4 พฤศจิกายน 2554
==================================================
>> กรุงเทพฯ <<
ในหลวง พระราชทานถุงยังชีพชาวกทม.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดือดร้อนจากอุทกภัยใน กทม. จึงได้พระราชทานถุงยังชีพ เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้แก่ราษฎร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในเบื้องต้น โดย วันนี้ ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ พร้อมคณะ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3,000 ครอบครัว
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 21:39 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
ทหาร-ตร.คุมเข้มคลองสามวา เผยหากพลาด กทม.ใต้จมน้ำทั้งหมด
“ยุทธศักดิ์” เผยจัดทหาร-ตร.ดูแลคลองหลักแก้ปัญหาชาวบ้านพังคันกั้นน้ำแล้ว ยันนายกฯ ยึดแนวทางในหลวงตลอด ด้าน “ประยุทธ์” ระบุหากควบคุมน้ำคลองสามวาไม่ได้ นิคมฯ บางชัน ห้วยขวาง ทองหลาง จะท่วมทั้งหมด น้อยใจคนบ่นรอขึ้นรถทหารนาน บอกขอให้อดทนไม่ใช่รถเมล์ อย่าได้หงุดหงิดเพราะทหารทำให้ดีที่สุด ลุยน้ำมาเป็นเดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์ก บินสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 9 จุด เริ่มจากหลักหก แนวคันกั้นน้ำ สนามบินดอนเมือง เพื่อดูการวางแผนการวางคันกั้นน้ำเป็นบล็อก เพื่อดูดน้ำออกทีละขั้นตอน ซึ่งทางกองทัพบกส่งกำลังทหารไปช่วยกองทัพอากาศ 500 นาย จากนั้นจะบินไปดูที่คลองสอง คลองสามวา และบินกลับไปททิศตะวันตก เพื่อดูคลองทวีวัฒนา ถนนเพชรเกษมลงสู่แม่น้ำท่าจีน และอ่าวไทย จากนั้นจะไปดูที่คลองมหาสวัสดิ์ และบางพลัด
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวถึงปัญหาที่มีประชาชนพังคันกั้นน้ำบริเวณคลองสามวาว่า มีมาตรการการเฝ้าระวังคันกั้นน้ำตั้งแต่หลักหก รวมถึงคลองสามวาเรียบร้อยหมดแล้ว บริเวณพื้นที่หลักหกมีทหารดูแลอยู่ ส่วนของคลองสามวาที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ ทางผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้กองพันสารวัตรทหาร (สห.) จำนวน 200 คน เข้าไปสนับสนุนดูแลความเรียบร้อย ซึ่งถ้าน้ำลดลง บริเวณดอนเมือง ถนนวิภาวดี และถนนพหลโยธิน น้ำจะลดลงด้วย จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ ส่วนของคลองประปา ที่มีชาวบ้านไปทำลายคันกั้นน้ำถึง 17 จุดนั้น ได้ให้ทางตำรวจตระเวนชายแดน กับตำรวจ ดูแลแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้ขอร้องมาทางทหาร
เมื่อถามย้ำว่าจะมีการปรับโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับโครงสร้าง หากปรับก็เป็นเรื่องของระบบการบริหารของ ศปภ. ตนขอพูดในภาพของกระทรวงกลาโหมเท่านั้น จะไม่พูดภาพที่เหนือกว่ากระทรวงกลาโหม เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ในฐานะที่เป็นผู้ปฎิบัติเราก็เห็นการทำงานของผู้นำประเทศที่เอาใจใส่ตลอดเวลา โดยได้ให้กระทรวงกลาโหมรายงานการทำงานของเหล่าทัพให้ทราบทุกขั้นตอน ทั้งหลังจากตรวจเยี่ยมวันนี้เสร็จก็ต้องชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีให้ทราบ ซึ่งคิดว่าการปรับปรุง ศปภ.คงปรับบางส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นผลให้เกิดผลดีมากกว่าที่จะปรับในภาพใหญ่
เมื่อถามว่า มีการนำคลิปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ หัวเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมในปี 2538 มาเผยแพร่ จะนำไปหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามแนวทางในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างเต็มที่อยู่แล้ว หลังจากที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานเรื่องน้ำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ รับทราบ และนายกรัฐมนตรีก็ได้รับแนวนโยบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตรง ทุกอย่างที่รับสั่งนายกรัฐมนตรีนำมาปฎิบัติอย่างเต็มสติกำลังที่ดำเนินการ อยู่ในขณะนี้
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปริมาณน้ำทางทิศเหนือที่มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เหนือคลองรังสิตยังมีจำนวนมาก ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำออกทางประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อลดระดับน้ำในคลองรังสิต ก่อนจะระบายสู่ประตูน้ำคลองหกวา เพื่อผลักดันออกทางตะวันตกให้มากที่สุด ส่วนประตูระบายน้ำคลองสามวามีการเฝ้าระวังอยู่เพื่อไม่ให้มีการบุกรุก เพราะถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการระบายน้ำสู่คลองแสนแสบ หากน้ำเข้าสู่คลองแสนแสบมากเกินไปจะข้ามไปท่วมนิคมบางชัน รวมถึงเขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง ดังนั้นต้องระวังคลองแสนแสบให้ดี จึงอยากขอร้องประชาชนที่คลองสามวาถ้าหากระบายน้ำมากจะกระทบถึงคลองแสนแสบ และน้ำจะท่วม กทม.ใต้ทั้งหมด รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมด้วย สำหรับบริเวณคลองทวีวัฒนา ซึ่งยังมีปัญหาเพราะน้ำท่วมข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ที่มีปริมาณน้ำสูงมากเพราะรับน้ำมาจาก จ.ปทุมธานี นนทบุรี จึงต้องระบายน้ำออกสู่แม่น้ำท่าจีนให้เร็วที่สุด เพื่อให้น้ำฝั่งตะวันตกลดลง มิเช่นนั้นจะเอ่อท่วม
