6 พฤศจิกายน 2554
==================================================
>> กรุงเทพฯ <<
ตรวจเส้นทางถนนในกรุงเทพฯวิ่งได้เช้านี้
อัปเดตเส้นทางน้ำท่วมขังใน กทม.รถผ่านไม่ได้และถนนที่ยังใช้งานได้เช้านี้ก่อนเดินทางออกจากบ้าน
ทิศเหนือ ถนนสายหลักปิดการจราจร จำนวน 7 แห่ง
1.ถ.วิภาวดีรังสิต ขาเข้า-ขาออก ปิดการจราจรถึงห้าแยกลาดพร้าว ระดับน้ำ 80-120 ซม.(หมายเหตุ : เดิมขยายพื้นที่การปิดจราจรมาถึงหน้าการบินไทย (สำนักงานใหญ่) เลื่อนมาปิดห้าแยกลาดพร้าว เนื่องจากมีการสูบน้ำ ลงคลองบางซื่อ ทำให้ปริมาณน้ำลดลง
2.ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า-ขาออก ปิดการจราจร ตั้งแต่ทางต่างระดับรัชวิภา ถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ระดับน้ำ 40-80 ซม.
3.ถ.ลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ ปิดการจราจร ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว ถึง ซ.ภาวนา (ลาดพร้าว 39) ระดับน้ำ 60 ซม.
4.พหลโยธิน ขาเข้า-ขาออก ปิดการจราจรถึงห้าแยกลาดพร้าว ระดับน้ำ 90-130 ซม.
5.ถ.รามอินทรา ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจรจากแยกวงเวียนบางเขน ถึง กม.5 ระดับน้ำ 100-110 ซม.
6.ถ.แจ้งวัฒนะ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึงแยกคลองประปา ระดับน้ำ 90-100 ซม.
7.ถ.งามวงศ์วาน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพงษ์เพชร ถึงแยกเกษตร ระดับน้ำ 100 ซม.
ทิศเหนือ ถนนสายรองปิดการจราจร จำนวน 17 แห่ง
1.ถ.พระยาสุเรนทร์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40-80 ซม.
2.ถ.เทอดราชันย์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
3.ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 5 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 80 ซม.
4.ถ.ช่างอากาศอุทิศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
5.ถ.นวมินทร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ ซ.นวมินทร์ 163 ถึง รามอินทรา กม.8 ระดับน้ำ 70 ซม.
6.ถ.กำแพงเพชร 6 (ถ.โลคัลโรด) ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านเมืองเอก ถึงหน้าวัดเสมียนนารี ระดับน้ำ 80-150 ซม.
7.ถ.สรงประภา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกศรีสมานถึงแยก กสบ.ระดับน้ำ 80 ซม.
8.ถ.เชิดวุฒากาศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 150 ซม.
9.ถ.โกสุมร่วมใจ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
10.ถ.เดชะตุงคะ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
11.ถ.เวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
12.ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 14 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 150 ซม.
13.ถ.เลียบคลองสอง ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพลาธิการกองทัพอากาศ ถึงแยกสะพานปูน ระดับน้ำ 60 ซม.
14.ถ.จันทรุเบกษา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยก ร.ร.นายเรืออากาศ (คปอ.) ถึงแยกจันทรุเบกษา ระดับน้ำ 60 ซม.
15.ถ.วัชรพล ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกตัดถนนเพิ่มสิน ถึงห้าแยกวัชรพล ระดับน้ำ 60 ซม.
16.ถ.เพิ่มสิน (พหลโยธิน 54/1- ถ.สุขาภิบาล 5) ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
17.ถ.สุขาภิบาล 5 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
ทิศตะวันตก ถนนสายหลักปิดการจราจร จำนวน 9 แห่ง
1.ถ.เพชรเกษม ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจร จากแยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงสะพานข้ามคลองบางไผ่ (ซ.เพชรเกษม 22) ระดับน้ำ 60-120 ซม.
2.ถ.จรัญสนิทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบางขุนนนท์ ถึง สะพานพระราม 7 ระดับน้ำ 70-150 ซม.
3.ถ.สิรินธร ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบางพลัด ถึงทางต่างระดับสิรินธร ระดับน้ำ 60-150 ซม.
4.ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงแยกบรมราชชนนี ระดับน้ำ 80-150 ซม.
5.ถ.อรุณอมรินทร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ ถึงแยก รพ.ศิริราช ระดับน้ำ 80-150 ซม.
6.ถ.บรมราชชนนี ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบรมราชชนนี ถึงทางต่างระดับสิรินธร (สายใต้เก่า) ระดับน้ำ 60-150 ซม.
7.ถ.ทางคู่ขนานลอยฟ้า ปิดการจราจรตลอดสาย ไม่สามารถลงพื้นราบได้
8.ถ.บรมราชชนนี (ช่วงพุทธมณฑล) ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงแยก ถ.ราชพฤกษ์ ระดับน้ำ 60-80 ซม.
9.ถ.กาญจนาภิเษก ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่สะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 60-80 ซม.
ทิศตะวันตก ถนนสายรอง ปิดการจราจร จำนวน 14 แห่ง
1.ถ.ราชพฤกษ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.บรมราชชนนี ถึงสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำ 60-70 ซม.
2.ถ.สวนผัก ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกกาญจนา ถึงสะพานข้ามทางรถไฟ ระดับน้ำ 70-100 ซม.
3.ถ.บางระมาด ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.กาญจนาภิเษก ถึงตัด ถ.ราชพฤกษ์ ระดับน้ำ 60-90 ซม.
4.ถ.ทวีวัฒนา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่คลองทวีวัฒนา ถึงตัด ถ.กาญจนาภิเษก ระดับน้ำ 40-60 ซม.
5.ถ.ทวีวัฒนา ขาเข้า-เขาออก ตั้งแต่ ประตูระบายน้ำทวีวัฒนา ถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
6.ถ.พุทธมณฑลสาย 1 ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ขนส่งรถไฟสายใต้ ถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
7.ถ.ทุ่งมังกร ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.บรมราชชนนี ถึงตัด ถ.สวนผัก ระดับน้ำ 80-120 ซม.
8.ถ.ฉิมพลี ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกทุ่งมังกร ถึงหน้า สน.ตลิ่งชัน ระดับน้ำ 40-60 ซม.
9.ถ.ชัยพฤกษ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.บรมราชชนนี ถึงตัดวัดชัยพฤกษ์ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
10.ถ.บางแวก ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่คลองทวีวัฒนา ถึง สน.บางเสาธง ระดับน้ำ 40- 80 ซม.
11.ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-60 ซม.
12.ถ.พุทธมณฑล สาย 3 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-80 ซม.
13.ถ.อุทยาน ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-70 ซม.
14.ถ.ศาลาธรรมสพน์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 80-150 ซม.
ทิศตะวันออก ถนนสายหลัก ปิดการจราจร จำนวน 2 แห่ง
1.ถ.สุวินทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกตัด ถ.ราษฎร์อุทิศ ถึงแยกการไฟฟ้ามีนบุรี ระดับน้ำ 60 ซม.
