Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 2 of 3 FirstFirst 1 2 3 LastLast
Results 11 to 20 of 22

Thread: เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม พฤศจิกายน 2554

  1. #11
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    15 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================

    สถานการณ์น้ำ​โดยดาวเทีย​ม Aqua sensor MODIS ณ เวลา ๑๔.๑๐ น
    ของวันอังคา​ร ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดย ดร. วีรชัย ตันพิพัฒน์
    ขอบคุณข้อมูลจาก http://situation.thaiflood.com/151154/1410/

















    ฉี่หนู อาละวาด ป่วยเพิ่ม 5% เตือนปวดน่อง-ตาแดง สงสัยไว้

    "ฉี่หนู"อาละวาดพบป่วยเพิ่ม5% เตือนปวดน่อง-ตาแดงสงสัยไว้ (ไทยโพสต์)


    ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

    กรมควบคุมโรคยันตัวเลขผู้ป่วยฉี่หนูเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 5% แม้ยังไม่มีสัญญาณถึงขั้นเป็นโรคระบาด ชี้สาเหตุที่เสียชีวิตเพราะประชาชนไม่ตระหนัก ไปพบหมอช้า เตือนถ้ามีไข้ ปวดกล้ามเนื้อน่อง ตาแดงให้สงสัยว่าเป็นโรคฉี่หนู

    นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การเกิดโรคในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะที่ศูนย์พักพิงว่า จากการเฝ้าระวังโรค เช่น ไข้หวัด ท้องร่วง ฉี่หนู ซึ่งมีผู้ป่วยบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นเป็นโรคระบาด เนื่องจากไม่มีการป่วยเป็นกลุ่มก้อน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าอัตราการป่วยเป็นโรคฉี่หนูเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 5 นั้นถือว่าเป็นอัตราที่สอดรับกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำลดลงและเข้าสู่ระยะฟื้นฟู ซึ่งประชาชนจะกลับเข้าไปยังบ้านเรือน ไร่นา อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว จึงพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าห่วงคือแม้โรคดังกล่าวจะสามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ แต่จากข้อมูลของสำนักโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุข จะเห็นว่าการเสียชีวิตส่วนมากเกิดจากการที่ประชาชนไม่ตระหนักถึงอันตรายของโรค และการไปพบแพทย์ช้า ดังนั้นจึงต้องรณรงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมหากพบว่ามีอาการต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคฉี่หนู เช่น ปวดกล้ามเนื้อน่อง ตาแดง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นโรคฉี่หนู และดำเนินการรักษาทันทีเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว

    "ช่วงนี้จะเห็นว่ามีทั้งพื้นที่น้ำท่วม น้ำไหลหลาก น้ำขัง น้ำเน่า น้ำลดน้ำแห้ง ดังนั้นความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่จึงมีความแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม โรคที่ยังมีความเสี่ยงในทุกพื้นที่คือ โรคฉี่หนู และโรคท้องร่วง โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ ตามมาด้วยโรคไข้เลือดออก หลังน้ำลดจะพบมากขึ้น" นพ.สุวรรณชัยกล่าว และว่า นอกจากนี้การเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้าดูด กรมควบคุมโรค โดยสำนักระบาดวิทยากำลังทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการถูกไฟฟ้าช็อต เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางป้องกันและลดจำนวนผู้เสียชีวิต

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://health.kapook.com/view33249.html

    >> กรุงเทพฯ <<



    ทีมกรุ๊ปอัพเดตแผนที่ บางพลี-สุขุมวิท พื้นที่เสี่ยงมาก!


    >>คลิ๊กที่ภาพ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่<<

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภากประกอบจาก TEAM Group

    ทีมกรุ๊ปอัพเดตแผนที่ เตือน บางพลี สุขุมวิท เสี่ยงมาก ส่วนพื้นที่เสี่ยงสูง ได้แก่ บางบ่อ บางปะกง คลองสำโรง หนองแขม ตลิ่งชัน คลองภาษีเจริญ คลองทวีวัฒนา

    ทีมกรุ๊ปอัพเดตภาพน้ำท่วมกรุงเทพฯ ล่าสุด วานนี้ (14 พฤศจิกายน) โดยใช้โมเดล "River Network Model" คำนวณน้ำมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจากแผนที่ดังกล่าวพบว่า ย่านบางพลี สุขุมวิท อยู่ในกลุ่ม "สีเหลืองเข้ม" นั่นแสดงให้เห็นว่า เป็นพื้นที่ "เสี่ยงมาก" เช่นเดียวกันกับแถบ พระราม 2 สมุทรสาคร และ อ.กระทุ่มแบน

    ขณะที่เขตบางนา ประเวศ และสวนหลวง แผนที่แสดง "สีเหลืองอ่อน" หมายถึงว่า มีความเสี่ยงแค่ปานกลางเท่านั้น ส่วนเขตที่แสดง "สีแดง" ซึ่งหมายถึงมีความเสี่ยงสูงนั้น ได้แก่ อ.บางบ่อ บางปะกง คลองสำโรง และทางตะวันตกได้แก่ หนองแขม ตลิ่งชัน คลองภาษีเจริญ คลองทวีวัฒนา

    สำหรับเขตดอนเมือง แจ้งวัฒนะ สายไหม ถึงแม้ว่าจะถูกน้ำท่วมแล้ว ก็ยังอยู่ในเขตสีแดง หรือเสี่ยงสูงสุด ทั้งนี้รวมไปถึงถนนสองสายสำคัญ ทั้ง วิภาวดี พหลโยธิน นวมินทร์ และรามอินทรา ส่วนฝั่งลาดพร้าว บางกะปิ คันนายาว บึงกุ่ม อยู่ในกลุ่ม "สีเหลืองอ่อน" คือเสียงปานกลางเท่านั้น

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://hilight.kapook.com/view/64507

    โทรด่วน 1586 เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมพุ่งกระฉุด

    สายด่วน 1586 ถามเส้นทางหลวงเลี่ยงน้ำท่วมแทบไหม้ เดือนตุลาคมพุ่งเกือบแสนราย กรมทางหลวงแจงเร่งกู้ถนนสายสำคัญ...
    นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงได้เปิดสายด่วน 1586 เพื่อให้บริการประชาชนสอบถามข้อมูลเส้นทางการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ในเดือนตุลาคมซึ่งถือเป็นเดือนแห่งวิกฤติการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า มีประชาชนสอบถามการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม เป็นจำนวน 94,510 ราย เพิ่มจากยอดการให้บริการในเดือนกันยายน 2554 จำนวน 74,955 ราย
    นายวันชัย กล่าวว่า คำถามที่ประชาชนสอบถามส่วนใหญ่คือ เส้นทางเลี่ยงที่จะออกจากกรุงเทพมหานครไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และเส้นทางการเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งสอบถามข้อมูลเพื่อขอรับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น ศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน การใช้เรือ เส้นทางรถเมล์ ปริมาณน้ำ การติดต่อเรื่องรถทหาร เป็นต้น
    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมทางหลวงกำลังเร่งกู้ทางหลวงสายต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในการเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยก่อนเดินทางขอให้ประชาชนตรวจสอบเส้นทางการเดินทางได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือตรวจสอบเส้นทางก่อนการเดินทางได้ที่เว็บไซต์กรมทางหลวง www.doh.go.th ซึ่งได้แนะนำแผนที่เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศทุกวัน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 00:35 น.
    http://www.thairath.co.th/content/eco/216612

    ร.ร.สังกัด กทม.ทุกแห่ง เปิดเทอม 1 ธ.ค.นี้ พร้อมแผนเรียนชดเชย

    โรงเรียนสังกัด กทม.ทุกแห่ง เลื่อนเปิดเทอมครั้งที่ 2 เป็นวันที่ 1 ธ.ค.นี้ พร้อมให้สอนชดเชยจนครบหลักสูตรตอนเย็นหลังเวลาเลิกเรียนปกติวันละ 1 ชม. และชดเชยวันเสาร์ 11 วัน

    นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกทม. ปฎิบัติราชการแทน ปลัดกทม. ได้สั่งการให้เลื่อนวันเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ทุกโรงเรียนในสังกัด กทม. เป็นวันที่ 1 ธ.ค. 2554 และให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนชดเชยเพื่อให้นักเรียนมีเวลาเรียนครบตามโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตร

    ทั้งนี้ ให้โรงเรียนทุกแห่งดำเนินการ ดังนี้ 1 ระดับประถมศึกษาให้สอนชดเชยตอนเย็นหลังเวลาเลิกเรียนปกติวันละ 1 ชม. (14.30-15.30 น.) ทุกวันเป็นเวลา 11 สัปดาห์ และจัดสอนชดเชยในวันเสาร์อีก 11 วัน วันละ 4 ชม. (08.30-14.30 น.)

    2 ระดับมัธยมศึกษาให้สอนชดเชยตอนเย็นหลังเวลาเลิกเรียนปกติวันละ 1 ชม. (15.30-16.30 น.)ทุกวันเป็นเวลา 11 สัปดาห์ และจัดสอนชดเชยในวันเสาร์อีก 11 วัน วันละ 7 ชม.(08.30-16.30 น.)

    อ่าน รายชื่อโรงเรียนสังกัด กทม.มีดังนี้ >>คลิ๊กที่นี่<<

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 15:35 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000145761

    ศธ.ประกาศเลื่อนเปิดเทอม กทม.นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม เป็นวันที่ 6 ธ.ค. 54

    ศธ.ประกาศเลื่อนเปิดเทอมใน กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และ 4 อำเภอของนครปฐม ไปวันที่ 6 ธ.ค. 54 “วรวัจน์” ชี้เป็นวันสุดท้ายที่จะขยับได้ ระบุหากถึงวันนั้นยังเปิดเทอมไม่ได้ ศธ.จะเลื่อนเปิดเทอมและการสอบประเมินทั้งหมด รวมถึง O-Net ออกไปทั้งหมด

    นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ว่า ศธ.จะออกประกาศให้สถานศึกษาทุกสังกัดของ ศธ.ใน กทม.นนทบุรี ปทุมธานีและ 4 อำเภอในจังหวัดนครปฐม ได้แก่ สามพราน นครชัยศรี พุทธมณฑล และบางเลน เลื่อนเปิดภาคเรียนไปเป็นวันที่ 6 ธันวาคม 2554 ยกเว้นโรงเรียนนานาชาติบางแห่งที่ขอผ่อนผันเปิดก่อนกำหนด ทั้งนี้ หากประเมินดูแล้วสถานศึกษาใน 4 จังหวัดนี้ยังไม่สามารถเปิดเทอมในวันที่ 6 ธันวาคม 2554 ได้ ศธ.จะเลื่อนวันเปิดเทอมและการสอบประเมินผลต่าง ๆ ทั้งระบบรวมถึงการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ด้วย เพราะวันที่ 6 ธันวาคม 2554 สุดท้ายที่จะสามารถเลื่อนเปิดเทอมได้โดยไม่กระทบกับการเรียนการสอนและการสอบ เมื่อเปิดภาคเรียนแล้ว ให้สถานศึกษาจัดสอนเสริมในวันเสาร์และหลังเลิกเรียนวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อชดเชยเวลาเรียนที่เสียไป

    นายวรวัจน์กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเลขความเสียหายในส่วนของโครงสร้างอาคารต่างๆ ของสถานศึกษานั้น เบื้องต้นพบความเสียหายมูลค่า 956.2 ล้าน บาท แต่ยังไม่รวมความเสียหายของมหาวิทยาลัย และโรงเรียนเอกชน ซึ่งบางแห่งมีการทำประกันภัยไว้ ต้องรอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพื่อจะได้ไม่เสนองบประมาณเยียวยาจากรัฐบาลซ้ำซ้อนกับเงินประกัน และในวันที่ 18 พฤศจิกายน จะมีการจัด Big Cleaning day ที่โรงเรียนวัดบ้านสร้าง จ.พระนครศรีอยุธยา


    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 16:35 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000145808

    กทม.ปิดสวนสาธารณะ 6 แห่งถูกน้ำท่วม

    กรุงเทพมหานครประชาสัมพันธ์ปิดให้บริการสวนสารธารณะชั่วคราว 6 แห่ง เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วม ได้แก่ สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ สวนจตุจักร เขตจตุจักร สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา และสวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด ซึ่งสวนสาธารณะหลายแห่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ สำนักงานสวนสาธารณะจะเร่งเข้าไปทำความสะอาด ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง และทางวิ่ง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปใช้บริการก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ ดูแลฟื้นฟูสภาพต้นไม้ภายในสวนใหม่ทั้งหมด

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 12:10 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    กทม.ยังเฝ้าระวังหลังรื้อแนว “บิ๊กแบ็ก” เขตดอนเมือง-จตุจักร

    กทม.สรุปสถานการณ์น้ำประจำวัน ล่าสุดเวลา 07.00 น. ภาพรวมกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี พื้นที่ศาลายาน้ำทะลักต่อเนื่อง ส่วนทางเหนือน้ำลดระดับ ขณะที่ฝั่งพระนคร เขตดอนเมือง จตุจักร ระดังน้ำยังล้น เฝ้าระวังการรื้อแนวบิ๊กแบ็ก

    วันนี้ (15 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร สรุปสถานการณ์น้ำประจำวันว่า ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,398 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ลดลงจากเมื่อวาน 135 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3.75 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) น้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้เวลา 11.21 น. ระดับ 1.16 ม.รทก. และเวลา 19.17 น. ระดับ 0.95 ม.รทก. ในวันพรุ่งนี้ระดับน้ำทะเลหนุนสูง เวลา 12.04 น. ระดับ 1.14 ม.รทก. และเวลา 19.45 น. ระดับ 0.93 ม.รทก.

    ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจวัดที่ปากคลองตลาด สูงสุดวันนี้ (15 พ.ย.) เวลา 09.15 น. ระดับ 2.34 ม.รทก. ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ 0.46 เมตร คาดการณ์วันนี้โดยกรมอุทกศาสตร์ระดับน้ำจะสูงสุดเวลา 11.21 น. ระดับ 2.32 ม.รทก.

    สำหรับ สถานการณ์น้ำทุ่ง ระดับน้ำบริเวณดอนเมืองที่รั่วจากรังสิต (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 1 ซม. คลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม. ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) ระดับน้ำทรงตัว

    ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในคลองต่างๆ ระดับน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ ระดับ น้ำในคลองต่างๆ น้ำล้นตลิ่งคลองน้ำแก้ว ตอนถนนรัชดาภิเษก, คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร, คลองบางเขน ตอนถนนวิภาวดี, คลองบางซื่อ ตอนถนนพหลโยธิน, คลองลาดพร้าว ตอนวัดลาดพร้าว ซอยเสนานิคมและซอยลาดพร้าว 56 ส่วนฝั่งธนบุรี น้ำล้นตลิ่งคลองมหาสวัสดิ์ ตอนพุทธมณฑลสาย 2, คลองบางพรม ตอนคลองชักพระ ตอนถนนกาญจนาภิเษกและตอนถนนพุทธมณฑลสาย 3, คลองบางเชือกหนัง ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 2, คลองบางแวก ตอนคลองทวีวัฒนา ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 1, คลองบางจาก ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 2, คลองพระยาราชมนตรี ตอนถนนพระราม 2

    ภาพรวมสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี น้ำจากนอกพื้นที่ (ศาลายา) ยังคงทะลักเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีการแก้ไข ระดับน้ำพื้นที่ตอนเหนือของฝั่งธนบุรีเริ่มลดลง ส่วนฝั่งพระนคร ด้านดอนเมือง จตุจักร น้ำยังคงล้น การรื้อแนวกระสอบทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ๊ก ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด คลองเปรมประชากรช่วงในเมืองระดับน้ำลดลง ด้านสายไหม คลองลาดพร้าวด้านบนยังคงล้นตลิ่ง ด้านซอยเสนานิคม วัดลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 56 ระดับ น้ำในคลองลดลงเล็กน้อย ด้านตะวันออกน้ำในคลองแสนแสบ ระดับน้ำเริ่มลดลงเล็กน้อย คลองประเวศบุรีรมย์ระดับน้ำทรงตัว และระดับน้ำในคลองบางซื่อ ช่วงถนนรัชดาภิเษกระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 12:41 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1.


    ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจ 5 แยกลาดพร้าว-คาดอีก 3 วันจตุจักรแห้ง

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมขังที่ถนนกำแพงเพชร ถนนพหลโยธินตั้งแต่หน้าสวนจตุจักร ผ่าน 5 แยกลาดพร้าว โดยพบว่าปริมาณน้ำที่ท่วมขังหน้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสลดลงอย่างเห็นได้ชัดและแห้งในหลายจุด ส่วนบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวระดับน้ำลดลงเช่นกันอยู่ที่ประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กสามารถสัญจรได้ ส่วนบริเวณถนนพหลโยธินตั้งแต่เซ็นทรัลลาดพร้าวจนถึงหน้าซอยเสือใหญ่อุทิศ ปริมาณน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน แต่บริเวณแยกรัชโยธินยังมีน้ำท่วมขังสูงอยู่ที่ระดับ 30-50 เซนติเมต
    โดยสภาพน้ำมีสีเหลืองขุ่น ส่งกลิ่นเหม็นเป็นบางช่วง ทำให้สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร นำสารจุลินทรีย์มาฉีดพ่นเพื่อปรับสภาพน้ำบนถนน
    นอกจากนี้พบว่าเต็นท์รถยนต์บนถนนรัชดาภิเษกต่างยกรถสูงขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตรเพื่อหนีน้ำท่วม จากนั้นได้เดินทางเข้ามาในซอยเสือใหญ่อุทิศ ซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงได้ลดลงเหลือ 15-20 เซนติเมตร และพบว่ามีขยะตกค้างในซอยเป็นจำนวนมาก
    ทั้งนี้ หากภายใน 3-7 วันไม่มีน้ำเหนือเข้ามาเพิ่มเติมจากคลองสอง คาดว่า ระดับน้ำในพื้นที่จตุจักรจะลดลงอย่างชัดเจนภายใน 3 วัน โดยจะระบายน้ำลงคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว ส่วนกรณีที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงในเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม เนื่องจากยังมีน้ำทุ่งที่อยู่เหนือพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากน้ำที่ผ่านเข้ามาจาก บิ๊กแบ็กอย่างแน่นอน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 17:11 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    ชาวบ้าน ซ.ฉลองกรุง 48 สุดทน! น้ำท่วมนานกว่า 2 เดือน

    นางคำไพ สะทองมา อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในซอยฉลองกรุง 48 ซึ่งติดกับคลองลำกอไผ่ ที่ถูกน้ำท่วมร่วม 2 เดือน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยระดับน้ำภายในซอยจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านต้องอยู่ด้วยความลำบาก รวมทั้งการสัญจรไป-มา ที่ต้องใช้วิธีเดินด้วยเท้า เนื่องจากไม่มีเรือ เช่นเดียวกับตนที่ต้องเดินทางออกมาทำงานทุกวัน จนถึงวันนี้รู้สึกทนไม่ไหวกับความลำบาก จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียงที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลแต่อย่างใด โดยสิ่งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการ คือเรือเพื่อใช้ในการสัญจร
    อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตพบว่า น้ำที่ท่วมขังภายในซอยฉลองกรุง 48 นั้น เริ่มมีสีและมีกลิ่นแล้ว

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 17:22 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145848

    ชาวรังสิตเดือดร้อนหนัก น้ำท่วมสูงจาก"บิ๊กแบ็ก"

    ชาวรังสิตจำนวนหนึ่งได้มาอาศัยอยู่บนสะพานเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากบ้านที่อยู่เหนือแนวกระสอบทราบบิ๊กแบ็ก น้ำยังท่วมสูง ชาวบ้านบอกว่าอยากให้รื้อแนวบิ๊กแบ็กออก เพราะว่าหลังจากมีการวางแนวบิ๊กแบ็กแล้ว ทำให้น้ำไม่ระบาย น้ำที่ท่วมอยู่จึงไม่ลดและเริ่มเน่าเสีย
    ส่วนอีกจุดหนึ่งย่านดอนเมือง ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้รื้อแนวบิ๊กแบ็กออกเป็นระยะทางประมาณ 10 เมตร วันนี้ทหารได้เข้าไปซ่อมแซมและเสริมเป็นฝายชะลอน้ำ 5 เมตร ส่วนอีก 5 เมตรเปิดเป็นเส้นทาง เพื่อระบายน้ำและให้เรือผ่าน โดยน้ำเหนือแนวสูงกว่าใต้แนวบิ๊กแบ็กประมาณ 25 เซนติเมตร และน้ำเหนือแนวบิ๊กแบ็กยังลดลงอีก 10-20 เซนติเมตร
    พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า จากการวัดระดับน้ำ หลังมีการรื้อแนวบิ๊กแบ็กออกพบว่า ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านช่องระบายประมาณ 4 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน และหลังจากทางการเข้ามาซ่อม และทำเป็นฝายน้ำยังไม่มีชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวหรือคัดค้านแต่อย่างใด ส่วนน้ำที่ไหลผ่านใต้แนว ชาวบ้านอาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 18:11 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145876

    เจาะถนนระบายน้ำนิคมฯ สหรัตนนคร

    นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ว่า ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ที่ 2.25 เมตร จำเป็นต้องมีการเจาะถนนเพื่อระบายน้ำออก จนกว่าจะเห็นคันดิน และจะเริ่มต้นสูบน้ำออกได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะใช้เวลาสูบน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ น้ำจึงจะแห้งทั้งหมด และสามารถเดินเครื่องใหม่ได้ภายในเดือนธันวาคม เช่นกัน
    ขณะที่การกู้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จะต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำยังคงเหนือคันดินมาก นอกจากนี้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางชันระดับน้ำเริ่มทรงตัวและลดลงเรื่อยๆ โดยเชื่อว่า จะสามารถป้องกันได้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 18:39 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145897

    น้ำจ่อเซ็นทรัลพระราม 2 อีก 200 ม.ถึงประตู

    สถานการณ์ล่าสุดที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 พบว่า น้ำที่ท่วมอยู่ด้านหน้าสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาเขตบางขุนเทียน ซึ่งอยู่ด้านข้างของเซ็นทรัลฯ พระราม 2 น้ำจากจุดดังกล่าว เข้าสู่พื้นที่รั่วเซ็นทรัลฯ พระราม 2 โดยน้ำเข้ามาทางประตูเข้า - ออกของรถยนต์ที่สามารถผ่านไปยังสำนักงานที่ดิน ระยะทางประมาณ 20 เมตร โดยระดับน้ำที่วัดได้ในจุดดังกล่าว ประมาณ 20 เซนติเมตร การเดินทางสัญจรด้วยรถยนต์ยังสามารถทำได้
    อย่างไรก็ตาม น้ำที่เข้ามาในพื้นที่เซ็นทรัลฯ พระราม 2 ซึ่งวัดจากหัวน้ำที่เข้ามา ห่างจากประตูเข้า - ออกด้านหลังของตัวเซ็นทรัลฯ พระราม 2 ประมาณ 200 - 300 เมตร ขณะที่ทางเซ็นทรัลฯ พระราม 2 ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ด้วยการสร้างแนวกระสอบทรายความสูงประมาณ 1.20 เมตร รอบห้างมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องสูบน้ำประจำตามจุดต่างๆ อีกด้วย ส่วนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในห้างฯ ยังเป็นปกติ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 19:44 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145923

    ชาวรังสิตให้เวลากรมชลฯ 3 วันซ่อมเครื่องสูบ ถ้าน้ำไม่ลดนัดหารืออีกครั้ง

    พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยภายหลังจากร่วมเจรจากับ นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และ นายดำรงชัย นันทปราโมทย์ ตัวแทนชาวบ้านใน 5 ชุมชน ย่านรังสิต ประกอบด้วย หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่บ้านเมืองเอก ชุมชนตลาดหวั่งหลี ชุมชนริมคลองโรงเรียนศิริฯ และชุมชนตลาดพรพัฒน์ ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปทุมธานี ตรงสะพานแก้วรังสิต นานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ผลการเจรจาเป็นที่น่าพอใจทั้ง 2 ฝ่าย โดยชาวบ้านให้เวลากรมชลประทาน 3 วันนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ในการดำเนินการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 9 ตัว จากทั้งหมด 18 ตัว ที่บริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้แล้วเสร็จ และเดินเครื่องสูบน้ำอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้น้ำในชุมชนย่านรังสิตนั้น ได้มีการไหลเวียนตามระบบ และไม่เน่าเสีย ตามแผนการจัดการน้ำของรัฐบาล
    ตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวว่า จากนี้หาก กรมชลประทานดำเนินการตามที่พูดไว้จะไม่มีการรวมตัวกับชาวดอนเมือง เพื่อชุมนุมรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กแต่อย่างใด แต่หากหลังจาก 3 วัน พบว่ายังไม่มีการดำเนินการตามที่ได้รับปากไว้จะมีการหารือกับกลุ่มชาวบ้านอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร


    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 19:53 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145925

    ฮอนด้า ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ถูกน้ำท่วม ฟรี 6 จังหวัด 15-29 พ.ย.นี้

    ฮอนด้า ร่วมกับ ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า, กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดขบวนคาราวาน Free Service “ฮอนด้าห่วงใย เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ให้บริการซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่เสียหายจากภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ประสบภัยหลังระดับน้ำลด ประกอบไปด้วย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย หัวเทียน พร้อมไปกับการเปลี่ยนไส้กรองอากาศให้ฟรี! กับรถที่มีปัญหาในจุดดังกล่าว รวมถึงการตรวจสภาพ และซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ให้รถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม โดยจะลงพื้นที่ใน 6 จังหวัดภาคกลาง เริ่มต้น 15 พ.ย.นี้ ที่ นครสวรรค์, อุทัยธานี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ลพบุรี และอยุธยา ดังนี้
    วันที่ 15-17 พ.ย. ที่อุทยานนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
    วันที่ 19-21 พ.ย. ที่หอนาฬิกา จ.อุทัยธานี
    วันที่ 23-25 พ.ย. ที่ฝาครอบคลอง จ.สิงห์บุรี
    วันที่ 27-29 พ.ย. บริเวณหน้าศาลากลาง จ.อ่างทอง
    วันที่ 15-17 พ.ย. ที่ตลาดศรีนคร จ.นครสวรรค์
    วันที่ 19-21 พ.ย. วงเวียนสระแก้ว จ.ลพบุรี
    วันที่ 23-26 พ.ย. สะพานปรีดีฯ อ.เมือง จ.อยุธยา
    วันที่ 28-29 พ.ย. หน้าร้านผู้จำหน่ายสมชายมอเตอร์เซลล์ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา
    สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่เสียหายจากอุทกภัย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของบริการ Free Service ในพื้นที่ของท่านผ่านทางร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใกล้บ้านท่านได้ทันที

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 19:55 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145929

    ผอ.ศูนย์วิจัยสารสนเทศฯค้านย้ายเมืองหลวง ชี้เงื่อนไขน้อยเกิน

    ผอ.ศูนย์วิจัยสารสนเทศฯค้านข้อเสนอ 20 ส.ส. เพื่อไทย ที่จะให้ย้ายเมืองหลวง แจงไม่ใช่เรื่องง่าย สถานที่สำคัญหลายแห่งอยู่ที่นี่ อีกทั้งข้อมูลกทม.ทรุดปีละ 20 ซม.ไม่จริง ขนาดเมื่อก่อนทรุดแค่ 1-3 ซม.ต่อปี ยิ่งทุกวันนี้แทบไม่ทรุดเลยเพราะเลิกใช้น้ำบาดาลแล้ว ซัดถ้ามีเงื่อนไขแค่นี้อย่าพูด มั่นใจใช้แนวคิด "ในหลวง" จัดการน้ำอย่างยั่งยืน และทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่วันนี้ สู้น้ำได้แน่นอน

    >>คลิี๊กที่นี่ เพื่อรับชมวีดีโอ 15/11/54 คนเคาะข่าว ช่วงที่2 วิกฤตน้ำท่วม!!! <<

    วันนี้ (15 พ.ย.) ผศ.ดร.สมบัติ อยู่เมือง ผอ.ศูนย์วิจัยสารสนเทศแห่งประเทศไทย ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวในรายการ "คนเคาะข่าว" ว่า ที่พูดกันว่ากทม.จะจมบาดาลใน 50 ปีข้างหน้า อันนั้นไม่น่ากังวลนักหนา แผ่นดินเราไม่ได้ทรุดถึง 20 ซม. ต่อปี อันนั้นข้อมูลคลาดเคลื่อน เมื่อก่อนทรุดประมาณ 1-3 ซม.ต่อปี ซึ่งปัจจุบันก็แทบไม่ทรุดแล้วเพราะเราเลิกใช้น้ำบาดาลมานาน

    แม้แต่การศึกษาระดับโลกก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าน้ำจะขึ้นทุกที่เหมือนกัน บางประเทศต่ำกว่าน้ำก็ยังอยู่ได้ การที่กังวลว่ากทม.จะจมน้ำใน 25 - 50 ปี มันไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลันแน่นอน มันมีจะเงื่อนไขระหว่างทาง ตนไม่กลัวกรุงเทพฯจมน้ำ เพราะเราอยู่กับน้ำมานานแล้ว เราต่างหากที่รู้สึกว่าต้องไม่มีน้ำ

    ผศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า มีบางคน (ส.ส.เพื่อไทย) เสนอให้ย้ายเมืองหลวง ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดี การเสนออะไรโดยมีเงื่อนไขแค่นี้ไม่ควรพูด เราต้องจำกัดการเติบโตของเมือง ไม่ไปปลูกสร้างในที่ที่ไม่ควร อะไรที่กีดขวางคลองก็ต้องไปจัดการ ที่ผ่านมาเราปล่อยปละละเลย ให้รุกรานทางน้ำผ่าน

    แล้วที่บอกว่านครนายก พื้นที่ลาดชันน้ำมาจะระบายออกได้สะดวก ซึ่งพื้นที่ลาดชันในประเทศมีเต็มไปหมด เลือกเอาได้ทั้งอีสาน มีเงื่อนไขแค่นี้มันไม่ควรพูดเรื่องนี้ในตอนนี้

    จัดโซนนิ่ง ทำผังเมืองใหม่ หาเมืองรองรับการขยายตัวของเมือง ได้ทำหรือยัง สิ่งนั้นคือสิ่งที่ต้องทำ แล้วมาออกแบบวิศวกรรมในการป้องกันดูแล ไม่ว่าจะเป็นฟลัดเวย์ คันกั้นน้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ ถอยไม่ได้ เมืองเราอยู่นี่ สถานที่สำคัญอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วจะย้ายไปไหน มันสู้ได้ ไม่อยากให้โดดข้ามช็อตแล้วพูดอะไรออกมาไม่สมเหตุสมผล อยากให้อยู่กับความเป็นจริงแล้วแก้ปัญหา