“หากจุดใดมีปัญหาประชาชนไม่เข้าใจ อยากจะรู้ว่ามีปัญหาอย่างไรทำไมถึงเปิดประตูระบายน้ำตรงนั้นไม่ได้ ผมจะอนุมัติให้ผู้นำตรงจุดนั้นมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดูว่าคลองสามวาหรือคลอง หกวาตรงนั้นเป็นอย่างไร หากเปิดประตูระบายน้ำจะเกิดอะไรขึ้น หากปิดตรงนี้และเปิดตรงนี้บ้านของท่านจะหายท่วมหรือไม่ ต้องให้ไปดูว่ามีน้ำที่มหาศาลทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรถึงจะช่วยระบายน้ำออกไป ซึ่งทุกคนต้องเดือดร้อนมากน้อยเท่านั้น ส่วนเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจรไปมาซึ่งขณะนี้ดีขึ้น เพราะเราได้ใช้รถทหารรับส่ง ขอให้ประชาชนอย่าได้หงุดหงิดเพราะทหารลุยน้ำมาเป็นเดือนแล้ว ซึ่งขณะนี้รถได้หมุนเวียนออกไปใช้งานซึ่งได้รับความเสียหาย 30-40% เพราะลุยน้ำมาตลอด จึงต้องนำรถใหม่ออกมาใช้ก่อนส่งไปให้หน่วยในต่างจังหวัดซ่อมบำรุง รถทหารที่ใช้ส่งคน ไม่ใช่รถ ขสมก.ขอให้อดทน ผมก็น้อยใจเหมือนกัน มีทั้งคนชม และตำหนิ ทำไมให้รอรถทหารตั้ง 3 ชั่วโมง ไม่ใช่รถเมล์นะครับ เป็นรถทหาร ไปเสริมให้ เห็นตำหนิว่ารถทหารร้อน ผมก็ให้เอาป้ายโฆษณาลง ให้ลมเข้าแล้ว ก็ทำให้ดีที่สุด” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทางด้านสนามบินดอนเมือง ได้สั่งการให้เจ้ากรมการทหารช่างวางแผนในการนำเครื่องมือทางการช่างของ ทบ.เข้าไปให้ได้เพื่อทำสะพานให้รถวิ่ง ปัญหาขณะนี้คือ การขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ การขนส่งกระสอบทรายขนาด 2.5 ตัน จำนวนหลายหมื่นกว่ากระสอบเพราะมีน้ำท่วมสูงจึงต้องขนส่งทางรถไฟได้ประมาณ วันละ 5,000 กระสอบต่อวันเพื่อสร้างแนวปิดกั้น ถ.จันทรุเบกษา ถ.วิภาวดีรังสิต และ ถ.เลียบทางรถไฟให้ได้ ขณะนี้ได้นำกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2 และ 3 จำนวน 30 กองร้อยเข้ามาพักคอยที่สนามกีฬา ทบ.เพื่อรอรับภารกิจหมุนเวียนช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงเป็นประธานสภานายิกาสภากาชาดไทย ซึ่งพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์มาให้กองทัพบกให้กรมพลาธิการจัดรถครัวสนาม ประกอบอาหารแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
“ต้องให้กำลังใจทหาร เราไม่ต้องการเป็นพระเอก พร้อมจะเสียสละและส่วนหนึ่งก็สมัครใจ โดยเฉพาะทหารที่ปลดไปแล้วก็ขออยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนซึ่งเป็นเรื่อง น่ายินดี เราไม่อยากผลักภาระเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่ายงบประมาณ โดยเราจะนำกำลังพลที่มีอยู่ทำงานให้มากขึ้นและเสียสละทุ่มเท ไม่ต้องให้ค่าจ้างเพราะจะทำให้ทหารเสียนิสัย ถ้าใครรับจะถูกลงโทษเพราะกองทัพบกดูแลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงทหารที่เพิ่มมาเป็น วันละ 120 บาทต่อวันนั้น ไม่ต้องกังวลถ้าจะได้ก็ได้ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาเรียกร้องให้ทหาร ขอให้เฉยๆ เพราะทหารเราไม่ได้เรียกร้องอะไร ไม่เป็นไรบ้านเมืองขณะนี้เดือดร้อนไม่มีเบี้ยเลี้ยงเราก็ทำให้” ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า กรมชลประทานให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่านี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามองในแง่ของพวกเราทำได้แค่นี้ ซึ่งไม่ได้แก้ตัวให้ใคร แต่สาเหตุเกิดจากมีปริมาณน้ำมากมายมหาศาลต้องไปสอบสวนว่าเหตุใดถึงไม่มีการระบายออก และระบายผิดระบายถูกอย่างไร อยากถามว่าคูคลองได้มีการขุดลอกหรือไม่ ประตูระบายน้ำได้มีการซ่อมแซมหรือไม่ ประชาชนที่อยู่ตามริมคลอง ถูกหรือผิดกฎหมายก็ต้องไปดู พูดไปเดี๋ยวก็ไปทะเลาะกัน นี่คือปัจจัยทั้งหมดที่การระบายออกทางทะเลทำได้น้อย
“ปริมาณน้ำมากด้วยสาเหตุอะไรไม่รู้ ซึ่งการระบายน้ำทำไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ 100% ก็ต้องไปหาสาเหตุมา ขณะนี้ไม่มีอะไรดีกว่านี้ ผมก็คิดเล่นๆ ระบายออกซ้ายขวาไม่ได้ ข้างใต้ก็ กทม. ก็ไปหาสว่านใหญ่ๆ มาเจาะรูให้น้ำลงดินไปดีไหม เพราะไม่มีทางอื่นแล้ว ระบายน้ำออกไม่ได้ปั๊มน้ำก็ไม่ออกก็ต้องเปิดทางน้ำให้น้ำไหล เช่น ผักตบชวา ทหารก็ไปเก็บให้อยู่ ก็ขอให้หน่วยงานและประชาชนช่วยกันเก็บผักตบชวาให้หน่อย ไม่เช่นนั้นก็เป็นภาระให้ทหาร หากน้ำไม่ท่วมก็ไม่ให้ความสำคัญประตูและคลองระบายน้ำ ดังนั้นเมื่อรู้แล้วก็ไปหาหนทางแก้ให้ได้ในครั้งหน้า ผมไม่ได้รบกลับใคร” ผบ.ทบ.กล่าว และว่า ช่วยหาสว่านอันใหญ่ให้ทหารเจาะดินให้น้ำไหลไปสู่ขั้วโลกใต้ให้หน่อย
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 03:34 น.