2.ถ.สุวินทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกไปรษณีย์ ถึงตัด ถ.ร่มเกล้า ระดับน้ำ 60 ซม.
ทิศตะวันออก ถนนสายรอง ปิดการจราจร จำนวน 3 แห่ง
1.ถ.ราษฎร์อุทิศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
2.ถ.หทัยราษฎร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกตัด ถ.สุวินทวงศ์ ถึง ซ.หทัยราษฎร์ 1 ระดับน้ำ 60 ซม.
3.ถ.ประชาร่วมใจ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซม.
ทิศเหนือ เส้นทางควรหลีกเลี่ยง รถยนต์ขนาดเล็กผ่านไม่ได้
1.ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงอุโมงสุทธิสาร (ปิดทางลงอุโมงค์) ระดับน้ำ 30-40 ซม.
2.ถ.พหลโยธิน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว ถึง กรมการขนส่งทางบก ระดับน้ำ 30-40 ซม.
3.ถ.ลาดปลาเค้า ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกลาดปลาเค้า ถึงหน้าวัดใหม่เสนา ระดับน้ำ 40-60 ซม.
4.ถ.สายไหม มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 40-50 ซม.
5.ถ.เสนานิคม 1 ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกเสนานิคม ถึงแยกวังหิน ระดับน้ำ 40 ซม.
6.บริเวณแยกวัดเสมียนนารี ระดับน้ำ 60 ซม.
7.ถ.นาวงประชาพัฒนา มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซม.
8.ถ.คู้บอน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ ซ.คู้บอน 19 ถึงหน้า สน.คันนายาว ระดับน้ำ 30- 50 ซม.
9.ถ.บูรพา (ดอนเมือง) มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซม.
ทิศตะวันออก เส้นทางควรหลีกเลี่ยง รถยนต์ขนาดเล็กผ่านไม่ได้
1.ถ.นิมิตรใหม่ ขาเข้า-ขาออก มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 20-30 ซม.
2.ถ.ไมยลาภ ขาเข้า-ขาออก มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 30-50 ซม.
3.ถ.ประชาร่วมใจ ขาเข้า-ขาออก มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 30-50 ซม.
เส้นทางเลี่ยงที่ใช้การได้
ทิศเหนือ
1.ดอนเมืองโทลเวย์ ขึ้นด่านดินแดง-ลงสุดทางบริเวณโรงกษาปณ์
2.ถ.วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ ถึงบริเวณแยกสุทธิสาร
3.ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ ถึงบริเวณแยกสะพานควาย
4.ถ.ลาดพร้าวมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ ถึงบริเวณแยกภาวนา
5.ถ.รามอินทรา ใช้การได้ตั้งแต่ กม.5 ถึง แยกมีนบุรี
6.ถ.นวมินทร์มุ่งหน้า ถ.รามอินทรา ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ ถึงบริเวณสะพานข้ามแยกเกษตร-นวมินทร์
7.ถ.ประเสริฐมนูญกิจ (เกษตร-นวมินทร์) มุ่งหน้าแยกเกษตร ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ถึงแยกลาดปลาเค้า
ทิศตะวันออก
1.ถ.เลียบท่างด่วนรามอินทรา ใช้การได้ตลอดสาย
2.ถ.เสรีไทย ใช้การได้ตลอดสาย
3.ถ.รามคำแหง ใช้การได้ตลอดสาย
4.ถ.ศรีนครินทร์ ใช้การได้ตลอดสาย
5.ถ.สุวินทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก จาก จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้ามีนบุรี ใช้การได้ถึงแยกตัด ถ.ราษฎร์อุทิศ
6.ถ.มอเตอร์เวย์ ใช้การได้ตลอดสาย
7.ถ.วงแหวนตะวันออก (ใต้) ขาเข้า-ขาออก ใช้การได้ตั้งแต่ทางต่างระดับรามอินทรา ถึงทางขึ้น - ลงสุขสวัสดิ์ บางขุนเทียน
8.ถ.บางนา-ตราด ใช้การได้ตลอดสาย
9.ถ.บูรพาวิถี ใช้การได้ตลอดสาย
10.ถ.ลาดกระบัง ใช้การได้ตลอดสาย
11.ถ.อ่อนนุช ใช้การได้ตลอดสาย
12.ถ.สุขุมวิท ใช้การได้ตลอดสาย
ทิศใต้
1.ถ.พระราม 2 ใช้การได้ตลอดสาย
ทิศตะวันตก
1.ถ.ราชพฤกษ์ ขาเข้า-ขาออกใช้การได้ตั้งแต่ ถ.เพชรเกษม ถึงเชื่อม ถ.กรุงธนบุรี
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใช้การได้
1.สะพานพระพุทธยอดฟ้า (สะพานพุทธ)
2.สะพานพระปกเกล้า
3.สะพานตากสิน (สาธร)
4.สะพานกรุงเทพ
5.สะพานพระราม 3
6.สะพานพระราม 9 (สะพานแขวน)
7.สะพานภูมิพลฯ (วงแหวนอุตสาหกรรม)
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 09:21น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141343
ชาวบ้านจวก ทางเชื่อม ศปภ.เปลืองงบ ทำน้ำท่วมเพิ่ม-แนะขับอ้อมจตุจักรยังได้
ชาวบ้านโวย ศปภ.เทหินคลุกราดยางมะตอย สร้างทางเชื่อมวีไอพี เปลืองงบ ทำน้ำท่วมสูงขึ้น ย่านชุมชนรถไฟ 11-19 น้ำท่วมขังสูงกว่า 40-80 ซม.ประชาชนต้องขนของขึ้นไปอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน วอนผู้นำเสียสละ ขับรถอ้อมเข้าสวนจตุจักรก็ยังได้
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ บริเวณปากซอยวิภาวดี 11 ทางเข้าอาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า ระดับน้ำสูงจากพื้นผิวถนนประมาณ 80-90 เซนติเมตร ทางด้านฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ระดับสูงประมาณ 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนรถใหญ่เคลื่อนตัวไปได้อย่างยากลำบาก ขณะที่บริเวณทางเชื่อมโทลล์เวย์เพื่อเข้าสู่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มีการเทหินคลุก ราดยางมะตอย เป็นถนนถาวร ตัดเข้ามายังศูนย์แล้วยังมีการนำถุงทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ็ก 2 ชั้น มาวางตามแนวถนนเพื่อกันน้ำซัดเซาะพื้นถนน โดยมีระดับความสูงล่าสุดประมาณ 1 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เข้ามาติดต่องานใน ศปภ.