    เมื่อถามว่าการจัดลำดับวางแผนการจัดการทรัพยากรน้ำที่จะนำเสนอต่อรัฐบาลในฐานะคณะกรรมการกยน.มีอย่างไรบ้าง ผศ.ดร.สมบัติ กล่าวว่า ตนก็ยังใช้แนวคิดของพระองค์ท่าน ที่ดร.สุเมธ ได้ให้สัมภาษณ์หลายๆครั้ง เราต้องดูลุ่มน้ำย่อยทุกระบบ ลุ่มน้ำใหญ่ ให้ยั่งยืน ความหมายคือ ป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร จัดการทรัพยากรในพื้นที่ ทุกอย่างต้องมีข้อมูลการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม นั่นคือความยั่งยืนอย่างแน่นอน จะใช้เวลา 20 ปี ก็ต้องทำ เราจะมาแก้ไขปัญหาระยะกลาง ระยะปลายอย่างเดียวไม่ได้

    หลายคนกังวลว่าเราจัดการพิบัติภัยอย่างเดียวหรือจัดการน้ำทั้งระบบ มันแยกไม่ออก เพราะหากเราจะจัดการพิบัติภัยเราก็ต้องดูแลน้ำต้นทุน ทั้งใช้ในการเกษตร ทั้งใช้ลดพิบัติภัย ใช้ในหน้าแล้ง การจัดการชายฝั่ง อุตสาหกรรม ใช้ในการอุปโภค บริโภค ซึ่งเราก็ต้องใช้ เราหนีไม่พ้น
    ต้องใช้ที่ดินให้เหมาะสม ต้องโซนนิ่งมันให้ดี แล้วใส่วิศวกรรมในพื้นที่ที่เราตั้องสู้ นั่นคือมาตรฐานสากล แค่มาดูแลส่วนล่างแล้วผลักน้ำไปให้ดีที่สุด โดยหน้าแล้งไม่มีน้ำใช้ อันนั้นไม่ยั่งยืน ต้องเป็นธรรมกับทุกลุ่มน้ำ

    คนมักถามปีหน้าจะน้ำท่วมหนักแบบนี้หรือไม่ ตนคิดว่าทุกคนต้องช่วยกัน ทำงานอย่างเป็นระบบ ทำงานหนักอย่างตลอด ตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่น้ำท่วมแล้วค่อยมาพูดกัน มันไม่ได้


    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 23:33 น.
    http://www.manager.co.th/Politics/Vi...word=%a1%b7%c1.
    >> สตูล<<

    ข่าวนี้ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วมค่ะ เป็นข่าวเตือนธรณีพิบัติ อยากนำมาให้ได้อ่านค่ะ

    กรมทรัพย์ “เฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยสตูล”

    สตูล - กรมทรัพย์ จัดสัมมนา เครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย จ.สตูล เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยบริเวณต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ หลังพบบางพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งอาจเสี่ยงต่อดินโคลนถล่มยิ่งขึ้น

    วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมพินนาเคิลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดการสัมมนา "เครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย” จังหวัดสตูล จัดโดยกรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยบริเวณต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย เครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนจำนวน 150 คน

    โดยการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุธรณีพิบัติภัยเป็นเวทีให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณีได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กระบวนการ และวิธีการในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเตือนเครือข่ายฯให้มีความพร้อมในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด อันจะนำมาซึ่งการสูญเสียน้อยที่สุดหากเกิดธรณีพิบัติภัย

    นายธวัชชัย เทพสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 4 กล่าวว่า จังหวัดสตูล เป็น 1 ใน 51 จังหวัดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยขึ้นในปี 2550 ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่อำเภอทุ่งหว้า อำเภอละงู อำเภอมะนัง อำเภอควนกาหลง และอำเภอควนโดน

    อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์และตรวจสอบข้อมูลจากเครือข่าย พบว่าระบบการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยมีประสิทธิภาพเฉพาะในบริเวณต้นน้ำ โดยยังไม่ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณกลางน้ำและปลายน้ำ อีกทั้งภายหลังจัดตั้งเครือข่ายแล้วบางพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่มเพิ่มขึ้น กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ดำเนินการจัดตั้งระบบเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มให้ครอบคลุมทั้งระบบต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 20:23 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000145859

    >> นนทบุรี<<


    กู้ ถ.340 เริ่มเสร็จแล้วบางจุด! "สุกำพล" โผล่ตรวจงาน


    ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงคลองแยกไทรน้อย - คลองลำรี

    เจ้าหน้าที่เร่งกู้ บางใหญ่ - สุพรรณบุรี ขาออก ถ.กาญจนาภิเษก ช่วงสมบัติบุรีน้ำเริ่มแห้งเหลือไม่ถึง 20 ซม. ด้านหน้า ซ.ลาดปลาดุกวางท่อเสร็จแต่ยังไม่ได้สูบน้ำ ส่วนวงแหวนแยกบางใหญ่เริ่มวางท่อบ้างแล้ว ด้านสาย 340 ฝั่งนนท์ เร่งขุดดินทำคันกั้นฝั่งถนน ส่วนช่วงลาดหลุมแก้ว กู้เสร็จแล้ว ด้าน รมว.คมนาคม โผล่ตรวจงาน

    วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจการกู้ถนนตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี และถนนทางหลวงสาย 340 บางบัวทอง - สุพรรณบุรี พบว่า บน ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ทางหลักขาออก จุดแรกที่เริ่มทำการกู้คือช่วงตั้งแต่คลองลำรี - คลองแยกไทรน้อย เจ้าหน้าที่ได้สูบน้ำจนมีระดับลดลงอย่างมากเหลือราว 5 - 20 ซม. โดยได้ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบออกไปทางหมู่บ้านสมบัติบุรี แต่ก็ยังพบมีน้ำซึมอยู่ตามแนวกั้นกระสอบทรายหลายแห่ง จนเจ้าหน้าที่แขวงการทางต้องรื้อกระสอบทรายฝั่งในถนนเพื่อวางอุดรอยรั่วอีกครั้ง

    ขณะจุดที่ 2 บริเวณปากซอยวัดลาดปลาดุก ก็ได้เริ่มมีการวางท่อคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดความสูง 1 เมตรอย่างต่อเนื่องจนครบทั้งสองข้างของถนนรวมทั้งเว้นจุดที่จะสูบน้ำแล้ว พร้อมทั้งมีการเริ่มวางถุงทรายกั้นน้ำบางส่วน แต่จากระดับน้ำที่มีความสูงราว 50 - 100 ซม.ทำให้ปฏิบัติภารกิจได้ยากลำบากขึ้น

    ด้านจุดที่ 3 คือบริเวณ ถ.รัตนาธิเบศร์ ทางหลักขาออกช่วงขึ้นวงแหวนแยกบางใหญ่ จนไปถึงทางลงบน ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าสู่ อ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่แขวงการทางบางใหญ่ได้เริ่มนำถังยางมะตอยเก่าบรรจุถุงทรายมาวางบน ถ.รัตนาธิเบศร์ ก่อนถึงสะพานวงแหวนแล้ว พร้อมทั้งนำถุงทรายมากั้นกันน้ำซึมเข้าพื้นที่ รวมทั้งนำท่อคอนกรีตฯ มาเสริมกั้นช่วงจุดขึ้นสะพานซึ่งมีระดับน้ำลึกถึง 60 ซม. ส่วนอีกข้างก็จะใช้แผ่นปูนที่ใช้ปิดการจราจรของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มากั้นน้ำด้านทิศเหนือพร้อมใช้ถุงทรายกั้นอีกชั้นหนึ่ง โดยหลังจากวางคันกั้นเรียบร้อยก็จะนำหินคลุกมาทำเป็นเนินความสูงราว 60 ซม.กั้นขวางช่วงจุดเริ่มวางถังยางมะตอยเพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้ามาด้วย ส่วนทางลงของสะพานวงแหวนเจ้าหน้าที่ก็ได้เริ่มนำท่อคอนกรีตฯ มาวางไว้นำเส้นทางกั้นน้ำแล้ว โดยจะกั้นปิดเส้นทาง ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ทางคู่ขนานขาออก และจะนำหินคลุกทำเป็นเนินให้รถสัญจรบริเวณทางหลักแทน โดยระดับน้ำบริเวณนี้อยู่ที่ราว 40 - 90 ซม.

    ขณะที่บริเวณ ถนนทางหลวงสาย 340 ขาออก บริเวณทางแยกบางบัวทองในพื้นที่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ได้ทำคันดินกั้นน้ำไว้ทั้ง 2 ข้างทางแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จในบางจุด โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็กโฮกว่า 10 คันขุดดินทำแนวกั้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตั้งแต่คลองเจ๊ก - แยกนพวงศ์ ขณะนี้ได้มีการวางคันดินกั้นน้ำเสร็จสิ้นแล้ว และสูบน้ำออกจนเหลือความสูงของน้ำแค่ 5 - 15 ซม. แต่บนถนนก็มีดินเลนอยู่เป็นจำนวนมากด้วย

    ส่วนระดับน้ำบนถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงที่ไม่ได้มีการกู้ก็ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ราว 5 - 30 ซม. ล่าสุด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้เดินทางโดยรถบรรทุกน้ำของกรมทางหลวงมาตรวจสอบความคืบหน้าการกู้ถนนดังกล่าวด้วยเช่นกัน


    จนท.เร่งอุดรอยรั่วของน้ำที่ซึมเข้ามา






    ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงปากซอยวัดลาดปลาดุก






    ถ.รัตนาธิเบศร์ ช่วงทางขึ้นสะพานวงแหวนแยกบางใหญ่




    ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงแยกบางใหญ่


    ถนนทางหลวงสาย 340 ช่วงแยกบางบัวทอง






    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วน จาก astvผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 21:09 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000145950

    >> พิษณุโลก <<


    คนบางระกำทุกข์หนัก น้ำท่วมขัง-เจอหนาวซ้ำ

    ชาวบ้าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ยังคงอพยพหนีน้ำ อาศัยอยู่บนถนน เดือดร้อนหนัก เผชิญอากาศหนาวซ้ำ

    วันนี้ (15 พฤศจิกายน) มีรายงานข่าวว่า ที่ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังมีชาวบ้านที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่พักชั่วคราวริมถนน เนื่องจาก บ้านถูกน้ำท่วมขัง และยังคงเดือดร้อน เนื่องจาก เผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น แม้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำจะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ โดย นางสังเวียน ดีอินทร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302/9 บ้านวังกุ่ม ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ชาวบ้านผู้อพยพรายหนึ่ง เปิดเผยว่า บ้านพักอาศัยของตน ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ตนและครอบครัว จำนวน 6 คน จึงต้องมาอาศัยอยู่ที่พักชั่วคราว ริมถนน สายพิษณุโลก – บางระกำ มากว่า 4 เดือนแล้ว

    ถึงแม้ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่น้ำจะลดลงไปมากแล้วก็ตาม แต่ยังมีอีกหลายสิบหลังคาเรือน ที่ยังคงเผชิญกับน้ำท่วมขังอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังคงเดือดร้อน เพราะเผชิญกับอากาศหนาวซ้ำ เพิงพักชั่วคราว ไม่สามารถต้านทานลมหนาวได้ ทำให้เริ่มมีอาการเจ็บป่วย

    อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ท่วมขัง เริ่มลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับ สภาพอากาศที่แห้งและไม่มีฝนตกในพื้นที่ คาดว่า 1 สัปดาห์ จะสามารถรื้อถอนเพิงพักชั่วคราว กลับเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านได้ตามปกติ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://hilight.kapook.com/view/64783
    Last edited by IAm; 11-18-2011 at 12:31 PM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, bookerian ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  2. #12
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4
    ต้องขอโทษเพื่อนๆ SBN Town ด้วยนะคะ ที่ไม่ได้มา Update ข่าวสถานการณ์น้ำท่วมเป็นสัปดาห์เลย
    ขอโทษจริงๆค่ะ เนื่องจากติดภาระงาน ยังไม่ได้จัดเวลาในการมา Update ข่าวสาร
    วันต่อๆไปจะพยายามจัดเวลาเข้ามาโพสต์ข่าว เพื่อให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ ส่วนวันก่อนหน้านี้ที่หายไป จะมาโพสต์ย้อนหลังนะคะ

    หากเพื่อนๆ คนไหน มีข่าวสาร ข่าวสถานการณ์น้ำท่วม ที่อยากนำมาแบ่งปัน ก็สามารถเข้ามาโพสต์ในกระทู้นี้ได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, Siambrandname Webmaster, amm0pat ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  3. #13
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4
    แนะนำเว็บไซด์ www.thaiflood.com ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย



    เป็นเว็บไซด์ที่รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับน้ำท่วม ที่น่าสนใจหลายอย่างเลยค่ะ เช่น

    -รวมภาพถ่ายสถานการณ์น้ำท่วม จากดาวเทียม

    -HotLine สายด่วน & รวมเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน

    -เป็นพื้นที่ ในการขอความช่วยเหลือ และ ต้องการมอบความช่วยเหลือ ให้ผู้ประสบอุทกภัย

    -แผนที่วิกฤตการณ์น้ำท่วมประเทศไทย 2554

    -รวมข่าวสถานการณ์น้ำท่วม เช็คข่าวน้ำท่วมล่าสุด รวบรวมข้อมูลข่าวสาร และการเตือนภัย

    -เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำท่วม เรื่องน่ารู้รับมือสถานการณ์นํ้าท่วม ฯลฯ


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, bookerian ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้
    Like amm0pat ถูกใจ ข้อความนี้ ที่สุด

  4. #14
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    16 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================



    >> กรุงเทพฯ <<


    กทม.จับมือพันธมิตรจัดรถรับ-ส่งผู้ประสบภัยเพิ่มเป็น 36 เส้นทางทั่วกรุง

    กทม.ร่วมกับหลายหน่วยงาน จัดรถรับส่งผู้ประสบภัยเพิ่มเป็น 36 เส้นทาง ฟรี

    วันนี้ (16 พ.ย.) นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ ทหาร และ ขสมก.ได้เพิ่มรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็น 36 เส้นทาง รวมจำนวน 121 คัน โดยมีเส้นทางใหม่ ดังนี้ ซอยพหลโยธิน 48-สุขาภิบาล 5 จำนวน 3 คัน, ถนนสิรินธร จากคลองมหาสวัสดิ์-แยกซังฮี้ จำนวน 1 คัน, ถนนจรัญสนิทวงศ์ จากแยกบางพลัด-สะพานพระราม 7 จำนวน 2 คัน, ถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า จากแยกบางพลัด-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จำนวน 1 คัน, ถนนบรมราชชนนี จากแยกสมเด็จพระปิ่นเกล้า-สายใต้ใหม่ จำนวน 1 คัน,พื้นที่เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม ตลิ่งชัน จำนวน 1 คัน, ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกสะพานควาย-เมเจอร์รัชโยธิน จำนวน 1 คัน, ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกสะพานควาย-เมเจอร์รัชโยธิน จำนวน 1 คัน, ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่เมเจอร์รัชโยธิน-สะพานใหม่ จำนวน 1 คัน, ถนนรัชดาภิเษก-ถนนลาดพร้าว-ถนนวิภาวดีรังสิต-ตั้งแต่แยกสุทธิสาร รัชดาฯ-แยกลาดพร้าว-แยกสุทธิสารวิภาวดีฯ จำนวน 1 คัน

    ถนนรัชดาภิเษก-ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่แยกสุทธิสาร รัชดาฯ-ซอยลาดพร้าว 48 จำนวน 1 คัน, ถนนรัชดาภิเษก-ถนนวิภาวดี ตั้งแต่แยกสุทธิสารรัชดาฯ-รัชวิภา-แยกสุทธิสาร วิภาวดีฯ จำนวน 1 คัน, ถนนพหลโยธิน-ถนนเกษตรนวมินทร์ ตั้งแต่สะพานควาย-วัดพระศรีฯ-ลาดปลาเค้า-เสนานิคม จำนวน 1 คัน, ถนนกำนันแม้น ระหว่างถนนกัลปพฤกษ์-ถนนเอกชัย จำนวน 2 คัน, ถนนเอกชัย ตั้งแต่เอกชัย ซอย 8-ชุมชนพัฒนา หมู่ 11 จำนวน 1 คัน และถนนวุฒากาศ ตั้งแต่ซอยวุฒากาศ 42-ซอยชุมชนศาลาครืนรวมใจ จำนวน 1 คัน

    สำหรับเส้นทางเดิมซึ่งยังคงให้บริการอยู่ ประกอบด้วย ถนนกำแพงเพชร 6 (Local Road) จากแยกบางเขนตลอดสาย สุดเขตดอนเมือง จำนวน 6 คัน, ถนนแจ้งวัฒนะ-ถนนเลียบคลองประปา จำนวน 2 คัน, ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่สะพานควาย-อนุสรณ์สถานฯ จำนวน 10 คัน, ถนนวิภาวดี ตั้งแต่แยกสุทธิสาร-อนุสรณ์สถานฯ จำนวน 10 คัน, ถนนประชานิเวศน์ ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต-ถนนเลียบคลองประปา จำนวน 2 คัน, ถนนลาดพร้าว-วังหิน ตลอดสาย จำนวน 2 คัน, ถนนลาดปลาเค้า ตั้งแต่รามอินทรา-แยกวังหิน-โชคชัย 4 จำนวน 2 คัน, ถนนช่างอากาศอุทิศ ประชาอุทิศ โกสุมร่วมใจ วัดเวฬุวนาราม เชิดวุฒากาศ จำนวน 8 คัน, ถนนสรงประภา-นาวงษ์ประชาพัฒนา-เตชะตุงคะ-ซ.สรณคมน์-เชิดวุฒากาศ จำนวน 8 คัน, ถนนงามวงศ์วาน ตั้งแต่แยกเกษตร-แยกพงษ์เพชร จำนวน 2 คัน

    ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกสุทธิสาร-ถ.วิภาวดี จำนวน 2 คัน, ถนนสายไหม ตลอดสาย จำนวน 3 คัน, ซอยวัชรพล-ถนนสุขาภิบาล 5 จำนวน 5 คัน, ถนนรามอินทราจากแยกหลักสี่- กม.8 จำนวน 4 คัน, ถนนนวมินทร์ กม.8-คลองลำชะล่า จำนวน 2 คัน, ถนนสุวินทวงศ์ ตั้งแต่คลองสามวา-วัดแสนสุข จำนวน 2 คัน, ถนนพระยาสุเรนทร์ตลอดสาย จำนวน 4 คัน, ถนนบรมราชชนนีตั้งแต่แยกบรมราชชนนีตลอดสาย (จรัญสนิทวงศ์-พุทธมณฑลสาย4) จำนวน 8 คัน, ถนนเพชรเกษม จากแยกท่าพระ-ถนนพุทธมณฑลสาย 4 จำนวน 8 คัน, ถนนบางบอน 1 (ถนนบางบอน-บางแค) ตั้งแต่แยกเอกชัย-ถนนเพชรเกษม จำนวน 2 คัน, ถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่เพชรเกษม-คลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 5 คัน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 13:59 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000146225

    น้ำมาแล้ว! ถนนพระราม 2 ขาเข้า น้ำท่วม 1 เลน


    ถนนพระราม 2 น้ำผุดจากท่อแล้ว กิน 1 เลน (ไอเอ็นเอ็น)
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

    ถนนพระราม 2 ขาเข้า ซ.70-68 น้ำผุดจากท่อเอ่อกินพื้นที่ 1 เลน จราจร ระดับน้ำ 5-10 ซม. จราจรยังปกติ ซอยติดคลองลาดลำภู น้ำผุดจากท่อต่อเนื่อง

    สถานการณ์น้ำล่าสุด ที่ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ระหว่างพระราม 2 ซอย 70 - พระราม 2 ซอย 68 พบว่า น้ำได้ท่วมบนพื้นผิวการจราจร อันเนื่องมาจากน้ำได้เอ่อล้นบริเวณท่อระบายน้ำ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทราย มาปิดปากท่อระบายน้ำไว้แล้วก็ตาม ซึ่งระดับน้ำที่ท่วมกินพื้นที่ 1 เลน การจราจร โดยระดับน้ำจุดนี้วัดได้ 5 - 10 ซม. แต่การจราจรยังคงเป็นปกติ

    ขณะที่บรรยากาศในพระราม 2 ซอย 68 ซึ่งเป็นซอยที่ติดกับคลองลาดลำภู พบว่า น้ำได้ผุดขึ้นมาตามท่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์น้ำ บนถนนพระราม 2 จะรายงานให้ทราบต่อไป

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://hilight.kapook.com/view/64513 16 พฤศจิกายน 2554

    กทม.เตือน 8 ชุมชน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ระวังน้ำท่วม

    กทม.ประกาศแจ้งเตือน 8 ชุมชน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เฝ้าระวังสถานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังน้ำเหนือไหลบ่าเข้าพื้นที่บางกะปิ และคลองแสนแสบอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่บางส่วนของแขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เนื่องจากในขณะนี้น้ำเหนือได้ไหลบ่าเข้ามาในพื้นที่เขตบางกะปิอย่างต่อเนื่องถึงคลองแสนแสบ และคลองย่อยต่างๆ ได้แก่ คลองบ้านม้า 2 คลองหัวหมากน้อย และคลองลำสาลี ซึ่งมีแนวโน้มจะเข้าพื้นที่หลายชุมชน กทม.ได้ประเมินสถานการณ์จากตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยรอบแล้ว กรณีดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ จำนวน 8 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนวังใหญ่ ชุมชนวังโสม ชุมชนสามัคคีพัฒนา ชุมชนลำสาลี ชุมชนลำสาลีพัฒนา ชุมชนหมู่บ้านอยู่สบาย ชุมชนมัจฉา และชุมชนประชาร่วมใจ

    ทั้งขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ ปลั๊กไฟฟ้าขึ้นที่สูง และให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเคลื่อนย้ายไปอยู่ศูนย์พักพิงที่กทม.ได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อความปลอดภัย โดยให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์จาก กทม.อย่างใกล้ชิด

    ขณะที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร สรุปสถานการณ์จุดน้ำท่วมขังประจำวัน ได้แก่ ซอยโยธินพัฒนา 3 เขตบางกะปิ น้ำสูง 5 ซม., ถนนนวมินทร์ 50 เขตบึงกุ่ม น้ำสูง 20 ซม., ถนนนวมินทร์ 68 น้ำสูง 15 ซม., หมู่บ้านปัฐวิกรณ์ นวมินทร์ 72 น้ำสูง 15 ซม., ถนนนวมินทร์ 74 น้ำสูง 25 ซม. ถนนลาดพร้าว-วังหิน น้ำสูง 30 ซม. // แยกวังหิน น้ำสูง 22 ซม. ถนนนิมิตรใหม่ ขาเข้า-ขาออก มีน้ำท่วมขังตลอดสาย ระดับน้ำ 30-40 ซม. ถนนนาวงประชาพัฒนา มีน้ำท่วมขังเป็นระยะ ตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซม. บริเวณแยกวัดเสมียน ระดับน้ำ 20-30 ซม. ถนนสายไหม มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 40 - 50 ซม. ถนนรามอินทรา เปิดการจราจร ตั้งแต่ถ.รามอินทรา กม.2 ถึง กม.8 (ระดับน้ำ 10-20 ซม.) ถนนบรมราชชนนี ตั้งแต่แยกบรมราชชนนี ถึงหน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า (เปิดการจราจร) ถนนราชวิถี ตั้งแต่เชิงสะพานกรุงธน ถึงแยกบางพลัด (เปิดการจราจร)

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำท่วมบนถนนกรุงเทพกรีฑาได้เริ่มลดระดับลง เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้เร่งเข้าเสริมแนวกระสอบทรายหลังคันดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง พร้อมทั้งทางสำนักงานเขตบางกะปิได้ส่งเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำลงคลองลำสาลี เพื่อระบายน้ำออกเช่นกัน









    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 16:25 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000146145

    รถโดยสารให้บริการรับ-ส่ง ในซอยกำนันแม้น หลังน้ำลดระดับ

    ซอยกำนันแม้น-ถนนเอกชัย แม้ระดับน้ำยังคงท่วมสูง แต่ยังมีรถโดยสารวิ่งผ่านรับ-ส่งประชาชน ซึ่งบางส่วนยังดำเนินชีวิตตามปกติ และบางส่วนยังตั้งร้านค้าขายของอยู่เช่นเดิม

    วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนในซอยกำนันแม้น ระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว แต่ยังคงท่วมสูงอยู่ประมาณ 50-60 เซนติเมตร รถโดยสารสามารถเข้าไปให้บริการได้ ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ

    ขณะที่ ถนนเอกชัย ระดับน้ำยังคงท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร รถยนต์ยังคงสัญจรได้ ส่วนประชาชนจำนวนมากต่างรอขึ้นรถโดยสาย เพื่อเดินทางเข้าออกภายในพื้นที่ บางส่วนยังคงตั้งร้านค้าขายของตามปกติ













    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 17:51 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146393

    รื้ออีก!! ชาวบ้านฮือรื้อบิ๊กแบ็กแยก คปอ.พังไปแล้ว 8 ม.น้ำทะลักเข้าพหลฯ

    ชาวบ้านย่านหมู่บ้านการ์เด้นโฮม ชุมชนจามร ประมาณ 200 คน รวมตัวประท้วงขอรื้อบิ๊กแบ็ก หน้า คปอ.ยาวกว่า 10 เมตร ขอช่วยลดระดับน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาขอนำข้อเรียกร้องเสนอ ศปภ.แต่ไม่เป็นผล ชาวบ้านฮือดึงกระสอบยาว 8 เมตร น้ำทะลักเข้าถนนพหลโยธิน

    ชาวบ้านย่านหมู่บ้านการ์เด้นโฮม ชุมชนจามร ประมาณ 200 คน รวมตัวประท้วงขอรื้อบิ๊กแบ็ก หน้า คปอ.ยาวกว่า 10 เมตร ขอช่วยลดระดับน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาขอนำข้อเรียกร้องเสนอ ศปภ.แต่ไม่เป็นผล ชาวบ้านฮือดึงกระสอบยาว 8 เมตร น้ำทะลักเข้าถนนพหลโยธิน

    วันนี้ (16 พ.ย.) (เบื้องต้น) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก บนถนนพหลโยธิน ช่วงแยกกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ หรือ คปอ.มีชาวบ้านจากชุมชนหมู่บ้านเอนก หมู่บ้านการ์เด้นโฮม ชุมชนจามร และอีกหลายชุมชนบริเวณใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กในบริเวณนี้ ประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วง พร้อมยื่นข้อเสนอขอเปิดแนวบิ๊กแบ็ก ระยะทาง 10 เมตร เพื่อให้ระดับน้ำในชุมชนเหนือคันลดระดับลง หลังต้องเผชิญน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร มาเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์

    พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผู้กำกับการ สน.สายไหม พยายามเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้าน พร้อมระบุว่า จะนำข้อเสนอของชาวบ้านไปเสนอ ศปภ.เพื่อให้มาดำเนินการช่วยเหลือ แต่ข้อตกลงไม่เป็นผล ชาวบ้านบางส่วนจึงดึงกระสอบทรายด้านบนออก 2 จุด รวมระยะทางน้ำไหลผ่านในลักษณะฝายน้ำล้น 8 เมตร ทำให้น้ำบริเวณดังกล่าวทะลักลงถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าโรงพยาบาลภูมิพล










    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 19:17 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146361

    สะพานใหม่ น้ำยังสูง 40 ซม.เริ่มส่งกลิ่นเหม็น


    สะพานใหม่ น้ำยังสูง 40 ซม. (ไอเอ็นเอ็น)

    สถานการณ์น้ำบริเวณสะพานใหม่ ระดับทรงตัวประมาณ 40 ซ.ม. และเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ประชาชนอาศัยเรือและรถใหญ่เดินทาง เนื่องจากระดับน้ำยังสูง

    สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุด บริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงสะพานใหม่ จากการสังเกตพบว่า ระดับน้ำนั้นยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 40 - 60 ซม. ขณะที่สภาพน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน ก็ได้มีสีดำและส่งกลิ่นเหม็น เป็นอย่างมาก สำหรับความเป็นอยู่ของประชาชนในบริเวณนี้ ก็ยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องอาศัยเรือและรถขนาดใหญ่ในการเดินทางเท่านั้น เนื่องจากรถเล็กยังไม่สามารถสัญจรไป-มา ในบริเวณนี้ได้

    ทั้งนี้ จากการสังเกต ยังพบว่า อาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ 2 ข้างทางนั้น ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากคลื่นน้ำ ที่รถขนาดใหญ่วิ่งผ่าน ซึ่งทำให้ประตูเหล็กม้วน และประตูกระจกพังเสียหายเป็นจำนวนมาก

    อย่างไรก็ตาม บนถนนเยื้องกับตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งเป็นเนินหลังเต่า ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง ก็ได้มีพ่อค้า แม่ค้า นำอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ ออกมาตั้งขายกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ในบริเวณนี้ดูคึกคักไปถนัดตา
    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://hilight.kapook.com/view/64813 16 พฤศจิกายน 2554

    >> สมุทรสาคร <<


    เพิ่มเครื่องสูบน้ำ 13 ตัว ที่กระทุ่มแบน ดึงน้ำคลองภาษีเจริญลงท่าจีน


    กรมชลประทานตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 13 ตัว รวมที่มีของเดิมเป็น 19 ตัว ที่ประตูระบายน้ำกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยเดินเครื่องทั้งหมดเพื่อสูบน้ำเต็มกำลังจากคลองภาษีเจริญลงแม่น้ำท่าจีน หวังพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ บรมราชชนนี เพชรเกษม มีระดับน้ำลดลง

    วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณประตูระบายน้ำกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไก้มีเจ้าหน้าที่กรมชลประทานจากหลายจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานเอกชน ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม 13 ตัว จากเดิมที่มีอยู่ 6 รวมเป็นทั้งหมด 19 ตัว เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองภาษีเจริญลงสู่แม่น้ำท่าจีน โดยหวังว่าจะส่งผลช่วยให้ระดับน้ำในพื้นที่และถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม และบริเวณใกล้เคียงมีระดับน้ำที่ลดลงและสามารถใช้งานได้ตามปกติ









    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 15:22 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146285

    >> นนทบุรี <<


    ปิดถนนหลายเส้นบางบัวทอง ต้องสัญจรผ่านเรือรับจ้าง

    บางบัวทองน้ำ ยังคงท่วมสูง กรมทางหลวงแจ้งปิดการจราจรหลายเส้นทาง สร้างโอกาสกลุ่มเรือรับจ้างหารายได้บริการรับส่งผู้เข้าออกอำเภอบางบัวทอง ด้านเต็นท์รถไม่หวั่นโดนยกรถ หลังมีเส้นตายวันนี้ นำรถที่จะขายขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี สวนกระแส ปชช.ที่เริ่มทยอยนำรถออกแล้ว

    วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทางเข้าอำเภอบางบัวทองยังคงมีปริมาณน้ำสูงอยู่ โดยมีกลุ่มเรือรับจ้างนำเรือมาจอดคอยบริการสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าไปในตัวอำเภอบางบัวทอง เพราะไม่สามารถสัญจรด้วยรถได้ เนื่องจากกรมทางหลวงแจ้งปิดเส้นทางในอำเภอบางบัวทอง ได้แก่