http://www.manager.co.th/Politics/Vi...word=%a1%b7%c1
เช้านี้ แจกน้ำดื่มฟรี 11 จุดในกทม.- กปน.บริการน้ำดื่มที่สนง.สาขา
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดเตรียมน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ 11 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่
1. เขตจตุจักร ที่สวนจตุจักร
2. เขตวังทองหลาง ที่วัดสามัคคีธรรม
3. เขตบางกะปิ ที่การเคหะคลองจั่น
4. เขตบึงกุ่ม ที่โรงเรียนประภาสวิทยา
5. เขตคลองเตย ที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ
6. เขตสะพานสูง ที่วัดลาดบัวขาว
7. เขตบางบอน ที่วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธิ์
8. เขตพระโขนง ที่วัดวชิรธรรมสาธิต
9. อ.บางพลี สมุทรปราการ ที่โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม
10. อ.เมืองสมุทรปราการ ที่วัดตำหรุ
11. เขตจตุจักร ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
สำหรับน้ำที่แจกจ่ายต่อวันรวม 11 แห่งจะมีไม่ต่ำกว่า 100,000 ขวด เป็นน้ำบรรจุขวด ทั้ง 5, 10 และ 20 ลิตร ขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการ และจะเริ่มแจกจ่ายได้ภายในวันศุกร์ที่ 4 พ.ย.นี้ ประชาชนที่ต้องการน้ำดื่มสะอาดตั้งแต่วันนี้ ( 2 พ.ย.) กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้แจกจ่ายน้ำดื่มสะอาด 2 จุด คือบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และ ถนนงามวงศ์วาน 54
ก่อนหน้านี้ การประปานครหลวง แจ้งว่า เพื่อให้บริการประชาชนในเรื่องน้ำดื่ม ขณะนี้ กปน. ได้ติดตั้งจุดบริการน้ำประปาดื่มได้ ที่หน้าสำนักงานประปาสาขาทุกแห่ง (ยกเว้น สำนักงานประปาสาขาบางบัวทอง ซึ่งประสบภาวะน้ำท่วม) โดยประชาชนสามารถนำภาชนะมารองน้ำไปบริโภคได้ฟรี สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขวิกฤติคุรภาพน้ำดื่ม การประปานครหลวง (ศอน.กปน.) โทร 0 2503 9776 , 0 2503 9818 โทรสาร 0 2503 9835 ตรวจสอบสาขาที่ให้บริการได้ที่เว็ปไซต์ http://www.mwa.co.th/2010/ewt/mwa_in...ilename=branch
การประปาปานครหลวง (สำนักงานใหญ่) อาคารสำนักงานใหญ่การประปานครหลวง เลขที่ 400 ถนนประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทร 0 2504 0123
สำนักงานประปาสาขา
สำนักงานการประปานครหลวง (สำนักงานใหญ่)
สำนักงานประปาสาขาสุขสวัสดิ์
สำนักงานประปาสาขาตากสิน
สำนักงานประปาสาขาสุขุมวิท
สำนักงานประปาสาขาทุ่งมหาเมฆ
สำนักงานประปาสาขานนทบุรี
สำนักงานประปาสาขาบางกอกน้อย
สำนักงานประปาสาขาบางเขน
สำนักงานประปาสาขาบางบัวทอง
สำนักงานประปาสาขาประชาชื่น
สำนักงานประปาสาขาพญาไท
สำนักงานประปาสาขาพระโขนง
สำนักงานประปาสาขาภาษีเจริญ
สำนักงานประปาสาขามีนบุรี
สำนักงานประปาสาขาแม้นศรี
สำนักงานประปาสาขาลาดพร้าว
สำนักงานประปาสาขาสมุทรปราการ
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 06:06 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
นิคมฯ บางชันขอ กทม.เพิ่มเครื่องสูบน้ำบึงกระเทียม อีก 2 เครื่อง
ศูนย์ประสานงานและป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ล่าสุด และการวางแผนการเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่มาถึงอย่างรวดเร็วและมีจำนวนมาก โดยได้มีการพิจารณาการเพิ่มเครื่องสูบน้ำที่บริเวณบึงกระเทียม จำนวน 2 เครื่อง เพื่อดึงน้ำลงสู่คลองบางชัน คลองหลอแหล และคลองแสนแสบ ซึ่งจะต้องมีการขอจากทาง กทม. วันนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งระบายน้ำ เนื่องจากขณะนี้ น้ำภายในบึงกระเทียม ที่ส่วนหนึ่งรับมาจากคลองพระยาสุเรนทร์ เริ่มปริ่มแล้ว ซึ่งหากเกิดการเอ่อล้น จะส่งผลต่อนิคมอุตสาหกรรมเฟสสาม ซึ่งมีโรงงานอยู่เกือบ 30 โรงงาน นอกจากนั้น ยังพิจารณาการขอผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการระบายน้ำ เพื่อให้ขอมูลที่ถูกต้องและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 12:00 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
กทม.ประกาศ 4 แขวงจตุจักรอพยพ เตือนหนองแขมเฝ้าระวังพิเศษ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามประกาศเขตพื้นที่อพยพเพิ่มในเขตจตุจักร จำนวน 4 แขวง ประกอบด้วย ลาดยาว จันทรเกษม เสนานิคม และจตุจักร บริเวณริมคลองเปรมประชากรฝั่งตะวันตก 100 เมตร และริมทางรถไฟสายเหนือฝั่งตะวันออกทั้งหมด พร้อมประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในแขวงหนองแขม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บขยะ เนื่องจากบางพื้นที่รถเก็บขยะของกรุงเทพมหานคร ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เพราะระดับน้ำสูง 60-70 เซนติเมตร และมีเรือจำกัด เบื้องต้นดัดแปลงรถจัดเก็บขยะ จำนวน 60 คัน โดยการยกท่อไอเสียสูงขึ้น พร้อมประสานของเรือไปยังกระทรวงมหาดไทย เข้ามาช่วยอีกทาง จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 12:08 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
