบเนื่องจากฝนที่หยุดตก
เช่นเดียวกับในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่ ต.จะบังติกอ ต.สะบังรัง น้ำได้ลดลงแล้ว มีเพียงบางจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเทศบาลเมืองปัตตานีได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 3 ตัว รอบเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อเร่งระบายน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโดยเร็ว จึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว และน้ำไม่ขยายวงกว้างเข้าท่วมย่างเศรษฐกิจของจังหวัดปัตตานี
ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 16:05 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152133