    1.ทางหลวงหมายเลข 9 ตลิ่งชัน-บางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว (หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี-คลองมหาสวัสดิ์) ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่กม. 30-58 เป็นแห่งๆ ให้ใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์-รังสิต

    2.ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-ลาดบัวหลวง ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่กม.25-55 เป็นแห่งๆ ให้ใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์-รังสิต-อยุธยา

    3.ทางหลวงหมายเลข 345 สะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่กม.0-10 เป็นแห่งๆ ใช้ทางของเทศบาล

    4.ทางหลวงหมายเลข 3215 บางกรวย-ราษฎร์นิยม ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่กม.0-35 เป็นแห่งๆ ไม่มีเส้นทางทดแทน

    5.ทางหลวงหมายเลข 3901 คลองบางไผ่-ลาดหลุมแก้ว (ทางคู่ขนานวงแหวนตะวันตก) ขาออก ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่ กม.30-58 เป็นแห่งๆ ไม่มีเส้นทางทดแทน

    6.ทางหลวงหมายเลข 3902 คลองบางไผ่-ลาดหลุมแก้ว (ทางคู่ขนานวงแหวนตะวันตก) ขาเข้า ท้องที่อำเภอบางบัวทอง มีน้ำท่วมสูงที่ กม.30-58 เป็นแห่งๆ ไม่มีเส้นทางทดแทน

    นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ที่จอดบนทางคู่ขนานลอยฟ้าและสะพานพระราม 8 ต่างทยอยกันมานำรถที่จอดหนีน้ำท่วมออกไปแล้วภายหลังกองบังคับการตำรวจจราจรและทีมงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อให้มีการเคลื่อนย้ายรถที่จอดบนทางด่วน บนสะพานข้ามแยกต่างๆ และบนทางคู่ขนานลอยฟ้าออกนอกพื้นที่เพื่อเตรียมเปิดการจราจรให้รถผ่านไปมาได้คล่องตัวมากขึ้น โดยมีกำหนดเส้นตายภายในวันนี้หากไม่มีการเคลื่อนย้ายรถก็จะทำการยกรถในทันที แต่ยังคงมีบรรดาเต็นท์รถได้นำรถที่จะขายหนีน้ำขึ้นไปจอดบนทางยกระดับบรมราชชนนี เนื่องจากปริมาณน้ำถนนบรมราชชนนีตั้งแต่พุทธมณฑลสาย 2 ยังคงไม่ลดปริมาณลง











    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 16:01 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146331

    ฝ่ากระแสต้าน เร่งกู้ถนน 340 จนใช้ได้ แต่ “สุกำพล” แนะใช้ พระราม 2 เหมือนเดิม

    กู้ถนนเส้น 340 คืบหน้า คาด สามารถเปิดใช้ได้ในวันนี้ “สุกำพล” กลับลำ บอกไม่แนะนำให้ใช้ถนนเส้นดังกล่าว เพราะกู้ได้เพียง 2 เลน และมีรถจอดบริเวณถนนสูง ขณะที่ รมว.คมนาคม ชี้ การสูบน้ำออก ทำให้ระดับน้ำสองข้างทางเพิ่มสูงขึ้น

    วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานการกู้ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-สุพรรรบุรี ว่า การกู้ถนนมีความคืบหน้าไปมาก โดยจะทำการกู้เป็นระยะทาง 27 กิโลเมตร ท่ามกลางน้ำท่วมที่สูงกว่า 1 เมตร เพื่อใช้เป็นทางสำรองให้ผู้ใช้รถใช้ถนนในกรณีที่ถนนพระราม 2 ถูกน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าสามารถเปิดใช้ได้ภายในวันนี้

    ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถนนพระราม 2 น้ำคงไม่ท่วมแล้ว และถนนเส้น 340 ตนได้ไปกู้เองเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา คาดวันนี้ช่วงเย็นจะแล้วเสร็จ แนะนำว่าถ้าจะเดินทางไปภาคใต้ ควรใช้ถนนพระราม 2 จะดีกว่า เพราะเส้น 340 มี 4 เลน แต่กู้เพียง 2 เลน จะทำให้ถนนแคบ และมีรถจอดบริเวณถนนสูงสามารถสัญจรลำบาก อาจใช้ได้เลนเดียว นอกจากนี้ยังมีโคลนที่ยังเลอะเทอะอยู่ ไม่แนะนำให้ไป หรือจะไปต้องใช้ปิ๊กอัพ แต่เห็นว่าไม่ควรไปให้ชาวบ้านแถบนั้นใช้ถนนเส้นนั้นดีกว่า

    ขณะที่ รมว.คมนาคม และอธิบดีกรมทางหลวง ได้ระบุว่า การสูบน้ำออกจากถนนสาย 340 จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่สองข้างทางเดือดร้อน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง หลังจากมีการระบายน้ำออกจากแนวถนนสายดังกล่าว กลับทำให้ระดับน้ำสองข้างทางสูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไทรน้อย บางบัวทอง บางใหญ่ และบางกรวย ต้องลอยคอน้ำที่ท่วมสูงขึ้น และรอคอยการสูบน้ำออกจากพื้นที่เพี่อที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข เช่นเดิม ชาวบ้านก็ต้องรอความช่วยเหลือต่อไปอีกยาวนาน











    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2554 18:17 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146408
    Last edited by IAm; 11-16-2011 at 10:54 PM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, bookerian ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  5. #15
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    17 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================


    สถานการณ์น้ำโดยดาวเทียม Terra sensor MODIS ณ เวลา 10.50 น
    ของวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2554 โดย ดร. วีรชัย ตันพิพัฒน์
    ขอบคุณข้อมูลจาก http://situation.thaiflood.com/171154/1050/























    >> กรุงเทพฯ <<



    ชาวบางกะปิเตรียมพร้อม!! หลัง กทม.ประกาศเตือน

    จากกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศเตือนชุมชนริมคลองแสนแสบ 8 ชุมชนในเขตบางกะปิ ให้เฝ้าระวัง เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือที่มาถึงคลองแสนแสบ โดยจากการสำรวจภาพรวมของชุมชนต่างๆ พบว่ามีการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมเต็มที่ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในชุมชนลำสาลี และชุมชนลำสาลีพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมยกของขึ้นที่สูงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมมาหลายวัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความวิตกกังวลกับประกาศของทาง กทม. เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานเขตบางกะปิได้เข้ามาแจ้งเตือนชาวบ้านในชุมชนเป็นระยะ ซึ่งชาวบ้านก็มีความตื่นตัวออกมาเฝ้าดูระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง
    ส่วนระดับน้ำภายในคลองแสนแสบ พบว่าลดลงจาก 4 วันก่อนหน้านี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานเขตได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆ รวมถึงเตรียมศูนย์พักพิงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 11 ศูนย์

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 09:31 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...word=%a1%b7%c1.

    หลายพื้นที่ใน กทม.น้ำลด เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ

    สถานการณ์น้ำเช้าวันนี้ ที่ ถ.วิภาวดีรังสิต พหลโยธิน บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ได้ลดลงจนแห้ง แต่การจราจรยังสับสน เนื่องจากยังมีน้ำท่วมขังหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งห้างยูเนี่ยนมอลล์ และเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) ส่วนหน้าห้างเมเจอร์ รัชโยธิน เริ่มแห้ง แต่เลยไปบริเวณ ซ.เสนา น้ำยังท่วมสูงจนถึงสี่แยกเกษตร รถผ่านได้ลำบาก ขณะที่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น้ำยังท่วมสูง 40-50 เซนติเมตร
    ส่วน ถ.รัชดาฯ เลยไปถึงต่างระดับรัชวิภา ยังมีน้ำท่วมขัง
    สำหรับพื้นที่เขตบางกะปิ บริเวณ ถ.เกษตร-นวมินทร์ คันนายาว และคู้บอน ระดับน้ำเริ่มลดลงเล็กน้อย ส่วนในฝั่งตะวันตก พื้นที่บางขุนเทียน ระดับน้ำเริ่มลดลงเล็กน้อย แต่น้ำในคลองสี่บาท ยังสูงขึ้น ซึ่งวันนี้ทางสำนักงานเขตเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้ครบ 4 เครื่อง หลังติดตั้งไปแล้ว 1 เครื่องวานนี้ เพื่อสูบน้ำลงคลองราชมนตรี ทำให้น้ำในพื้นที่เริ่มลดลง

    >>คลิ๊กที่นี่เพื่อรับชมคลิปวีดีโอ สถานการณ์น้ำท่วม แยกรัชโยธิน<<

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 10:20 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...word=%a1%b7%c1

    กทม.สั่งอพยพแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน บางจุด

    กรุงเทพมหานคร ประกาศอพยพเพิ่มเติมในพื้นที่บางส่วนของแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เนื่องจากขณะนี้มวลน้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่เขตบางขุนเทียนเพิ่มมากขึ้น โดยระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทางกรุงเทพมหานครได้ประเมินสถานการณ์จากตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยรอบแล้ว กรณีดังกล่าวจะก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน บริเวณ ถ.บางขุนเทียน ตั้งแต่แยกพระราม 2 ถึงทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่มหาชัย รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอยต่างๆ ของ ถ.บางขุนเทียน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอพยพไปยังศูนย์พักพิงที่ทางกรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ หรือสถานที่ที่มีความปลอดภัย โดยให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา เป็นลำดับแรก

    >>คลิ๊กที่นี่เพื่อรับชมคลิปวีดีโอ กทม.ประกาศอพยพแขวงแสมตั้งแต่แยกพระราม2ถึงทางรถไฟฯ<<

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 11:45 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...word=%a1%b7%c1.

    กทม.ระบุน้ำฝั่งธนฯ ยังทะลักเข้ากรุงต่อเนื่อง

    กทม.รายงานสถานการณ์น้ำฝั่งธนบุรี น้ำจากนอกพื้นที่ยังคงทะลักเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง ขณะฝั่งตะวันออกลดลงเล็กน้อย

    วันนีั (17 พ.ย.) ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสรุปสถานการณ์น้ำประจำวัน ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,191 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ลดลงจากเมื่อวาน 93 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3.68 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ลดลงจากเมื่อวาน 4 ซม. น้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้เวลา 12.44 น. ระดับ 1.11 ม.รทก. และเวลา 20.15 น.ระดับ 0.87 ม.ทรก. สำหรับวันพรุ่งนี้เวลา 13.19 น. ระดับ 1.07 ม.รทก. เวลา 20.48 น. ระดับ 0.75 ม.รทก. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาดสูงสุด เมื่อวานนี้ เวลา 10.45 น. ระดับ 2.23 ม.รทก. ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ 0.57เมตร คาดการณ์วันนี้จากกรมอุทกศาสตร์ เวลา 12.44 น. ระดับ 2.20 ม.รทก.

    สำหรับสถานการณ์น้ำทุ่ง ระดับน้ำบริเวณดอนเมืองที่รั่วจากรังสิต 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำทรงตัว คลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลง 5 ซม. ส่วนฝั่งธนบุรีระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลง 1 ซม.

    สถานการณ์น้ำในคลองต่างๆ ที่ระดับน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ คลองน้ำแก้ว ตอนถนนรัชดาภิเษก, คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร, คลองบางซื่อ ตอนถนนพหลโยธิน, คลองลาดพร้าว ตอนวัดลาดพร้าว ซ.เสนานิคมและซอยลาดพร้าว 56 ส่วนฝั่งธนบุรี น้ำล้นตลิ่งในคลองมหาสวัสดิ์ ตอนพุทธมณฑลสาย 2, คลองบางพรม ตอนคลองชักพระ ตอนถ.กาญจนาภิเษกและตอนถ.พุทธมณฑลสาย 3, คลองบางเชือกหนัง ตอนถ.พุทธมณฑลสาย 2, คลองบางแวก ตอนถ.พุทธมณฑลสาย 1 ตอนคลองทวีวัฒนา, คลองพระยาราชมนตรี ตอนถนนพระราม 2, ส่วนคลองอื่นๆ ยังปกติ

    ภาพรวมสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี น้ำจากนอกพื้นที่ (อ.ศาลายา จ.นครปฐม) ยังคงทะลักเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีการแก้ไข ระดับน้ำพื้นที่ตอนเหนือของฝั่งธนบุรี ในเขตทวีวัฒนา-ตลิ่งชัน เริ่มลดลงเป็นลำดับ ด้านพื้นที่เขตดอนเมือง-จตุจักร ระดับน้ำลดลงแต่ยังคงล้นตลิ่ง ระดับน้ำลดลง 6-8 ซม. ด้านพื้นที่เขตสายไหม คลองลาดพร้าวด้านบนน้ำยังคงล้นตลิ่ง ด้านซอยเสนานิคม-วัดลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 56 ระดับน้ำในคลองล้นตลิ่งแต่ระดับน้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาลดลง 3-6 ซม. ด้านตะวันออกน้ำในคลองแสนแสบช่วงนอกเมือง (ตั้งแต่บางกะปิออกไป) ระดับน้ำลดลงเล็กน้อยช่วงในเมือง (ตั้งแต่บางกะปิเข้ามา) ระดับน้ำลดลง คลองประเวศบุรีรมย์ระดับน้ำลดลงเล็กน้อย และระดับน้ำคลองบางซื่อ ระดับน้ำตลอดลำคลองลดลงเป็นลำดับ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาระดับลดลง 5-10 ซม.



    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 11:53 น.
    http://manager.co.th/QOL/ViewNews.as...word=%a1%b7%c1.

    ชาวพระราม 2 ซอย 69-แสมดำ เร่งอพยพเข้าศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน

    ชาวบ้านพระราม 2 ซอย 69 รวมถึงคนในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เร่งขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งเด็กและคนชรา หลัง กทม.ประกาศเป็นพื้นที่อพยพ โดยศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดและยังมีสภาพไม่แออัด

    วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 69 ได้อพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงชาวบ้านในบริเวณที่ กทม.ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่อพยพ อาทิ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน บริเวณถนนบางขุนเทียน ตั้งแต่แยกถนนพระรามที่ 2 ถึงทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย รวมถึงซอยต่างๆ ของถนนบางขุนเทียน เนื่องจากมีมวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตบางขุนเทียนมากขึ้น และระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

    ทั้งนี้ กทม.ให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ ปลั๊กไฟฟ้า ขึ้นที่สูง และให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จะก่อให้เกิดภยันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อพยพไปยังศูนย์พักพิงที่ กทม.จัดเตรียมไว้หรือสถานที่ปลอดภัย โดยให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชราเป็นลำดับแรก โดยศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในพื้นที่ดังกล่าว คือ ศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ยังไม่แออัด และมีหน่วยแพทย์คอยดูแลสุขภาพร่างกายให้แก่ผู้ประสบภัย

    นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์จากกทม.อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือ และคำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำนักงานเขต และ ศปภ.กทม. โทร.1555 และโทร.0-2221-1212 หรือทางเว็บไซต์ www.bangkokgis.com/flood









    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 16:13 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...word=%a1%b7%c1.

    “คลองแสนแสบ” น้ำเอ่อล้นท่วมขังบางจุด-ปชช.บางกะปิเตรียมพร้อมหากวิกฤต

    สถานการณ์น้ำท่วมเขตบางกะปิ บางช่วงระดับน้ำลดลง รถเล็กสามารถสัญจรไปมาได้ ด้าน ปชช.ตื่นตัวเฝ้าระวัง ประกาศเตือนของ กทม. เพื่อเตรียมพร้อมอพยพ ขณที่ระดับน้ำที่คลองแสนแสบยังมีระดับสูงกว่าปกติ

    วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่ข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังบนถนนกรุงเทพกรีฑา พบว่า บริเวณต้นซอยน้ำเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว จาก 40 เซนติเมตร หรือ 30 เซนติเมตร โดยรถเล็กสามารถสัญจรผ่านไปมาได้

    บริเวณแยกสวนสน เขตบางกะปิ มีน้ำขังบนถนนที่ล้นมาจากคลองแสนแสบ
    ทำให้น้ำจากคลองแสนแสบ ขยายวงกว้างเข้าไปท่วมขังในบริเวณซอยตรงข้ามตลาดบางกะปิ

    ขณะที่ท่าเรือรามคำแหงในคลองแสนแสบน้ำ ด้วยระดับน้ำที่ขึ้นมาใกล้เสมอกับท่าเรือ และล้นเข้าไปในซอยของถนนรามคำแหงบางส่วน

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เขตบางกะปิกำลังเร่งวางแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันคันดินกั้นน้ำพังทลาย ไม่เช่นนั้นน้ำที่อยู่เหนือคันดินซึ่งสูงกว่าพื้นถนน 30 เซนติเมตรจะทะลักเข้าท่วมถนน โดยวางแนวกระสอบทรายจากบริเวณคลองบ้านม้ามาถึงคลองลำสาลีเป็นระยะทาง 1.7 กิโลเมตร

    ส่วนระดับน้ำภายในคลองแสนแสบ พบว่าลดลงจาก 4 วันก่อนหน้านี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานเขตได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆ รวมถึงเตรียมศูนย์พักพิงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 11 ศูนย์

    พร้อมกันนี้ กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศเตือนชุมชนริมคลองแสนแสบ 8 ชุมชนในเขตบางกะปิ ให้เฝ้าระวัง เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือที่มาถึงคลองแสนแสบ โดยจากการสำรวจภาพรวมของชุมชนต่างๆ พบว่ามีการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมเต็มที่ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในชุมชนลำสาลี และชุมชนลำสาลีพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมยกของขึ้นที่สูงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมมาหลายวัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความวิตกกังวลกับประกาศของทาง กทม. เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานเขตบางกะปิได้เข้ามาแจ้งเตือนชาวบ้านในชุมชนเป็นระยะ ซึ่งชาวบ้านก็มีความตื่นตัวออกมาเฝ้าดูระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง









    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 16:54 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...word=%a1%b7%c1.

    กรมชลฯ เร่งสูบน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ลงเจ้าพระยา

    นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันนี้ (17 พ.ย.) กรมชลประทานเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำจากด้านในของคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยใช้เครื่องสูบน้ำถาวร 9 เครื่อง เรือนาคอีก 4 เครื่อง
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่แล้วเสร็จสามารถสูบน้ำได้จำนวน 5 เครื่อง ทำให้สามารถสูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ประมาณ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
    สำหรับเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ที่เหลือเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการซ่อมทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อให้สามารถกลับมาสูบน้ำได้โดยเร็ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกับภาคประชาชน
    อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อควบคุมและดำเนินการสูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มที่

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 19:35 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146966

    มือมืดป่วน! ปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่ ชาวสายไหม ที่ซ่อมคันกั้นน้ำ บาดเจ็บ 6 คน

    กรณีที่ชาวบ้านลาดสวาย ลำลูกกาจำนวนประมาณ 200 คน ได้มารื้อแนวคันกั้นน้ำคลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม ทำให้น้ำเข้าท่วมเขตสายไหมอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นชาวบ้านสายไหมกว่า 100 คน ได้ช่วยกันซ่อมแนวกระสอบทรายที่ถูกพังลงกว่า 100 เมตร จนเสร็จสิ้น แต่ยังมีการรวมตัวกันอยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้มีเสียงดังขึ้นคล้ายเสียงระเบิด ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม เข้าไปตรวจสอบ พบว่า เป็นลักษณะของก้อนอิฐที่พันติดกับดินปืน และโยนเข้ามาบนสะพานข้ามคลองหกวา โดยคาดว่า เหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างสถานการณ์
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้กลุ่มชาวบ้านสายไหม และเจ้าหน้าที่ อปพร. ที่ยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 6 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษก้อนอิฐที่แตกกระจายถูกตามแขน และขา หลังจากเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวนหนึ่ง มาคอยดูแล และเฝ้าสังเกตการณ์ในบริเวณดังกล่าว

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 20:37 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146986

    ชาวบ้านปิดทางคู่ขนานหน้าโลตัส พระราม 2 เรียกร้องเร่งระบายน้ำเน่า

    เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. มีชาวบ้านจากชุมชนเคหะธนบุรี 1 ประมาณ 100 คน ประท้วงปิดถนนช่องทางคู่ขนาน ถ.พระราม 2 ขาออก ปากซอย 69 บริเวณหน้าโลตัสพระราม 2 เนื่องจากต้องการให้สูบน้ำออกจากหมู่บ้านเคหะธนบุรี เพราะน้ำเน่าท่วมขังนาน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 20:51 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146989

    ชาวบ้านเหนือแนวบิ๊กแบ็ก โอดแช่น้ำเน่าเหม็น ฮือรื้อแนวกั้น



    บรรยากาศชาวบ้านลำลูกกา คลองสอง ที่อาศัยอยู่บริเวณสะพานข้ามคลองหกวา นับพันคน ชุมนุมประท้วงพร้อมกับรื้อแนวกระสอบทรายริมคลองหกวา เป็นระยะทางเกือบ 100 เมตร จนน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตสายไหมมุ่งหน้าไปทางตลาดวงศกร และโรงพยาบาลสายไหม ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ใต้แนวกระสอบทรายต้องเร่งขนของหนีน้ำกันอย่างโกลาหลอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้พื้นที่นี้น้ำแห้งไปแล้ว



    ทั้งนี้ สาเหตุที่ชาวบ้านรื้อกระสอบทราย เป็นผลสืบเนื่องมาจาก น้ำที่ขังอยู่ด้านบนเริ่มมีกลิ่นเน่าเสีย กระทบความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ในการนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้เรียกร้อง 3 ข้อ (1.)เปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ในระดับ 1 เมตร (2.)ลดระดับคันกั้นน้ำเป็นลักษณะฝายน้ำล้นตลอดแนว ระยะทางทั้งสิ้น 60 กิโลเมตร และ (3.)จ่ายค่าเสียหาย เยียวยาเป็นกรณีพิเศษ













    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 23:26 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...=9540000147043

    >> สมุทรสาคร <<


    “คลองประดิษฐ์สมุทรสาคร” ใกล้สมบูรณ์พร้อมดันน้ำลงทะเล

    การดำเนินงานการก่อสร้างคลองประดิษฐ์เสร็จไปแล้วกว่า 70% เหลือเพียงการติดตั้งท่อสูบน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมบริเวณริมถนนพระราม 2 ประตูระบายน้ำคลองบางน้ำจืด

    วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยสิทธิ์ วรคำแหง อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงความร่วมมือของภาครัฐ และ บริษัท สิงห์ชัย อุตสาหกรรม จำกัด สร้างฟลัดเวย์ หรือคลองประดิษฐ์ บริเวณประตูระบายน้ำบางน้ำจืด ว่า เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตติดกันนั้น ทำให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงทะเลผ่าน จ.สมุทรสาคร โดยเฉพาะคลองบางน้ำจืด ซึ่งรับมาจากคลองภาษีเจริญเป็นหลัก มีน้ำเอ่อล้นมาก ขณะนี้การสร้างฟลัดเวย์ได้ปูพื้นแผ่นพลาสติกแล้วเสร็จประมาณ 90% และอยู่ระหว่างเร่งติดตั้งท่อพญานาค เพื่อสูบน้ำจากคลองบางน้ำจืดลงคลองมหาชัย ผ่านบริเวณประตูระบายน้ำบางน้ำจืด ล่าสุด จากการประสานกับ น.ส.ธนัชพร สิงห์ชัย ฝ่ายประสานงานโครงการคลองประดิษฐ์ คาดว่า จะเริ่มผลักดันน้ำได้ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำถึง 900,000 ลบ.ม









    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 19:38 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...c3%ca%d2%a4%c3

    จนท.เจาะถนนพุทธสาคร ระบายน้ำให้สามารถสัญจรได้ปกติ

    วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำการขุดเจาะทำบายพาส ระบายน้ำริมถนนพุทธสาคร เป็นถนนเชื่อมระหว่างพุทธมณฑล กับ จ.สมุทรสาคร ภายหลังมีน้ำท่วมสูงบริเวณผิวการจราจร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทั้งนี้ ประชาชนในเขตพื้นที่นั้น ยังเดินทางลำบากอีกด้วย











    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 20:01 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...c3%ca%d2%a4%c3


    >> นครปฐม <<


    พุทธมณฑลสาย 5 น้ำยังทรงตัว - สวนกล้วยไม้เสียหายเกือบ 100%


    นครปฐม - สถานการณ์น้ำท่วมที่พุทธมณฑลสาย 5 ระดับน้ำยังทรงตัว เดินทางลำบาก ความเป็นอยู่ลำบาก การขับถ่ายไม่มีห้องสุขา และน้ำเริ่มเน่าเหม็น สวนกล้วยไม้ที่ปลูกไว้ส่งออกต่างประเทศเสียหายเกือบ 100%

    วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตามถนนซอยแยกจากถนนพุทธมณฑลสาย 5 และถนนเพชรเกษม ในเขตตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ระดับน้ำที่ท่วมขังยังมีอยู่ปริมาณมาก เช่น ที่ตามหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ยังใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจร ส่วนภายในสถาบันพัฒนาครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา และวิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ซึ่งอยู่ในเขตตำบลไร่ขิง ยังมีน้ำท่วมขัง ลดลงเพียงเล็กน้อย และชาวสวนบางรายต้องอาศัยอยู่ตามสะพานข้ามคลองหรือต่อพื้นที่พักอาศัยให้พ้นน้ำ อยู่ตามถนน

    จากการสอบถามชาวบ้าน แจ้งว่า ความเป็นอยู่ลำบาก การขับถ่ายไม่มีห้องสุขา และน้ำเริ่มเน่าเหม็น ซึ่งทางหน่วยงานที่รับผิดชอบในท้องที่ยังรีบเร่งใช้เครื่องสูบน้ำระบายน้ำแต่ทำได้ยากมากเพราะปริมาณน้ำมีมาก

    ส่วนตามสวนกล้วยไม้ที่ปลูกไว้ส่งออกต่างประเทศเสียหายเกือบ 100% ของพื้นที่ และนาข้าว ตายหมด สวนส้มโอ ฝรั่ง มะพร้าวน้ำหอม กำลังจะยืนต้นตายบ้างแล้ว หลังจากน้ำท่วมในพื้นที่มาเป็นเวลากว่า 20 วัน คาดว่า หากดน้ำไม่ลดจะตายทั้งหมดเช่นกัน





    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 12:26 น.
    http://www.manager.co.th/qol/viewnew...=9540000138124

    >> นนทบุรี <<


    บางบัวทองเดือดร้อนหนัก เดินทางลำบาก-ค่าเรือแพงหลักพัน

    การเดินทางเข้าออกของชาวบ้านในพื้นที่ถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ส่วนใหญ่ยังคงต้องอาศัยรถบรรทุกทหารและรถโฟร์วิลยกสูง หลังจากถูกน้ำท่วมมานานกว่า 1 เดือน ชาวบ้านบางคนต้องต่อรถหลายคันกว่าจะเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเพื่อไปทำงานได้ ทำให้แต่ละวันเสียเวลาไปกับการเดินทาง ขณะเดียวกันก็มีค่าใช้จ่ายเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเรือรับจ้างที่วิ่งให้บริการคิดค่าบริการตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึงหลักพัน แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงไปบ้างจากที่ก่อนหน้านี้น้ำท่วมสูง แต่ว่าในหลายจุด ทั้งถนนและหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ โดยเฉพาะหมู่บ้านสมบัติบุรีและบัวทองธานียังคงถูกน้ำท่วมสูง
    ขณะที่การกู้ถนนกาญจนาภิเษกจนถึงทางหลวงหมายเลข 340 ทั้ง 4 จุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งงระบายน้ำออก เพื่อใช้เส้นทางนี้ลงสู่พื้นที่ภาคใต้แทนถนนพระราม 2 หากถูกน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเปิดให้รถทุกชนิดวิ่งได้ตามปกติเร็วๆ นี้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 12:54 น.
    http://manager.co.th/Home/ViewNews.a...b7%ba%d8%c3%d5
    Last edited by IAm; 11-18-2011 at 12:37 PM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, Siambrandname Webmaster, bookerian ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  6. #16
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    18 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================



    >> กรุงเทพฯ <<



    ชาวบ้านพระราม 2 ยอมสลายการชุมนุมแล้ว

    ชาวบ้านพระราม 2 ยอมสลายการชุมนุมแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)



    ความคืบหน้า กรณีชาวบ้านชุมชนเคหะธนบุรี 1 กว่า 100 คน รวมตัวกัน ปิดถนนพระราม 2 ฝั่งขาออก เพื่อเรียกร้องให้สำนักงานเขตบางขุนเทียน ระบายน้ำออกจากซอยพระรามสอง 69 หลังน้ำท่วมสูงมาเป็นระยะเวลานาน และน้ำเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว โดยชาวบ้านต้องการให้มีการสูบน้ำออกจากซอยพระรามสอง 69 ลงสู่คลองลาดลำภูและคลองรางแก้ว รวมทั้งอยากให้มีการนกระสอบทรายที่ปิดกั้นพื้นที่ของการเคหะ ในอีกฝั่งหนึ่งออกไป เพราะเป็นการปิดทางน้ำไหลผ่าน

    ล่าสุด ชาวบ้าน และตัวแทนของกรุงเทพมหานคร สามารถเจรจากันได้แล้ว โดยได้มีการนัดหมาย เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.) ทำให้ชาวบ้าน สลายการชุมนุม และเดินทางกลับบ้านแล้ว

    สำหรับระดับน้ำในพื้นที่ซอยพระรามสอง 69 นั้น ล่าสุด บริเวณปากซอยอยู่ที่ประมาณ 15-20 เซนติเมตร แต่เมื่อเข้าไปในซอยแล้ว ระดับน้ำสูงสุดยังคงอยู่ที่ ประมาณ 1 เมตร

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://thaiflood.kapook.com/view33493.html 18 พฤศจิกายน 2554

    แยก คปอ.ระดับน้ำ 2 ฝั่งแนวบิ๊กแบ็กเกือบเท่ากันแล้ว



    สถานการณ์ล่าสุดที่บริเวณแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก บน ถ.พหลโยธิน ช่วงแยกกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) หลังจากชาวบ้านในพื้นที่เขตสายไหม และ ต.คูคต ซึ่งอยู่หลังแนวคันบิ๊กแบ็กกว่า 200 คน ได้มาชุมนุมเรียกร้องให้มีการรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก อยู่ในลักษณะฝายน้ำล้นระยะทาง 5 เมตร รวมถึงข้อเรียกร้องอื่นๆ โดยจากสังเกตในเช้าวันนี้พบว่าน้ำที่ไหลจากแนวคันบิ๊กแบ็กที่เปิดไว้ 5 เมตร เข้ามาท่วม ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสะพานใหม่ ค่อนข้างแรง โดยระดับน้ำด้านบนกับด้านล่างนั้นเกือบเสมอกันแล้ว
    ทั้งนี้ จุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทหารได้นำเรือจำนวนหลายสิบลำ รวมถึงจุดรถมาคอยรับ-ส่งประชาชน เพื่อส่งต่อไปยังจุดอื่นๆ อาทิ สะพานใหม่ สายไหม ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปยัง ถ.วิภาวดีรังสิต และชุมชนที่อยู่เหนือเขื่อน ยังต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะ โดยมีทั้งเรือของกองทัพ และเรือรับจ้างที่คิดค่าบริการ 100 บาทต่อครั้ง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 11:38 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147192