กทม.เร่งป้องกัน BTS - มึน!! ท่วมห้าแยกลาดพร้าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ปัญหาสำคัญในช่วงบ่ายวันนี้จะต้องเร่งหาทางป้องกันบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้น แต่ กทม.ได้รับการสนับสนุนเรือเก็บขยะจากเทศบาลจังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจะระดมลงพื้นที่วันนี้
ส่วนสถานการณ์น้ำที่รุกคืบเข้ามาถึงห้าแยกลาดพร้าว ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 12:11 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
กทม.ประกาศ “แขวงลาดยาว-เสนานิคม-จันทรเกษม-จตุจักร” เป็นพื้นที่อพยพ แขวงหนองแขมพื้นที่เฝ้าระวัง
กทม.ประกาศ “แขวงลาดยาว-เสนานิคม-จันทรเกษม-จตุจักร” เป็นพื้นที่อพยพ เฉพาะพื้นที่ริมคลองเปรมประชากร และริมทางรถไฟ เตือนแขวงหนองแขม เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง สั่งกองการช่างกลดัดแปลงท่อไอเสีย เพื่อไปจัดเก็บขยะในพื้นที่น้ำท่วม
วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานระบายน้ำ ศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ยังไม่มีปัญหา โดยน้ำทะเลหนุนสูงสุดเมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) อยู่ระดับที่ 2.32 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนวันนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในเวลา 14.00 น. คาดว่าระดับน้ำใกล้เคียงกับเมื่อวานนี้ ส่วนระดับน้ำในคลองต่างๆ ยังทรงตัว โดยที่คลองสอง ระดับน้ำอยู่ที่ 2.88 เมตร คลองทวีวัฒนา 2.76 เมตร คลองมหาสวัสดิ์ 2.85 ม. ซึ่งปริมาณน้ำอยู่ในระดับเท่าเดิม ส่วนคลองรังสิต ระดับน้ำอยู่ที่ 3.60 เมตร ปริมาณน้ำลดลง ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมทรงตัวหรือเพิ่มมากขึ้น ยกเว้นเขตบางพลัด ที่ระดับน้ำลดลง 5 ซม. ส่วนในเขตอื่นๆ ได้แก่ บางเขน ระดับเพิ่มขึ้นสูงมาก อยู่ 20-50 ซม. จตุจักร 20 ซม หลักสี่ 30-1.20 ม. มีนบุรี 10-35 ซม คลองสามวา 60-90 ซม และหนองจอก ระหว่าง 5-10 ซม ทั้งนี้ถือว่าเขตบางเขน จตุจักร มีนบุรี คลองสามวา ปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า วันนี้ตนได้ลงนามประกาศให้เขตจตุจักร เฉพาะพื้นที่แขวงลาดยาว เสนานิคม จันทรเกษม และจตุจักร เฉพาะพื้นที่ริมคลองเปรมประชากร ด้านตะวันตก 100 ม. และตะวันออก ริมทางรถไฟสายเหนือ เป็นพื้นที่อพยพ และยังได้ ประกาศแจ้งเตือเฝ้าระวัง แขวงหนองแขม เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งเขตหนองเขม มีจำนวน 2 แขวง คือ หนองค้างพลู ได้ลงนามอพยพไปแล้วเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ดังนั้นปัญหาน้ำในเขตนี้รุนแรงมาก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แสดงความเป็นห่วงเรือการจัดเก็บขยะ เนื่องจากรถขยะของ กทม.ไม่สามารถเข้าไปเก็บในพื้นที่ที่น้ำท่วมขังที่มีความสูงของระดับน้ำตั้งแต่ 60 ซม.ขึ้นไปได้ จึงทำให้าสถานการณ์ขยะในพื้นที่น้ำท่วมของ กทม.เข้าสู่สภาวะวิกฤต ดังนั้น เราจึงจะดำเนินการ ตลอด 24 ชม.เป็นเวลา 3 วัน เพื่อเก็ยขยะที่ยังค้างในพื้นที่ ตนสั่งการให้กองการช่างกล ดำเนินการดัดแปลงท่อไอเสียรถเก็บขยะ กทม.ให้สูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว 63 คัน และจะให้เจ้าเหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อม รวมถึงสำนักเขตข้างเคียงที่น้ำยังไม่ท่วม จัดส่งบุคลากร และเครื่องมือเข้าไปช่วย เพิ่มจำนวนเรือเข้าไปจัดเก็บเพิ่มในพื้นที่ ซึ่ง กทม.ได้ประสานไปยังปลัด มท.เพื่อประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ในการจัดส่งเรือมาสนับสนุนภารกิจของ กทม.จัดเก็บขยะ และช่วยเหลือประชาชน โดยขณะนี้มี 4 จังหวัดได้ส่งเรือมาแล้ว ได้แก่ ปราจีนบุรี ราชบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย พร้อมกันนี้ยังมีอีก 13 จังหวัดที่กำลังจัดส่งเรือมาให้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัด มท.ที่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม บ่ายวันนี้ กทม.จะเปิดโรงครัว กทม. ตนเองจะลงพื้นที่ไปที่หน่วยซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการเดินรถไฟฟ้า จากนั้นจะไปเก็บขยะและตรวจน้ำท่วมบริเวณพหลโยธินจนถึงแยกเกษตร
ส่วนกรณีที่เป็นปัญหาเครื่องสูบน้ำที่ กทม.ได้ยื่นหนังสือขอไปทาง ศปภ.ซึ่ง กทม.ได้ส่งหนังสือครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ย. และล่าสุดส่ง 3 พ.ย.ที่ผ่านมา กรณีดังกล่าวมีข้อโต้เถียงในที่ประชุม ทางนายกฯ ไม่สบายใจที่หยิบยกเรื่องนี้มาพูด เพราะไม่เกี่ยวกับท่าน นอกจากนี้ ทาง กทม.ยังได้ขอให้ทางกระทรวงคมนาคม ผ่าน ศปภ.จัดส่งเครื่องมือหนัก เช่น รถสิบล้อดัมป์ขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 1 เมตร จำนวน 10 คันรถ มาช่วย กทม.ในการดำเนินการวางบิ๊กแบ๊ก อย่างไรก็ตาม คาดว่าในส่วนพื้นที่โลคัลโรดจะมีการวางถุงบิ๊กแบ็กได้ในวันนี้ ในส่วนกรณีน้ำท่วมบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ถ้าไม่มีแรงดันน้ำมาอีก น้ำจะไม่ขยายไปกว้างกว่านี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 12:17 น.