ขณะเดียวกัน ปรากฏว่า บริเวณหน้าทางเข้าซอย ยังคงมีน้ำผุดออกมาจากท่อระบายหลายจุดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สำนักงานประปา สาขาพญาไท มีน้ำท่วมขังเกือบเต็มพื้นที่ โดยระดับความสูงของน้ำอยู่ที่ประมาณ 20 เซนติเมตร
ส่วนบริเวณซอยวิภาวดี 11 นั้น ช่วงที่เป็นซอยแยกเริ่มมีน้ำทะลักออกมาจากท่อระบายน้ำ ทำให้บ้านของประชาชนที่มีพื้นที่ต่ำกว่าพื้นถนน มีน้ำท่วมขังหลายหลังคาเรือน ขณะเดียวกัน ย่านชุมชนรถไฟ 11-19 มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 40-80 ซม.โดยประชาชนบางส่วนต้องขนของอพยพชั้น 1 ขึ้นไปอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน
ตัวแทนชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ศปภ.ทำทางเชื่อมพิเศษ โดยอ้างว่าเป็นที่เดินทางสำหรับบุคคลวีไอพีนั้น ตรงนี้เห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ และทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพราะเชื่อว่า ก่อนที่ทำทางเชื่อมนี้ โรงสูบน้ำ 2 แห่งที่อยู่ในบริเวณนี้ยังสามารถทำงานได้ และต้านทานน้ำได้ไหว แต่หลังจากที่ทำทางเชื่อมขึ้นมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงเป็นเท่าตัว เพราะน้ำไม่มีทางไป เนื่องจากมีทางให้ระบาย ตรงนี้จึงอยากจะถามกลับไปยังนายกฯ ว่า เหตุใดจึงมาทำทางเชื่อมตรงถนนวิภาวดี ทั้งที่สามารถขับรถไปอ้อมโดยใช้เส้นทางถนนกำแพงเพชรก็สามารถทำได้ แม้จะเสียเวลาสักหน่อย แต่ไม่เปลืองงบประมาณ
“ที่คุณเคยพูดว่าเป็นผู้นำต้องเสียสละ แต่คุณกลับไม่เสียสละลุยน้ำเข้าหาประชาชนเอง อีกทั้งทาง ศปภ.น่าจะมีบทเรียนอยู่แล้ว ที่ดอนเมือง ซึ่งพยายามจะกั้นน้ำเอาไว้แล้วไม่ย้ายศูนย์ สุดท้ายน้ำก็ท่วมของบริจาคลอยเกลื่อนกลาด ก็ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เราจะไม่รวมตัวกันไปประท้วงอะไรทั้งนั้น เพราะได้ทำไปแล้ว และคงช้าไป ฉะนั้นเราต้องก้มหน้ารับผลกระทบต่อไป แต่คราวหน้าถ้าน้ำลด ถ้าคิดจะทำอะไร ให้คิดถึงผลกระทบของชาวบ้านบ้าง” ตัวแทนชาวบ้าน กล่าว
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 15:42 น.
http://www.manager.co.th/Politics/Vi...=9540000141516
ร้านค้าย่านตลาดมีนบุรีปิดหนีน้ำ หลังน้ำท่วมทั้ง 2 ฝั่งถนน
ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำบริเวณหน้าตลาดมีนบุรี พบว่าน้ำท่วมได้ท่วมทั้งสองฝั่งถนน โดยระดับน้ำบางจุดอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร การคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ส่วนบริเวณตลาดมีนบุรีหลังเก่า พบว่าน้ำได้เข้าท่วมทั้งตลาด ซึ่งระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร จึงต้องมีการนำแผ่นคอนกรีตมาเรียงต่อกันเป็นทางเดินเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเลือกซื้อของ อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับน้ำที่สูง ประกอบกับความสกปรกของน้ำที่เริ่มจะมีสีดำ จึงทำให้ประชาชนไม่ค่อยมาจับจ่ายซื้อของมากนัก ขณะที่ร้านค้าต่างๆ ได้ทำการปิดร้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของร้านโชห่วยตลาดมีนบุรีหลังเก่า ระบุว่า เนื่องจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ของได้รับความเสียหายจนต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราว พร้อมกับชะลอการสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ทำให้ขาดรายได้ แต่ก็ต้องยอมรับเพื่อไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่านี้
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 16:32 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141530
เพชรเกษมขาออกน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง-ตร.จัดรถรับส่ง ปชช.
พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ตั้งวงษ์เจริญ ผู้กำกับการ สน.หนองแขม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ สน.หนองแขม ว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมขังบน ถ.เพชรเกษม โดยเฉพาะช่วงฝั่งขาออก ตั้งแต่ซอยเพชรเกษม 79 เป็นต้นไป ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถเล็กผ่านค่อนข้างลำบาก
พร้อมกันนี้ ผู้กำกับการ สน.หนองแขม ยังให้คำแนะนำสำหรับรถกระบะที่จะผ่านเส้นทางพื้นที่น้ำท่วม ว่า ควรดัดแปลงท่อไอเสีย โดยยกให้สูงขึ้น และใช้พลาสติกซีลฝาถังน้ำมัน อย่าให้น้ำเข้า เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขับรถฝ่าน้ำที่มีระดับไม่สูงมากนักได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สน.หนองแขม ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการรับเรื่องร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมรถขนาดใหญ่ไว้ 4 คัน เพื่อรับส่งประชาชนไปยังศูนย์พักพิงในพื้นที่ด้วย
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:14 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141535
ถนนเป็นคลองหน้าศาลอาญา คาดน้ำท่วมไปถึงสะพานควายแน่
หน้าศาลอาญากลายสภาพเป็นคลองแล้ว บางจุดสูงกว่า 1 เมตร คลองบางซื่อ-คลองลาดพร้าว ระดับสูงขึ้น ทำสะพานสองในพื้นที่โชคชัย ถนนเจริญมนูญกิจ ท่วม คาดไปถึงสะพานควายแน่ หลัง กทม.สูบน้ำท่วมวิภาวดีฯลงคลองเพิ่มเติม ด้าน ศปภ.แจ้งปิดจราจรเพิ่มเติม
สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ต่อเนื่องไปจนถึงแยกรัชโยธิน และเชื่อมต่อไปจนถึงถนนวิภาวดีรังสิต มีน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ได้มีการติดตั้งประกาศห้ามรถเล็กสัญจรผ่านเส้นทางนี้ โดยยังมีรถของเจ้าหน้าที่ทหารและรถโดยสารของ ขสมก.ให้บริการแก่ประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกบริเวณนี้
ขณะที่น้ำในคลองบางซื่อ บริเวณฝั่งถนนรัชดาภิเษก ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และระดับน้ำได้สูงเพิ่มขึ้นเกือบถึงระดับทางเดินริมคลองแล้ว ส่วนถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าไปยังแยกสุทธิสาร และแยกห้วงขวางยังไม่มีน้ำท่วมสูง แต่บริเวณหน้าห้างบุญถาวรได้มีน้ำผุดขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ และได้เอ่อล้นขึ้นมาบนถนนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า บริเวณดังกล่าวระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นในช่วงเย็นนี้
ด้าน พ.ต.ท.พิษณุ โกสิยวัฒน์ สารวัตรจราจร สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ถนนรัชดาภิเษก ตลอดหน้าศาลอาญาระดับน้ำสูงขึ้น บางจุดเกือบ 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนห้าแยกลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว น้ำท่วมสูงขึ้นจนถึงซอยภาวนา และไปติดคลองลาดพร้าว แต่เริ่มมีน้ำผุดตามท่อระบายน้ำ ขณะที่น้ำในคลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อ ล้นเข้าท่วมสะพานสองในพื้นที่โชคชัยบ้างแล้ว
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แจ้งปิดการจราจรเพิ่มเติม ได้แก่ กรุงเทพฯทิศเหนือ ถนนสายหลักปิดการจราจรเพิ่ม 1 แห่ง ได้แก่ ถ.ลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจร ตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าว ถึง ถ.ลาดพร้าว ซ.45 ระดับน้ำ 40-80 เซนติเมตร (กลับรถแยกโชคชัย 4)
ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจร ตั้งแต่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงคลองบางซื่อ (โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค) ระดับน้ำ 30-40 เซนติเมตร (กลับรถเหนืออุโมงค์สุทธิสาร)
ส่วนเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง ในทิศเหนือจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.ถนนพหลโยธิน ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ตั้งแต่แยกลาดพร้าวถึงคลองบางซื่อ ระดับน้ำ 30-40 เซนติเมตร และ 2.รามอินทรา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ กม.5 ถึง กม.8 มีน้ำท่วมขังเป็นระยะ มีระดับน้ำ 20-30 เซนติเมตร ขณะที่ทิศตะวันตก ควรหลีกเลี่ยง ถ.ราชพฤกษ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่คลองบางแวก ถึงตัด ถ.เพชรเกษม มีระดับน้ำ 30 เซนติเมตร
ขณะที่ นายบพิตร แสงแก้ว ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว กล่าวว่า น้ำในคลองลาดพร้าวมีระดับน้ำสูงประมาณ 3 เซนติเมตร และคาดว่าน่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบริเวณถนนประเสริฐมนูญกิจ น้ำเอ่อขึ้นและไหลเข้าท่วมทุกพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ส่วนทางด้านใต้ริมคลองลาดพร้าว บริเวณถนนลาดพร้าว-วังหิน น้ำก็ได้เพิ่มระดับขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีการอพยพประชาชนเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายบพิตร กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนได้ ยังไม่จำเป็นต้องย้าย ขณะเดียวกัน ในวันนี้ จะต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำบริเวณปากซอยวิภาวดี 11 ด้านของอาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ศปภ.ว่า น้ำยังคงท่วมขังทุกพื้นผิวการจราจร และโดยเฉพาะฝั่งถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว โดยความสูงของระดับน้ำอยู่ที่ 1-1.20 เมตร
ส่วนถนนพหลโยธินบริเวณหน้าสวนจตุจักรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกน้ำได้ท่วมเต็มพื้นที่ทั้งสองฝั่ง และหนุนเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ที่ตลาดนัดสวนจตุจักรยังคงเปิดตามปกติแต่มีร้านค้าน้อยรายที่เปิด โดยในตลาดมีเครื่องสูบน้ำออกไม่ให้น้ำเข้าท่วม สำหรับหัวน้ำขณะนี้กำลังอยู่ที่ปากซอยพหลโยธิน 18 ซึ่งจากที่ กทม.ได้ระดมสูบน้ำจากถนนวิภาวดีรังสิตลงคลองบางซื่อ ทำให้น้ำจากทางจตุจักรและน้ำจากทางวิภาวดีรังสิตมารวมกัน และเริ่มเอ่อเข้าท่วมชุมชนริมคลองบางซื่อทั้งสองฝั่ง และน้ำอาจจะทะลักล้นไปถึงสะพานควาย ในเร็วๆ นี้
ขณะที่บริเวณแยกรัชโยธิน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยถนนลาดพร้าวตัดกับรัชดาภิเษก ระดับน้ำสูงเกือบประมาณ 1 เมตร และจากที่มีการสูบน้ำลงคลองบางซื่อทำให้น้ำในคลองเอ่อล้นเข้าท่วมรัชดาภิเษกขาเข้า ที่มุ่งหน้าพระราม 9 ต้องปิดการจราจร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ นอกจากนี้ มวลน้ำที่ไปถึงลาดพร้าว ขณะนี้ยังอยู่ที่ซอยภาวนา และทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณแยกลาดพร้าว-ลาดพร้าว 45
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:22น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141542
เตือน ปชช.ย่านลาดพร้าว เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด
พ.ต.ท.จิรภัทร มุ่งดี รองผู้กำกับการจราจร สน.โชคชัย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุด ว่า ระดับน้ำยังไม่ได้ไหลมาบริเวณแยกโชคชัย 4 ซึ่งขณะนี้ยังอยู่บริเวณลาดพร้าวซอย 1 มาจนถึงลาดพร้าวซอย 45 ความสูงอยู่ที่ 40-80 เซนติเมตร
ส่วนบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของ สน.โชคชัย ชั้นในจะมีน้ำท่วมขังบริเวณหน้าวัดลาดพร้าว ตลอดจนแยกลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งบางจุดมีความสูงอยู่ที่ 50 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ได้มีการประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว
ขณะที่บริเวณตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ภายในซอยโชคชัย 4 ซอย 39 ได้มีน้ำผุดขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ และเข้าท่วมพื้นที่บริเวณดังกล่าวประมาณ 10 เซนติเมตร ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอย 39 ไปจนถึงซอย 46 ได้มีน้ำผุดเข้าท่วมบ้านเรือนด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:42 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141551
มวลน้ำแยกลาดพร้าวถึงหน้าการบินไทยแล้ว
บรรยากาศที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ระดับน้ำอยู่ที่ 20-40 เซนติเมตร ขณะที่บางจุดสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ซึ่งน้ำยังท่วมต่อเนื่องไปจนถึง ถ.ลาดพร้าว บริเวณซอยลาดพร้าว 43
ขณะที่เส้นฝั่งพหลโยธิน ตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ยังคงท่วมต่อเนื่องไปจนถึงแยกรัชโยธิน
ส่วนพหลโยธินฝั่งสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต น้ำได้เอ่อท่วมไปถึงสวนสาธารณะจตุจักร ต่อเนื่องไปจนถึงหน้าตลาดนัดจตุจักร และสิ้นสุดอยู่ที่แยกกำแพงเพชร ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย
สำหรับ ถ.วิภาวดีรังสิต จากห้าแยกลาดพร้าว ระดับน้ำจากห้าแยกได้เอ่อล้นมาเกือบถึงอาคารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยน้ำในคลองหน้าการบินไทยเอ่อล้นเข้ามา บวกกับน้ำที่ผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ รวมถึง ถ.วิภาวดีรังสิต ที่แยกมาจากลาดพร้าว มีน้ำเอ่อล้นถนนบ้างแล้วในบางจุด
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:53น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141552
แจ้งปิดการจราจรย่านปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์-บรมราชชนนี
เส้นทางจราจรในพื้นที่บริเวณพระปิ่นเกล้า และจรัญสนิทวงศ์ ยังคงปิดในหลายเส้นทางจากปัญหาน้ำท่วมสูง เช่น ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า จากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงแยกบรมราชชนนี น้ำสูง 80-150 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ถ.อรุณอัมรินทร์ จากสะพานอรุณอัมรินทร์ ถึงใต้สะพานพระราม 8 น้ำท่วมสูง 80-150 เซนติเมตร ถ.บรมราชชนนี จากแยกบรมราชชนนี ถึงจุดกลับรถสายใต้เก่า น้ำท่วมสูง 60-80 เซนติเมตร
ถ.จรัญสนิทวงศ์ จากสะพานพระราม 7 ถึงคลองบางกอกน้อย มีระดับน้ำท่วมสูง 70-120 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร
ถ.ราชวิถี ถึง ถ.สิรินธร จากสะพานกรุงธนบุรี ถึงต่างระดับสายใต้เก่า น้ำท่วมสูง 60-80 เซนติเมตร ระยะทาง 4 กิโลเมตร และ ถ.จรัญสนิทวงศ์ 13 จากคลองบางกอกใหญ่ ถึงปากซอยพาณิชยการธนบุรี น้ำท่วมสูง 20-50 เซนติเมตร
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 18:01น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141553
น้ำทะลักเข้า ศปภ.!! ระดับน้ำสูง 20 ซ.ม.