    กทม.เตรียมประเมินรื้อคันคลองหกวาสายล่าง

    วันนี้ กรุงเทพมหานครจะมีการประเมินผล หลังจากการรื้อแนวกระสอบทรายคลองหกวาสายล่าง และยอมเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ 1 เมตร ตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านลำลูกกาที่มีการชุมนุมกันเมื่อวานนี้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 11:48 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    น้ำทะลักสายไหมต่อเนื่อง มุ่งหน้าตลาดวงศกร-ร.พ.สายไหม

    ตลอดช่วง 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากที่มีกลุ่มชาวบ้านเข้าไปรื้อแนวกระสอบทรายคลองหกวาสายล่างเป็นระยะทางเกือบ 100 เมตร จนถึงขณะนี้น้ำก็ยังไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตสายไหมมุ่งหน้าไปทางตลาดวงศกร และโรงพยาบาลสายไหม
    ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผู้กำกับการ สน.สายไหม ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ได้รับรายงานยังไม่เกิดความเสียหายมากนัก แต่ระดับน้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่สายไหมอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทาง ศปภ.ทราบเรื่องแล้ว และอยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยจะเน้นไม่ให้เกิดความกระทบกระทั่งกัน และเน้นการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 16:29 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000146856

    เพชรเกษมน้ำเน่าบางช่วง กองทัพยุงเข้าจู่โจมชาวบ้าน

    ปิด ถ.เพชรเกษมขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพุทธมณฑลสาย 4-คลองบางไผ่ หลังน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 ซม.ส่วนบริเวณแยก 5 เพชรเกษมตัดบรมราชชนนี ตัดกระทุ่มแบน ยังท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร พบน้ำเริ่มเน่าเสีย และมีกองทัพยุงเข้าก่อกวนชาวบ้าน

    วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนเพชรเกษม ว่า ระดับน้ำสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ทำให้ตำรวจต้องปิดการจราจรถนนเพชรเกษมทั้งขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงคลองบางไผ่ ส่วนถนนเพชรเกษม ช่วงนครชัยศรี ถึงแยกเทียน อ.สามพราน น้ำยังท่วมฝั่งขาเข้า กทม.ระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร รถยนต์เล็กยังสามารถวิ่งได้ แต่บริเวณที่น้ำท่วมหนักอยู่ คือ บริเวณตั้งแต่ห้างบิ๊กซี อ้อมใหญ่ ไปจนถึงสี่แยกหลัก 5 เพชรเกษมตัดบรมราชชนนี ตัดกระทุ่มแบน น้ำยังท่วมสูงระดับ 100-150 เซนติเมตร รถไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้ นอกจากรถบรรทุกสูงและเรือเท่านั้น

    ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณแยกสาย 5 เพชรเกษมตัดกระทุ่มแบน และชาวบ้านในซอยเพชรเกษม ตั้งแต่เพชรเกษม 90 จนถึงเพชรเกษม 106 ต่างร้องเข้ามายัง ศภจ.ภาค 7 ส่วนหน้า ที่ตั้งอยู่หน้าห้างบิ๊กซี อ้อมใหญ่ ว่า ขณะนี้น้ำเริ่มเน่าเสีย และมียุงจำนวนมากเข้าก่อกวนชาวบ้าน แต่เมื่อร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ได้รับความสนใจ นอกจากนี้ น้ำภายในซอยต่างๆ สูงกว่า 1 เมตร ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำจะลดลง ซึ่งยังขาดน้ำดื่มและอาหาร ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำสิ่งของส่งให้ด้วย และให้แจ้ง อบต.ในพื้นที่ให้ช่วยด้วย ทาง ศภจ.ภาค 7 ส่วนหน้า จึงประสานไปยัง อบต.หลายแห่ง และขอบริจาคยากันยุงเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ เพื่อเป็นการบรรเทาชั่วคราว

















    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 17:19 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%b9%e9%d3

    ชาวมีนบุรีโล่งน้ำไม่ท่วมนิคมฯ บางชัน แต่เฝ้าระวังต่อหลัง กทม.เปิดประตูระบายน้ำ

    ชาวบ้านมีนบุรีโล่ง น้ำในคลองแสนแสบลดระดับลง มั่นใจนิคมฯบางชัน ไม่ท่วม แม้ด้านหน้าจะมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากมีมาตรการป้องกันดี แต่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มจากการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ หลัง กทม.เจรจาลงตัวกับชาวบ้านเขตสายไหม

    วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำภายในคลองแสนแสบ ว่า บริเวณด้านหลังวัดบำเพ็ญเหนือ ช่วงชุมชนแสนแสบตอนบน แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี ซึ่งติดด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ระดับน้ำสูงกว่าปกติ ประมาณ 30-40 ซม.สอบถามจากประชาชนในพื้นที่ทราบว่า ระดับน้ำลดลงจากหลายวันก่อน ประมาณ 10 ซม.โดยปกติแล้ว ระดับน้ำจะลดลงตลอดทุกๆ วัน วันละ 1-2 ซม.ทั้งนี้ ประชาชนยังเชื่อว่า จากระดับน้ำที่ลดลงทุกวันนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของสถานการณ์น้ำในพื้นที่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองทัพบกเฝ้าดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องด้วย

    ส่วนสถานการณ์น้ำบริเวณด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชัน บางจุดมีระดับน้ำท่วมขังบนถนน โดยเฉพาะตั้งแต่แยกบางชันมุ่งหน้ามีนบุรี ระดับน้ำสูงประมาณ 10-40 เซนติเมตร ส่วนด้านหน้าบริษัทสหยูเนียน ปริมาณน้ำเอ่อล้นอยู่บ้างเล็กน้อย เนื่องจากมีการทำแนวกระสอบทราย และคันบิ๊กแบ็กกั้น รวมถึงการใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ บริเวณแยกบางชันฝั่งถนนเสรีไทยทั้งสองฝั่ง ได้มีการเสริมคันถนนให้สูงขึ้น จึงทำให้ระดับน้ำไม่สามารถล้นเข้ามาท่วมบนถนนด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชันได้มาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ อาจจะส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมบางชันได้ เนื่องจากทาง กทม.ได้เจรจากับตัวแทนชาวบ้าน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ข้อสรุปว่า ชาวบ้านจะไม่เข้ารื้อแนวกระสอบทรายที่คลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม จากที่กทม.และศปภ.ยืนยันจะเปิด 3 ประตูระบายน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวปทุมธานีที่ระดับน้ำท่วมสูง โดยจะเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์สูง 1 เมตรตลอดไป เปิดประตูระบายน้ำคลองสอง สูง 1.20 เมตร เปิดประตูคลองลำหม้อแตกเพิ่มอีก 50 ซม.และ กทม.จะเร่งระบายน้ำให้ระดับน้ำลดลงวันละ 3-5 ซ.ม. ขณะที่การเยียวยา ได้ครัวเรือนละ 5,000 บาทตามมติ ครม.ซึ่งชุดแรกจะได้รับเงินในสิ้นเดือนนี้ และบ้านที่เสียหายบางส่วนได้ 20,000 บาท ส่วนบ้านที่เสียหายทั้งหลังได้ 30,000 บาท

    นอกจากเขตมีนบุรีแล้ว การเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบกับพื้นที่ในเขตสายไหม คลองสามวา และบึงกุ่ม ด้วย แต่ กทม.เชื่อว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ จึงทำให้ทุกฝ่ายต่างเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา




















    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 17:24 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    >> ปทุมธานี <<


    ตลาดรังสิตน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต่อนั่งร้านเชื่อมโทลล์เวย์

    ตลาดรังสิตน้ำยังคงท่วมสูง บางจุดลึกถึง 1.50 เมตร รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้ ต้องอาศัยเรือในการสัญจร ขณะที่ชาวบ้านย่านเซียร์รังสิตทำการต่อนั่งร้านเหล็กเชื่อมโทลล์เวย์กับสะพานลอยข้ามถนน เพื่อความสะดวกในการต่อรถ ด้านฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเปิดให้บริการแล้วหลังปิดนานกว่า 1 เดือน

    วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณตลาดรังสิตว่า ระดับน้ำยังคงท่วมสูง โดยบางจุดมีความลึกถึง 1.50 เมตรแล้ว ทำให้ประชาชนต้องสัญจรโดยทางเรือ เนื่องจากรถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้

    ขณะที่บนทางด่วนโทลล์เวย์หน้าเซียร์รังสิต ชาวบ้านได้ต่อนั่งร้านเหล็กจากทางด่วนโทลล์เวย์ลงมาเชื่อมต่อกับสะพานลอยข้านถนน เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปต่อรถโดยสาร

    ส่วนที่ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ได้เปิดให้บริการในวันนี้เป็นวันแรก หลังจากปิดบริการเป็นระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยศูนย์ได้ทำการปรับปรุงเส้นทางพิเศษ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 ตั้งแต่ช่องทางด่วน ถนนพหลโยธินขาเข้า บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า ให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางลัด ไปเส้นรังสิต-นครนายก ส่วนเส้นทางที่ 2 ถนนรังสิต-นครนายก เชื่อมต่อทางลงโทลล์เวย์ รังสิต-นครนายก และกรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นเส้นทางไปรังสิต-นครนายก และกรุงเทพฯ ได้สะดวกยิ่งขึ้น

























    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 15:12 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%b9%e9%d3

    มวลน้ำอยุธยายังทะลักเข้าปทุมฯ สถานการณ์ไม่คลี่คลาย

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ประตูระบายน้ำคลองหนึ่ง ยังคงเปิดอย่างสุดบาน ทำให้มวลน้ำจาก อ.วังน้อย จ.อยุธยา ยังคงไหลเข้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) มีรายงานว่า หลังจากตรวจสอบประตูระบายน้ำคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา กับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่า ประตูน้ำมีการเปิดบานประตูไว้จนสุด ทำให้น้ำจาก อ.วังน้อย ไหลเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ ผ่านประตูน้ำคลองหนึ่ง สู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ส่งท้าย ทำให้พื้นที่ต้นน้ำมีน้ำลดลง แต่ท้ายน้ำอย่าง ตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีมวลน้ำมากขึ้น

    นอกจากนี้ มวลน้ำที่มาจากคลองระพีพัฒน์ได้ล้นแนวประตูระบายน้ำคลองหนึ่ง ไหลท่วมถนนสุขาภิบาล อ.วังน้อย และ อ.คลองหลวง จำนวนมาก ทำให้นายยงยุทธ วิรางกูล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ต้องออกเสียงตามสายห้ามประชาชนรื้อกระสอบทรายบริเวณเลียบคลองระพีพัฒน์ เพราะระดับน้ำยังคงสูงกว่าคลองส่งน้ำที่หนึ่งและสองประมาณ 80 เซนติเมตร ซึ่งถือว่ายังไม่ปกติ แม้ว่าน้ำท่วมในพื้นที่จะลดลงก็ตาม

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://thaiflood.kapook.com/view33499.html 18 พฤศจิกายน 2554


    >> นนทบุรี <<


    ชาวเมืองนนท์สุดทนถูกน้ำท่วมขังกว่าเดือน รวมพลจี้ผู้ว่าฯ เร่งแก้ปัญหา

    ชาวเมืองนนท์สุดทนต้องทนถูกน้ำท่วมขังเดือนกว่าไม่มีท่าทีว่าจะลด แถมเจ้าหน้าที่รัฐไม่สนใจแก้ปัญหา นัดรวมพลผ่านเฟชบุ๊ก รวมตัวหน้าศาลากลาง จ.นนทบุรี เรียกร้องผู้ว่าฯ เร่งแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนเผชิญชะตากรรมไปวันๆ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (18 พ.ย.) ชาว จ.นนทบุรี ที่ถูกน้ำท่วมขังสูงนานเดือนกว่า ทั้ง อ.บางบัวทอง อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี อ.ปากเกร็ดบางส่วน โดยไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ขณะที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐก็ไม่เคยสนใจที่จะแก้ไข ได้นัดหมายผ่านทางเฟซบุ๊ก “ชุมชนคนรักเมืองนนท์” รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังใหม่) ยื่นหนังสือถึงนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม หลังจากผ่านไป 1 เดือนน้ำลดลงเล็กน้อย

    หลังจากก่อนหน้านี้ ประชาชนหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมนานนับเดือนไม่ได้รับความสนใจเข้าไปดำเนินการของรัฐบาล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) หรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐจนทนไม่ไหวต้องรวมตัวกันเองออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รื้อคันกั้นน้ำเพื่อลดระดับน้ำที่สูงในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนย่านดอนเมือง ชุมชนย่านรังสิต ชุมชนลำลูกกา และล่าสุดชุมชนเคหะธนบุรี ที่ปิดถนนหน้าโลตัสพระราม 2 เมื่อคืนนี้ เรียกร้องให้เขตบางขุนแทียนเร่งระบายน้ำออกจากชุมชน หลังน้ำท่วมสูงแต่ไม่มีทางระบายออกนั้น ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์ พันธุ์สวาสดิ์ ผอ.เขตบางขุนเทียน ได้นัดหมายให้แกนนำชุมชน 1-3 มาประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันในวันนี้ เวลาประมาณ 10.30 น. ที่สำนักงานเขตบางขุนเทียน เบื้องต้นชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมสูงขณะนี้คือ เคหะธนบุรี 1 และ 2 ส่วนเคหะธนบุรี 3 ยังไม่ถูกน้ำท่วม หากมีการระบายน้ำลงคลอง 2 คลอง คือ คลองลำภู และคลองบางแก้ว จะทำให้น้ำอาจท่วมเคหะธนบุรี 3 ที่อยู่อีกฝั่งของถนนพระราม 2 ได้ ดังนั้น ต้องพูดคุยหาทางออกกันอย่างเดียว โดยทาง บก.น.9 จะส่ง ผกก.สน.ท่าข้าม เจ้าของพื้นที่เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อหาทางป้องกันเหตุวุ่นวาย หากไม่สามารถตกลงกันได้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 11:23 น.
    http://www.manager.co.th/Politics/Vi...=9540000147184

    กู้ ถ.340 กระบะวิ่งได้แล้ว! ทางหลวง จี้ ตร.เคลียร์รถบนสะพานแยกบางใหญ่


    ถนนทางหลวงสาย 340

    กู้ ถ.340 ใกล้ความจริง! รถกระบะวิ่งปร๋อทั้งสาย ตั้งแต่แยกนพวงศ์ ลาดหลุมแก้ว ยันเข้า ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี แม้ยังมีน้ำขังเล็กน้อยบางจุด ส่วนกู้ลาดปลาดุก จนท.เร่งสูบน้ำใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่แยกบางใหญ่ ด้าน ผอ.แขวงการทางนนท์ รับรถจอดเพียบบนสะพานข้ามแยกบางใหญ่อุปสรรคทำงาน จี้ตำรวจจัดการ ยันเปิดคันดินให้น้ำผ่านตามคำเรียกร้องแล้ว

    วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจการกู้ถนนทางหลวงสาย 340 และ ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ขาออก พบว่า ถนนทางหลวงสาย 340 ตั้งแต่ช่วงแยกนพวงศ์ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มาจนถึงสะพานคลองเจ๊ก เจ้าหน้าที่ได้ทำคันดินกั้นไว้เสร็จสิ้นแล้ว รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แม้จะมีน้ำท่วมขังและดินโคลนเล็กน้อย ขณะที่ตั้งแต่สะพานคลองเจ็ก ฝั่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ไปจนถึงแยกบางบัวทอง ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปสู่ ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี หรือ ถ.กาญจนาภิเษก ก็ได้มีคันดินกั้นน้ำไว้รอบหมดแล้วเช่นกัน ทำให้รถยนต์ รวมถึงรถจักรยานยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แม้บางจุดจะยังมีน้ำขังบ้างแต่ก็อยู่ที่ระดับ 5 - 20 ซม.

    ส่วน ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ในช่วงคลองลำรี หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี - คลองแยกไทรน้อย นั้น ล่าสุดรถยนต์ปกติสามารถวิ่งผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เล็กน้อย ราว 5 - 25 ซม. โดยเจ้าหน้าที่แขวงการทางยังคงสูบน้ำออกอยู่เรื่อยๆ แต่ใช่เครื่องสูบน้ำเหลือเพียงแค่ 1 เครื่องเท่านั้น ด้านช่วงคลองบ้านกล้วย ปากซอยวัดลาดปลาดุก เจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำขนาดกลางอีก 4 เครื่อง สูบน้ำออกไปทางฝั่งหมู่บ้านจันทิมา โดยระดับน้ำบนถนนได้ลดลงไปมากจากเดิมที่น้ำสูงเกือบ 1 เมตร เหลืออยู่ที่ราว 5 - 40 ซม. โดยเจ้าหน้าที่ยังคงคอยนำกระสอบทรายมาอุดรอยรั่วซึมบนถนนและตามท่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงแยกบางใหญ่ - ทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ ด้านฝั่ง ถ.กาญจนาภิเษก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำท่อคอนกรีตเสริมเหล็กมาวางเป็นแนวกั้นสะพานข้ามแยกบางใหญ่ทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมนำถุงกระสอบทรายอัดประกบไม่ให้น้ำเข้า รวมทั้งใช้ถุงทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ๊กมาเป็นแนวกั้นอีกด้วย โดยในช่วงขาออกได้นำหินคลุกมาเทเพื่อทำทางขึ้นสู่ทางหลักของถนนแทนทางคู่ขนานที่จะถูกปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว ซึ่งตรงจุดนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 30 - 70 ซม. และยังไม่มีการสูบน้ำออก ส่วนทางฝั่งทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ ด้านขาออกได้มีการนำกระสอบทรายลงอุดรอยรั่วจากถังยางมะตอยที่วางเป็นแนวกั้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามพบว่าบนสะพานดังกล่าวได้มีรถยนต์มาจอดอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งบริเวณทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ และจุดกลับรถหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร 10 ทำให้การจราจรติดขัดพอสมควร ขณะที่ ถนนทั้งสายน้ำเริ่มลดลงแล้วจนแห้งสนิทในบางจุด

    ด้านนายชนินทร ชูขวัญ ผู้อำนวยการแขวงการทาง จ.นนทบุรี กรมทางหลวง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยอมรับว่ารถยนต์ที่จอดอยู่บนสะพานเป็นอุปสรรคในการทำงานพอสมควร ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาเคลียร์พื้นที่ได้ก็จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้เร็วขึ้น ขณะที่การกู้ถนนระยะทางกว่า 12 กม.ก็ไม่ได้เป็นการทำให้น้ำแห้งหมดทุกจุด แต่เป็นการกั้นให้มีระดับน้ำอยู่แต่แตกต่างจากภายนอกบ้างเพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้และไม่ให้น้ำที่สูบออกเข้าไปสู่พื้นที่ของชาวบ้านมากเกินไป โดยการกู้ในจุดปากซอยวัดลาดปลาดุกก็เริ่มที่จะเสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านบางหนึ่งไปร้องเรียนผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี เพื่อขอให้รื้อคันดินกั้นน้ำบน ถ.340 นั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดช่องคันดินบางจุดมีระยะทางยาวกว่า 50 เมตร เพื่อให้น้ำไหลข้ามผ่านถนนไปได้แล้ว แต่้ก็ไม่ได้ทำให้กระทบต่อการสัญจรแต่อย่างใด

    อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อ.บางบัวทอง ที่เป็นเส้นทางผ่านของการกู้ถนนทั้งสองสายหลายคนพบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการกู้ถนนเนื่องจากจะทำการสัญจรในพื้นที่ได้ดีขึ้น ขณะที่ชาวบ้านหมู่บ้านบัวทองธานีรายหนึ่งยอมรับว่า การสูบน้ำกู้ถนนไม่ได้ทำให้ระดับน้ำในบ้านของตนเพิ่มขึ้น






    จุดที่ทางหลวงเปิดคันกั้นน้ำให้น้ำผ่าน










    ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงหน้าหมู่บ้านบัวทองธานี


    ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ช่วงหน้าปากซอยวัดลาดปลาดุก








    ทางเชื่อมสะพานข้ามแยกบางใหญ่ - ถ.รัตนาธิเบศร์ ขาออก




    ทางเชื่อมสะพานข้ามแยกบางใหญ่ - ถ.รัตนาธิเบศร์ ขาเข้า




    สะพานข้ามแยกบางใหญ่


    ถ.รัตนาธิเบศร์ ขาเข้า


    ถ.รัตนาธิเบศร์ ทางเชื่อมสะพานข้ามแยกบางใหญ่ ขาออก

    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 20:03 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%b9%e9%d3


    >> สมุทรสาคร <<


    เขตอ้อมน้อยยังท่วมเต็มพื้นที่ จุดลึกสุดโดยเฉลี่ย 80 ซม.-1 เมตร

    ประมวลภาพ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลอ้อมน้อย น้ำยังท่วมเต็มพื้นที่ จุดลึกสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ซม. - 1 เมตร ทั้งนี้เนื่องจากจากพื้นที่แห่งนี้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และเริ่มเน่าเสีย ทางเจ้าหน้าที่จากเทศบาล ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการฉีดสารจุลินทรีย์ EM ลงในน้ำเพื่อฟื้นฟูสภาพน้ำแล้ว ด้านผู้ว่าฯ วางแผนเตรียมกู้ให้กลับสู่สภาพเดิม ด้วยการกำหนดพื้นที่เป็นจุดๆ เนื่องจากเทศบาลนครอ้อมน้อยมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำทีเดียวได้ทั้งพื้นที่ จะต้องค่อยๆ สูบเป็นช่วงๆ ไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป































    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 05:47 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147095

    >> นครปฐม <<


    ปศุสัตว์นครปฐมเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ร่วมเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก

    นครปฐม - ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐมเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ให้หมั่นดูแลสุขภาพสัตว์ปีกของตน เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกอย่าปล่อยให้นอนตากลมหนาว หรือโดนฝน รวมทั้งป้องกันจากสัตว์พาหะนำโรคไข้หวัดนก

    นายสำเริง ครุฑดำ ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดนก จึงขอเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ให้หมั่นตรวจสอบดูแลสุขภาพสัตว์ปีกอยู่เป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที พร้อมจัดเตรียมป้องกันคอกสัตว์จากลม ฝน และสัตว์พาหะนำโรคไข้หวัดน

    โดยเฉพาะนก หนู ต่างๆ สืบเนื่องจากในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว หลายแห่งมีอากาศหนาวเย็น ประกอบกับบางพื้นที่ยังมีฝนตกชุก ทำให้สัตว์ปีกเสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้หวัดนก และโรคระบาดสัตว์ปีกอื่นๆ ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกควรจัดให้มีเล้า หรือโรงเรือนสำหรับสัตว์ปีกนอนในตอนกลางคืน สามารถป้องกันแดด ลม ฝน และพาหะนำโรคระบาดสัตว์ได้ อีกทั้งยังง่ายต่อการดูแลสุขภาพอีกด้วย

    นอกจากนี้ ควรมีการเสริมวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งถ่ายพยาธิภายนอกและภายในตามโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สัตว์ปีกมีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์ปีกป่วย หรือตายผิดปกติ ไม่ทราบสาเหตุ อย่าได้นำสัตว์ปีกที่ป่วยตายไปประกอบอาหาร หรือโยนทิ้งน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น

    หากพบสัตว์ปีกป่วย หรือตายผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ปศุสัตว์ตำบล อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารงานส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ทันที หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม โทร.0-3425-7705, 0-3425-0981 และโทร.แจ้งสายด่วนของกรมปศุสัตว์ เบอร์โทรศัพท์ 086-6609906 เพื่อความรวดเร็วในการเข้าควบคุมโรคมิให้แพร่ระบาดได้ทันท่วงที



    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2554 15:14 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...word=%b9%e9%d3


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, Siambrandname Webmaster ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  7. #17
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    19 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================



    >> กรุงเทพฯ <<



    ทีมกรุ๊ป อัพเดตแผนที่ ชี้ 13 เขตรอดท่วมแน่นอน



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภากประกอบจาก TEAM Group

    ทีมกรุ๊ป ชี้ส่วนใต้คลองแสนแสบได้รับผลกระทบ จากการเปิดประตูน้ำพระยาสุเรนทร์ ระดับเพิ่มขึ้น 10 ซม. พร้อมฟันธง 13 เขต กทม.ชั้นใน รอดท่วมแน่นอน

    วันนี้ (19 พฤศจิกายน) นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการบริหารทีมกรุ๊ป ในฐานะวิศวกรแหล่งน้ำได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำว่า ขณะนี้มีการเปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เพิ่มขึ้นจาก 40 เซนติเมตร เป็น 1 เมตรนั้น จะส่งผลให้คลองแสนแสบ มีระดับน้ำสูงขึ้นไม่เกิน 10 เซนติเมตร อย่างแน่นอน ส่วนใต้คลองแสนแสบ เขตบางกะปิ สะพานสูง สวนหลวง จะได้รับน้ำจากคลองแสนแสบ ทำให้มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน

    กรรมการทีมกรุ๊ป ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ถนนศรีนครินทร์ และร่มเกล้า ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่มากนัก เช่นเดียวกับ เขตสวนหลวง ประเวศ กิ่งแก้ว ถึงราชาเทวะ จะได้รับผลกระทบแต่ไม่มาก เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ซม.

    อย่างไรก็ตาม แผนที่เตือนภัยล่าสุด แสดงให้เห็นพื้นที่ที่รอดพ้นจากน้ำท่วมแน่นอน ซึ่งได้เป็นเขตพื้นที่ กทม. ชั้นใน ได้แก่...


    1.บางคอแหลม
    2.เขตสาธร
    3.บางรัก
    4.ปทุมวัน
    5.พญาไท
    6.เขตบางซื่อ
    7.ดุสิต
    8.ดินแดง
    9.ห้วยขวาง
    10.วัฒนา
    11.คลองเตย
    12.พระโขนง
    13.บางนา ฝั่งตะวันตก

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://thaiflood.kapook.com/view32894.html 19 พฤศจิกายน 2554

    ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์เปิด 1.05 ม. ระดับน้ำต่าง 60 ซม.

    สถานการณ์น้ำล่าสุด บริเวณประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ ขณะนี้มีการเปิดประตูระบายน้ำที่ระดับ 1.05 เมตร ทำให้ระดับน้ำหน้าประตูและหลังประตู ต่างกันอยู่ที่ 60 เซนติเมตร
    โดยคลองพระยาสุเรนทร์เป็นคลองกั้นระหว่างเขตสายไหมของกรุงเทพมหานคร และ ต.คูคต จ.ปทุมธานี ที่มีกระแสข่าวว่า ชาวบ้านฝั่งคูคตเข้ามารื้อคันบิ๊กแบ็กบริเวณท้ายซอยสายไหม 85 เมื่อสองวันก่อน และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ อปพร. เปิดเผยว่า ชาวบ้านบริเวณประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ ยังใช้ชีวิตอย่างปกติ แม้มีกระแสข่าวที่ชาวบ้านมาพังคันกั้นน้ำ

    ในขณะที่ชาวบ้านชุมชนร่มรื่น ชุมชนหนองใหญ่ ที่ติดกับคลองพระยาสุเรนทร์ ในเขตคลองสามวา เช้านี้ได้ทยอยเดินทางไปสำนักงานเขตคลองสามวา เพื่อลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท ช่วยเหลือน้ำท่วม

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 09:10 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c1%b8%d2%b9%d5

    พณ.ขายสินค้าธงฟ้า 13 จุด กทม.-ปริมณฑลช่วยผู้ประสบอุทกภัย

    กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จัดรถโมบายยูนิต และเรือธงฟ้า ออกจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ร้อยละ 20-40 เป็นการช่วยเหลือประชาชนในภาวะน้ำท่วม วันนี้จำนวน 13 เส้นทาง อาทิ หมู่บ้านบุศรินทร์ พุทธมณฑลสาย 4 วัดไทรใหญ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สะพานวัดลาดปลาดุก อาคารสงเคราะห์ลาดพร้าว 71 แฟลตเคหะรามคำแหง วัดสุทธาราม วงเวียนใหญ่ ชุมชนแสงมณี ถนนรามคำแหง แยกศรีสมาน เขตดอนเมือง วัดบุญรอดธรรมาราม เขตพระโขนง และชุมชนมิตรภาพ ซอย 6 เขตประเวศ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 12:10 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    กทม.เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำฝั่งธนบุรี 40 เครื่องรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากคลองสำคัญในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครลดลงแล้ว ส่วนคลองมหาสวัสดิ์ลดลงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ น้ำก้อนใหญ่จากพื้นที่ศาลายา ที่อาจจะทะลักเพิ่มเข้ามาอีก จำนวน 7.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งรวมกับของเก่าอีกจำนวน 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอาจจะทำให้มีน้ำที่จะทะลักเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมดรวม 12.5 ล้านลูกบาศ์เมตรต่อวัน ซึ่งกรณีเองกรุงเทพมหานครอาจจะรับมือไม่ไหว จึงจำเป็นต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ของฝั่งธนบุรี จำนวน 40 เครื่อง ซึ่งทางกรุงเทพมหานครติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 26 เครื่อง เหลืออีกจำนวน 14 เครื่อง โดยคาดว่าอีก 2 วันจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยเร่งระบายน้ำจากคลองทวีวัฒนาลงคลองภาษีเจริญ ลงแม่น้ำท่าจีนต่อไป
    นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครอยากเสนอแนะให้มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่ง เพื่อกั้นน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ในพื้นที่ของฝั่ง จ.นนทบุรีอีกด้วย
    อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูระบายน้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ที่วัดหนองใหญ่ อยู่ที่ระดับ 1.05 เมตร ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีผลกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชันแต่อย่างใด

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 13:13 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    เจรจา 4 ฝ่ายตกลงเปิด ปตร. 3 แห่งช่วยระบายน้ำ-ศปภ.ยันจ่าย 5 พันภายในสิ้น พ.ย.นี้

    หลังจากร่วมเจรจาเพื่อหาข้อยุติระหว่างชาวบ้านลำลูกกา ชาวบ้านเขตสายไหม โดยมีตัวแทนจาก ศปภ. กทม. ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ. เปิดแถลงข่าวถึงข้อสรุปว่า วันนี้ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับผลเจรจาด้วยดี โดยจะเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เปิด 1 เมตรตลอด ประตูระบายน้ำลำหม้อแตก เปิด 50 เซนติเมตร ประตูระบายน้ำคลองสอง เปิด 1.20 เมตร จะทำให้ระดับน้ำลดลงวันละ 3-5 เซนติเมตร ส่วนมาตรการเยียวยา โฆษก ศปภ.จะรับเรื่องไปหารือกับรัฐบาลอีกครั้ง ยืนยันว่า เงินเยียวยาครอบครัวละ 5,000 บาท จะดำเนินการและรับเงินชุดแรกภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 15:06 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    ผู้ว่าฯ กทม.ยันไม่ลดคันคลองมหาสวัสดิ์ -รับห่วงขยะดอนเมือง