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1
รถไฟโก-ลก-กรุงเทพ ยังเปิดวิ่งปกติโดยจอดที่นครปฐมแทน
นราธิวาส - รถไฟขบวนรถด่วนและรถเร็วสุไหงโก-ลก-กทม.ยังเปิดให้บริการปกติ แต่จะจอดที่สถานีรถไฟนครปฐม และนำรถขนส่งมาให้บริการ เพื่อส่งถึงเขตกรุงเทพฯชั้นใน ขณะที่ไปรษณีย์ สุไหงโก-ลก ขอให้ตรวจสอบพื้นที่ที่ให้จัดส่งสิ่งของก่อนนำฝาก
วันนี้ (4 พ.ย.) นายอาลาวี อูมา นายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ยืนยันการเดินทางในขบวนรถด่วนและรถเร็ว สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ ว่า ขณะนี้ยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่จะจอดรถที่สถานีรถไฟนครปฐมแทน ซึ่งจะมีการนำรถขนส่งมาให้บริการนำผู้โดยสารไปส่งในเขตกรุงเทพฯโดยไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่ม เนื่องจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงขออภัยในความไม่สะดวก และขอยืนยันว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมให้บริการเต็มระบบเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน นายไซอุเด็ง ฮามิ ผู้จัดการไปรษณีย์ไทย สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ขณะนี้ที่ทำการไปรษณีย์มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบสิ่งของที่ประชาชนนำมาฝากส่งไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีบางจังหวัด ประกอบด้วย จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นครสวรรค์ และกรุงเทพมหานครบางส่วน เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำส่งสิ่งของประเภท EMS และลอจิสติกส์ได้ จึงต้องขออภัยในความสะดวกด้วย
ทั้งนี้ หากประชาชนยืนยันที่จะต้องฝากส่งสินค้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยสาขาสุไหงโก-ลก ก็จะรับฝากและเก็บไว้เพื่อนำส่งเมื่อสถานการณ์การเกิดอุทกภัยเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนการให้บริการในประเภทอื่น ทั้งการโอนเงิน ชำระค่าบริการสินค้า และอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการส่งสิ่งของลงทะเบียนก็ยังมีการเปิดให้บริการตามปกติ
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 16:02 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewN...word=%a1%b7%c1
กทม.ย้ำน้ำต่ำกว่า 1.60 เมตร ไม่กระทบบีทีเอส
ผู้ว่าฯ กทม.มั่นใจบีทีเอสยังเดินรถได้หากน้ำ ถ.พหลฯ ต่ำกว่า 1.60 ม. ส่วนขยายบางหว้าหยุด 15 วันอาจเลื่อนเปิดให้บริการประชาชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ตรวจเยี่ยมศูนย์ระบบควบคุมการเดินรถและศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอส ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กล่าวว่า ทางบีทีเอสได้มีการเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมเพื่อพร้อมเดินรถบริการประชาชนในภาวะที่ระบบขนส่งอื่นๆ ใช้ไม่ได้ ซึ่งบีทีเอสยืนยันยังสามารถเดินรถได้หากมีน้ำท่วมสูงไม่เกิน 2.15 ม.จากระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือเทียบจากระดับพื้นผิวถนนพหลโยธิน 1.60 ม. ถ้าหากน้ำท่วมสูงเกินกว่าปริมาณดังกล่าวจะต้องหยุดเดินรถ ในกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องหรือไฟฟ้าดับบีทีเอส มีสำรองไฟฟ้าทุกสถานีเพื่อใช้ในด้านความปลอดภัยและการสื่อสารในการนำผู้โดยสารออกจากรถอย่างปลอดภัยได้
“จากการตรวจเยี่ยมศูนย์นี้ยังสามารถรองรับน้ำได้ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเสริมการป้องกันด้วย ตนห่วงเรื่องของระบบไฟฟ้าหากเกิดปัญหาจะต้องปิดทั้งระบบ หากมวลน้ำจากถนนวิภาวดีไหลมาถึงห้าแยกลาดพร้าว ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากจุดนี้อยู่ใกล้เครื่องสูบน้ำบางซื่อและได้เดินเครื่องสูบน้ำออกตลอดเวลา และระดับน้ำในท่อระบายน้ำยังอยู่ต่ำกว่าผิวถนน 1 เมตร” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ในส่วนต่อขยายบางหว้า ได้รายงานการดำเนินการก่อสร้างขณะนี้อยู่ระหว่างงานวางเสาเข็มซึ่งติดอุปสรรคปัญหาในเรื่องของการขายส่งปูนสำเร็จรูปเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม ผู้รับเหมาจึงขอหยุดงาน 15 วัน หากสถานการณ์ยังรุนแรงไปกว่านี้อาจทำให้การดำเนินงานก่อสร้างล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิมที่จะเปิดให้บริการประชาชนในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
สำหรับรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) สายช่องนนทรี ราชพฤกษ์ หากระดับน้ำสูงเกิน 30 ซม.จะไม่สามารถให้บริการได้
เร่งเก็บขยะ "บางพลัด"