สถานการณ์น้ำล่าสุด ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเผลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ (ศปภ.) ภายในกระทรวงพลังงาน ขณะนี้น้ำจากถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาออก ได้ไหลเข้ามายังซอยวิภาวดี-รังสิต 71 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ศปภ.แล้ว โดยน้ำมีระดับความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งหัวน้ำนั้นห่างจากประตูทางเข้ากระทรวง เพียง 15 เมตรเท่านั้น ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งวางแนวกระสอบทรายอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังมีน้ำไหลออกจากท่อระบายน้ำตลอดเวลา เนื่องจากน้ำที่อยู่ภายนอกคันกั้นน้ำ ภายในถนนวิภาวดี-รังสิต มีระดับความสูงถึง 80 เซนติเมตร
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 18:29น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141564
ศปภ.ทำชาววิภาวดี 11 แตก! ระดมกระสอบทรายทำคันกั้นเพิ่ม ฝ่ายหนุน-ต้านโต้กันนัว
จนท.ระดมกระสอบทรายสร้างแนวท่อกั้นปาก ซ.วิภาวดี 11 กันน้ำทะลักจากท่อพักน้ำตึก ตปท. เข้าไปใน ศปภ. ทำน้ำท่วมซอยเพิ่ม ขณะคนท้องถิ่นรุมด่า เหตุทำน้ำขังหนัก เจอชาวบ้านอีกกลุ่มออกมาหนุน จนท.พร้อมตอบโต้ พวกไม่รู้จริง ด้านนครบาลส่งกำลังเข้าสังเกตการณ์ ส่วนปลัด คค.ซุ่มสั่งอุดท่อแล้วสูบน้ำทิ้งเข้า ถ.วิภาวดีรังสิต
เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 6 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากปากซอยวิภาวดี 11 ด้านหน้าอาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง กรมอุทยานแห่งชาติและกรมป่าไม้ประมาณ 50 คน ได้นำกระสอบดินปนทรายจำนวนประมาณ 15,000 กระสอบ มาสร้างแนวกั้นท่อบริเวณปากทางเข้าซอยวิภาวดี 11 ทั้งสองฝั่ง ซึ่งมีระดับความสูงประมาณ 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำที่เอ่อล้นมาจากท่อพักน้ำของสำนักงานใหญ่ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ไม่ให้ขยายวงกว้างเคลื่อนตัวเข้าไปภายใน ศปภ.
บรรยากาศเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังในการวางกระสอบดินปนทรายด้วยความเร่งรีบ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านในซอยวิภาวดี 11 ที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีชาวบ้านคนหนึ่งได้ตะโกนว่า “ย้ายออกมาจากดอนเมืองแล้ว พอย้ายมาที่นี่ ที่นี่ท่วมอีกแล้วจะย้ายต่อไปที่ไหนอีกครับ”
จากนั้นเวลาประมาณ 17.30 น.มีชาวบ้านในบริเวณนี้ประมาณ 30 คนรวมตัวเข้ามาต่อว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าการที่กั้นน้ำในบริเวณนี้ ส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมขังภายในซอยมากขึ้น พร้อมทั้งขู่ว่าจะระดมคนออกมาต่อต้านการทำงานของ ศปภ.ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านในย่านนี้อีกหนึ่งกลุ่ม ออกมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งต่อว่าชาวบ้านกลุ่มแรกว่า “พวกไม่รู้เรื่อง ที่เขาสร้างก็เพื่อไม่ให้น้ำท่วมในซอย พวกเราพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่” อย่างไรก็ตามภายหลังเหตุการณ์ที่ชาวบ้านโต้เถียงกัน ศปภ.ได้ร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลประมาณ 30 นาย มาดูและสถานการณ์
ขณะที่นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เข้ามาสังเกตการณ์และสั่งงานด้วยตัวเอง พร้อมทั้งระบุว่า ต้องทำให้พื้นผิวถนนบริเวณนี้แห้งก่อนด้วยวิธีการอุดท่อระบายน้ำแล้วสูบน้ำออกด้วยรถสูบน้ำจากกรมทางหลวงโดยน้ำที่สูบจะปล่อยลงบนถนนวิภาวดีฝั่งมุ่งหน้าเข้าห้าแยกลาดพร้าว
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 19:01น.
http://www.manager.co.th/Politics/Vi...=9540000141570
>> นครปฐม <<
เปิดเส้นทางน้ำท่วม-ทางหนีน้ำ 4 จังหวัดรอบกทม.