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีที่ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี ประสานให้กรุงเทพมหานคร ลดระดับคันกั้นน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อเร่งระบายน้ำ ไม่สามารถทำได้นั้น เพราะจะทำให้น้ำไหลเข้าเพิ่มอีกวันละ 7,500,000 ลูกบาศก์เมตร รวมกับน้ำเก่าที่มีอยู่ 5,000,000 ลูกบาศก์เมตร จะกลายเป็น 12,500,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะส่งผลต่อการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร จึงจะเปิดประตูระบายน้ำที่คลองทวีวัฒนา เป็น 50 เซนติเมตร เพื่อให้เข้าสู่ระบบระบายน้ำเร็วขึ้น
    สำหรับการเก็บขยะนั้น ผู้ว่าราชการ จ.กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า เขตดอนเมืองน่าเป็นห่วง เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง ทำให้การจัดเก็บลำบาก ซึ่งขณะนี้ เก็บได้เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 16:16 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    ชาวมีนบุรีโล่งน้ำไม่ท่วมนิคมฯ บางชัน แต่เฝ้าระวังต่อหลัง กทม.เปิดประตูระบายน้ำ

    ชาวบ้านมีนบุรีโล่ง น้ำในคลองแสนแสบลดระดับลง มั่นใจนิคมฯบางชัน ไม่ท่วม แม้ด้านหน้าจะมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากมีมาตรการป้องกันดี แต่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มจากการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ หลัง กทม.เจรจาลงตัวกับชาวบ้านเขตสายไหม

    วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำภายในคลองแสนแสบ ว่า บริเวณด้านหลังวัดบำเพ็ญเหนือ ช่วงชุมชนแสนแสบตอนบน แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี ซึ่งติดด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ระดับน้ำสูงกว่าปกติ ประมาณ 30-40 ซม.สอบถามจากประชาชนในพื้นที่ทราบว่า ระดับน้ำลดลงจากหลายวันก่อน ประมาณ 10 ซม.โดยปกติแล้ว ระดับน้ำจะลดลงตลอดทุกๆ วัน วันละ 1-2 ซม.ทั้งนี้ ประชาชนยังเชื่อว่า จากระดับน้ำที่ลดลงทุกวันนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของสถานการณ์น้ำในพื้นที่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองทัพบกเฝ้าดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องด้วย

    ส่วนสถานการณ์น้ำบริเวณด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชัน บางจุดมีระดับน้ำท่วมขังบนถนน โดยเฉพาะตั้งแต่แยกบางชันมุ่งหน้ามีนบุรี ระดับน้ำสูงประมาณ 10-40 เซนติเมตร ส่วนด้านหน้าบริษัทสหยูเนียน ปริมาณน้ำเอ่อล้นอยู่บ้างเล็กน้อย เนื่องจากมีการทำแนวกระสอบทราย และคันบิ๊กแบ็กกั้น รวมถึงการใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ บริเวณแยกบางชันฝั่งถนนเสรีไทยทั้งสองฝั่ง ได้มีการเสริมคันถนนให้สูงขึ้น จึงทำให้ระดับน้ำไม่สามารถล้นเข้ามาท่วมบนถนนด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชันได้มาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ อาจจะส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมบางชันได้ เนื่องจากทาง กทม.ได้เจรจากับตัวแทนชาวบ้าน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ข้อสรุปว่า ชาวบ้านจะไม่เข้ารื้อแนวกระสอบทรายที่คลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม จากที่กทม.และศปภ.ยืนยันจะเปิด 3 ประตูระบายน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวปทุมธานีที่ระดับน้ำท่วมสูง โดยจะเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์สูง 1 เมตรตลอดไป เปิดประตูระบายน้ำคลองสอง สูง 1.20 เมตร เปิดประตูคลองลำหม้อแตกเพิ่มอีก 50 ซม.และ กทม.จะเร่งระบายน้ำให้ระดับน้ำลดลงวันละ 3-5 ซ.ม. ขณะที่การเยียวยา ได้ครัวเรือนละ 5,000 บาทตามมติ ครม.ซึ่งชุดแรกจะได้รับเงินในสิ้นเดือนนี้ และบ้านที่เสียหายบางส่วนได้ 20,000 บาท ส่วนบ้านที่เสียหายทั้งหลังได้ 30,000 บาท

    นอกจากเขตมีนบุรีแล้ว การเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบกับพื้นที่ในเขตสายไหม คลองสามวา และบึงกุ่ม ด้วย แต่ กทม.เชื่อว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ จึงทำให้ทุกฝ่ายต่างเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 17:24 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    กทม.จัด “Big Cleaning Day” ถ.พหลโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว

    กทม.จัด “Big Cleaning Day” คืนความสวยงามสู่ถนนพหลโยธินเริ่มตั้งแต่บริเวณคลองบางซื่อถึงแยกรัชโยธิน รวมระยะทาง 6 กม. “สุขุมพันธุ์” ชี้ทำความสะอาดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค.54 เพื่อเป็นของขวัญแก่ชาวกทม.

    เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Big Cleaning Day คืนความสวยงามสู่ถนนพหลโยธิน” เพื่อทำความสะอาดถนนพหลโยธินครั้งใหญ่ ตั้งแต่บริเวณคลองบางซื่อถึงแยกรัชโยธิน รวมระยะทาง 6 กม. ภายหลังปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณห้าแยกลาดพร้าวลดลง โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร พลโทอุดมเดช สีตะบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กองทัพบก ตำรวจ ข้าราชการ เอกชน และอาสาสมัครกว่า 1,000 คน ร่วมงาน ณ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาห้าแยกลาดพร้าวประสบปัญหาน้ำท่วมขังนานพอสมควร และภายหลังน้ำลดก็มีคราบความสกปรก และสิ่งปฏิกูล จึงขอขอบคุณ กองทัพบก ตำรวจ และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือร่วมใจในการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาว กทม. ทั้งนี้ กทม.จะจัดกิจกรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง และจะให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค.54 เพื่อเป็นของขวัญแก่ชาว กทม.



















    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 17:46 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1

    กทม.รับเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ส่งผลระบายน้ำช้ากว่าเดิม 1 สัปดาห์

    (19 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 16.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ภายหลังจากกทม.ได้ส่งตัวแทนเข้าเจรจาเพื่อหาข้อยุติกรณีประชาชนลำลูกกา และคลองสอง ชุมนุมประท้วง พร้อมทั้งรื้อกระสอบทรายริมคลองหกวาสายล่าง เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากปริมาณน้ำท่วมสูงเป็นเวลากว่า 1 เดือน
    ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยผลการประชุมเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ว่า กทม. ได้มอบหมายให้ นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนกทม.เข้าร่วมเจรจา กับตัวแทนศปภ. โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ. นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยตัวแทนชาวลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งกทม. ได้รับข้อพิจารณาของชาวจ.ปทุมธานีทุกข้อ โดยสรุปว่า จะเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ดังนี้
    1.ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ ที่ระดับ 1 เมตรตลอดไป
    2.ประตูระบายน้ำลำหม้อแตก จาก 20 ซม. เป็น 50 ซม.
    3.ประตูระบายน้ำคลองสอง จากเดิม 1 เมตร เป็น 1.20 เมตร พร้อมทั้งจะเร่งระบายน้ำสู่คลองคูคตให้ได้ 3-5 ซ.ม.ต่อวัน
    ทั้งนี้ กทม.ได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวแล้ว สามารถรับข้อเสนอได้ แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นที่เข้าใจได้ว่า กทม.ยังคงมีอำนาจที่จะปรับลดหรือเพิ่มในส่วนที่เกี่ยวการเปิดประตูระบายน้ำ และมีสิทธิที่จะเปิดหรือหรี่ประตูระบายน้ำ ทังนี้จะแจ้งให้ประชาชนปทุมธานีทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม กทม.จะติดตามการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 แห่งอย่างใกล้ชิด และจะต้องไม่เกิดผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมบางชัน โดยผลกระทบนี้อาจเกิดขึ้นต่อคลองบางบัว และคลองลาดพร้าว มีอัตราลดช้าลง รวมถึงทำให้การระบายน้ำบนถนนสู่คลองทั้งสองล่าช้ากว่าเดิม ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งอาจจะทดแทนด้วยการเพิ่มเครื่องสูบน้ำพื้นที่ต่างๆ
    ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวดีใจที่ทั้ง ศปภ. กทม. และจ.ปทุมธานี ได้ร่วมกันหารือด้วยเหตุและผล รวมถึงหาทางออกร่วมกัน ซี่งกทม.ขอขอบคุณทุกฝ่าย ที่ร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ในวันข้างหน้าต่อไป

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 19:07 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1

    >> ปทุมธานี <<


    ถ.วงแหวนตะวันออกติดขัด! ปชช.แห่ใช้หนี้น้ำ

    สถานการณ์น้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย ทำให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงต่างเลี่ยงไปใช้เส้นทางด่านเก็บเงินธัญบุรี อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางวงแหวนตะวันออก ซึ่งเป็นเส้นทางตัด อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ออก จ.นครนายก ฉะเชิงเทรา เพื่อผ่านออกบางปะอิน คลองหลวง โดยเฉพาะการจราจรเส้นทาง ถ.ลำลูกกา และวงแหวนตะวันออก ติดขัดหนัก เนื่องจากน้ำยังท่วมขังผิวการจราจร บริเวณหน้าด่านเก็บเงิน จึงต้องใช้การจราจรขวาสุด

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 11:03 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c1%b8%d2%b9%d5

    เจรจา 4 ฝ่ายตกลงเปิด ปตร. 3 แห่งช่วยระบายน้ำ-ศปภ.ยันจ่าย 5 พันภายในสิ้น พ.ย.นี้

    หลังจากร่วมเจรจาเพื่อหาข้อยุติระหว่างชาวบ้านลำลูกกา ชาวบ้านเขตสายไหม โดยมีตัวแทนจาก ศปภ. กทม. ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ. เปิดแถลงข่าวถึงข้อสรุปว่า วันนี้ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับผลเจรจาด้วยดี โดยจะเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เปิด 1 เมตรตลอด ประตูระบายน้ำลำหม้อแตก เปิด 50 เซนติเมตร ประตูระบายน้ำคลองสอง เปิด 1.20 เมตร จะทำให้ระดับน้ำลดลงวันละ 3-5 เซนติเมตร ส่วนมาตรการเยียวยา โฆษก ศปภ.จะรับเรื่องไปหารือกับรัฐบาลอีกครั้ง ยืนยันว่า เงินเยียวยาครอบครัวละ 5,000 บาท จะดำเนินการและรับเงินชุดแรกภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 15:06 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c1%b8%d2%b9%d5

    พท.วอนชาวปทุมธานีอย่าพังแนวคันกั้นน้ำ

    นายสุทิน นพขำ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากขอร้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานีทุกตำบล ทุกพื้นที่ว่า อย่าไปพังแนวคันกั้นน้ำ รื้อแนวคันดินที่กั้นน้ำตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่เขตติดต่อกับกรุงเทพมหานคร โดยอยากให้พี่น้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานี ภาคภูมิใจในการร่วมกันปกป้องกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย พร้อมกันนี้ในส่วนราชการทุกส่วนงาน กำลังเร่งดำเนินการกู้พื้นที่ต่างๆ ให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างเต็มที่ จึงอยากขอร้องพี่น้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานีทุกคน ร่วมกันป้องกันไม่ให้น้องเข้ากรุงเทพมหานคร และขอให้อดทนรออีกสักระยะ โดยขอเป็นกำลังใจให้ชาวปทุมธานีทุกคนด้วย

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 17:15 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c1%b8%d2%b9%d5

    นายกเล็กลำลูกกา แนะ ศปภ.กู้ ถ.คลอง 5-6

    นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ นายกเทศมนตรี ตำบลลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ต้องการให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. พิจารณากู้ถนนลำลูกกา ช่วงคลอง 5 ถึงคลอง 6 รวมระยะทาง 4 กิโลเมตร และหากเป็นไปได้ ควรใช้หินคลุกเข้าถมเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร ซึ่งไม่เพียงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนใน ต.ลำลูกกา เท่านั้น แต่ยังเกิดประโยชน์กับประชาชนทั่วไปในด้านการคมนาคมด้วย

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 17:27 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c1%b8%d2%b9%d5

    >> สมุทรสาคร <<


    สูบน้ำคลองบางน้ำจืดได้ผล!! น้ำลดฮวบ

    การเดินเครื่องสูบน้ำจากคลองบางน้ำจืด ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ลงคลองประดิษฐ์ เพื่อช่วยระบายน้ำจากหน้าประตูระบายน้ำบางน้ำจืด ลงสู่ท้ายประตูระบายน้ำเป็นครั้งแรก ปรากฏว่า ระดับน้ำในคลองบางน้ำจืด บริเวณท้ายประตูระบายน้ำลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ อยู่ที่ชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าประสิทธิภาพของคลองประดิษฐ์ ได้ผลเป็นอย่างดี โดยจะสามารถช่วยระบายน้ำ และรองรับปริมาณน้ำที่ไหลมาเติมหน้าประตูระบายน้ำ ก่อนผันน้ำลงสู่คลองมหาชัย และลงทะเลที่ จ.สมุทรสาคร

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 15:13 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c3%ca%d2%a4%c3


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  8. #18
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    20 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================



    >> กรุงเทพฯ <<


    ศอส.สรุปน้ำท่วม ปชช.เดือดร้อน 1.8 ล้านครัวเรือน ตาย 602 คน

    ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กรุงเทพมหานคร สรุปรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน พบว่า ขณะนี้เหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย 17 จังหวัด กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ประสบภัยจำนวน 36 เขต จาก 50 เขต ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,800,000 ครัวเรือน รวมยอดผู้เสียชีวิต 602 คน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 13:01 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147894

    ทอท.คาดใช้งบฯ 1.5 พันล.ฟื้นฟูดอนเมือง-หามาตรการป้องกันระยะยาว

    นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงแผนการกู้ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการฟื้นฟูราว 1,500 ล้านบาท แต่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ซึ่งภายหลังน้ำลด 2 - 3 เดือน จึงจะเข้าไปทำการสำรวจ อีกทั้งต้องรอให้น้ำแห้งสนิท จึงจะสามารถสำรวจความเสียหายบริเวณทางวิ่งทางขับได้ เนื่องจากต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระบบวิศวกรรม ที่จะต้องเจาะพื้นเพื่อสำรวจอย่างละเอียด
    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ โดยระดับน้ำอยู่ที่ 30 - 40 เซนติเมตร นอกจากนี้ทาง ทอท. ยังเตรียมหามาตรการเพื่อป้องกัยระยะยาวต่อไป

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 14:44 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147938

    “สุขุมพันธุ์” ยอมเปิด ปตร.คลองทวีวัฒนา สูงขึ้นเพิ่ม ช่วยเหลือคนนนท์ แต่ไม่ยอมลดระดับคันกั้นน้ำ หวั่นคนฝั่งธนฯเจอท่วมซ้ำซาก

    “สุขุมพันธุ์” เผย กทม.จะเปิดประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาให้สูงขึ้น เพื่อเร่งระบายน้ำช่วยคนนนทบุรี พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม แต่ปฏิเสธลงความสูงคันกั้นน้ำ เพราะหากน้ำจะเข้ามากเกินกำลังระบาย คนฝั่งธนฯเจอน้ำท่วมซ้ำซาก

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ประสานขอความร่วมมือกับ กทม.ในการช่วยลดความเดือดร้อนของชาวนนทบุรีจากปัญหาน้ำท่วม ว่า ได้มีการประสานแล้ว เบื้องต้น กทม.จะเปิดประตูระบายน้ำ (ปตร.) คลองทวีวัฒนา ให้สูงขึ้น และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ลงคลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ และคลองต่างๆ เพื่อให้น้ำไหลลงโคลงการแก้มลิงคลองสนามชัย มหาชัย และลงแม่น้ำท่าจีนโดยเร็ว ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีร้องขอให้ลดระดับคันกั้นน้ำ ตลอดแนวเขต กทม.และนนทบุรี ระยะทาง 6 กม.นั้น คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าในพื้นที่ กทม.ถึงวันละ 7.5 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเกินกำลังการระบายน้ำของ กทม.

    "ทุกวันนี้ พื้นที่ ฝั่งธนบุรี มีปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 5 ล้านลบ.ม.เมื่อรวมกับน้ำที่ท่วมพื้นที่แล้ว ยังอยู่ในภาวะที่รับมือ และระบายลงสู่ช่องทางระบายน้ำได้ แต่หากน้ำมาเพิ่ม อย่างมหาศาล หรือ อีกกว่า 7.5 ล้าน ลบ.ม.อาจทำให้พื้นที่ฝั่งธนบุรี เจอกับปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำอีก” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนั้น ภายใน 20 วัน สถานการณ์น้ำฝั่งธนบุรีจะยังไม่คลี่คลายไปกว่านี้หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝั่งธนบุรีมีมาก หากสามารถติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้มากอย่างที่ต้องการ เชื่อว่า จะสามารถระบายไปได้เร็ว แต่ปัญหาคือว่า ขณะนี้ไม่สามารถผันน้ำไปได้เร็วตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวมีโครงการแก้มลิงคลองสนามชัย มหาชัย รองรับ และเขตบางขุนเทียน มีพื้นที่ติดทะเล จะยังสามารถระบายน้ำออกไปได้ ขณะนี้ตนอยากขอความร่วมมือไปยังทุกภาคส่วนช่วยประคับประคองสถานการณ์ เชื่อว่า จะไม่นาน ทุกอย่างจะเรียบร้อย

    สำหรับระดับน้ำในหมู่บ้านการเคหะธนบุรี 1 ถนนพระราม 2 เช้าวันนี้ระดับน้ำลดลงกว่า 15 เซนติเมตร ก่อนเข้าซอย 200 เมตร น้ำท่วมสูง 30-60 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประชาชนต้องอาศัยรถขนาดใหญ่ของทหารและหน่วยงานเอกชนที่มาให้บริการ รวมถึงเรือ

    ส่วนที่คลองลาดลำพู เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่จากเขตบางขุนเทียน ร่วมกับประชาชนจากหมู่บ้านการเคหะธนบุรี 2 และ 3 รวมทั้งหมู่บ้านศรัญญา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขุดลอกคูคลองเพื่อสามารถระบายน้ำลงคลองสี่บาทได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีขยะสะสมมาก ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า

    ด้านนายพงษ์ศักดิ์ พันธุ์สวาสดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากกทม.ได้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเติมทำให้การระบายน้ำรวดเร็วขึ้น ขณะนี้น้ำท่วมขังเหลือเพียงร้อยละ 1 ของพื้นที่ ส่วนใหญ่ค้างตามซอยต่างๆ เช่น หมู่บ้านการเคหะธนบุรี 1 และซอยต่างๆ ในถนนพระราม 2 เชื่อว่าหากไม่มีน้ำเหนือไหลลงมาเพิ่มเติม ก่อนปีใหม่นี้พื้นที่บางขุนเทียนน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

    ส่วนถนนตลิ่งชัน-นครชัยศรี น้ำยังท่วมสูงตั้งแต่ทางลงสะพานยกระดับบรมราชชนนี ทั้งขาเข้าและขาออก ระดับน้ำยังสูง 50 เซนติเมตร ระยะทางยาวถึงพุทธมณฑลสาย 4 ประชาชนที่จะเดินทางยังต้องใช้รถทหาร ชาวบ้านแจ้งว่า แม้ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่บางพื้นที่น้ำยังท่วมสูง เช่น ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระดับน้ำยังสูงกว่า 80 เซนติเมตร ชาวบ้านเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกโดยเร็ว ทำให้การเดินทางยากลำบาก ต้องอาศัยเรือหรือรถขนาดใหญ่ ซึ่งต้องเสียค่าโดยสารไม่ต่ำกว่าเที่ยวละ 100-200 บาท

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 16:06 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1.

    กทม.ประสาน ศปภ.เร่งระบายน้ำคลองหกวาสายล่าง-คลองมหาสวัสดิ์

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงว่า ได้ทำหนังสือถึงศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.เพื่อให้ดูแลเรื่องการระบายน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะคลองหกวาสายล่าง ที่จะระบายน้ำฝั่งตะวันออกกรุงเทพมหานคร และคลองมหาสวัสดิ์ กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก
    กรณีข้อเรียกร้องของชาว จ.นนทบุรี ให้เปิดประตูระบายน้ำเป็น 1 เมตร ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องขอเวลาประเมินอีกสักระยะ เพราะหากเปิดกว้างเกินไปจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 19:24 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    >> พิจิต <<


    ชาวพิจิตจมน้ำ 1 ม.กว่า 6 เดือนไม่มีทีท่าลดลง

    ระดับน้ำใน อ.สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพธิ์ทะเล จ.พิจิตร ยังสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านเกือบ 10,000 ครัวเรือน ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมขังนานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยระดับน้ำยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
    นอกจากนี้ ในช่วงเช้าและกลางคืนยังประสบกับภัยหนาว หลังมวลอากาศเย็นเข้าปกคลุมพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศา ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว และยังไม่มีหน่วยงานรัฐให้การช่วยเหลือ


    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 13:11 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147901

    >> นนทบุรี <<


    คนเมืองนนท์บุกห้องประชุมทวงถามแก้น้ำท่วม

    ชาวบ้านใน จ.นนทบุรี กว่า 300 คน ที่มารอฟังคำตอบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากทาง จ.นนทบุรี ได้บุกเข้าห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ซึ่งภายในห้องดังกล่าว ทางจังหวัดได้มีการประชุมหารือในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งบรรยากาศภายในห้องประชุมหลังจากที่ประชาชนเข้ามาเป็นไปด้วยความตึงเครียด เพราะชาวบ้านที่เข้ามามีความเดือดร้อน ทำให้บางคนมีอารมณ์ที่รุนแรง

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนใน จ.นนทบุรี เรียกร้องคือ เมื่อไหร่น้ำที่ท่วมใน จ.นนทบุรี จะลด รวมทั้ง การที่กรุงเทพมหานคร เปิดประตูระบายน้ำ 50 เซนติเมตร ที่ประตูระบายน้ำ 6 แห่ง ที่เชื่อมกับคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อช่วยระบายน้ำ จ.นนทบุรี ลงสู่แม่น้ำท่าจีน อยากทราบว่าจะทำให้ระดับน้ำใน จ.นนทบุรี ลดลงเท่าใด รวมทั้ง ชาวบ้านต้องการให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาชี้แจงในรายละเอียดด้วยตนเอง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 14:41 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147937

    น้ำท่วมเมืองนนท์ 500 โรงงานจม แรงงานยังไม่ถูกเลิกจ้าง

    นายธาราธร สมิทธิภานนท์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรม จ.นนทบุรี เปิดเผยถึงภาคอุตสาหกรรมใน จ.นนทบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ว่า ในเขตบางบัวทอง ไทรน้อย มีโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 500 โรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ อาหาร เครื่องสำอาง และให้หยุดการประกอบธุรกิจชั่วคราวแล้ว ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหาย เนื่องจากโรงงานยังถูกน้ำท่วม แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับร้องเรียนว่าแรงงานถูกเลิกจ้าง
    ทั้งนี้ ทางภาคเอกชน เข้าใจสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดดี เพราะขณะนี้ ระดับน้ำในจังหวัดยังคงท่วมสูงอยู่ แต่เมื่อการกู้ถนนทางหลวงหมายเลข 340 ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี เป็นผลสำเร็จ ทำให้การฟื้นฟูโรงงานเป็นไปได้เร็วขึ้น รวมทั้งการคมนาคมขนส่งและการเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างไม่ติดขัด

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 14:49 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147941

    ทางหลวงหมายเลข 9 มุ่งหน้า 340 รถสัญจรค่อนข้างมาก

    สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.บางบัวทอง ตั้งแต่หน้าวัดลาดปลาดุก ยังคงมีน้ำท่วมขังประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร ส่วนทางหลวงหมายเลข 9 ที่มุ่งหน้าตัดกับทางหลวงหมายเลข 340 (บางบัวทอง - สุพรรณบุรี) ได้มีการวางแนวบิ๊กแบ็ก และถุงทรายขนาดเล็ก ป้องกันน้ำทั้ง 2 ฝั่งถนน ไม่ให้ไหลเข้าท่วมเลนกลาง เพื่อให้รถนั้นสามารถสัญจรไปทางหลวงหมายเลข 340 ได้ โดยขณะนี้มีรถสัญจรค่อนข้างมาก แต่ในบางจุดอาจจะมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ซึ่งได้มีการสูบน้ำออกแล้ว
    ทั้งนี้บ้านเรือนประชาชนและหมู่บ้านที่ตั้งติด 2 ฝั่งถนน อาทิ หมู่บ้าน ป.ผาสุขนิเวศน์ มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 60 - 70 เซนติเมตร

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 15:13 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147957

    ชาวนนท์รวมตัวปิด ถ.รัตนาธิเบศร์ กดดันเปิด ปตร.

    ชาวชุมชนใน 3 อำเภอของ จ.นนทบุรี ได้แก่ อ.บางบัวทอง บางใหญ่ และบางกรวย เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ทวงสัญญากับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องให้ประสานงานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม เพื่อให้น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และออกสู่ทะเลโดยเร็ว
    ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้เข้าร่วมเจรจา พร้อมแสดงหนังสือที่ทางกรุงเทพมหานครแจ้งกลับมาว่า จะเปิดประตูระบายน้ำต่างๆ ที่อยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์ขึ้นเป็น 50 เซนติเมตร แต่ชาวบ้านยังไม่พอใจเรียกร้องให้เปิดขึ้นเป็น 1 เมตร พร้อมเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มอีก 3 จุด คือ ประตูระบายน้ำบางพลัด บางอ้อ และบางบำหรุ ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้โทรศัพท์ไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครรับสาย สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน และทั้งหมดได้ชักชวนกันไปพังแนวคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ โดยลุกออกจากห้องประชุมทันที
    ล่าสุดชาวบ้านได้รวมตัวปิดถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 16:25 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147985

    ชาวนนท์รวมตัวปิด ถ.รัตนาธิเบศร์ จี้เปิดประตูมหาสวัสดิ์ 1 ม.

    ชาวบ้านนนทบุรี รวมตัวปิดถนนรัตนาธิเบศร์หน้าศาลากลางจังหวัด หวังจี้ “กทม.” ให้ยอมเปิดประตูน้ำในคลองมหาสวัสดิ์1 เมตร เพื่อหวังได้กลับเข้าบ้านภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้





    วันนี้ (20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวชุมชนใน 3 อำเภอของ จ.นนทบุรี ได้แก่ อ.บางบัวทอง บางใหญ่ และบางกรวย เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ทวงสัญญากับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องให้ประสานงานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม เพื่อให้น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และออกสู่ทะเลโดยเร็ว


    ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้เข้าร่วมเจรจา พร้อมแสดงหนังสือที่ทางกรุงเทพมหานคร แจ้งกลับมาว่า จะเปิดประตูระบายน้ำต่างๆ ที่อยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์ขึ้นเป็น 50 เซนติเมตร แต่ชาวบ้านยังไม่พอใจเรียกร้องให้เปิดขึ้นเป็น 1 เมตร พร้อมเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มอีก 3 จุด คือ ประตูระบายน้ำบางพลัด บางอ้อ และ บางบำหรุ ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้โทรศัพท์ไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครรับสาย สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน และทั้งหมดได้ชักชวนกันไปพังแนวคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ โดยลุกออกจากห้องประชุมทันที พร้อมกับไปรวมตัวกันปิดถนนรัตนาธิเบศร์ เพื่อประท้วง

    ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจังหวัดนนทบุรีได้เสนอข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ให้เปิดประตูระบายน้ำที่เชื่อมคลองมหาสวัสดิ์ ทุกประตูภายในวันนี้ ให้สูง 1 เมตร 2.ให้เร่งซ่อมคันดินแม่น้ำเจ้าพระยาและบางบัวทองให้เร็วที่สุด 3.ให้เร่งระบายน้ำออกจากจังหวัดนนทบุรี ทุกอำเภอ จนอยู่ในระดับที่จะกลับเข้าบ้านได้ 4.ให้ประกาศพื้นที่ของจ.นนทบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติพิเศษ รวมถึงเงินเยียวยาที่จะได้รับพิเศษด้วย

    ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ยืนยันจะเร่งนำข้อเสนอดังกล่าวประสานกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหรือ (ศปภ.) พร้อมจะเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด ซึ่งทำให้ชาวบ้านบางส่วนพอใจ แต่ได้นัดเพื่อจะกลับมาฟังผลทางปฏิบัติอีกครั้งในวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายนนี้เวลา 10.00 น.