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำและนำเจ้าหน้าที่ร่วมเก็บขยะในพื้นที่ของเขตบางพลัด ซึ่งนอกเหนือจากที่จะประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนแล้ว ยังต้องประสบปัญหากับขยะจำนวนมากที่ส่งกลิ่นเหม็นและไม่สามารถจัดเก็บได้ตามปกติเนื่องจากว่ารถเก็บขยะของกทม.ไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ๆมีน้ำท่วมสูงได้ จึงต้องใช้เรือในการจัดเก็บแทน แต่เก็บขยะได้ไม่มากนัก ซึ่งขณะนี้ในส่วนของเขตบางพลัดที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน มีปัญาเรื่องขยะเป็นจำนวนมากที่ยังไม่สามารถจัดเก็บได้ทั้งหมด โดยจากการสำรวจปริมาณขยะในพื้นที่เขตบางพลัดพบว่าภายใน 4 วันมีขยะจำนวนมากถึง 130 ตัน ดังนั้นกทม. จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตที่ยังไม่ได้รับผลกระทบรวมถึงอาสาสมัครและประชาชนที่จะเข้ามาร่วมในการเก็บขยะในพื้นที่ๆประสบปัญหาอุทกภัย
ทั้งนี้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สามารถร่วมกันในการลดปริมาณขยะ โดยให้ทำการคัดแยกขยะ สำหรับขยะแห้งให้เก็บไว้เพื่อนำมาทิ้งวันหลัง ส่วนขยะเปียกให้ทำการรวบรวมมาทิ้งไว้ ณ จุดเดียวกันเพื่อง่ายต่อการจัดเก็บขยะของเจ้าหน้าที่
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 17:01 6 น.
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...word=%a1%b7%c1
ทหารยังทำแนว"บิ๊กแบ็ค"ไม่สำเร็จ-ฝ่ายค้านชี้ฝั่งตะวันตก กทม.อ่วม!!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าการวางกระสอบทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ็ค จนถึงขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จตามกำหนดการ เนื่องจากมีปัญหาติดขัดเรื่องการลำเลียงกระสอบทรายยักษ์เข้าพื้นที่ คาดว่าเสร็จวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เชื่อว่า หากวางแนวบิ๊กแบ็คได้สำเร็จจะช่วยลดปริมาณน้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ น้อยกว่ากำลังการระบายน้ำออก ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในเพิ่มขึ้น
ในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชนที่อยู่นอกแนวบิ๊กแบ็คว่า หากวางแนวบิ๊กแบ็คสำเร็จจะทำให้น้ำถูกผลักไปทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนานกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 17:38 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...word=%a1%b7%c1
ห่วง"บิ๊กแบ็ก"เปลี่ยนทางน้ำ ทำกทม.ฝั่งตะวันตกจมยาว
วานนี้ ( 4 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวมว่า แนวน้ำรุกคืบมาเรื่อยๆ ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมวลน้ำทางเหนือ จึงขอให้รัฐบาลทำความเข้าใจกับประชาชน และเตือนให้ประชาชนอยู่ในความพร้อม ไม่ควรพูดว่า พื้นที่ใดจะปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ และต้องติดตามถึงผลจากการนำบิ๊กแบ๊กไปเป็นคันกั้นน้ำ ซึ่งทางรัฐบาลหวังว่าจะชะลอน้ำเหนือไม่ให้ไหลบ่าเข้าท่วม กทม.ชั้นใน ว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการใช้บิ๊กแบ๊ก คือ น้ำจะถูกผลักไปทาง กรุงเทพฝั่งตะวันตกมากขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมนานขึ้น จึงต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ที่อยู่ด้านหลังบิ๊กแบ๊กด้วย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยัง กทม. เกี่ยวกับการผลักน้ำทางตะวันตก ซึ่งการระบายน้ำทำได้ยากว่า มีวิธีการระบายน้ำอย่างไร และเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการให้การระบายน้ำเกิดความสมดุลในฝั่งตะวันออกด้วย แต่ก็ติดปัญหาเรื่องความขัดแย้งของมวลชน ทำให้การระบายน้ำในฝั่งตะวันออกยังทำได้ไม่เต็มที่ โดยยกตัวอย่างกรณีคลองสามวา ที่รัฐบาลต้องตามแก้ปัญหาที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สร้างขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังขอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการประสานกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ หากมีปัญหาว่าหน่วยงานไหนยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องทำความเข้าใจ เช่น กรณีที่กทม.ขอเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน แต่ไม่ได้รับ โดยกรมชลประทานอ้างว่าไม่มีหนังสือจากกทม. ถึงกรมชลประทาน ทั้งๆ ที่กทม.ได้ส่งหนังสือไปที่ ศปภ.แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องเร่งแก้ไข รวมทั้งการประสานงานระหว่าง กทม.กับกรมชลประทาน เกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการระบายน้ำมากขึ้นด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้การแก้ปัญหาของ ศปภ. ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามาถูกทางหรือยัง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนทำให้ประชาชนไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีความเป็นห่วงเส้นทางคมนาคมใน กทม. ที่จะถูกตัดขาดมากขึ้น โดยเฉพาะพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายสุดท้ายที่เหลืออยู่ ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียม แนวทางรับมือล่วงหน้า ว่า หากถนนเส้นนี้ถูกตัดขาดไป ระบบการกระจายสินค้า และการเดินทางของประชาชน จะทำอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่รุกเข้าพื้นที่กทม.ชั้นในว่า คาดว่าน้ำจะไหลไปรวมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะส่งผลทำให้ กทม.เขตชั้นในมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนได้ตรวจสอบเกี่ยวกับระบบการบริการของสถาบันการเงิน ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารยืนยันว่า มีการเตรียมพร้อมอย่างดี ซึ่งปัญหาน้ำท่วม จะไม่กระทบต่อการให้บริการกับประชาชน
ส่วนการให้บริการของรถไฟใต้ดิน ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประไเทศไทย หรือ รฟม. ซึ่งได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารว่า มีมาตรการป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมไว้แล้ว โดยได้เตรียมการปิดกั้นทางเข้าของน้ำ 5 ด้านไว้แล้ว และโครงส้างของสถานีรถไฟใต้ดิน ได้ออกแบบให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2 เมตร
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 19:00 น.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...word=%a1%b7%c1
เทิดในหลวงสู้ภัยธรรมชาติ ผบ.ทบ.วอนคนไทยเห็นแก่ส่วนรวม
วานนี้ (4 พ.ย. ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้รับมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทจากบริษัท ริโก้ไทยแลนด์ จำกัด เพื่อช่วยเหลือกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติการช่วยน้ำท่วม และรับมอบเรือกู้ภัย เรือพาย ถุงยังชีพ และเสื้อชูชีพ จากธนาคารไทยพาณิชย์
โดยพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าจะนำเงินที่ได้รับมอบ 1 ล้านบาทไปมอบให้สมาคมแม่บ้านทหารบก จัดของขวัญให้กำลังพลที่ทำงานอย่างหนักในขณะนี้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ว่า เท่าที่ฟัง ศปภ. บอกว่าน้ำเริ่มลดลง ก็เป็นแนวโน้มที่ดี ส่วนพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองสามวา ซึ่งนำกำลังสารวัตรทหาร 200 นายเข้าไปควบคุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องให้เครดิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานเต็มที่การทำหน้าที่โดยตรงน่าจะเป็นของตำรวจ ส่วนทหารจะทำงานในยามไม่ปกติ จะดีกว่า
**เทิดในหลวงสู้ความยากจน-ภัยธรรมชาติ
เมื่อถามว่า จากคลิปในหลวงฯ ที่มีพระราชดำริฯป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2538 กระทั่งปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ทบทวนและศึกษาดูหลายอย่าง ซึ่งต้องทำพนังกั้นน้ำหลายกม. แต่ที่ผ่านมายังทำไม่ครบสมบรูณ์ เช่น 85 ก.ม. ก็ทำได้แค่ 70-75 ก.ม. ที่สำคัญคือ ความเข้าใจของประชาชนว่า ผลประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน เราจะรักษาบ้านเมืองของเราอย่างไร ทุกคนจะต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่วนได้ คือประโยชน์ที่รัฐต้องไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ส่วนเสียคือ ทุกคนต้องยอมเสียสละบ้าง เช่น การเสียภาษี หรือสิ่งอื่นๆ ถ้าคิดแต่ไม่ทำ ก็มีปัญหาเกิดขึ้น หลังจากนี้เราควรจะต้องทบทวนว่า ที่พระองค์ท่านรับสั่งทั้งหมดทำได้ครบหรือยัง อะไรที่ต้องทำให้ครบ ในหลวงฯท่านทรงริเริ่มมาตั้งแต่ทรงครองราชย์ไม่ใช่เพิ่งมาคิดเมื่อปี 2538 ท่านทรงต่อสู้เรื่องน้ำ เรื่องป่าไม้มาตลอด เหมือนกับเป็นองค์พระมหากษัตริย์ ที่ทรงนำประเทศชาติสู้รบกับธรรมชาติ ให้ประเทศไทยปลอดภัย ประชาชนต้องเข้าใจ รัฐบาลใช้กฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ทั้งศาสตร์ และศิลปะ
"พระองค์ ท่านทรงริเริ่มทั้งหมดในการดูแลประเทศไทย ผมถึงบอกว่าเรามีพระมหากษัตริย์ ที่มีพระคุณอันประเสริฐต่อประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกพระองค์ทำเพื่อประเทศชาติมาตลอด และในวันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สมัยใหม่ คือ ไม่ได้สู้รบกับข้าศึก แต่สู้กับความยากจน และรบกับธรรมชาติ เพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย ฉะนั้นรัฐบาลต้องสนองพระราชดำรินี้ และดำเนินงานต่อตามที่พระองค์ท่านเริ่มไว้ ไม่ใช่พระองค์ท่านเริ่มไว้แล้วต้องทำเองจนจบ คงไม่ใช่" ผบ.ทบ.กล่าว
** หลังน้ำลดต้องเคลียร์ชุมชนริมคลอง
เมื่อถามว่า สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ขวางทางน้ำจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่วันนี้พูดไม่ได้ ไปตำหนิติติงชาวบ้านที่เขาเดือนร้อนคงไม่ได้ ต้องรอให้ความเดือนร้อนบรรเทาลงก่อน แล้วเรียกมาคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้ายังอยู่ในคลองระบายน้ำอย่างนี้ ก็กีดขวางทางน้ำไปครึ่งคลองแล้ว ทำอะไรก็ลำบาก ต้องมาพูดคุยหาทางความพอดีมาเจอกัน หากไม่ให้เขาอยู่ที่นี่ แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน เพราะชาวบ้านที่อยู่ส่วนมากยากจน รัฐบาลก็ต้องดูแลเขา