"ผู้จัดการออนไลน์" รวบรวบเส้นทางหลวง ที่มีน้ำท่วมขังสูง 4 จังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดทางสายเหนือ พร้อมเส้นทางที่ใช้ทดแทน และเบอร์โทรศัพท์สอบถามเส้นทาง
จังหวัดนนทบุรี
ทางหลวงหมายเลข 9 วงแหวนตะวันตกสาย 9(ต่างระดับฉิมพลี-คลองมหาสวัสดิ์) ท้องที่เขตตลิ่งชัน ที่ กม. 20-31 น้ำท่วมสูง 60 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 9 ตลิ่งชัน-บางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว(หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี-คลองมหาสวัสดิ์)ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่ กม. 30-58 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-140 ซม. ให้ใช้สาย 35 พระราม 2 (ดาวคะนอง-วังมะนาว)-สาย 4 ราชบุรี-นครปฐม -สาย 321 กำแพงแสน-สุพรรณบุรี เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ล่องภาคเหนือ
ทางหลวงหมายเลข 306 กรุงเทพมหานคร-แคราย ท้องที่อำเภอปากเกร็ด ที่กม. 19-21ระดับน้ำสูง 30 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 307 ปากเกร็ด-ปทุมธานี ท้องที่อำเภอปากเกร็ด ที่กม. 0-4 ระดับน้ำสูง 80-100 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-ลาดบัวหลวง ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 25-55 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-120 ซม. ใช้สาย 35 พระราม 2 (ดาวคะนอง-วังมะนาว) -สาย 4 ราชบุรี-นครปฐม- สาย 321 กำแพงแสน-สุพรรณบุรี เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ล่องภาคเหนือ
ทางหลวงหมายเลข 345 สะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 0-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 100-150 ซม. ใช้ทางของเทศบาล
ทางหลวงหมายเลข 346 ลาดหลุมแก้ว-ปทุมธานี ท้องที่อำเภอลาดหลุมแก้ว ที่กม. 20-29 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 80-100 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ลาดหลุมแก้ว-บางเลน ท้องที่อำเภอไทรน้อย ที่กม. 32-42 ระดับน้ำสูง 140 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 3215 บางกรวย-ราษฎร์นิยม ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 0-35 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 80-140 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 3901 คลองบางไผ่-ลาดหลุมแก้ว(ทางคู่ขนานวงแหวนตะวันตก) ขาออก ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 30-45 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 80-140 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 3902 คลองบางไผ่-ลาดหลุมแก้ว (ทางคู่ขนานวงแหวนตะวันตก) ขาเข้า ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 42-44 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 80-140 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน สอบถาม สน.บท.นนทบุรี โทร. 02-527-2488-9
ทางหลวงหมายเลข 3312 ลำลูกกา-นครนายก ท้องที่อำเภอลำลูกกา ที่กม. 0-8 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ น้ำท่วมสูง 25-150 ซม.ไม่มีเส้นทางทดแทน สอบถาม แขวงฯกรุงเทพ โทร. 02-552-7299
ทางหลวงหมายเลข 338 บางบำหรุ-พุทธมณฑล สาย 4 ท้องที่เขตตลิ่งชัน ที่กม. 2-18 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 50-100 ซม. ใช้สาย 35 พระราม 2 (ดาวคะนอง-วังมะนาว) -สาย 4 ราชบุรี-นครปฐม -สาย 321 กำแพงแสน-สุพรรณบุรี เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ล่องภาคเหนือ สอบถาม สน.บท.ธนบุรี โทร. 02-433-1688
จังหวัดนครปฐม
ทางหลวงหมายเลข 346 ลาดหลุมแก้ว-บางเลน ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 43-51 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40-70 ซม. ไม้มีสายทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 338 สามพราน-นครชัยศรี ท้องที่อำเภอสามพราน ที่กม. 22-23 ระดับน้ำสูง 40-60 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3094 ทางแยกเข้านครชัยศรี ท้องที่อำเภอนครชัยศรี ที่กม. 0-2 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3097 พระประโทน-บ้านบ่อ ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 35-36 ระดับน้ำสูง 10 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3233 นครชัยศรี-วัดสามง่าม ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 1-13 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3296 วัดสามง่าม-บางเลน ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 7-12 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3310 อ้อมน้อย-พุทธมณฑล ท้องที่อำเภอพุทธมณฑล ที่กม. 1-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40-50 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 3316 สามพราน-วัดไร่ขิง ท้องที่อำเภอสามพราน ที่กม. 8-9 ระดับน้ำสูง 10 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3351 บางเลน-สุพรรณบุรี ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 3-17 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3414 อ้อมน้อย-เขตการรถไฟ ท้องที่อำเภอพุทธมณฑล ที่กม. 8-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-100 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
ทางหลวงหมายเลข 3422 บัวปากท่า-สองพี่น้อง ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 12-22 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม. สอบถาม แขวงฯนครปฐม โทร. 034-258-856
จังหวัดสมุทรสาคร
สะพานข้ามแม่น้ำฝังตะวันตก-สมุทรสงคราม ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 38-39 ระดับน้ำสูง 20 ซม.
กระทุ่มแบน-สมุทรสาคร ท้องที่เขตกระทุ่มแบน ที่กม. 0-2 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 35 สะพานข้ามแม่น้ำฝังตะวันตก-สมุทรสงคราม ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 38-39 ระดับน้ำสูง 20 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3901 กระทุ่มแบน-สมุทรสาคร ท้องที่เขตกระทุ่มแบน ที่กม. 0-2 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม. สอบถาม แขวงฯสมุทรสาคร โทร. 034-830-874
จังหวัดสมุทรปราการ
ทางหลวงหมายเลข 34 บางนา-ฉะเชิงเทรา ท้องที่อำเภอบางบ่อ ที่กม. 8-30 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 20 ซม. สอบถาม แขวงฯสมุทรปราการ ฌทร. 02-312-5118
จังหวัดชัยนาท
ทางหลวงหมายเลข 32 สรรพยา-ชัยนาท ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 126 ใช้ช่องทางพิเศษด้านซ้ายทางแทน
ทางหลวงหมายเลข 3183 ชัยนาท-วัดสิงห์ ท้องที่อำเภอวัดสิงห์ ที่กม. 25-28 ระดับน้ำสูง 10 ซม. (ประชาชนอพยพขึ้นมาอยู่บนพื้นผิวจราจร) ใช้ทาง อบต.
ทางหลวงหมายเลข 3213 วัดสิงห์-หนองมะโมง ท้องที่อำเภอวัดสิงห์ ที่กม. 0-1 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทาง อบต.
ทางหลวงหมายเลข 3244 ชัยนาท-ท่าหาด ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 0-4 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน สอบถาม แขวงฯชัยนาท โทร. 056-411-649
จังหวัดนครสวรรค์
ทางหลวงหมายเลข 1084 ป่าแดง-บรรพตพิสัย-โพทะเล ท้องที่อำเภอเมือง ทางขาดที่ กม. 18 และน้ำท่วม ที่กม. 48-52 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้สาย 1 กำแพงเพชร-นครสวรรค์แทน
ทางหลวงหมายเลข 3319 โกรกพระ-อุทัยธานี ท้องที่อำเภอโกรกพระ ที่กม. 0-6 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.
ทางหลวงหมายเลข 3475 ทับกฤช-พนมรอก ท้องที่อำเภอชุมแสง อ.ท่าตะโก ที่กม. 0-8 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 10-25 ซม. (คันทางอ่อนตัว) ใช้สาย 1119 บ.หนองบัว-บ.พนมรอกและ สาย 3004 บ้านท่าตะโก-นครสวรรค์แทน
ทางหลวงหมายเลข 3522 ทางแยกเข้าพยุหะคีรี ท้องที่อำเภอพยุหะคีรี ที่กม. 2-4 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์แทน สอบถาม แขวงฯนครสวรรค์ที่ 1 โทร. 056-221-286 แขวงฯนครสวรรค์ที่ 2 โทร. 056-241-402
จังหวัดสิงห์บุรี
ทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี-ตากฟ้า ท้องที่อำเภออินทร์บุรี น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด ที่กม. 5 ใช้สาย 32 สิงห์บุรี-ชัยนาทแทน
ทางหลวงหมายเลข 3028 บางงา-บ้านหมี่ ท้องที่อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอบ้านหมี่ ที่กม. 1-24 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 3196 บ้านหมี่-ลพบุรีแทน สอบถาม แขวงฯสิงห์บุรี โทร. 036-532-523
จังหวัดลพบุรี
ทางหลวงหมายเลข 311 เลี่ยงเมืองลพบุรี ท้องที่อำเภอเมือง และอำเภอท่าวุ้ง ที่กม. 8-19 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ และคอสะพานขาดที่ กม. 16 ระดับน้ำสูง 35-60 ซม. ใช้สาย 1 ลพบุรี-เฉลิมพระเกียรติ์แทน
ทางหลวงหมายเลข 3196 ลพบุรี-โพธิ์เก้าต้น ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 76-94 มีน้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม. สอบถาม แขวงฯลพบุรีที่ 1 โทร. 036-411-602
ตำรวจทางหลวง 1193 สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ 24 ชม.
สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586
กรมทางหลวงชนบท 1146
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤศจิกายน 2554 23:54 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000141644
“บางเลน” แม่น้ำท่าจีนทรงตัว ส่วนถนนบรมราชชนีกลายสภาพเป็นเมืองร้าง
นครปฐม - ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน อำเภอบางเลน นครปฐม ทรงตัว สภาพกลายเป็นเมืองร้าง เกษตรกรเซ็ง ริมแม่น้ำสวนส้มโอจมอยู่ใต้บาดาลเสียหายหมด
วันนี้ (6 พ.ย.) นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ว่า ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน นอกจากนี้ ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขัง มีพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 579,652 ไร่ โดยอำเภอบางเลน จำนวน 322,468 ไร่, อำเภอดอนตูม จำนวน 52,019 ไร่, อำเภอกำแพงแสน จำนวน 64,819 ไร่, อำเภอเมืองนครปฐม จำนวน 10,472 ไร่, อำเภอนครชัยศรี จำนวน 67,031 ไร่, อำเภอสามพราน จำนวน 24,659 ไร่ และอำเภอพุทธมณฑล จำนวน 36,184 ไร่
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน ที่วัดศิลามูล ได้มีการจัดงานฌาปนกิจให้แก่นายใจ รื่นนุศาล อายุ 70 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อตภายในบ้านพักโดยมีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่พบว่าหลายจุดในพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูงโดยเฉพาะจุดที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน และท้องนาจะมีน้ำสูงราว 2-3 เมตร และมีการทรงตัวเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง
ส่วนที่ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน พบว่า ระดับน้ำยังขึ้นไม่มากเพียงวันละ 2 ซม.ส่วนที่ที่บริเวณบนถนนบรมราชชนนียังมีระดับน้ำสูงกว่า 1.20 เมตร บ้านเรือนที่อยู่ริมถนนทั้ง 2 ฝั่งหลายหลังบ้านจมมิดหลังคา ส่วนสวนส้มโอที่ปลูกไว้ริม 2 ฝั่งแม่น้ำท่าจีนล่มทั้งหมด ขณะที่กำลังรอการตัดจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่พื้นที่ไม่ต่างกับอำเภอบางเลน ที่มีสภาพกลายเป็นทะเลสาบ
นอกจากนี้ ชาวบ้านอำเภอสามพราน ยังจับตาถึงมวลน้ำที่ ศปภ.กำลังจะเร่งผลักดันลงสู่ทะเลที่ จ.สมุทรสาคร ว่า จะเป็นเช่นไร เพราะเป็นปลายทางที่จะนำมวลน้ำมหาศาลผ่านพื้นที่เพื่อมุ่งผ่านถนนพระราม 2 ซึ่งจะทำให้มวลน้ำจะถูกผลักดันเข้ามาในพื้นที่อีกมาก
สำหรับกระแสข่าวที่มีจระเข้หลุดจากฟาร์มในเขต อ.นครชัยศรี จำนวน 4 ตัว ซึ่งเป็นพ่อและแม่พันธุ์นั้น ยังไม่สามารรถจับได้ เนื่องจากน้ำท่วมเอ่อเป็นบริเวณกว้างหลายอำเภอ ทำให้เจ้าหน้าที่เกรงว่าจระเข้าอาจจะว่ายหนีลงแม้น้ำท่าจีน หรือตามผืนน้ำต่างๆ ซึ่งจะเป็นอันตรายมาก เนื่องจากเป็นจระเข้าขนาดใหญ่มีความยาวกว่า 4 เมตร โดยขณะนี้ทางกรมประมงได้ร่วม
กับจังหวัดนครปฐมส่งทีมติดตามแกะรอยและป้องกันความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในจุดที่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น ศูนย์พักพิงตำบลลานตากฟ้า ที่มีน้ำท่วมสูงอยู่ในขณะนี้
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 16:15 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...a4%c3%bb%b0%c1
ชาวบ้านคลองนกกระทุม 11 หมู่บ้าน วอนหน่วยงานช่วยเหลือหลังจมบาดาลนาน
นครปฐม - ชาวบ้าน ในตำบลคลองนกกระทุม อำเภอบางเลน นครปฐม วอนเจ้าหน้าที่ช่วยบริจาคถุงยังชีพและน้ำดื่มหลัง 11 หมู่บ้าน น้ำสูงระดับคอมานานนับเดือน ส่วนตำบลบางภาษี จับจระเข้ยาว 2 เมตรได้อีก 1 ตัว ขณะที่ประมงจังหวัดเตรียมออกล่าจระเข้ที่เหลือและหลุดออกมาเพิ่มอีก
วันนี้ (5 พ.ย.) โครงการชลประทานนครปฐมรายงานสถานการณ์น้ำซึ่งต้อง จับตาอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอำเภอบางเลน มีน้ำท่วมแล้ว 322,737 ไร่ อำเภอดอนตูม มีน้ำท่วมแล้ว 51,904 ไร่ อำเภอกำแพงแสน มีน้ำท่วมแล้ว 64,168 ไร่ อำเภอเมืองนคปฐม มีน้ำท่วมแล้ว 10,636 ไร่ อำเภอนครชัยศรี มีน้ำท่วมแล้ว 67,996 ไร่ อำเภอสามพราน มีน้ำท่วมแล้ว 16,406 ไร่ และที่อำเภอพุทธมณฑล มีน้ำท่วมแล้ว 75,206 ไร่
สำหรับแนวโน้มของระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน อยู่ในที่ช่วงที่ต้องระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถานีวัดระดับน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้วัดระดับน้ำได้ 3.89 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 89 เซนติเมตร ระดับน้ำคงทรงตัว ส่วนระดับน้ำท่วมทุ่งที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่การเกษตร ทุ่งผักไห่ และทุ่งเจ้าเจ็ด ซึ่งไหลผ่านมาที่คลองพระยาบันลือ ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งที่อยู่ในแนวป้องกัน 30 เซนติเมตร และระดับน้ำยังคงทรงตัวที่ 4.30 เมตร โดยได้มีการเปิดประตูระบายน้ำพระยาบรรลือ ลงสู่แม่น้ำท่าจีน บริเวณ ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับระดับน้ำของอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล ที่ยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ในขณะนี้ โดยได้มีการนำเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 26 เครื่องในการเร่งระบายน้ำ