    ชาวบ้านจึงได้ตัดสินใจนั่งปิดถนนรัตนาธิเบศร์ ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้การจราจรติดขัด มาเมื่อเวลา 15.20 น.จึงยอมเปิดถนนรัตนาธิเบศร์ขาออก 1 เลน ในช่องทางหลัก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เจรจา แต่ยังไม่ยอมเปิดด้านคู่ขนาน











    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 18:38 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000148032

    ชาวนนท์โวย กทม.ไม่เปิด ปตร.บีบผู้ว่าฯนนท์ บุกปิดถนนหน้าศาลากลาง



    ชาวบ้านกว่า 200 คน จาก อ.บางบัวทอง อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ และ อ.ไทรน้อย โวยไม่พอใจคำชี้แจงแก้ปัญหาน้ำท่วม บุกปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดกดดันบี้ผู้ว่าฯนนท์ ประสาน กทม.เปิดประตูระบายน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อระบายน้ำ ขู่รื้อกระสอบทรายที่คลองมหาสวัสดิ์

    เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ห้องประชุมใหญ่ศาลากลาง จ.นนทบุรี ชาวบ้านกว่า 200 คน จาก อ.บางบัวทอง อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ และ อ.ไทรน้อย ได้เข้าฟังคำชี้แจงถึงปัญหาและการแก้ไขปัญหาการป้องกันน้ำท่วม จากนายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รอง ผวจ.นนทบุรี หลังจากที่มีการรับปากว่าจะมีการเปิดประตูระบายน้ำในคลองมหาสวัสดิ์เพื่อระบายน้ำ

    ด้าน นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ทาง จ.นนทบุรี มิได้นิ่งนอนใจได้ประสานกับทาง กทม.เพื่อเปิดประตูระบายน้ำไปแล้วหลายคลองตามข้อเรียกร้อง อีกทั้งยังขอเครื่องสูบน้ำจากทาง ศปภ.มาเพิ่ม คาดว่าระดับน้ำจะลดลง

    ระหว่างนั้นได้มีตัวแทนชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนและโวยวายเสียงดังในห้องประชุม ว่า หลังจากที่ กทม.เปิดประตูระบายน้ำให้แล้วนั้น เมื่อชาวบ้านเดินทางกลับปรากฏว่าทาง กทม.ได้ปิดประตูระบายน้ำทันที สร้างความไม่พอใจให้กลับผู้ที่เข้าร่วมประชุม จนนายฉลอง เรี่ยวแรง และ นายอุดม รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี ต้องขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ก่อนที่จะเจรจาต่อรองให้กับนายประดิษฐ์ เพื่อต่อสายโทรศัพท์คุยกับ ผ.อ.สำนักระบายน้ำ ขอยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติมเปิดประตูระบายน้ำทุกคลองใน จ.นนทบุรี เป็น 1 เมตร จาก 50 ซม.แต่ทาง ผอ.สำนักระบายน้ำไม่สามารถตัดสินใจได้ขอหารือกับทางผู้ว่าฯ กทม.ก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ร่วมประชุมและต่างส่งเสียงโวยวาย เพราะเชื่อว่าน้ำจะไม่ลดลงอย่างแน่นอนในวันที่ 1 ธ.ค.54 ทุกคนจึงรวมตัวกันประท้วงเพื่อจะไปรื้อคันกระสอบทรายที่ประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ แต่เนื่องจากหารถไปไม่ได้จึงพากันปิดถนนหน้าศาลากลาง จ.นนทบุรี ประท้วงแทน จนเป็นสาเหตุให้รถติดเป็นระยะทางยาว โดยต้องการทราบคำตอบภายในวันนี้และเรียกร้องให้นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี ออกมาเจรจากับชาวบ้าน แต่ทาง ผวจ.นนทบุรี ติดภารกิจรับเสด็จ หม่อมเจ้าศรีรัศมิ์ ที่เสด็จเยี่ยมชมคลองมหาสวัสดิ์ มาไม่ได้ จึงให้รอง ผวจ.มาเจรจา และชี้แจงแทน

    ต่อมาชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมต่างไม่พอใจคำชี้แจงของทางจังหวัดนนทบุรี จึงได้รวมตัวกันลงมาประท้วงปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี โดยมี พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยนายมารักษาความสงบ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องต้องการพบ นายวิเชียร พุฒิวิญญู เพื่อขอคำตอบที่น่าพอใจ ทำให้การจราจรหน้าศาลากลางเป็นอัมพาตรถไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ ทำให้ผู้ขับรถจำนวนมากต่างพากันลงมาจากรถ และประจันหน้ากันกับกลุ่มผู้ประท้วงจนเกือบจะวางมวยกันกลางถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเจรจาอยู่นานกลุ่มผู้ประท้วงจึงยอมเปิดถนนให้ 1 ช่องทาง

    เวลาเดียวกันนั่นเองนายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รอง ผวจ.นนทบุรี ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง พร้อมทั้งชี้แจงว่าทางจังหวัดนนทบุรีได้ประสานไปทาง กทม.และได้รับคำตอบกลับมาว่ายินดีเปิดประตูระบายน้ำตามคลองต่างๆ ที่ชาวบ้านต้องการให้แล้วในเบื้องต้น 50 ซม.พร้อมขอเครื่องสูบน้ำมาเพิ่มอีกหลายร้อยเครื่อง โดยคาดว่าจะทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ต่างๆ ลดลง ทำให้ชาวบ้านต่างพอใจและนัดมาฟังผลกากรดำเนินการต่างๆ ที่ทางจังหวัดพูดไว้ว่ามีความคืบหน้าแค่ไหน ก่อนนัดมารวมตัวกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 22 พ.ย.54 เวลา 11.00 น.จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับไป

    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 19:05 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1.

    ม็อบนนท์สลายตัวพอใจ กทม.เปิด ปตร.มหาสวัสดิ์-บางพลัด

    นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยหลังเข้าเจรจาชาวบ้านที่เปิดถนนรัตนาธิเบศร์หน้าศาลากลาง เรียกร้องให้ กทม. และ ศปภ. เปิดประตูระบายน้ำในว่า ล่าสุดชาวบ้านยินยอมเปิดถนน หลังทางตัวแทน กทม. และ ศปภ. เข้าเจรจา พร้อมเปิดประตูระบายน้ำ ในคลองมหาสวัสดิ์ คลองบางพลัด โดยชาวบ้านพอใจในข้อตกลงดังกล่าว โดยในวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน แกนนำชาวบ้านจะรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อประเมินระดับน้ำในพื้นที่ หลังมีการเปิดประตูระบายน้ำในคลองต่างๆ ร่วมกับ กทม. และ ศปภ. อีกครั้ง
    ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ. กล่าวว่า ในวันอังคารนี้ จะลงพื้นที่ร่วมรับฟังปัญหา กับตัวแทนชาว จ.นนทบุรี อีกครั้ง โดยได้แสดงความเห็นใจชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ถูกน้ำท่วม และยอมรับว่า การเข้าไปดูแลชาวบ้านของเจ้าหกน้าที่รัฐ ไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร ซึ่งทำให้มีการประท้วง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 19:05 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1.

    >> พระนครศรีอยุธยา <<


    3 กระทรวงหลักจับมือฟื้นฟูนิคมฯ บางปะอิน นำร่องเปิด 5 แห่ง ธ.ค.นี้

    นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) เวลา 09.30 น. กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข ได้จับมือรวมพลังคืนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดยจะนำร่องฟื้นฟูอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 5 แห่ง ซึ่งทางจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการฟื้นฟู 58 วัน คือระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม - 16 ธันวาคม 2554 ทั้งในเรื่องการทำให้น้ำไหลผ่านนิคมฯ และเขตอุตสาหกรรม ลดปริมาณน้ำเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพิ่มการระบายน้ำและลดระดับน้ำให้ได้ประมาณ ร้อยละ 50 สูบน้ำและกู้พื้นที่ให้เข้าไปยังโรงงานได้ ผู้ประกอบการเข้าซ่อมแซมอุปกรณ์ ปรับปรุงโรงงาน และเริ่มประกอบกิจการ และแรงงานเข้าทำงานได้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
    ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ในวันที่ 1-15 ธันวาคม คาดว่า จะมีโรงงานเปิดทำการได้ 60-70 โรง จากทั้งหมด 90 โรง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 15:25 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...c2%d8%b8%c2%d2

    3 กระทรวงหลักจับมือฟื้นฟูนิคมฯ บางปะอิน นำร่องเปิด 5 แห่ง ธ.ค.นี้

    นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) เวลา 09.30 น. กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข ได้จับมือรวมพลังคืนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดยจะนำร่องฟื้นฟูอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 5 แห่ง ซึ่งทางจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการฟื้นฟู 58 วัน คือระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม - 16 ธันวาคม 2554 ทั้งในเรื่องการทำให้น้ำไหลผ่านนิคมฯ และเขตอุตสาหกรรม ลดปริมาณน้ำเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพิ่มการระบายน้ำและลดระดับน้ำให้ได้ประมาณ ร้อยละ 50 สูบน้ำและกู้พื้นที่ให้เข้าไปยังโรงงานได้ ผู้ประกอบการเข้าซ่อมแซมอุปกรณ์ ปรับปรุงโรงงาน และเริ่มประกอบกิจการ และแรงงานเข้าทำงานได้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
    ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ในวันที่ 1-15 ธันวาคม คาดว่า จะมีโรงงานเปิดทำการได้ 60-70 โรง จากทั้งหมด 90 โรง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 15:25 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000147964

    ผู้เชี่ยวชาญชี้โบราณสถาน “อยุธยา” เสี่ยงพังทลายหลังผ่านอุทกภัยครั้งใหญ่



    ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถานเตือน อุทกภัยซึ่งท่วมขังเกาะเมืองอยุธยานานหลายสัปดาห์อาจบั่นทอนฐานรากของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ จนเกิดการพังทลายลงในที่สุด

    เอเอฟพี - แม้โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะยืดหยัดผ่านกาลเวลามานานหลายร้อยปี แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า อุทกภัยซึ่งท่วมขังแผ่นดินกรุงเก่านานนับเดือนอาจส่งผลให้โบราณสถานบางแห่งเกิดการพังทลาย


    ปริมาณฝนที่มากผิดปกติในฤดูมรสุมปีนี้ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าจากภาคเหนือลงมาท่วมที่ราบลุ่มภาคกลางของไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม กระแสน้ำได้คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 600 ราย และอีกหลายล้านคนต้องสูญเสียบ้านเรือนรวมถึงวิถีชีวิตของตนเอง

    พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางเหนือราว 80 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยหนักหนาสาหัสที่สุด ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นวัดวาอารามและโบราณสถานประหนึ่งจมอยู่กลางทะเลสาบขนาดใหญ่

    สิ่งปลูกสร้างอายุหลายร้อยปีต้องจมอยู่ใต้น้ำขุ่นข้นนานหลายสัปดาห์ ส่งผลให้เจดีย์สำคัญในเมืองมรดกโลกแห่งนี้เริ่มปรากฎรอยร้าว

    หลังจากระดับน้ำในอยุธยาลดลงจนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทางการจึงประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ปีนป่ายขึ้นไปบนตัวโบราณสถาน เพราะอาจเกิดการพังทลายได้

    ชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ประเมินความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท และชี้ว่ายังไม่อาจสรุปผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดได้

    “โครงสร้างโบราณสถานไม่ได้ถูกออกแบบให้รับน้ำหนัก (น้ำ) มากขนาดนี้ น้ำซึ่งท่วมขังเป็นเวลานานยังทำให้พื้นดินอ่อนตัว ซึ่งจะส่งผลให้ฐานรากของโบราณสถานไม่มั่นคง อาคารบางแห่งอาจจมลง หรือที่ร้ายที่สุดก็อาจจะถล่มลงมา” ชัยนันท์ ให้สัมภาษณ์

    ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ใจกลางเมืองอยุธยาน้ำเริ่มแห้ง แต่วัดวาอารามซึ่งตั้งอยู่รอบนอกอุทยานประวัติศาสตร์ยังคงมีน้ำท่วมขัง

    เกาะเมืองอยุธยาตั้งอยู่กลางวงล้อมของแม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ซึ่งทำให้โบราณสถานบนเกาะเสี่ยงต่ออุทกภัยเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก

    ผู้เชี่ยวชาญด้านมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ อธิบายว่า ในอดีตเกาะเมืองอยุธยาเคยมีเครือข่ายลำคลองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยระบายน้ำไม่ให้ท่วมเมือง

    “ปัจจุบันลำคลองหลายสายถูกถม หรือไม่ก็ตื้นเขินไปตามกาลเวลา” ผู้เชี่ยวชาญรายนี้กล่าว หลังเจ้าหน้าที่ยูเนสโกลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบนเกาะเมืองอยุธยา เมื่อวันพฤหัสบดี(17)

    “มีความกังวลว่า รากฐานของโบราณสถานบางแห่งอาจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งจะทำให้โบราณสถานเหล่านั้นไม่มั่นคงแข็งแรงอีกต่อไป... แต่เวลานี้คงยากที่จะสรุปว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินว่าตัวโบราณสถานจะรับได้ หรือยังอยู่ในระดับที่รับไหว”

    ที่วัดพระราม ชัยนันท์ ชี้ให้ดูรอยแตกแนวดิ่งบนโครงสร้างอิฐ ซึ่งมีความยาวร่วม 2 เมตร

    “ผมว่ารอยแตกคงจะเกิดในช่วงที่น้ำท่วม สำหรับเจดีย์ขนาดเล็กนี่ยังถือว่าไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักหลายตัน จะน่าเป็นห่วงและน่ากลัวมากกว่าสำหรับผม”

    อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลมากที่สุดก็คือ ความจำเป็นที่จะต้องเปิดโบราณสถานอยุธยาให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้ง

    กระแสน้ำแห้งเหือดไป ทิ้งไว้เพียงเศษขยะและสิ่งปฏิกูลกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ตั้งแต่ถุงพลาสติกไปจนถึงกิ่งไม้หัก

    สุนีวรรณ พุดซ้อน วัย 65 ปี หนึ่งในพนักงานทำความสะอาดซึ่งกำลังเก็บกวาดขยะรอบๆองค์พระพุทธไสยาสน์ วัดโลกยสุธาราม บอกว่า เธอและเพื่อนๆตั้งใจจะทำให้โบราณสถานแห่งนี้กลับมางดงามอีกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่งานที่ง่าย เพราะระหว่างน้ำท่วมมีชาวบ้านบางคนหนีน้ำขึ้นมาอาศัยบนโบราณสถาน และทิ้งเศษขยะเอาไว้เกลื่อนกลาด ไม่เว้นแม้กระทั่งซากรถตุ๊กตุ๊ก

    “ฉันก็รู้สึกเสียใจ เพราะนี่เป็นโบราณสถานเก่าแก่และเป็นแหล่งท่องเที่ยว เราก็ควรจะช่วยกันปกป้องไว้ แต่เราไม่รู้ว่าน้ำจะมามากขนาดนี้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน” สุนีวรรณ กล่าว





    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 15:37 น.
    http://www.manager.co.th/Around/View...c2%d8%b8%c2%d2

    >> บุรีรัมย์ <<


    พิษน้ำท่วมกรุง “นกแอร์” หยุดบิน “กทม.-บุรีรัมย์” ไร้กำหนด

    บุรีรัมย์ - ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก ประกาศแจ้งผู้ใช้บริการสายการบินนกแอร์ กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ ยังระงับให้บริการอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่สนามบินดอนเมืองคลี่คลายและสามารถเปิดทำการได้ปกติ ขณะประชาชน นักธุรกิจ ยังโทรศัพท์สอบถามต่อเนื่อง

    วันนี้ (20 พ.ย.) นายสมหมาย ไชยนิจ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน นักธุรกิจ และผู้โดยสาร ที่ใช้บริการเดินทางกับสายการบินนกแอร์ ทราบว่า ทางสายการบินนกแอร์ยังระงับให้บริการเที่ยวบิน บุรีรัมย์-กรุงเทพมหานคร ออกไปอีกโดยไม่มีกำหนดหรือจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะคลี่คลาย และสามารถเปิดทำการบินได้ปกติ จากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศระงับการบินชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.-10 พ.ย.2554 เนื่องจากน้ำได้เอ่อท่วมขังรันเวย์ของท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นฐานการบินของสายการบินนกแอร์ ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดได้


    นายสมหมาย ไชยนิจ ผอ.ท่าอากาศยานบุรีรัมย์

    ทั้งนี้ สายการบินนกแอร์ ได้เปิดให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ สัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ เดินทางออกจากกุรงเทพเวลา 15.00 น.ถึงบุรีรัมย์ เวลา 16.05 น.และ เที่ยวขากลับ ออกจาก จ.บุรีรัมย์ เวลา 16.35 น.ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 17.40 น.ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้โดยสารโทรศัพท์มาติดต่อสอบถาม และมาจองตั๋วด้วยตนเองหลายรายแต่ต้องผิดหวัง อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงทางท่าอากาศยานจะแจ้งให้ผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการได้ทราบอีกครั้ง

    สำหรับสายการบินของบริษัทนกแอร์ เส้นทาง กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, จ. อุดรธานี และ จ.สกลนคร ขณะนี้ยังเปิดทำการบินตามปกติ เนื่องจากทางสายการบินได้ย้ายฐานการบินไปขึ้น-ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแทนชั่วคราว

    นายสมหมาย กล่าวต่อว่า สำหรับท่าอากาศยานบุรีรัมย์มีสายการบินนกแอร์เพียงสายการบินเดียวที่มาเปิดให้บริการ ดังนั้น การหยุดให้บริการครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการสายการบิน นักธุรกิจ และประชาชนที่ต้องการเดินทางโดยสารเครื่องบิน เพื่อไปต่างจังหวัด ติดต่อราชการ หรือติดต่องานด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก จึงขออภัยในความสะดวกในครั้งนี้ด้วยและเชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่สภาวะปกติ และจะสามารถเปิดไฟท์บินบริการประชาชนได้ตามปกติในไม่ช้านี้ เพราะหลายฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่

    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2554 16:51 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...word=%a1%b7%c1.
    Last edited by IAm; 11-21-2011 at 01:48 AM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, Siambrandname Webmaster ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  9. #19
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    28 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================



    “ในหลวง” และ “พระราชินี” พระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพัทลุง

    พัทลุง - ในหลวง และ พระราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงยังชีพแก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

    วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่บ้านปากคลองเก่า ม.ที่ 2 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน พ.อ.อนุวัฒน์ ธรรมจักร ผบก.กองพันทหารช่าง 402 ค่ายอภัยบริรักษ์ ได้นำถุงยังชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 200 ชุด มอบให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่บ้านปากคลองเก่า ม.ที่ 2 ต.มะกอกเหนือ และหมู่ที่ 9 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

    หลังจากชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวประสบภัยน้ำท่วมมานานกว่า 7 วัน และสถานการณ์น้ำยังท่วมสูง ถนนในหมู่บ้านยังไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้





    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 17:32 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000151626


    >> กรุงเทพฯ <<



    กทม.เตรียมแผน 3 ระยะดูแลเมืองกรุงให้ปลอดน้ำท่วม

    กทม.เตรียมแผนฟื้นฟู เยียวยา ป้องกันภายหลังน้ำลดเผยระยะสั้น 90 วัน เน้นดูแลจิตใจประชาชน ระยะกลางเน้นประสิทธิภาพการระบายน้ำ ส่วนระยะยาวเตรียมพัฒนาระบบลำเลียงน้ำ

    วันนี้ (28 พ.ย.) ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่ก ทม. ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟู เยียวยา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 โดย กทม.จะเร่งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในทุกมิติอย่างรวดเร็ว พร้อมวางระบบบริหารจัดการน้ำท่วม และลดความสูญเสียของกทม.ในอนาคต แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ มาตรการระยะสั้น (90 วัน), มาตรการระยะปานกลาง (1 ปี) และมาตรการระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับ พร้อมกำหนดกิจกรรมและระยะเวลาในการดำเนินงานต่อไป

    **ระยะสั้นเร่งเยียวยาจิตใจประชาชน

    สำหรับมาตรการระยะสั้นจะเร่งเยียวยาประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมเร่งสำรวจข้อมูล และการจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย สร้างโอกาสทางธุรกิจ เช่น การฝึกอาชีพ การจัดหาแหล่งงาน แหล่งเงินกู้ จัดสรรงบประมาณเร่งด่วนในการปรับปรุงทางกายภาพในพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ ปรับปรุงทางระบายน้ำ ภูมิทัศน์ บูรณะศาสนสถาน ซ่อมแซมโรงเรียน ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

    **ระยะกลางเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ

    ในส่วนของมาตรการระยะปานกลาง เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำระบบคลองและแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังมีจุดอ่อนรองรับการระบายน้ำในปี 2555 โดยขุดลอกคลอง 2,000 แห่ง ก่อสร้างเขื่อนถาวรในแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังมีจุดอ่อน จัดการอุปสรรคขวางทางระบายน้ำต่างๆ พร้อมติดตั้งเครื่องเร่งผลักดันน้ำในคูคลองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทย จัดวางระบบการประสานงานและให้มีระบบเตือนภัยให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจัดระบบข้อมูลสารสนเทศให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการวางแผนฟื้นฟูเมืองและป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

    **เตรียมพัฒนาระบบลำเลียงน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว

    นอกจากนี้ กทม.ยังได้เตรียมแผนฟื้นฟูฯ ระยะยาวโดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการลำเลียงน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น อุโมงค์ และระบบระบายน้ำต่างๆ ขุดลอกคลองขนาดเล็ก-ใหญ่ พร้อมปรับปรุงกฎหมาย ผังเมือง และกำหนดมาตรการดูแลผู้ถูกรอนสิทธิ สร้างระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการน้ำให้รองรับการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใกล้เคียง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 13:05 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000151465

    ชาวการ์เด้นโฮมร้อง ศปภ.เร่งระบายน้ำ-ขอเครื่องสูบน้ำ

    นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อดีตอธิบดีกรมวิชาการส่งเสริมการเกษตร แกนนำชุมชนหหมู่บ้านการ์เด้นโฮม ได้นำชาวชุมชนยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องต่อ ศปภ.โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับเรื่อง
    ชาวชุมชนการ์เด้นโฮม ยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่น้ำท่วมขังกว่าเดือนเศษ ในหมู่บ้านนั้นน้ำอยู่ในระดับ 1-1.50 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 770 หลังคาเรือน จึงอยากเรียกร้องให้ ศปภ.ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วยการระบายน้ำ รวมถึงการผันน้ำให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งขอเครื่องสูบน้ำภายในหมู่บ้าน และซ่อมกำแพง เนื่องจากชาวบ้านต้องการกลับเข้าบ้านให้ได้ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม เพื่อจัดงานวันพ่อ ซึ่งทางหมู่บ้านได้ดำเนินการมาทุกปี
    ขณะที่ นายปลอดประสพรับปากในเรื่องของเครื่องสูบน้ำ และการซ่อมกำแพง รวมถึงการเปิดประตูระบายน้ำ โดยขณะนี้ได้เปิดประตูระบายน้ำคลอง 2 มีความกว้าง 1.50 เมตร และเชื่อว่าหลังจากเร่งผันน้ำ จะทำให้ระดับน้ำภายในหมู่บ้าน และเหนือคันบิ๊กแบ็กลดระดับลง พร้อมกันนี้เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รื้อบิ๊กแบ็กทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากการหารือผลเป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่าย โดยยังไม่รับปากกับชาวบ้านว่า จะกลับเข้าบ้านได้ก่อนวันที่ 5 ธันวาคมหรือไม่
    โดยชาวบ้าน กล่าวว่า หากการร้องเรียนในครั้งนี้ไม่เป็นผล เตรียมจะยื่นฟ้องทั้งแพ่งและอาญากับ ศปภ.และ ครม.ทั้งคณะ ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 15:54 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000151600

    หมู่บ้านย่านดอนเมืองยังมีน้ำท่วมขังสูงครึ่งเมตร

    สถานการณ์น้ำเขตดอนเมือง แม้ว่าระดับน้ำถนนสรงประภา ถนนโกสุมรวมใจ และถนนช่างอากาศอุทิศ ลดลงแล้ว แต่น้ำที่ยังท่วมขังในหมู่บ้านและชุมชนทางเข้าหมู่บ้านย่านดอนเมือง ยังสูงกว่า 50 เซนติเมตร เช่นเดียวกับหมู่บ้านที่อยู่ย่านดอนเมืองฝั่งวิภาวดีรังสิตขาเข้า เลยฐานทัพอากาศ น้ำยังท่วมสูง ชาวบ้านกลับที่พักอาศัยไม่ได้

    ขณะที่ระดับน้ำในคลองเปรมประชากร ยังเอ่อล้นคันคลอง เป็นปัญหาในการระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่เขตดอนเมือง ชาวบ้านเรียกร้องให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำ อย่ากักน้ำเนื่องจากน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน
    ทั้งนี้ โรงเรียนสีกัน ยังมีน้ำท่วมขัง อุปกรณ์การเรียน เช่น คอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอน ตู้เก็บเอกสารเสียหาย ยังไม่พร้อมเปิดเทอม วันที่ 6 ธันวาคม ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ กำหนด แจ้งเลื่อนเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 3 ธันวาคม
    สำหรับถนนแจ้งวัฒนะ น้ำแห้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ระดมกำลังฉีดล้างทำความสะอาดเพื่อเคลียร์เส้นทาง ขณะนี้ถนนแจ้งวัฒนะเปิดใช้งานได้ตามปกติ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 17:37 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000151678

    ศธ.พร้อมปล่อยกู้ช่วยครูน้ำท่วมรายละไม่เกิน 3 แสนบาท เริ่ม ธ.ค.เป็นต้นไป

    ศธ.พร้อมปล่อยกู้เยียวยาครูน้ำท่วม ผ่านกองทุนหมุนเวียน และ ธ.ออมสิน-กรุงไทย ให้วงเงินเท่ากันไม่เกินรายละ 3 แสนบาท โดยส่วนกองทุนหมุนเวียนยอมปลอดหนี้ให้ 3 ปี ขณะที่ส่วนของธนาคาร 2 แห่งนั้น จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 4 เริ่มยื่นขอกู้ตั้งเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมกันนี้ ในวันที่ 1 ธ.ค.ศธ.จะจัดกิจกรรม 5 ธันวา ส่งทีมจิตอาสาร่วมฟื้นฟูบ้านเรือน ซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และจัดหาอุปกรณ์จำเป็นมาจำหน่ายราคาถูกให้แก่ประชาชนพื้นที่ กทม.และปริมณฑล

    นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ศธ.ได้เตรียมการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาปล่อยกู้ช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้กู้เพื่อนำเงินไปซ่อมแซมบ้าน หรือใช้จ่ายในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ปล่อยกู้กองทุนเงินหมุนเวียน ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ดูแล จำนวน 700 ล้านบาท ให้แก่ครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักบริหารงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) วงเงินรายละไม่เกิน 3 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 3 ปี สำหรับผู้กู้รายเก่าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกันก็จะปลอดดอกเบี้ยให้ 3 ปีเช่นกัน

    ส่วนที่สอง ปล่อยกู้ในส่วนของธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน วงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายใหม่ไม่เกิน 3 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ส่วนผู้กู้รายเก่าของทั้ง 2 ธนาคารก็จะได้รับการขยายวงเงินกู้เพิ่มตามศักยภาพแต่ไม่เกิน 3 แสนบาท ซึ่งในส่วนนี้กำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ 8 ปี อย่างไรก็ตาม ครูที่เดือดร้อนสามารถทะยอยยื่นเรื่องขอกู้ยืมได้ในเดือน ธ.ค.นี้

    นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในวันที่ 1 ธ.ค.2554 ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ศธ.จะจัดกิจกรรม 5 ธันวา รวบรวมจิตอาสาทั่วประเทศประมาณ 15,000 คน มาร่วมกันลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำลดแล้วในการทำความสะอาดบ้านเรือน ที่พัก ซ่อมแซมเครื่อใช้ไฟฟ้า ขจัดเชื้อรา ฉีดยาฆ่ายุง โดยจะจัดส่งทีมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix it center ออกหน่วยเคลื่อนที่ไปให้บริการ รวมถึงส่วนของวิทยาลัยเกษตร จะร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการฟื้นฟูดิน เพาะพันธุ์พืชในพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้ จะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นใช้การซ่อมแซมบ้าน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาจำหน่ายในราคาถูกด้วย

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 18:20 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000151711

    ชาวแจ้งวัฒนะ 14 รวมตัวปากซอย จี้ ศปภ.เร่งระบายน้ำออก

    ชาวบ้านในซอยแจ้งวัฒะ 14 เริ่มรวมตัวบริเวณปากซอยยื่นข้อเสนอ ศปภ.ช่วยระบายน้ำท่วมให้แห้งภายใน 3 วัน ชี้ท่วมขังเป็นเดือนสูง 60-70 ซม.ไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือ แถมน้ำเน่า ยุงชุม ยันหากไม่ส่งตัวแทนรับเรื่องจะเคลื่อนไหวต่อ





























    วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในซอยแจ้งวัฒนะ 14 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมานานนับเดือน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ปากซอย ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อเรียกร้องให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เร่งดำเนินการสูบน้ำออกจากซอยให้แห้งภายใน 3 วัน และหากยังไม่มีตัวแทนจากภาครัฐเข้ามารับเรื่องจะมีมาตรการเคลื่อนไหวต่อไป ล่าสุดการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านยังเป็นไปด้วยความสงบ ยังไม่มีการปิดถนนแต่อย่างใด

    ด้าน นายสมเดช แจ้งประสิทธิ์ แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 14 มีชุมชนขนาดใหญ่ 6-7 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมขังมา 1 เดือนกว่าแล้ว ระดับความสูง 60-70 ซม.ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลชาวบ้านอยู่กันอย่างลำบาก เพราะน้ำเน่ายุงชุมมาก จึงมีความเห็นร่วมกันว่าต้องมารวมตัวกันที่ปากซอยแจ้งวัฒนะ14 เช้าวันนี้ เพื่อให้ทาง ศปภ.ส่งตัวแทนเข้ามารับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน หากไม่มีใครออกมารับเรื่องจะกำหนดมาตรการเคลื่อนไหวต่อไป

    จี้เปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ 1.5 เมตร ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ รุดเจรจา

    หลังจากเมื่อคืนนี้เวลา 22.30 น. มีประชาชน 30-40 คน เดินทางชุมนุมที่ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เพื่อเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ 1.50 เมตร โดยอ้างว่าได้รับหนังสือคำสั่งมาจากทาง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ. ) ที่ได้ให้กรุงเทพมหานครเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ช่วงวัดหนองใหญ่ที่ระดับ 1.50 เมตร จากเดิมที่เปิดอยู่ระดับ 1 เมตร และจากการเปิดเผยของพ.ต.ท.สุรพล รื่นสุข รอง ผกก.ปป.สน.คันนายาว ว่าทางชาวบ้านได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำกันเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้เกิดเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ ( 28 พ.ย.) เวลา 08.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) จะลงพื้นที่ไปยังสำนักเขตสายไหมเพื่อตรวจสอบและเจรจากับชาวบ้าน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 19:03 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000151325

    "รศ.เสรี" ชี้ลำลูกกาจมน้ำนาน ต้องเปิดบิ๊กแบ็ก เพิ่มสูบ ทอยน้ำออกคลองหกวาฯ

    หมู่บ้านการ์เด้นท์โฮม หมู่บ้านเสมาฟ้าคราม ลำลูกกา อ่วม ปล่อยตามยถากรรมน้ำจะท่วมขังอีก 24 วัน ต้องเปิดบิ๊กแบ็กช่วย ทะลวงคลองสองเร่งระบายน้ำให้หมดใน 10 วัน แนะปตร.พระยาสุเรนทร์ ไม่ต้องเปิดเพิ่ม ให้ทอยน้ำออกปลายคลองหกวาสายล่างแทนชดเชยได้

    เมื่อเวลา 20.30 น. รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ภาพรวมวันนี้(28 พ.ย.) น้ำทะเลยังหนุนสูงอยู่อีก 2 วัน หลังจากวันที่ 1 ธ.ค.น้ำทะเลจะหนุนต่ำลง จะทำให้การระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาลงทะเลได้รวดเร็วมากขึ้น

    ในวันนี้(28 พ.ย.) ได้ไปตรวจสถานการณ์น้ำที่ ถนนสายไหม ถนนสุขาภิบาล 5 และถนนลำลูกกา โดยถนนสายไหม และสุขาภิบาล 5 สถานการณ์เบาลง น้ำในคลองหกวาล่างลดลง ส่วนที่ลำลูกกา น้ำยังลดลงไม่มากประมาณ 20 ซ.ม. แต่ยังท่วมสูงอยู่ หมู่บ้านเสมาฟ้าครามยังหนักมาก และส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว รัฐบาลจะต้องตอบคำถามชาวบ้านว่าเมื่อไรเขาจะกลับมาอยู่บ้านได้ ที่ถนนลำลูกกา การระบายยังเป็นปัญหา เนื่องจากอาศัยคลองสอง คลองหกวาสายล่าง และคลองพระยาสุเรนทร์ เป็นทางระบายน้ำ ซึ่งมีข้อจำกัดระบายน้ำได้ช้า เช่นคลองพระยาสุเรนทร์มีความยาวถึง 16 ก.ม.