ส่วนความคืบหน้าในการกู้สนามบินดอนเมืองนั้น การวางกระสอบมทรายเป็นไปด้วยดี ทางรมว.คมนาคม รับผิดชอบอยู่ ทางทหารสนับสนุนกำลังพลดำเนินการตามแผน ซึ่งตนได้สั่งให้ตรวจสอบว่าถ้ามีคนเข้าไปเพิ่ม จะทำให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วย แต่เราพยายามเร่งทำให้เร็วที่สุด
**ติงแผนเปิดคลองสามวาผิดพลาด
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดี พยายามปัดความรับผิดชอบให้หน่วยงานต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล กทม. ตำรวจ ประชาชน ปัญหาขณะนี้มีเรื่องเดียวคือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการพังพนังกั้นน้ำ ซึ่งต้องแก้ไขกันให้ได้ จึงจะเป็นไปตามแผนงาน โดยนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้วางแผนเอง เพราะท่านมีคณะทำงานที่มีความรู้เรื่องน้ำคอยให้คำปรึกษา และวางแผน ส่วนจะผิดหรือถูก ขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำ และฟื้นฟูให้ได้ก่อน ค่อยมาทบทวนว่า เกิดอะไรขึ้น ต้องทำอย่างไรต่อ หรือแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างกรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เปิดแล้วน้ำก็ไม่ลด และยังคงท่วมเหมือนเดิมทั้งข้างบน ข้างล่าง และที่สำคัญน้ำ จะเข้ามายังคลองแสนแสบ และคลองด้านตะวันออกทั้งหมด เมื่อเอ่อล้นขึ้นมา จะท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดพระบัง แล้วเข้ากรุงเทพฯ ทางด้านเขตบางกะปิ
"ขณะนี้วางแผนแล้วว่า จะป้องกันตรงไหนไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่ชั้นใน เหมือนกับการสู้รบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ และกลวิธีไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำผ่านทางนี้ไม่ได้ ก็ไปทางซ้าย ขวา และตลบหลังคล้ายกับข้าศึก ดังนั้น ต้องวางแผนสกัดกั้น ซึ่งเราจะรั้งหน่วงไปเรื่อยๆ และกำลังทหารจะถอยออกมาทีละขั้น และทิ้งส่วนป้องกันไว้ เพื่อดูแลทุกข์สุขประชาชน ซึ่งการสู้รบ ครั้งนี้ไม่ถือว่าเราแพ้ เพราะเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ประเทศชาติเสียหายกว่านี้ ตอนนี้ยังถือว่าไม่แพ้ เรายังสู้กันอยู่ เพียงแต่ข้าศึกมามาก "
** ยอมรับเครียดจนนอนไม่หลับ
ส่วน ที่กังวลว่าปริมาณน้ำมีมากกว่าพื้นที่กทม.นั้น คิดว่าเดี๋ยวน้ำก็ลง เพราะมีทางลงอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องผ่าน ไม่ให้ผ่านคงไม่ได้ น้ำเหนือต้องลงใต้
เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ปล่อยให้น้ำผ่านตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผลกระทบกับศูนย์สั่งการ ศูนย์ราชการ พระราชวัง ซึ่งเป็นโบราณสถาน หากพังจะซ่อมไม่ได้ จึงพยายามเบี่ยงให้มากที่สุด เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าปล่อยให้ท่วมทั้งหมดก็ทำได้เหมือนกัน แต่อย่างไหนจะเสียหายมากกว่ากัน เราพยายามให้เสียหายน้อยที่สุด ที่สำคัญอย่าเครียด ตนก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน ยังบ่นกับลูกน้องเลยว่า นอนไม่หลับ เพราะห่วงลูกน้อง และประชาชน คิดว่าทุกคนก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า เมื่อกองทัพถูกตัดงบประมาณในการพิจารณางบประมาณปี 2555 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกกระทรวงก็โดนหมด กระทรวงละ 10 % เพื่อนำไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อการทำงาน โดยเฉพาะงบซ่อมบำรุง การจัดหาต่างๆ จะลดลง เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ 60 -70 % เป็นของกำลังพล ซึ่งไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เรียกร้อง เพราะรู้ดีว่าประเทศมีปัญหา ต้องดูแลประชาชน และฟื้นฟู ซึ่งเรายอมรับได้ แต่สิ่งไหนที่สำคัญหากรัฐบาลมีงบประมาณ เราจะขอกลับมาใหม่ ซึ่งเป็นงบกลางของรัฐบาล ตนเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน เบี้ยเลี้ยงไม่มี ก็ไม่เป็นไร ถึงไม่มีเงิน ก็ขอให้มีข้าวกินก็พอ
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่คนมองว่า บทบาทการแก้ปัญหาน้ำท่วมของ ผบ.ทบ.เปรียบเหมือน นายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่
" นายกรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ และมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่ได้เป็นพระเอก ผมเป็นได้แค่ผู้ช่วยพระเอก ลูกน้องของผมต่างหากที่เป็นพระเอก" ผบ.ทบ. กล่าว
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก astvผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 19:00 น.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...word=%a1%b7%c1