DigitalKnowledge

สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญอาการปวดหัวไมเกรน (Migraine) คงรู้ดีว่าหากเกิดอาการขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นต้องหยุดทุกกิจกรรมและนอนเท่านั้นทันที ไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับอาการปวดร้าวภายในหัว บางคนปวดแถวขมับ ท้ายทอย เหมือนมีคนเอาคีบยักษ์มาหนีบ บางคนตาสู่แสงไม่ได้ ตาพร่า หากมองหลอดไฟก็เห็นเป็นรัศมีเรืองออกมาจนมองอย่างอื่นไม่ชัด บางคนตามมาด้วยอาการพะอืดพะอม วิธีเดียวที่ช่วยได้คือ กินยาแก้ไมเกรนและนอนให้เร็วที่สุด ที่สำคัญต้องบังคับให้หลับไปจริง ๆ เพราะหากเพียงหลับตาอย่างเดียวแล้วยังมีสติรู้ตัว ก็มีแค่การนอนทรมานต่อไปเท่านั้นเอง

บางคนจึงมองว่าการปวดหัวไมเกรน เหมือนเป็นโรคเวรโรคกรรม ที่อยู่ ๆ จะมาก็มา แต่คนที่เป็นบ่อย ๆ บางทีอาจจะพอจับทางได้ว่า อาการแบบนี้เดี๋ยวไมเกรนต้องมาแน่ เพราะบางคนเมื่อเจอสิ่งเร้าจากภายนอกก็ส่งผลให้เกิดอาการได้เช่นกัน อาทิ ดวงตาที่รับแสงจ้าเกินไป กลิ่นควันบุหรี่ ลิ้นรับรสผงชูรสเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ความเครียด

จากข้อมูลพบว่าปวดหัวไมเกรนเป็นอาการปวดหัวที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า มักเริ่มมีอาการครั้งแรกตอนช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน และด้วยความที่เป็นอาการปวดหัวที่พบได้บ่อยมาก ทางการแพทย์จึงพยายามหาทางพัฒนาวิธีรักษาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย เริ่มแรกจากการรักษาด้วยการกินยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Shock Wave, Laser ความเข้มสูง และเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า ร่วมกับวิธีกายภาพบำบัดอื่น ๆ

จนในปัจจุบันที่มีวิทยาการก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทำให้ค้นพบต้นเหตุของการเกิดอาการปวดหัวไมเกรน มาจากสารสื่อประสาท Calcitonin Gene Related Peptide หรือ CGRP ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในร่างกาย ถูกกระตุ้นและกระจายไปยังบริเวณต่าง ๆ ของสมอง ตลอดจนกล้ามเนื้อและเส้นประสาททั้งหมด จนทำให้เส้นเลือดขยายตัว เกิดอาการปวดหัว ต้นคอ และส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า และเมื่อยิ่งพบสิ่งเร้าแปลกปลอมยิ่งกระตุ้นทำให้สารสื่อประสาท CGRP หลั่งออกมาจำนวนมาก จนทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้

และเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนบ่อย ๆ เดี๋ยวนี้มียาฉีดเพื่อป้องกันการเกิดไมเกรนก่อน โดยไม่ต้องรอให้มีอาการแล้วค่อยรักษา เป็นเสมือนการฉีดวัคซีนป้องกันโรค โดยเป็นยาแอนติบอดีที่จะไปกดสารสื่อประสาท CGRP ในร่างกาย ทำให้ความรุนแรงและความถี่ในการปวดลดลง ซึ่งผู้ป่วยได้รับยานี้สามารถลดความรุนแรงและความถี่ในการปวดหัวไมเกรนได้ถึง 50-75% โดยออกฤทธิ์ได้นาน 28 วัน โดยท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามได้ตามโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อให้ไม่ต้องทนทรมานจากอาการปวดหัวเรื้อรังนี้อีกต่อไป