    ในพื้นที่หมู่บ้านเสมาฟ้าคราม มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร มีหนทางระบายน้ำ 4 ทาง คือ ระบายน้ำออกผ่านแนวกระสอบทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ็กซึ่งสามารถเปิดบิ๊กแบ็กเพิ่มได้, การระบายออกทางคลองสอง ยังเป็นอุปสรรค ระบายไม่ค่อยไป, การระบายผ่านคลองหกวาสายล่าง น้ำก็ยังระบายไม่ค่อยไป, และการระบายผ่านคลองพระยาสุเรนทร์ ก็ระบายได้ช้า ทำให้ปริมาณที่ท่วมขังทั้งหมด 48 ล้านลบ.ม. ซึ่งในพื้นที่นี้ระบายออกได้วันละ 2 ล้านลบ.ม. จะต้องใช้เวลา 24 วันจึงจะระบายได้หมด

    สำหรับความเป็นห่วงปริมาณน้ำเหนือที่จะเข้ามาเติม ปริมาณน้ำในบล็อคบนเหนือคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ขึ้นไปทางถนนพหลโยธิน ทางอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำท่วมขัง 120 ล้านลบ.ม. โดยน้ำจะไหลเติมลงมาที่คลองหนึ่ง ซึ่งคลองรังสิตฯจะสกัดน้ำไว้ ถ้าน้ำในคลองรังสิตฯต่ำกว่าคันกั้นก็จะไม่มีน้ำใหม่เติมเข้ามา

    ดังนั้น ปริมาณน้ำ 48 ล้านลบ.ม. จะใช้เวลาะบายน้ำกว่า 20 วัน ถ้าไม่มีน้ำเติมเข้ามา ในพื้นที่หมู่บ้านการ์เด้นท์โฮม หมู่บ้านเสามาฟ้าคราม จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้องเร่งเพิ่มการสูบน้ำ สูบออกให้หมดใน 10 วัน แนวบิ๊กแบ็กจะต้องเปิดให้มากขึ้น เพราะน้ำเหนือไม่เติมลงมาแล้ว ส่วนที่คลองสอง คลองพระยาสุเรนทร์ ต้องเพิ่มการระบายน้ำ

    สำหรับการเปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์นั้น ถ้าเปิดประตูเพิ่มจาก 1 เมตร เป็น 1.50 เมตร ก็จะกระทบถนนสุขาภิบาล 5 ควรจะแก้ปัญหาโดยการไปทอยน้ำที่หกวาสายล่าง ให้ออกไปทางตะวันออกให้มากขึ้น ก็ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 21:11 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000151767

    ศธ.เล็งเลื่อนเปิดเทอม ร.ร.ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล พร้อม ร.ร.กทม.13 ธ.ค.นี้

    ศธ.จ่อเลื่อนเปิดเทอมอีก 1 สัปดาห์เฉพาะ ร.ร.ใน กทม./ปริมณฑล ที่ยังน้ำไม่ลด ขยับไปเปิดวันที่ 13 ธ.ค.พร้อม ร.ร.ใน กทม.ส่งผลเลื่อนวันสอบ O-Net ป.6 และ ม.3 ขยับออกไปอีก 2 สัปดาห์ รมว.ศธ.แจง เพื่อไม่ให้เหลือเวลาเรียนกระชั้นเกินไป จนต้องมาสอนชดเชยวันเสาร์-อาทิตย์ ย้ำ นโยบาย ศธ.ไม่ยอมให้เด็กเรียน 7 วัน หวั่นทำเด็กเหนื่อยและเครียดเกินไป

    นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ศธ.เตรียมแผนสำรองรองรับไว้เผื่อกรณีที่มีโรงเรียนจำนวนหนึ่งไม่สามารถเปิดภาคเรียนในวันที่ 6 ธ.ค. ได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) อีกรอบ รวมถึงต้องเลื่อนปฏิทินรับนักเรียนออกไปด้วย อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ต้องมีแผนสำรองไว้ เพราะจากการประเมินเบื้องต้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คาดว่า จะมีโรงเรียนจำนวนหนึ่งใน กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม หรือแม้แต่ในจังหวัดรอบนอก ไม่สามารถเปิดภาคเรียนได้ภายในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ซึ่งในวันที่ 29 พ.ย.นี้ สพฐ.จะรายงานข้อมูลที่ชัดเจนมาอีกครั้ง ว่า มีโรงเรียนใดบ้างที่ต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปอีก ทั้งนี้ โรงเรียนกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เปิดวันที่ 13 ธ.ค.แทน แต่โรงเรียนอื่นที่น้ำลด มีความพร้อมเพียงพอแล้วให้เปิดภาคเรียนวันที่ 6 ธ.ค.ตามเดิม

    รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้หารือเบื้องต้นว่า เมื่อโรงเรียนจำนวนหนึ่งจำเป็นต้องเปิดภาคเรียนหลังวันที่ 6 ธ.ค. แล้ว ก็จำเป็นต้องเลื่อนวันสอบ O-Net ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 6 และ มัธยมศึกษาที่ 3 อีกรอบ ซึ่งจากเดิมได้เลื่อนไปแล้ว 1 ครั้ง โดยนักเรียนชั้น ป.6 เดิมสอบวันที่ 1 ก.พ.2555 เลื่อนเป็นวันที่ 15 ก.พ.2555 นักเรียนชั้น ม.3 เดิมสอบวันที่ 2-3 ก.พ.2555 เลื่อนเป็นวันที่ 16-17 ก.พ.2555 และประกาศผลสอบวันที่ 31 มี.ค.2555 ส่วน นักเรียนชั้น ม.6 ให้สอบตามปฏิทินเดิม คือ วันที่ 18-19 ก.พ.55 และประกาศผลสอบวันที่ 10 เม.ย. 2555

    อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และ สพฐ.ไปหารือกันในเรื่องนี้ แต่มีแนวโน้ม อาจขยับวันสอบออกไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อให้โรงเรียนส่วนใหญ่มีเวลาจัดการเรียนการสอนได้โดยไม่ต้องสอนชดเชยในวันเสาร์และอาทิตย์ นโยบายของ ศธ.ชัดเจนว่า อยากให้โรงเรียนสอนชดเชยเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ หากจำเป็นจริงๆ จึงค่อยสอนชดเชยในวันเสาร์ แต่จะไม่ให้เรียน 7 วันตั้งแต่จันทร์-อาทิตย์ เพราะจะทำให้เด็กเหนื่อยเกินไปและเป็นการสร้างความเครียดให้ทั้งเด็กและผู้ปกครอง

    “ ถ้าเลื่อนวันสอบO-Net ออกไปอีก 2 สัปดาห์ จะมีเวลาเหลือเพียงพอให้โรงเรียนที่เปิดภาคเรียนในวันที่ 13 ธ.ค.จัดการเรียนการสอนได้จบครบหลักสูตรโดยอาศัยแค่การสอนชดเชยในวันปกติ ไม่ต้องสอนชดเชยในวันเสาร์ ยกเว้นโรงเรียนที่น้ำท่วมหนัก จำเป็นต้องเลื่อนเปิดเทอมออกไปมาก อาจต้องสอนชดเชยในวันเสาร์ตามความจำเป็น แต่จะไม่ให้สอนชดเชยในวันอาทิตย์เด็ดขาด เมื่อเลื่อนวันเปิดภาคเรียนออกไปแล้ว ก็จำเป็นต้องเลื่อนสอบ O-Net และต้องเลื่อนปฏิทินรับนักเรียนของ สพฐ.ออกไปด้วย ทั้งนี้ กำหนดการสอบ O-Net ที่แน่นอน จะสามารถประกาศได้ เมื่อผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด สทศ.ก่อน จากนั้น สพฐ.ก็จะสามารถประกาศปฏิทินรับนักเรียนใหม่” นายวรวัจน์ กล่าว

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 18:06น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...d3%b7%e8%c7%c1


    >> นนทบุรี <<


    กรมชลฯ มั่นใจเมืองนนท์น้ำลดก่อนสิ้นปีนี้

    นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงแผนการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ จ.นนทบุรี แบ่งพื้นที่การระบายน้ำออกเป็น 29 บล็อก ว่า กรมชลประทานเร่งระบายน้ำในพื้นที่วิกฤต ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เช่น อ.บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง ส่งผลให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยระบายน้ำทั้ง 29 บล็อก ลงคลองพระพิมล คลองพระยาบรรลือ คลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกรวย คลองบางบัวทอง ถนนกาญจนาภิเษก เพื่อระบายน้ำออกแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้เร่งสูบน้ำในหมู่บ้านชลลดา ทั้งหมู่ 1 และ หมู่ 2 อ.บางใหญ่ ซอยประมวลสุข หมู่บ้านธนากร 2 และ 4 ออกไปยังคลองบางกอกน้อย บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางไผ่ ต.บางศรีทอง ทั้งนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำใต้สะพานพระราม 5 ฝั่งวัดนครอินทร์ อ.เมือง
    ด้านเทศบาล อ.เมืองปทุมธานี และเทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี เร่งระดมสูบน้ำ โดยใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 10 เครื่อง โดยเฉพาะหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี และตลาดรังสิต ส่วนหมู่บ้านเมืองเอก อยู่ระหว่างการหาแนวทางระบายน้ำที่เหมาะสม เนื่องจากปริมาณน้ำท่วมขังสูงมาก โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมใต้ และประตูระบายน้ำจุฬา เพื่อระบายลงคลองรังสิต ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อว่าช่วยปริมาณน้ำในเมืองเอกลดระดับลงเช่นเดียวกับพื้นที่เขตสายไหม คาดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ภายในเดือนธันวาคม จะมีพื้นที่น้ำลดมากขึ้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 16:42 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...b7%ba%d8%c3%d5

    >> นครปฐม <<


    ถ.เพชรเกษม มุ่งหน้านครปฐมระดับน้ำลดลงเกือบหมด

    ตลอดเส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไป จ.นครปฐม ระดับน้ำได้ลดลงจนเกือบแห้ง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว มีเพียงบางจุดที่มีน้ำขังอยู่แต่น้อยมาก โดยขณะนี้สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตบางแค ได้ระดมเจ้าหน้าที่มาเร่งปรับปรุงซ่อมผิวการจราจร และเก็บขยะจำนวนมากที่กองอยู่ริมถนน แต่จุดที่ยังมีปัญหาน้ำท่วมขังอยู่คือ หมู่บ้านเศรษฐกิจ
    ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านกว่า 50 คน มารวมตัวกันเรียกร้องให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแล เพราะถูกน้ำท่วมขังมานานกว่าเดือนแล้ว และไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนกับจุดอื่นภายในเขตเดียวกัน และยังมีสัตว์มีพิษจำนวนมาก
    ผู้อำนวยการเขตบางแค เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่โดยรวมคลี่คลายลงมาก จุดที่เป็นห่วงคือ หมู่บ้านเศรษฐกิจที่มีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งทางเขตได้ไปทำสะพานไม้ไว้ให้ เพื่อใช้เดินทางเข้าออกภายในหมู่บ้าน และฝากถึงประชาชนในพื้นที่ขอให้ใจเย็นๆ สถานการณ์น้ำกำลังคลี่คลาย รวมทั้งเรื่องปัญหาซึ่งกำลังเร่งเก็บอยู่ จากเดิมวันละ 1-2 เที่ยว เพิ่มเป็น 4 เที่ยวต่อวันแล้ว เนื่องจากเขตบางแคเป็นพื้นที่ใหญ่ทำให้มีขยะมาก และยังพบว่าเป็นขยะใหญ่จากเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่สามารถใช้แรงงานคนได้ ต้องใช้รถยกมาช่วย และขอบคุณประชาชนที่ช่วยวางขยะเป็นจุด ทำให้ง่ายต่อการขนย้าย

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 16:51 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...a4%c3%bb%b0%c1

    สสจ.นครปฐมลั่นฆ้องฟื้นฟูคืนสุขภาพดีให้ประชาชนหลังน้ำลด

    นครปฐม - สสจ.เมืองเจดีย์ใหญ่ รณรงค์ประชาชนฟื้นฟูบางส่วนหลังน้ำลด แนะวิธีใช้อีเอ็มแก้ปัญหาส้วมตันส้วมเหม็น รณรงค์ 6 กิจกรรม ได้แก่ “น้ำลด ล้างลดโรค บริโภคปลอดภัย พาหะร้ายเร่งกำจัด บำบัดด้วยอีเอ็ม จัดเต็มบริการ รักษาพยาบาลฟื้นฟู”

    วันนี้ (28 พ.ย.) ดร.นพ.ถวัลย์ พบลาภ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครปฐม ได้จัดการดีเดย์ วันครบรอบสถาปนากระทรวงสาธารณสุข เปิดกิจกรรมรณรงค์ “รวมพลังคืนสุขภาพดีสู่พี่น้องจังหวัดนครปฐม” ที่ตลาด-บางหลวง ร.ศ.112 ระดมภาคีเครือข่ายเข้าร่วมรณรงค์ 6 กิจกรรมหลักลดโรค ได้แก่ การทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน ตรวจสอบสารปนเปื้อนในน้ำและอาหาร การกำจัดสัตว์และแมลงนำโรค การบำบัดน้ำเสียด้วยสารอีเอ็ม แนะการฟื้นฟูสุขภาพกาย-สุขภาพจิตหลังน้ำลด และการตรวจรักษาพยาบาล

    “สถานการณ์น้ำจังหวัดนครปฐมเริ่มคลี่คลาย จึงเชิญชวนประชาชนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคีเครือข่ายอาสาสมัครต่างๆ ฟื้นฟูและดูแลให้พี่น้องทุกคนกลับเข้าสู่บ้านอย่างปกติสุข มีสุขภาพดี และในสภาพแวดล้อมที่ไม่ก่อให้เกิดโรคหลังผ่านช่วงเวลาที่วิกฤตอุทกภัย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือตั้งสติ

    ส่วนผู้ที่มีภาวะเสี่ยง เช่น ผู้มีโรคเรื้อรัง คนพิการ คนชราควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียด การดูแลจิตใจให้พูดคุยปรึกษากัน สังเกตอาการคนในครอบครัวหากเครียด ซึมเศร้านอนไม่หลับควรพบแพทย์

    จากนั้นต้องฟื้นฟูอาคารที่พักอาศัย ขัดล้างทำความสะอาดกำจัดเชื้อโรค โดยนอกจากเชื้อโรคที่มากับน้ำอาจมีสารเคมี เชื้อราจึงต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง สิ่งของที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้หมดควรตัดใจทิ้ง เสื้อผ้า จานชาม ต้องซักทำความสะอาดใหม่ เปิดบ้านให้มีลมระบายอากาศ น้ำกิน-น้ำใช้ ต้องสำรวจร่องรอยแตกรั่ว และคุณภาพน้ำว่ามีตะกอนหรือไม่

    หากไม่มั่นใจควรปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนใช้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การแกว่งสารส้ม ส่วนน้ำกินหลังน้ำลดควรดื่มน้ำที่มั่นใจว่าสะอาด หรือควรดื่มต้มสุก ห้องน้ำห้องส้วมในบ้านเรือน เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูแล เนื่องจากเป็นแหล่งรองรับสิ่งขับถ่าย คาดว่าจะได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านครัวเรือน

    ปัญหาที่พบ คือ ส้วมอุดตัน ราดน้ำไม่ลง ส้วมเต็ม เพราะน้ำเข้าไปท่วม มีกลิ่นเหม็น แนะนำให้ขัดทำความสะอาดและใช้อีเอ็ม ชนิดน้ำหรือชนิดผงละลายน้ำราดลงในโถส้วม เพื่อให้จุลินทรีย์ไปย่อยสลายสิ่งสกปรกที่อยู่ในส้วม กลิ่นจะลดลงเห็นผลภายใน 1-2 วัน ไม่ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาดับกลิ่นราดลงในโถส้วมเนื่องจากสารเคมีจะไปทำลายจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทำให้การย่อยสลายช้าและไม่ได้ผล

    ขยะเก็บรวบรวมกำจัด อีกทั้งการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่จมน้ำควรทำโดยช่างและตัดวงจรไฟฟ้าก่อน จนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย การซ่อมโครงสร้างบ้านที่เสียหาย และการตรวจสอบท่อแก๊สว่าปลอดภัยก่อนใช้งาน

    ดร.นพ.ถวัลย์ กล่าวถึงการดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยที่ผ่านมา ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการ ศูนย์พักพิงต่างๆ จนถึงวันนี้พบผู้ป่วยจากน้ำท่วมรวม 68,381 ราย อาการไม่รุนแรง ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อย ผื่นคัน โรคเรื้อรัง และเครียด แต่ยังไม่พบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนู

    ส่วนการดูแลสุขภาพจิต ได้ตรวจคัดกรองผู้ประสบภัยและประชาชนทั่วไปแล้ว 12,032 คน พบผู้มีความเครียด ร้อยละ 8 พบผู้ที่มีอารมณ์ซึมเศร้า คิดเป็นร้อยละ 6 พบผู้ที่มีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย ร้อยละ 2 ผู้ประสบภัยที่ต้องติดตามดูแลพิเศษเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะดูแลอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 17:19 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...a4%c3%bb%b0%c1

    >> พระนครศรีอยุธยา <<


    หลายกิจการในนิคมฯ โรจนะทยอยเลิกจ้างแรงงาน

    นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้กลับเข้าสู่สภาพปกติ พบว่าโรงงานถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ต้องใช้เวลาฟื้นฟูให้กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ทำให้โรงงานหลายแห่งตัดสินใจปลดพนักงานแล้วหลายแห่ง บางโรงงานย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น เช่น บริษัทนิคอน แห่งประเทศไทย และบริษัทเอ็มเอ็นบี พบว่ามีโรงงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเตรียมปลดพนักงาน 2,000 คน หลังจากปลดพนักงานแล้วกว่า 500 คน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 11:59 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...2%d8%b8%c2%d2+

    กรมศิลป์เร่งสูบน้ำออกจากวัดไชยวัฒนาราม

    แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลงต่อเนื่อง ทำให้การสูบน้ำออกจากโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม สะดวกขึ้น วันนี้พบว่าการสูบน้ำออกเกือบแห้ง เหลือเพียงพื้นสนามหญ้าชั้นล่างที่ยังท่วมสูง 60 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่กรมศิลปากา ยังต้องเลี้ยงระดับน้ำนี้ไว้ เพื่อไม่ให้ตัวโบราณสถานเสียหาย หากสูบน้ำแห้งทั้งหมด กลัวว่าโบราณสถานจะทรุดตัวได้

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 12:46 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...2%d8%b8%c2%d2+

    พิษน้ำท่วมกรุงเก่าประเดิมตกงานล็อตแรก รง.จ้างพนักงานออก 1,700 คน

    พระนครศรีอยุธยา - ประเดิมน้ำท่วมพระนครศรีอยุธยา 2 โรงงาน ลงขันเลิกจ้างพนักงานกว่า 1,700 คน อีก 59 บริษัทระส่ำ ทยอยจ้างออกเพิ่มอีกกว่า 4,000 คน


    วันนี้ (28 พ.ย.) พนักงานบริษัท มินอิก เทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด และพนักงานบริษัท เอ็มยูเทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา 1,723 คน ทยอยเข้าแถว เพื่อรับเงินชดเชยจากทางบริษัท หลังจากทั้ง 2 บริษัท เลิกจ้างพนักงาน เนื่องมาจากสภาพปัญหาน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จนไม่สามารถเปิดการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่งต่อให้กับบริษัทแม่ที่อยู่ในเมืองไทย และมาเลเซีย ได้ ทั้งนี้ พนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะมีทั้งพนักงานทั้งที่เป็นพนักงานรายวัน และพนักงานประจำ

    นางวาณี อินทกูลอายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยูธยา พนักงานบริษัท มินอิก เทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมีการเลิกจ้าง ทางบริษัทฯ ไม่เคยแจ้งให้พนักงานทั้งหมดทราบล่วงหน้า ซึ่งการบอกเลิกจ้างทางบริษัทจะต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า

    นอกจากนี้ น้ำท่วมที่ผ่านมา ทางบริษัทอ้างว่าขาดทุน และไม่มีแผนที่ชัดเจนให้กับพนักงาน ว่า จะเปิดการผลิตเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ยังมีการฝากไปยังรัฐบาล หาทางแก้ปัญหาแรงงานตกงานหลังจากนี้ ไม่ใช่ออกมาพูดในลักษณะนโยบาย ซึ่งจะต้องมีการทำงานทันที

    สำหรับการจ่ายเงินชดเชยวันนี้ ทางบริษัทจ่ายเป็นเช็คให้กับพนักงาน 1,723 คน รวมเป็นเงิน 62 ล้านบาท โดยล่าสุดจากการตรวจสอบผู้ประกันตนกรณีว่างงานที่ขึ้นทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม - 25 พฤศจิกายน 2554 กับทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจำนวน 58 แห่ง รวมผู้ว่างงาน 4,047 คน

    ส่วน นางอุไรวรรณ ทาสะอาด อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพนักงานซับคอนเทคของบริษัท เวิร์ล เอเชีย เป็นบริษัทที่รับงานมาจากบริษัท มินอิก บอกว่ายังไม่มีความชัดเจนที่บริษัทจะจ่ายเงินให้กับพนักงานบริษัทซับคอนเทค

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 17:59 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...2%d8%b8%c2%d2+

    >> ภาคใต้ <<



    สบส.เร่งทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด พร้อมส่งทีมดูแลสถานบริการภาคใต้

    สบส.เร่งทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด เผยเครื่องมือแพทย์ชุดใหญ่เสียหายหนักสุด น้อมรับนโยบาย สธ.เดินหน้าซ่อมบำรุง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ดูแลภาคใต้ หวั่นกระทบหนัก

    นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงแผนการฟื้นฟูสถานบริการสาธารณสุขหลังน้ำลดว่า สำหรับแผนการฟื้นฟูนั้นจะเน้นที่การสนับสนุนอุปกรณ์ปั่นไฟ และเครื่องอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เก็บของ ซึ่งเป็นเครื่องมือขนาดใหญ่ที่เคลื่อนย้ายยากจึงได้รับความเสียหายมากที่สุด และกสรสร้างกำแพงโรงพยาบาล (รพ.) บางส่วน ที่พังทลายและเสียหายจากมวลน้ำ ซึ่ง รพ.พระนครศรีอยุธยานั้นได้รับความเสียหายมากที่่สุด สส่วนเครื่องมือแพทย์อื่นๆ นั้นสามารถขนย้ายได้ทัน ยังมีบางส่วนเท่านั้นที่เสียหาย ส่วนมากจะเป็นในโรงพยาบาลขนาดเล็กซึ่งมีเครื่องมือแพทย์สำรองบางส่วนแล้ว เช่น ชุดตรวจสุขภาพ เครื่องมือวัดต่างๆ เป็นต้น

    นพ.สมชัยกล่าวว่า หลังจากน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง รวมทั้ง กทม.บางส่วนสถานการณ์น้ำเริ่มลดลงแล้ว สบส.จะเร่งดำเนินการซ่อมบำรุงพื้นที่ให้บริการเพื่อให้กลับมาบริการได้ 100% โดยเร็วที่สุดตาม นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมทั้งกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการป้องกันภัยพิบัติครั้งหน้าด้วย ทั้งอุทกภัย วาตภัย และแผ่นดินไหว ระหว่างที่พื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางอยู่ระหว่างการฟื้นฟูนั้น สบส.ยังมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความเสียหายที่พื้นที่ภาคใต้ในทุกจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการป้องกันสถานบริการในพื้นที่ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 10:45 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...2%d8%b8%c2%d2+

    ศอส.สรุปน้ำท่วมภาคใต้-ประกาศภัยพิบัติแล้ว 6 จว.

    ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศอส. สรุปสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ว่า มีพื้นที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส และสงขลา
    ส่วนจังหวัดยะลา มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ 5 อำเภอ ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย 16 จังหวัด ยังมีอยู่


    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 17:11 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...d3%b7%e8%c7%c1

    >> ปัตตานี <<


    น้ำท่วมปัตตานีคงที่เตรียมรับมือมรสุมอีกครั้ง 1 ธ.ค.นี้

    ปัตตานี - สถานการณ์น้ำท่วมในปัตตานีเริ่มคงที่ แต่ทางจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้ง 12 อำเภอ เพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการได้อย่างสะดวก ส่วนภายในเขตเทศบาลเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เผย 1 ธ.ค.นี้ เตรียมรับมือมรสุมอีกครั้ง



    วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานีวันนี้เริ่มคงที่ เนื่องจากฝนได้หยุดตก แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลที่หนุนสูงในระยะนี้ ประกอบกับยังต้องระบายน้ำจากที่สูงเพื่อไหลออกสู่ทะเล ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมไม่ขยายวงกว้างแต่ยังคงมีหลายตำบลที่เป็นทางผ่านแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี มีน้ำท่วมขังสูงในบางตำบลที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทั้งใน อ.เมือง อ.กะพ้อ อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.สายบุรี แต่สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะฝนได้หยุดตกแล้ว

    จากสถานการณ์น้ำที่ยังคงท่วมในหลายตำบลแม้จะไม่รุนแรง ในวันนี้ทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศให้ทั้ง 12 อำเภอ จำนวน 60 ตำบล 247 หมู่บ้านของ จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งจังหวัด เพื่อความสะดวกของส่วนราชการในการให้การช่วยเหลือตามระเบียบราชการแก่ประชาชนได้ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งคาดว่า จ.ปัตตานี ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำอีกระยะหนึ่งจากภาวะน้ำทะเลหนุนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน และจะได้รับผลกระทบจากฝนตกนักจากอิทธิพลของลมมรสุมอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1ธันวาคมนี้

    อย่างไรก็ตาม น้ำทะเลหนุนสูงระยะนี้ส่งผลต่อการระบายน้ำของแม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่าน อ.เมืองปัตตานี เพื่อออกสู่ปากอ่าวปัตตานี ทางเทศบาลเมืองปัตตานีจึงได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำและป้องกันน้ำไหลย้อนกลับเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเมือง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 14:57 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000151540

    >> นราธิวาส <<


    นราฯ ประกาศเตือนประชาชนระวังอุบัติเหตุช่วงน้ำท่วม

    นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาสประกาศเตือนประชาชนระมัดระวังอุบัติเหตุช่วงเกิดอุทกภัย หลังในพื้นที่มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 2 ราย

    วันนี้ (28 พ.ย.) ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียและได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลบุตรหลานไม่ให้ลงเล่นน้ำ ไม่ควรขี่ยานพาหนะฝ่าลงกระแสน้ำ ระมัดระวังการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ระวังสัตว์มีพิษ และให้ดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร ตลอดจนผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ควรออกจากบ้านตามลำพังขณะที่มีสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สำหรับในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส หลังจากเกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่ต่างๆ มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นประชาชนในพื้นที่ อ.จะแนะ 1 ราย คือ นายสุเปียน อาบู อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 172 หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ เป็นโรคลมชักขณะเดินลุยน้ำในพื้นที่ และอีก 1 ราย จากการเล่นน้ำในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบศพ







    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 16:55 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...d3%b7%e8%c7%c1

    >> ปัตตานี <<


    กว่า 10 โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมในปัตตานียังปิดไม่มีกำหนด

    ปัตตานี - โรงเรียนกว่า 10 แห่ง ใน 5 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมยังคงปิดไม่มีกำหนด โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านกือยา ต.ปะกาฮารัง และโรงเรียนบ้านปาการีมอปูโละ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง คาดว่าจะต้องใช้เวลาร่วม 1 เดือนจึงจะเปิดเรียนตามปกติได้

    วันนี้ (28 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ปัตตานี เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่และยังขยายวงกว้างกินพื้นที่ในหลายอำเภอ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งเหตุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อนักเรียนที่จะต้องหยุดเรียนไปด้วย เนื่องจากโรงเรียนถูกน้ำท่วมสูง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดปัตตานี ทั้ง 3 เขต จึงได้ออกสำรวจในแต่ละอำเภอ

    โดยพบว่า โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนไปแล้วกว่า 10 โรง ในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยะรัง อ.หนองจิก อ.แม่ลาน และ อ.กะพ้อ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี ที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงอยู่กว่า 2 เมตร อาคาเรียน โรงอาหาร จมอยู่ใต้น้ำ ทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนโดยปริยาย และไม่มีกำหนดจนกว่า สถานการณ์น้ำจะกลับเข้าสภาวะปกติ

    โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านกือยา ต.ปะกาฮารัง และโรงเรียนบ้านปาการีมอปูโละ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง คาดว่าจะต้องใช้เวลาร่วม 1 เดือนจึงจะเปิดเรียนตามปกติได้

    อย่างไรก็ตาม จังหวัดปัตตานียังคงประกาศให้พื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติและมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ล่าสุดพบว่ามีพื้นที่เกิดอุทกภัย 66 หมู่บ้าน 258 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือนร้อน 15,355 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 4,000 ไร่











    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 21:09 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...d3%b7%e8%c7%c1

    >> ฉะเชิงเทรา <<


    อุตสาหกรรมใต้แนวน้ำทิ้งเริ่มเชื่อมั่นไม่ถูกน้ำท่วมแล้ว

    ฉะเชิงเทรา-เขตนิคมอุตสาหกรรมใต้แนวน้ำทิ้งฝั่งตะวันออก พร้อมกลุ่มโรงงานย่านบางปะกงเริ่มเชื่อมั่นไม่ถูกน้ำท่วมแล้ว หลังพากันตะลุยรื้อพังแนวกระสอบทรายพร้อมกำแพงป้องน้ำทิ้งออกจากพื้นที่ด้านหน้าสถานประกอบการจนหมดเกลี้ยงแล้ว

    วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมใต้แนวเดินน้ำทิ้งจากทางภาคเหนือ และ กทม. ย่านอ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนหลายร้อยโรงงาน ที่ได้ทำการก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำสูงถึงกว่า 2-4 เมตร พร้อมแนวกระสอบทรายจำนวนมหึมา ได้พากันรื้อทำลายกำแพงทั้งหมดที่ได้เร่งระดมก่อสร้างขึ้น ตลอดเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นำออกทิ้งจากบริเวณรอบกำแพงรั้วจนหมดแล้ว หลังจากมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีน้ำไหลเข้ามาท่วมพื้นที่อีก

    โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ที่ก่อนหน้านี้ได้เคยวิตกกังวลอย่างหนัก เพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกรัฐบาลผันน้ำ ปล่อยระบายผ่านเข้ามาลงใส่ในพื้นที่เหมือนกับนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในแถบลุ่มน้ำภาคกลาง และ กทม.จึงได้ตั้งแนวกำแพงกระสอบทรายขนาดมหึมาสูงถึงกว่า 3-4 เมตร โดยเฉพาะรอบบริเวณพื้นที่ของนิคม ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ภายในมากถึงกว่า 300 โรงงานนั้น ขณะนี้แนวกำแพงกั้นน้ำดังกล่าวได้ถูกรื้อออกทิ้งจนหมดเกลี้ยงแล้วเช่นกัน