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจากชาวบ้าน ตำบลคลองนกกระทุม อำเภอบางเลน เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กว่า 11 หมู่บ้านว่ายังไม่ได้รับการติดต่อหรือช่วยเหลือจากภายนอก เนื่องจากเป็นพื้นที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอบางเลน และอำเภอพุทธมณฑล ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่มีสภาพน้ำท่วมสูงอยู่ในขั้นวิกฤต ขณะนี้ประชาชนกว่า 900 ครัวเรือนกำลังขาดแคลนเรื่องน้ำดื่มและอาหาร ต้องอาศัยการติดต่อประสานงานจากภายนอกให้เข้าไปช่วยเหลือ แม้ขณะนี้ไฟฟ้าจะยังไม่ถูกตัดก็ตาม แต่เรื่องอาหารที่ชาวบ้านเก็บไว้เริ่มใกล้หมดแล้ว โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้อพยพหนีน้ำออกมานอกพื้นที่หลายราย แต่มีขโมยออกมาลักทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพทางการเกษตร ชาวบ้านจึงต้องตัดใจกลับไปอาศัยอยู่ในบ้านที่ระดับน้ำสูงกว่า 1.50-1.80 เมตรอีกครั้ง
ส่วนที่หมู่ 5 ตำบลบางภาษี อ.บางเลน ได้รับการยืนยันว่า สามารถจับจระเข้ได้แล้ว 1 ตัวมีความยาว 2 เมตร ขณะเดียวกันยังมีกระแสข่าวลืออีกว่า ได้มีจระเข้หลุดออกมาอยู่ในพื้นที่ตำบลบางภาษี อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านได้ประสานไปทางประมงจังหวัดนครปฐมเพื่อลงพื้นที่สำรวจและเตรียมออกล่าจระเข้ที่คาดว่า จะมีหลายตัวในพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่หมู่ 12 นั้นมีฟาร์มจระเข้อยู่แห่งหนึ่งซึ่งระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร โดยต้องเข้าไปตรวจสอบว่า จระเข้หลุดจากฟาร์มหรือว่ามาจากแม่น้ำท่าจีนหรือไหลตามกระแสน้ำมาจากอำเภอบางบัวทอง และต้องให้ผู้นำชุมชนออกประกาศแจ้งให้ชาวบ้านระวังตัวในช่วงนี้ด้วย
ส่วนที่ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน อุทยาทนการอาชีพ มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ได้เดินหน้านำถุงยังชีพ เรือ และสุขาลอยน้ำออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าไปในสถานที่น้ำท่วมเกือบครบทุกอำเภอที่เดือดร้อนหนักและได้เก็บข้อมูลเพื่อจะนำมาประกอบในการช่วยเหลือในระยะสั้นและระยาวแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ ที่เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีจิตอาสานำถุงยังชีพและน้ำเปล่ารวมถึงสุขาเข้าแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน ซึ่งได้พร้อมกลับมาช่วยชาวบ้านในพื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มหลายคนได้ประสบปัญหาถูกน้ำท่วมเช่นกัน แต่ได้เห็นจากข่าวจึงได้มีการรวมตัวในเบื้องต้น ในการแสดงความห่วงใยก่อนกลับไปกู้สถานการณ์น้ำท่วมบ้านของตัวเองในเขตกรุงเทพฯ ในช่วงนี้ที่หลายท้องที่อยู่ในสภาวะต้องอพยพเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:25น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...a4%c3%bb%b0%c1
ผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานแจกผู้ประสบอุทกภัยนครปฐม
นครปฐม - ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ผู้ประสพอุทกภัยที่จังหวัดนครปฐม
วันนี้ (5 พ.ย.54) เวลา 13.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้ ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯเป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ผู้ประสพอุทกภัยจำนวน 500 ชุดตามโครงการ “ หนึ่งใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” ที่สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมาร (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มอบถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 140 ชุดให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมถึงเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ซึ่งมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ได้จัดตั้งโครงการ “หนึ่งใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ตามพระดำริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ และทรงพระกรุณาโปรดให้มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯดำเนินโครงการในพระดำริ เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบสาธารณภัยด้านต่างๆ ทุกพื้นที่ให้มีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนที่มหาวิทยาลัยคริสเตียน จังหวัดนครปฐม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน พร้อมด้วยนางพรทิพย์ กวินสุพร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน นายสุเทพ วุฒิวโรภาส ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน ดร.เสาวณีย์ กานต์เดชารัก ที่ปรึกษาคณบดีสหเวชศาสตร์ นางโสภิณ ทวีพงศากร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานักศึกษา และนายสมโภช พรหมจำรัส อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา ได้นำคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่จุดพักพิงโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้จัดตั้งเป็นจุดที่พักอาศัยชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนายไพฑูรย์ ศรีทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งนำเยี่ยมชมโรงนอน ภายในศูนย์ฯ
ต่อมาอธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน พร้อมคณาจารย์และนักศึกษาได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอนครชัยศรีเพื่อมอบเรือพาย 8 ลำให้กับทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอนครชัยศรี 4 ลำและให้กับสถานีตำรวจอำเภอพุทธมณฑล 4 ลำ โดยมี พันตำรวจโท ชัยยศ มุกดาหาร รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอนครชัยศรี เป็นผู้แทนรับมอบเพื่อให้ตำรวจในท้องที่อำเภอนครชัยศรีและพุทธมณฑลนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
จากนั้นได้เดินทางไปยังโครงการบ้านเอื้ออาทร อำเภอนครชัยศรี ซึ่งได้จัดตั้งเป็นจุดพักพิงอาศัยชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัยอีกแห่งหนึ่ง เพื่อนำอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของ และยาเวชภัณฑ์ ไปมอบให้กับผู้อพยพภายในศูนย์ฯ ซึ่งมีนายชาติ กันล้อม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตำหนัก ให้การต้อนรับและมี พันตำรวจโท นิติพัฒน์ แสงทอง สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอนครชัยศรี มาให้การดูแลและอำนวยความสะดวก สำหรับจุดพักพิงแห่งนี้มีผู้อพยพอาศัยอยู่แล้วทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2554 17:39 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...a4%c3%bb%b0%c1
Citizen Member /
Trusted Member
เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
Previous
Downtown
IAm
Reply With Quote