    สอบถามนายทวี มงคลรัตน์ อายุ 38 ปี หัวหน้างานฝ่ายซ่อมบำรุงของผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ย่านริมถนนสายบางนา-ตราด กม.37 เลขที่ 64 ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง ซึ่งกำลังทำการควบคุม ให้คนงานเข้าทำการรื้อกระสอบทราย ที่บริเวณด้านหน้าโรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริหารของบริษัทมีความมั่นใจแล้วว่า จะไม่มีน้ำไหลเข้ามาท่วมพื้นที่ของโรงงานแล้ว

    หลังจากได้มีการจับตาเฝ้าดูสถานการณ์และติดตามข่าวสารผ่านทางสื่อมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีความตกใจกันมาก เพราะมีข่าวว่าจะมีการผันปล่อยระบายน้ำทิ้งมาทางนี้ และยังเห็นว่ามีนิคมอุตสาหกรรมอีกหลายแห่งถูกปล่อยจมน้ำด้วย จึงได้พากันเร่งสร้างกำแพงสูงกว่า 3 เมตรขึ้นมาล้อมรอบตัวโรงงานเอาไว้

    ซึ่งโรงงานมีความอ่อนไหว และเสี่ยงต่อความเสียหายสูงมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นั้นเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ แต่พอมาถึงตอนนี้แล้วเชื่อว่าสถานการณ์ได้ผ่านเลยจุดวิกฤติสูงสุดไปแล้ว เพราะไม่มีน้ำไหลผ่านมาทางนี้สักหยด และยังเห็นได้ว่าพื้นที่หลายแห่งโดยเฉพาะพื้นที่ภายในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ตามอำเภอต่างๆ ที่เคยถูกน้ำท่วมนั้น น้ำได้แห้งลดลงหมดแล้ว ถึงวันนี้จึงมั่นใจแล้วว่าจะไม่มีน้ำจากที่ไหนไหลเข้ามาท่วมโรงงานอีกเพราะว่าน้ำมาไม่ได้

    ถึงขณะนี้จึงอยากฝากความมั่นใจไปถึงยังนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนจากต่างชาติ ด้วยว่า พื้นที่ในเขตย่าน อ.บางปะกง แห่งนี้ ปลอดภัยจากน้ำท่วม จนสามารถฝ่าผ่านวิกฤติต่างๆ ที่หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งทางภาคกลาง และ กทม. แต่ที่นี่รอดพ้นผ่านจากภัยพิบัติทั้งหมดมาได้แล้ว









    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 18:42 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...d3%b7%e8%c7%c1

    ข่าวน้ำท่วมในต่างประเทศ

    >> ออสเตรเลีย <<


    ออสเตรเลียสั่ง ปชช.เร่งอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วม

    ทางการออสเตรเลีย ประกาศให้ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่ยังสามารถออกจากบ้านเรือนได้ให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ไปยังที่ปลอดภัย หลังเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) เกิดฝนตกหนักจนน้ำเอ่อท่วมสูง ขณะที่พื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประชาชนราว 2,000 คน ยังติดอยู่ท่ามกลางวงล้อมของน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้
    ด้านหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเล็ก ลำเลียงสิ่งไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างยากลำบาก

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 15:59 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...d3%b7%e8%c7%c1
    >> สหรัฐอเมริกา <<


    สหรัฐน้ำท่วมหนัก!! ชาวบ้านเร่งอพยพจากบ้านเรือน

    สถานการณ์น้ำท่วมทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ขณะนี้ อาสาสมัครระดมกำลังค้นหาเด็กชายวัย 7 ขวบคนหนึ่ง ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดพาสูญหายไป ขณะกำลังเล่นกับเพื่อนๆ ริมแม่น้ำ
    นอกจากอาสาสมัครแล้ว ยังมีทีมนักประดาน้ำ ที่เข้าร่วมในการค้นหาด้วย ที่เมืองโมลีนชาวบ้านรวม 2,000 คน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลังถนนหลายสายถูกน้ำท่วม ทางการต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงอาหาร และยารักษาโรค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งขอให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่อพยพออกจากบ้านเรือน หลังระดับน้ำยังคงท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ และจนถึงขณะนี้มีชาวเมืองอพยพออกจากบ้านเรือนแล้วหลายสิบหลัง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2554 14:19 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000151529
    Last edited by IAm; 11-28-2011 at 11:54 PM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach, Euphrates ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

  10. #20
    IAm's Avatar
    IAm is offline Trusted Member
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    448
    Blog Entries
    4

    29 พฤศจิกายน 2554
    ==================================================


    >> กรุงเทพฯ <<


    ชาวสายไหมโวยม็อบปทุมฯเปิด ปตร.พระยาสุเรนทร์

    ชาวบ้านเหนือ ปตร.พระยาสุเรนทร์ อ้างน้ำเริ่มลดระดับ หลังบุกเปิด ปตร.ที่ระดับ 1.50 เมตร และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ชี้ หาก กทม.ช่วยระบายน้ำชาวสายไหมและบางเขน ไม่น่าได้รับผลกระทบ ด้านชาวสายไหมรีบโวยทันที บอกทำให้เดือดร้อน หวิดปะทะกัน แต่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วน กทม.ส่งผู้แทนเจรจาแต่ชาวบ้านยันเจรจากับผู้ว่าฯ กทม.คนเดียวเท่านั้น

    วันนี้ (29 พ.ย.) ชาวบ้านย่านลำลูกกา ซึ่งอยู่เหนือประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ยังคงรวมตัวกันบริเวณสะพานด้านหน้าประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่คืนวานนี้ได้รวมตัวบุกเปิดประตูระบายน้ำจาก 1 เมตร ให้กลายเป็น 1.50 เมตร และยังปักหลักเฝ้าติดตามสถานการณ์ เพราะเกรงว่า กทม.จะปิดประตูระบายน้ำเหลือเพียง 1 เมตร โดยชาวบ้านระบุว่า เมื่อเปิดประตูระบายน้ำ ระดับ 1.50 เมตร พบว่า น้ำที่เคยท่วมสูงในชุมชนเหนือประตูระบายน้ำ ทั้ง อ.ธัญบุรี คลองหลวง และลำลูกกา จ.ปทุมธานี เริ่มลดลง หากกรุงเทพมหานครช่วยเร่งระบายน้ำ เชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้านเขตสายไหม หรือเขตบางเขน ที่อยู่ใต้ประตูระบายน้ำ น่าจะไม่มี

    ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านย่านสายไหม ซึ่งอยู่ด้านใต้ประตูระบายน้ำ ไม่พอใจการกระทำดังกล่าว จึงได้ออกมารวมตัวเช่นกัน โดยมีชาวบ้าน 2 ราย ที่แสดงอาการโกรธไม่พอใจ และตะโกนต่อว่า พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ซึ่งเป็นแกนนำในการเปิดประตูระบายน้ำว่า การกระทำครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านย่านสายไหม พื้นที่ใต้ประตูระบายน้ำได้รับความเดือดร้อน เพราะเชื่อว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น จากนั้น พ.ต.ต.เสงี่ยม จึงได้เดินทางเข้าไปเจรจาถึงเหตุผลในการรวมตัวกัน ก่อนที่คนทั้ง 2 จะแยกย้ายเดินทางออกไป โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

    นอกจากนี้ ยังคงมีชาวบ้านย่านสายไหม บางส่วนที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า อยากให้ ศปภ.และ กทม.หาข้อยุติในเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำในจุดนี้อย่างชัดเจน เพราะไม่ต้องการให้ชาวบ้าน 2 พื้นที่ทะเลาะกัน

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีตัวแทนจาก ศปภ.และ กทม.ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ส่งเจ้าหน้าที่จาก สน.คันนายาว และ สายไหม เข้ามาควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากเกรงว่า หากปล่อยเวลาให้นานออกไปสถานการณ์อาจรุนแรงได้ แต่ชาวบ้านยืนยันเรียกร้องด้วยความสงบ ไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องความเดือดร้อนล้วนๆ และหากเปิดประตูระบายน้ำเพียง 1 เมตร ชาวบ้านจะหามาตรการที่เปิด 1.50 เมตรให้ได้

    ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ส่ง นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการกองอาคารบังคับน้ำ เป็นผู้แทนมาเจรจากับชาวบ้านปทุมธานี นำโดย พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ เป็นแกนนำ ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยชาวบ้านเสนอข้อเรียกร้องให้คงที่การเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ 1.50 เมตร เพื่อช่วยระบายความเดือดร้อนชาวปทุมธานีในขณะนี้ลงมา

    นอกจากนี้ ยังยืนยันที่จะเจรจากับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียว เพราะมีอำนาจตัดสินใจให้เปิดหรือปิดประตูระบายน้ำ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าใจผิดว่า ที่ชาวบ้านมาเรียกร้องเป็นผู้ชุมนุมที่จัดตั้งโดยรัฐบาล หรือ ศปภ.ซึ่งชาวบ้าน ยืนยันว่า ผู้ที่มาเป็นผู้ที่เดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมมานานหลายเดือน พร้อมกับขอให้ทางตำรวจเป็นพยาน ว่า ผู้ชุมนุมมาเรียกร้องโดยสันติ และจะไม่มีการทำลายทรัพย์สิน สิ่งของของทางราชการ หากเกิดความเสียหายใดๆ ให้สามารถดำเนินการได้ทั้งทางคดีอาญา และทางแพ่ง

    ด้านผู้แทนกรุงเทพมหานคร ขอนำผลการเจรจากลับไปเสนอให้ผู้บริหารตัดสินใจ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มี 2 เจ้าหน้าที่ได้นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งบริเวณเสาไฟฟ้าใกล้กับประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ สายไหม 86 ด้วย











    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:29 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152211

    คลองมอญน้ำยังสูง,ขยะเยอะ-ประสาน กทม.เร่งกำจัด

    นายอุเทน ชาติภิญโญ ที่ปรึกษาด้านน้ำของนายกรัฐมนตรี สรุปผลการตรวจสถานีสูบน้ำคลองมอญและคลองบางกอกใหญ่ โดยสถานีสูบน้ำคลองมอญระดับสูงเกินกว่าที่ควร มีขยะกีดขวางไม่มีการเปิดเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ ทำให้น้ำไหลได้ช้า ส่วนคลองบางกอกใหญ่ระดับน้ำต่ำ คลองยังสามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกมาก และมีขยะ ส่วนเครื่องสูบน้ำขนาด 2 คิวต่อวินาทีจำนวน 5 เครื่องที่ติดตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำเคยแจ้งว่าเครื่องใช้การไม่ได้ จึงแจ้งให้นำเครื่องไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองโยง ซึ่งผ่านไปกว่า 10 วันแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงขอให้ทาง กทม.เก็บขยะทั้งหมด เพื่อเร่งระบายน้ำ และขณะนี้เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ น้ำแห้งแล้ว ทำให้เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม น้ำลดลงได้เร็วขึ้น รวมถึงการเร่งรัดให้ กทม.ประสานกรมชลประทานนำเครื่องสูบน้ำ 2 คิวต่อวินาที จำนวน 2 เครื่องไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองโยง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:42 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152227

    กทม. พร้อมส่งผู้อพยพกลับบ้าน ชวนจิตอาสาร่วมล้างโรงเรียน 1-5 ธ.ค.นี้

    โรงเรียนสังกัดกทม. จำนวน 345 โรงเรียน ในพื้นที่ 40 สำนักงานเขต จะเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ในวันที่ 6 ธ.ค. 54 นี้ ซึ่งกทม. ได้กำหนดจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน โดยในวันที่ 30 พ.ย. 54 นี้ จะทยอยส่งผู้อพยพที่ประสบภัยน้ำท่วม และสมัครใจกลับบ้าน พร้อมมอบถุงทำความสะอาดเพื่อนำไปใช้ในการทำความสะอาดบ้านเรือนด้วย โดยสำนักงานเขตจะจัดรถรับ–ส่งประชาชนไปยังจุดรวมพล ณ ชุมชนต่างๆ ส่วนผู้อพยพที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้ กทม. จะเปิดศูนย์เยาวชนฯ ศูนย์กีฬาฯ รวมทั้งค่ายลูกเสือของกทม. ให้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
    สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูง จำนวน 91 โรงเรียน ในพื้นที่ 10 สำนักงานเขต ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ในวันที่ 6 ธ.ค. 54 จะเลื่อนไปเปิดเรียนในวันที่ 13 ธ.ค. 54 ประกอบด้วย เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตบางบอน เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม เขตบางแค เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี และเขตบางเขน
    ทั้งนี้ กทม. ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมทำความสะอาดโรงเรียนตั้งแต่ 1–5 ธ.ค. 54 สำหรับหน่วยงานที่ประสงค์จะเข้าร่วมฯ สามารถประสานโดยตรงที่สำนักงานเขตทุกแห่ง โดยในวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. 54 คณะผู้บริหารกทม. จะร่วมกับภาคเอกชน และกลุ่มจิตอาสา ทำความสะอาด ฉีดพ่นยุง ฆ่าเชื้อรา ในโรงเรียนวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ โรงเรียนวัดดอนเมือง (ทหารอากาศอุทิศ) และโรงเรียนประชาอุทิศ (จันทาบอนุสรณ์) เขตดอนเมือง

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 19:21 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152277

    "รศ.เสรี" ชี้หลัง 1 ธ.ค.น้ำต่ำกว่าตลิ่ง ระบายลงเจ้าพระยาได้ดีขึ้น

    คลองพระยาสุเรนทร์ระบายน้ำช้า ติดขยะ ตอม่อทางด่วน มีคอคอดหลายจุด คลองเปรมประชากรระบายน้ำได้ดีขึ้นมาก พื้นที่ในบล็อค ถ.สรงประภา ถ.ประชาอุทิศ ต้องรอน้ำในคลองเปรมฯลด จึงระบายน้ำท่วมขังออกได้ หลัง 1 ธ.ค.น้ำทะเลหนุนลดลง ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้มากขึ้น

    เมื่อเวลา 20.30 น. รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวว่า วันนี้( 29 พ.ย.)ได้ไปสำรวจสถานการณ์น้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ และคลองเปรมประชากร

    ถึงแม้ปริมาณน้ำเหนือลดลงต่อเนื่อง แต่ต้องรอว่าเมื่อไรจะลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ขณะนี้ที่แม้น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมด ยกเว้นที่จ.ปทุมธานี ในวันพรุ่งนี้( 30 พ.ย.) น้ำจะลงต่ำกว่าตลิ่ง ก็สามารถระบายน้ำในทุ่งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีขึ้น โดยระดับน้ำทะเลหนุน วันนี้ยังสูงอยู่ แต่หลังจากนี้ ในวันที่ 1 ธ.ค. น้ำทะเลหนุนลดลง การระบายน้ำจะทำได้ดีขึ้น

    สถานการณ์น้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ ไหลช้า เนื่องจากมีขยะ โดยเฉพาะช่วงกลางคลองก.ม.ที่ 8 ส่วนที่เป็นคลองซอยเชื่อมกับคลองพระยาสุเรนทร์น้ำก็ไหลช้า ซึ่งทำให้มีปัญหาน้ำเอ่อในพื้นที่ ถนนสุขาภิบาล 5 ถนนวัชรพล หลายจุดในคลองมีตอม่อ ทำให้น้ำเอ่อขึ้นมา น้ำไม่ไหล

    สำหรับที่คลองเปรมประชากร ที่ถนนประชาอุทิศ ถนนสรงประภา น้ำยังมีอยู่บนถนน ขณะที่คลองเปรมประชากร ระบายน้ำได้ดีขึ้นมาก จาก 4 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีระบายได้เป็น 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยที่เมืองเอกมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำออก และที่ประตูระบายน้ำคลองเปรมก็มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเช่นกัน

    สำหรับพื้นที่ในบล็อค ถนนประชาอุทิศ ถนนช่างอากาศอุทิศ ถนนสรงประภา มีน้ำขังประมาณ 5 แสนลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากน้ำในคลองเปรมฯบริเวณนี้ยังล้นอยู่ จึงต้องใช้เวลา ต้องรอให้ระดับน้ำในคลองเปรมฯลดลง เพราะตอนนี้มีปริมาณน้ำเข้าและออก 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่ากัน เมื่อน้ำในคลองเปรมฯลดระดับลง ก็จะสูบน้ำท่วมขัง ที่มีอยู่ 5 แสนลูกบาศก์เมตร ออกจากพื้นที่ได้

    สำหรับคลองพระยาสุเรนทร์ มีความยาว 16 ก.ม. หลายจุดเป็นคอคอด มีตอม่อของทางด่วน และถนนวงแหวนหลายจุดอยู่ในคลอง ทำให้การระบายน้ำทำได้ช้า ในอัตรา 8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นการจะเปิดหรือไม่เปิดประตูระบายน้ำไม่สำคัญ ถ้าทำให้ระบายน้ำลงได้เร็วขึ้น ก็สามารถเปิดประตูระบายน้ำได้

    ภาพรวมสถานการณ์น้ำในทุ่งภาคกลาง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง แต่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานครยังรับน้ำทุ่งอยู่ บนถนนอาจจะแห้ง แต่น้ำในทุ่งก็ยังมีอยู่บางแห่งท่วมสูงถึง 1 เมตร จึงต้องใช้เวลาในการระบายน้ำออก ขณะที่น้ำเหนือยังเติมอยู่ต่อเนื่อง แต่ที่กทม.มีคลองสกัดอยู่ ทั้งคลอรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองหกวาสายล่าง จึงทำให้น้ำไม่เข้ากทม. ส่วนฝั่งตะวันตกของกทม.ใช้คลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองหลักในการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าตั้งคันได้ก็จะสูบน้ำลงได้ แต่น้ำตอนนี้น้ำก็ยังมีอยู่มาก

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 21:00 น.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9540000152316

    5 ใน 7 นิคมฯ แห้งแล้ว ก.อุตฯ หนุนน้ำทำความสะอาด

    นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม รวม 7 แห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ขณะนี้สูบน้ำแห้งแล้วรวม 5 แห่ง ยังคงเหลือที่อยู่ระหว่างสูบน้ำอีก 2 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่คาดว่าจะเริ่มต้นสูบน้ำในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ และสวนอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งคาดว่าน้ำจะแห้งในวันที่ 10 ธันวาคม
    นอกจากนี้ เขตประกอบการอุตสาหกรรมบางกะดี ที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา การฟื้นฟูมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นวันบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ด้วย
    สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางหว้า หรือนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค มีการกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เป็นวัน Restore Full Operation เพื่อดำเนินเครื่องสู่ภาคการผลิต
    ทางด้านเขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ มีโรงงานเริ่มเดินเครื่องแล้ว 47 โรงงาน จากทั้งหมด 93 โรงงาน
    นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่า การฟื้นฟูโรงงานแต่ละแห่งใช้เวลาแตกต่างกัน เนื่องจากผลกระทบทีได้รับแตกต่างกัน ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมจะให้การสนับสนุนและการจัดหาน้ำสะอาดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ในการทำความสะอาดโรงงานและเครื่องจักร

    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:25 น.
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000152209

    >> นนทบุรี <<


    ชาวบ้านบางกรวยเร่งกู้พื้นที่น้ำท่วม ยังคงสัญจรด้วยเรือ

    บางกรวย นนทบุรี น้ำยังคงท่วม ชาวบ้านต้องใช้สะพานทางเดินเล็กในการสัญจรและใช้เรือ ในชีวิตประจำวัน คาดต้น ธ.ค.กู้ ถ.กาญจนาภิเษก ได้

    สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ฝั่งตะวันตกกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น บริเวณถนนเพชรเกษม เขตบางแค ต่อเนื่องไปจนถึงตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีเพียงบางพื้นที่ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำน้ำยังท่วมขัง

    ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ในพื้นที่เขตเทศบาลน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 50-70 เซนติเมตร แต่บางชุมชน เช่น ชุมชนริมถนนเทอดพระเกียรติ น้ำยังท่วมเกือบ 1 เมตร เพราะเป็นที่ลุ่ม ชาวบ้านยังเดือดร้อนเรื่องการเข้าออกพื้นที่

    ตำบลปลายบาง ถนนกาญจนาภิเษก ยังมีน้ำท่วมเป็นบางจุด โดยเฉพาะในชุมชนซอยวัดส้มเกลี้ยง หลายหมู่บ้านน้ำยังท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถเข้าออกพื้นที่ได้ เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ องค์การบริหารส่วนตำบลจึงสร้างสะพานชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในเบื้องต้น แต่สะพานมีความยาวเพียง 1 กิโลเมตร













    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 20:02 น.
    http://www.manager.co.th/qol/viewnew...=9540000138124

    >> อุบลราชธานี <<


    น้ำท่วมอุบลฯตาย 9 ราย วอนรัฐเร่งสำรวจความเสียหายจ่ายเงินซ่อมบ้าน

    อุบลราชธานี -สรุปน้ำท่วมอุบลราชธานี เสียชีวิต 9 ราย ส่วนชาวบ้านเร่งซ่อมบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม พร้อมวอนเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจจ่ายช่วยซ่อมแซม โดยนายกเล็กเทศบาลเมืองวารินชำราบ ระบุ ตั้งชุดสำรวจไปถ่ายรูปเก็บข้อมูล เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ขณะที่เทศบาลตำบลคำน้ำแซบ พบบ้านทรุดตัวจากดินสไลด์เพิ่มเป็น 6 หลังคาเรือน และชาวบ้านในตำบลนี้ ยังไม่ได้รับเงินเยี่ยวยา 5,000 บาท

    วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ชุมชนหาดสวนยา เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นักเรียน ครูอาจารย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อฉีดลงตามพื้นห้องเรียน และขัดถูบริเวณเสาประตูที่ถูกสัมผัสจากเด็กนักเรียน เพื่อป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคอื่นที่ปะปนมาขณะเกิดน้ำท่วมในโรงเรียนเป็นเวลานาน และได้เปิดทำการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ตามปกติ ตอนช่วงสายของวันเดียวกัน

    ขณะที่ชาวบ้านเริ่มซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 3 เดือน เพราะพื้นและประตูหน้าต่างถูกน้ำพัดเสียหายหมดทั้งหลัง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้มากที่สุด

    นางอรัญญา แสนโคตร ชาวชุมชนหาดสวนยา ที่บ้านได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม กล่าวว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจความเสียหายเร็วขึ้น เพราะบ้านได้รับความเสียหายมาก ไม่สามารถทิ้งรอเป็นเวลานาน เพราะเป็นปัญหาในการเข้าอยู่อาศัย เมื่อชาวบ้านทราบวงเงินค่าซ่อมแซมจากรัฐบาล จะได้ซ่อมแซมบ้านได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดเป็นภาระหนี้สินที่ต้องเพิ่มขึ้นอีก

    ด้าน นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศบาลเมืองวารินชำราบ กล่าว่วา ขณะนี้ยังมีประชาชนในเขตเทศบาลไม่สามารถย้ายกลับเข้าอยู่อาศัยในบ้านได้ประมาณ 10% ของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด หลังน้ำลดเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกวาดทำความสะอาดวัชพืชที่น้ำพัดพามาตกค้างในพื้นที่

    สำหรับการสำรวจความเสียหายที่เกิดกับอาคารบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ 14 ชุมชน ได้ตั้งชุดเข้าสำรวจโดยการถ่ายภาพ เพื่อรายงานให้อำเภอและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของบประมาณช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเน้นจ่ายช่วยเหลือตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งการสำรวจคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนธันวาคมศกนี้

    ขณะเดียวกัน ที่ชุมชนช่างหม้อ ในเขตเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดแม่น้ำมูล ดินเกิดการสไลด์ตัว เพราะถูกน้ำท่วมไหลกัดเซาะเป็นเวลานาน ทำให้บ้านพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 6 หลังคาเรือน

    นายณรงค์ พันธุโสรี รองนายกเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ กล่าวว่า จากการสำรวจหลังน้ำลดพบบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ตามริมแม่น้ำมูล ถูกน้ำกัดเซาะหน้าดินจนบ้านทรุดตัวจำนวน 6 หลัง ซึ่งได้รายงานขอความช่วยเหลือไปทางจังหวัด เพื่อของบสนับสนุนการซ่อมแซมให้กับประชาชน สำหรับการแก้ปัญหาไม่ให้ดินทรุดตัว ต้องทำผนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องรองบประมาณจากรัฐบาลกลาง

    ส่วนการให้ความช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกิน 7 วัน ได้ทำเรื่องขอรับงบประมาณครอบครัวละ 5,000 บาท จำนวน 207 ครอบครัวไปทางอำเภอแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับเงิน เพราะงบประมาณยังไม่ตกมา ทั้งที่พื้นที่ใกล้เคียงกันชาวบ้านได้รับเงินหมดแล้ว

    สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ที่ผ่านมาได้ขอเบิกเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังนานเกิน 7 วัน และถูกน้ำท่วมแบบฉับพลันไปแล้วจำนวน 3,955 ครอบครัว เป็นเงินกว่า 19 ล้านบาท และมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 9 ราย


    สภาพบ้านที่สร้างริมตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะพัง


    ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเรียกร้องให้รัฐเร่งจ่ายเงินชดเชย เพราะต้องใช้ซ่อมแซมบ้าน

    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:47 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152196


    >> ภาคใต้ <<


    4 อำเภอรอบทะเลสาบสงขลา ยังอ่วม เหตุน้ำทะเลหนุน

    ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลายังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมจากมวลน้ำที่ไหลมาจากลำคลองสาขาทั้งใน จ.สงขลา และ จ.พัทลุง โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 7 บ้านดอนเคดเหนือได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างหนัก

    วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลา จนถึงขณะนี้เหลือเพียงพื้นที่ที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลารวม 4 อำเภอ ที่ยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำในทะเลสาบสงขลาหนุนเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมทะเล ประกอบด้วย อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.ระโนด และบางส่วนของ อ.บางกล่ำ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำในทะเลสาบสงขลาที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลมาจากลำคลองสาขาทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.พัทลุง ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก

    สำหรับพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาที่สถานการณ์ค่อนข้างหนักคือที่บ้านดอนเคดเหนือ หมู่7 ต.คูขุด อ.สทิงพระ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้มีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากน้ำได้หนุนเข้าท่วมบ้านเรือน และถนนภายในหมู่บ้าน บางครอบครัวที่ไม่มีเรือต้องใช้ถังผสมปูนเป็นพาหนะในการเข้าออกจากบ้าน

    ขณะที่สถานการณ์ในอำเภออื่นๆ ทั้ง อ.ควนเนียง อ.สะบ้าย้อย อ.รัตภูมิ อ.จะนะ และ อ.เมือง ซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงและเชิงเขา สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังเหลือเพียงชาวบ้าน บ้านแลแบง ใน อ.สะบ้าย้อย ทั้ง 99 ครัวเรือนที่ยังคงพักพิงอยู่ภายในศูนย์อพยพในโรงเรียนสะบ้าย้อย แม้น้ำที่ท่วมในหมู่บ้านจะลดลงแต่ชาวบ้านยังไม่กลับเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ที่จะมีมรสุมเกิดขึ้นอีกระลอก



    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:44 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152178

    ประมงสงขลาเก็บตัวอย่างน้ำทะเลสาบ หลังเกิดปลาตายอย่างต่อเนื่อง

    ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักวิชาการประมง ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำในทะเลสาบสงขลา ไปตรวจสอบหาเหตุที่ทำให้ปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรตาย เมื่อสองวันที่ผ่านมาว่ามาจากผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้น้ำจืดและมีแบคทีเรียปนเปื้อนมากับน้ำ

    วันนี้ (29 พ.ย.) นายนิคม ละอองศิริวงศ์ นักวิชาการประมง ชำนาญการ สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จ.สงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บตัวอย่างน้ำในทะเลสาบสงขลาพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา หลังจากที่เมื่อช่วงสองวันที่ผ่านมาปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรใน ต.เกาะยอ ทยอยตายอย่างต่อเนื่อง

    เพื่อนำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบหาสาเหตุว่า มาจากสภาพแวดล้อมของน้ำในทะเลสาบสงขลาที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งจากในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง ซึ่งจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียจากสภาพน้ำที่เพิ่มขึ้นทำให้น้ำทะเลจืด ซึ่งพบบ่อยในปลาเล็กที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ 3 เดือน

    ทั้งนี้ เพื่อเร่งหาทางป้องกัน และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังรอบทะเลสงขลา โดยเฉพาะใน ต.เกาะยอ ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวมากที่สุดใน จ.สงขลามีกระชังเลี้ยงปลากะพงกว่า 500 กระชัง และเป็นสัตว์เศรษฐกิจของ จ.สงขลา ที่ส่งออกไปยังมาเลเซีย และประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำใน จ.สงขลา





    ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 17:40 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152165

    >> ปัตตานี <<


    น้ำท่วมขังปัตตานีเริ่มลดลงแต่ชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครัวเรือนยังเดือดร้อน

    ปัตตานี - จ.ปัตตานี ยังคงให้ 12 อำเภอของปัตตานีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม โดยบางจุดมีการสูบน้ำทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง ประกอบกับไม่มีฝนตกลงมา ทว่าชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครัวเรือนยังประสบความเดือดร้อน

    วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี ยังคงประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอเป็นพื้นที่เกิดภัยพิบัติต่อไปอีก โดยเฉพาะ ต.ปะกาฮารัง, ต.บาราเฮาะ, ต.ตะลุโบ๊ะ, ต.ปูยุด, ต.รูสะมิแล อ.เมือง

    ต.ลิปะสะโง, ต.คอลอตันหยง, ต.ยาบี, ต.ดอนรัก อ.หนองจิก ยังคงมีน้ำท่วมสูงที่สุด เนื่องจากมวลน้ำจาก จ.ยะลายังไหลหลากทำให้แม่น้ำปัตตานีได้อ้อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม ราษฎรทั้ง 2 อำเภอ เกือบ 200,000 ครัวเรือน ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

    ขณะที่ อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.มายอ อ.กะพ้อ อ.ทุ่งยางแดง ระดับน้ำเริ่มลดลงมีเพียงน้ำท่วมขัง ส่วนอำเภออื่นๆ สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายลงแล้ว ทั้งนี้สืบเนื่องจากฝนที่หยุดตก

    เช่นเดียวกับในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่ ต.จะบังติกอ ต.สะบังรัง น้ำได้ลดลงแล้ว มีเพียงบางจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเทศบาลเมืองปัตตานีได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 3 ตัว รอบเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อเร่งระบายน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโดยเร็ว จึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว และน้ำไม่ขยายวงกว้างเข้าท่วมย่างเศรษฐกิจของจังหวัดปัตตานี









    ขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพบางส่วนจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554 16:05 น.
    http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000152133
    Last edited by IAm; 11-30-2011 at 12:33 AM.


    ฝากติดตาม Business Social Group ของร้านแอมด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
    Iam-Better2U เพราะเราใช้ เราดีขึ้น เราจึงสรรสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

    ร่วมรณรงค์ใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign
    กระทู้ แนะนำความรู้ในการใช้เครื่องมือของชุมชน SBN Town ที่ทำให้พวกเราสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
    Thanks wnonach ขอบคุณ ผู้โพสต์ข้อความนี้

Page 2 of 3 FirstFirst 1 2 3 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •