Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 8 of 8

Thread: ไปปาย!! อย่าไป Paicome Hideaway!!!!

  1. #1
    witcherii's Avatar
    witcherii is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    17
    Warning Points:
    0/5

    ไปปาย!! อย่าไป Paicome Hideaway!!!!

    ก่อนอื่นต้องขอโทษกับหัวข้อด้วยนะคะ อาจจะน่าตกใจไปหน่อย
    แต่รบกวนทุกท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้ช่วยอ่านเรื่องราวทั้งหมดก่อนนะคะ
    แล้วค่อยตัดสินใจว่าไม่ควรไปอย่างไร
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับเพื่อนของกวางเองค่ะ เพื่อนกวางได้นำข้อมูลและหลักฐานต่างๆไว้ในเว็บ pantipด้วยคะ http://pantip.com/cafe/blueplanet/to.../E8568823.html

    แต่กวางจะยกเรื่องราวมาไว้ที่หน้านี้หละกานนะคะเพื่อง่ายต่อการอ่านและโพสความคิดเห็น


    ---------------------------------------------------------------------------

    นี่คืออีเมล์ที่เราส่งไปให้เจ้าของโรงแรมค่ะ

    ถึงคุณ โมนาลิสา ศิริศุขสกุลชัย


    ดิฉัน คาดว่าทางคุณ โมนาลิสา คงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจากทาง คุณรัชดา เจริญจักร และ คุณสินติศักดิ์ ทับผึ้งที่ดูแล Paicome Hideaway ดิฉันขออธิบายรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นอีกครั้งเพื่อความ เข้าใจที่ตรงกันของเราทั้งสองฝ่าย

    ดิฉันเข้าพักที่ Paicome Hideaway resort ในวันที่ 14-16 ตุลาคม 2552 วันที่เกิดเหตุคือวันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2552 ดิฉันกับเพื่อนๆทุกคนออกจากที่พักเมื่อเวลาประมาน 12.30-13.00 เพื่อไปไหว้พระที่วัดน้ำฮู้ หน้าปากทางเข้าซอยโรงแรม เนื่องจากดิฉันและเพื่อนๆไม่ถนัดซ้อนมอเตอไซค์ จึงวุ่นวายเล็กน้อยเรื่องกระเป๋าสะพายว่าจะเอาไปด้วยดีหรือไม่ ดิฉันตัดสินใจว่าจะเอาไปแต่โทรศัพท์เนื่องจากมีสายยาวที่ใช้ห้อยคอได้ไม่ ต้องถือ แล้วจะทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องพัก ดิฉันจึงเอากระเป๋าไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ถือแต่โทรศัพท์ไว้ แล้วเอาไปวางไว้ที่หัวเตียง พอถึงเวลาออกไปเที่ยวจึงลืมเอาไว้ในห้อง พอไหว้เสร็จ ก็กำลังจะเดินทางไปต่อที่หมู่บ้านคนจีน แต่พอดีเพื่อนอีกคนนึกขึ้นได้ว่าลืมกล้องเอาไว้ที่ห้องดิฉัน จึงกลับมาเอากล้องที่ห้องตอนเวลาประมาน 13.30-14.00 น. ซึ่งขณะนั้นดิฉันก็ยังนึกไม่ได้ว่าลืมโทรศัพท์ จากนั้นก็ไปเที่ยวกันต่อ ดิฉันและเพื่อนๆทุกคน กลับมาถึงที่พักอีกทีประมาน 18.30-17.30 พอเข้าไปในห้องดิฉันก้อเดินไปที่ๆโทรศัพท์เคยวางอยู่แต่ก็ไม่มีแล้ว

    ดิฉันจึงโทรศัพท์เข้าหาเครื่องของตัวเอง ครั้งแรกติด แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงเลยคิดว่าตัวเองเปิดสั่นไว้ จึงกดวางแล้วพยายามหาทั่วทั้งห้องทุกห้อง ก็ไม่เจอ เลยถามเพื่อนที่เข้ามาเอากล้องเมื่อตอนกลางวันว่าเห็นไหม เพื่อนก็บอกว่าเห็น วางอยู่ข้างๆกล้องเลย แน่ใจมากๆ แต่ไม่ได้หยิบมาให้เนื่องจากคิดว่าดิฉันตั้งใจไม่เอาไป เพราะก่อนหน้านั้นได้บ่นกับเขาเอาไว้เรื่องถือของซ้อนมอเตอร์ไซค์

    เมื่อแน่ใจว่าหายแน่แล้วเลยโทรไปที่ front แต่ไม่มีคนรับสาย จึงคิดว่าเลิกงานแล้วจึงตัดสินใจโทรไปหาคุณโมนาลิสา ตามเบอร์ที่เคยให้ไว้เมื่อตอนจองห้อง สักพัก คุณสินติศักดิ์ ทับผึ้ง(อ๊อด) ผู้จัดการโรงแรม ก็เดินมาดูพอได้คุยกับคุณอ๊อด ก็ได้ทราบว่าเมื่อตอนที่ดิฉันและเพื่อนๆกลับเข้ามาเอากล้องแล้วออกไปแล้ว คุณรัชดา เจริญจักร ได้มีคำสั่งให้คุณอ๊อดเดินมาเช็คห้องเพราะจะขายห้องให้กับทัวร์ ขณะที่คุณอ๊อดมาเช็คห้องนั้นปรากฏว่าคุณอ๊อดยังเห็นโทรศัพท์ของดิฉันวางอยู่บนหัวเตียง และยังเห็นอีกด้วยว่ามีไฟกระพริบๆที่หัวโทรศัพท์ เนื่องจากมือถือยี่ห้อ blackberry สามารถรับอีเมล์หรือข้อความแชทที่ส่งมาทางอีเมล์หรือโปรแกรม แชทเฉพาะของ blackberry ถ้าทางเจ้าของยังไม่ได้เปิดดูก็จะมีไฟกระพริบๆ เช่นเดียวกันถ้ามีสายที่ไม่ได้รับ โทรศัพท์ blackberry มี PIN เป็นของตัวเองทุกเครื่องและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้ใช้หรือ ไม่หรือจะขายต่ออีกกี่ทอด ซึ่ง PIN ของดิฉันคือ 265C55AD

    หลังจากนั้นทางคุณอ๊อดก็ได้มีการติดต่อกับคุณโชติเพื่อนำpassword กล้องวงจรปิด ไปเปิดเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กล้องวงจรปิดที่ติดไว้นั้นไม่สามารกถ่ายภาพทางหน้าห้องได้ชัดเจน และยังถ่ายไปไม่ถึงทางหน้าต่างข้างๆห้องด้วย จึงได้ตกลงกับคุณอ๊อดให้พาไปที่บ้านพักคนงาน แต่ตอนที่ไปถึงนั้นมีคนงานอยู่แค่ครอบครัวเดียว ไม่ได้อยู่ทุกคน จึงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณอ๊อดเพื่อค้นและสอบถามคนงานทุกคน ตอนที่กลับมากันครบแล้ว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตอนไหน คืนนั้นฝนตกหนักมาก คุณอ๊อดจึงพาไปแจ้งความตอนเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม 2552 และหลังจากนั้นดิฉันแล้วเพื่อนๆก็ได้ไปไหว้พระที่วันน้ำฮู้ หรือ พระเจ้าอู่ทอง สาบานว่า ลูกช้างทุกคนไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปซ่อน หรือกระทำการใดๆเพื่อจะหาผลประโยชน์จากทาง Paicome Hideaway Resort เลยถ้าลูกช้างไม่ได้พูดความจริงหรือโกหก ก็ขอให้มีอันเป็นไป ซึ่งคนของทางโรงแรมก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยและก็ได้ยินอย่างชัดเจน พอไปเที่ยวที่อื่นๆต่อ

    กลับมา ก็ได้คุยกับคุณโมนาลิสา และ ทางคุณโมนาลิสาได้ขอเวลา จนถึงสิ้นเดือนซึ่งก็คือวันที่ 30 ตุลาคม 2552 ถ้ายังหามือถือของดิฉันไม่เจอก็ยินดีที่จะรับผิดชอบโดยการซื้อ มือถือ เครื่องใหม่ ยี่ห้อเดิม (Blackberry) รุ่นเดิม (Bold 9000)คืนให้ทันที ซึ่งดิฉันได้ตอบตกลงรับคำไปเนื่องจากเห็นว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ ยุติธรรม ดีเนื่องจากดิฉันไม่ได้ต้องการเป็นมูลค่าของโทรศัพท์ ที่อยากได้คืนจริงก็คือตัวของที่หายไป ดิฉันจึงให้คุณ คุณรัชดา เจริญจักร ทำสัญญาขึ้นมายืนยันข้อตกลงนี้ แต่เมื่อดิฉันได้อ่านสัญญาที่ทำมา ในสัญญาไม่ได้มีการระบุว่าทาง Paicome จะรับผิดชอบแบบที่คุณ โมนาลิสา ได้ตกลงไว้ ดิชั้นจึงได้แย้งขึ้นมา คุณรัชดา เจริญจักร จึงได้ติดต่อไปทางคุณ โมนาลิสา ให้ดิฉัน ซึ่งสรุปว่าทางคุณโมนาลิสา ให้ดิฉันเขียนลงไปในสัญญาเลย เรื่องความรับผิดชอบที่ได้ตกลงไว้ ดิฉันจึงให้คุณรัชดา เจริญจักร และ คุณสินติศักดิ์ ทับผึ้งที่เซ็นกำกับที่เขียนเพิ่มไปด้วย


    ในกรณีที่ ยังหาไม่เจอภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2552 ดิฉันขอแนะนำร้านที่มาบุญครอง ชื่อร้าน winner ซึ่งเป็นร้านที่ดิฉันซื้อมาเนื่องจากสินค้ามีคุณภาพดีและราคาก็ถูกกว่าร้าน อื่น สามารถ ขอจากดิฉันได้
    ดิฉันขอรบกวนแนะนำอีกอย่างหนึ่งเพื่อความ บริสุทธิ์ใจขอกดิฉันว่าต้องการแค่เครื่องที่มีคุณภาพเดิมจริง เนื่องจากblackberryที่มาบุญครองนั้นมีขายทั้งเครื่องหิ้วและเครื่องศูนย์ โทรศัพท์ที่หายไปนั้นเป็นเครื่องหิ้วซึ่งราคาจะถูกกว่าเครื่องศูนย์ แต่เครื่องหิ้วที่มาบุญครองมีอยู่ 2 แบบ คือเครื่องที่มีโลโก้เครื่อค่ายเดิมของทางต่างประเทศติดอยู่ อย่างเช่น Mstar, Vodafone, at & t etc. และ เครื่องที่ไม่มีโลโก้ใดๆติดอยู่เลย ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า แต่โทรศัพท์เครื่องที่หายไปนั้นเดิมเป็นแบบที่มีโลโก้ติดอยู่ก่อนที่ดิฉันจะ ไปเปลี่ยนกรอบ จึงขอแนะนำให้ซื้อแบบที่มีโลโก้ติดเพื่อราคาที่ถูกลง และความยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

    จากคุณ : InLovepeanut
    เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 00:22:25 [แก้ไข]



    วันที่ 19 ตุลาคม 2552
    เราติดต่อไปทางปายคัม เพื่อถามถึงความคืบหน้า คุณรัชดาเป็นคนรับสายก็พยายามปัดไปให้โทรหาคุณโมโดยตรง พอทางเราบอกว่าอย่าพยายามปัด ทางคุณรัชดาก็เลยโอนสายไปให้คุณโม ซึ่งก็อยู่ที่ปายคัม เช่นเดียวกัน พอคุณโมรับสาย เราก็ถามไปว่ามีอะไรคืบหน้าไหม มีตำรวจมาถามอะไรหรือเปล่า แต่ทางคุณโมดันพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรและไม่มีความสุภาพอยู่เลยคือ ห้วนมากๆบวกกับเสียงที่แข็งมากๆกลับมาว่า

    [color=red]พอดีทางเรามีหลักฐานแล้วนะคะว่าโทรศัพท์ของน้องไม่หายจริง! เราถามว่าไม่ทราบได้เปิดดูอีเมล์รึยังเค้าก้อบอกว่ายังซึ่งเราก็แปลกใจ มากว่าทำไมยังไม่อ่านแต่เราก้อไม่เอะใจอะไรเพราะเพิ่งส่งไปเมื่อคืน เราเลยถามว่า คุณไปเอาหลักฐานมาจากไหน ทางนั้นก็บอกว่า เรื่องนี้ขอไม่พูด ขอสงวนไว้! ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แล้วก็ได้บอกว่า ถ้าทางน้องจะเข้ามาพักแล้วมาเคลมอย่างนี้ก็ได้ แต่ทางเราคงต้องดำเนินการตามกฎหมายคงต้องฟ้องร้องกัน ซึ่งเราก็ตอบไปว่า เชิญเลย อยากจะทำอะไรก็เชิญเพราะเราไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมาทำแบบนี้ คือไม่จำเป็นที่จะต้องเอาโทรศัพท์ตัวเองไปซ่อนเพราะทางบ้านก็ไม่ได้ลำบาก หรือขัดสนอะไร ทางคุณโมเลยตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แย่มากๆว่า คะทราบค่ะว่าทางบ้านน้องนี่ร่ำรวยมากกก โอเคนะคะแค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ แล้วก็ตัดสายทิ้งไป

    ซึ่งเราคิดว่าการที่เขาทำแบบนี้เขาไม่สมควรที่จะเป็นเจ้า ของธุรกิจโรงแรม เนื่องจากวิธีที่เขาจัดการกับปัญหาของเรานั้นมันไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย การที่จะทำธุรกิจบริการ ทางเจ้าของเองควรจะมีทัศนคติและความคิดที่ดีก่อน แต่นี่ไม่ใช่ แถมยังจะมาหมิ่นประมาทเราอีก

    พอเค้าวางโทรศัพท์ไป เราเลยโทรไปหาคุณอ๊อดผู้จัดการของทางโรงแรม ว่าทางเจ้านายเขามาทำอย่างนี้ใส่เราได้ยังไง ทางคุณก็เห็นไม่ใช่หรอว่าโทรศัพท์ของฉันยังอยู่ในระหว่างที่พวกเราไม่อยู่ กันเลยสักคน แล้วคนในพวกเราจะกลับเข้ามาเอาตอนไหน? คุณได้บอกทุกอย่างทีคุณทราบให้ทางเจ้านายคุณรู้ทุกอย่างหรือเปล่า และก้ฝากไปบอกทางเจ้านายคุณด้วยนะว่าถ้าจะปักความรับผิดชอบกันอย่างนี้ งาน ททท. เที่ยวหน้าก็อย่าได้คิดจะไปเลย เพราะเราไม่เอาไว้แน่ นี่น่ะหรอโรงแรมที่อยากจะอัพเกรดตัวเองจากสี่ดาว ถ้าเจ้าของยังมีนิสัยแบบนี้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แล้วก้อฝากไปบอกด้วยนะว่าจะดำเนินการตามกฎหมายหรืออะไรก็เชิญ เพราะเราก้ไม่ยอมเหมือนกัน เราจะสู้สุดตัว อย่ามาเห้นว่าเราเป็นเด็กนะ เราเด็กก็ไม่ใช่ 16-17 เรา 23-24 แล้ว ก็อย่านึกว่าไม่รู้กฎหมาย ถ้ากล้าแลกชื่อเสียงเราก้จะสุ้สุดตัว

    สักพักคุรอ๊อดใช้เบอจองคุณโม โทรมาหาเราแล้วบอกว่า ทางคุณโมฝากมาบอกว่าทางเค้าก้บริสุทธิ์ใจ เราก้อเลยบอกว่าบริสุทธิ์ใจอะไรก็เข้าใจ แต่มีสิทธิอะไรมากล่าวหาพวกเราว่าซ่อนโทรศัพท์อย่างนี้มันหมิ่นประมาทกัน ชัดๆ เขาเลยบอกว่าทางคุณโมอยากให้ไปคุยกันที่โรงพักเราก้อบอกว่าได้ที่ไหนล่ะ เค้าถามว่าเราสะดวกที่ไหนเราก้บอกไปว่าก็คงต้องเป้นกรุงเทพ เพราะเรายังไม่ขึ้นปายจนกว่าจะเดือนหน้า เพราะเดือนหน้าเป็นวันเกิดเรา อ่อลืมบอกไปว่าก่อนที่เราจะเช็คเอ้าท์ เราได้ถ่ายสำเนาบัตรปชช ไว้เพื่อมอบอำนาจให้เพื่อนเราที่ยังอยู่ต่อเป้นผู้ดูแลต่อไป แล้วอยากจะรู้นักว่าคนฉลาดที่ไหนเอาโทรศัพท์ตัวเองไปซ่อนแล้วยังจะกล้าทิ้ง สำเนาบัตรประชาชนไว้อีก???? ทั้งๆที่ 2 คนที่ดูแลโรงแรมอยู่ตอนนั้นเป็นคนเซ็นสัญญาให้เราแต่เราก็ยังกลับไม่ขอสำเนา บัตรประชาชนของเขาไว้ด้วยซ้ำ ก็คงต้องโทษตัวเองที่เชื่อว่าเค้าจะแฟร์กับเราเหมือนที่เราแฟร์กับเค้า เราโง่เองที่ไปหลงเชื่อพวกลิงหลอกเจ้า ดีแต่ต่อหน้าพอเพื่อนเราเช็คเอ๊าท์ปุ๊ปก้อออกธาตุแท้มาทันที

    จากคุณ : InLovepeanut
    เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 00:23:02 [แก้ไข]

  2. #2
    witcherii's Avatar
    witcherii is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    17
    Warning Points:
    0/5

    เรื่องต่อนะคะ

    วันที่ 20 ตุลา 2552

    ทางสามีของคุณโม คือคุณโชติก็ได้โทรติดต่อเรามาผ่านทางเบอร์แฟนเรา แล้วก็ถามเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเราเลยถามว่าไม่ทราบได้อ่าน เมล์ที่ส่งไปให้รึยังเพราะในนั้นละเอียดมากๆ แล้วเขายังจะมาต่อว่าเราอีกว่าเรื่องนี้เราควรคุยกันทางโทรศัพท์ไม่ใช่ทาง เอกสารหรือตัวหนังสืออย่างเช่นอีเมล์ ทั้งๆที่ทางภรรยาของเขาเองเป็นคนไม่อยากคุยกับเราทางโทรศัพท์แล้วก็พยายาม ปัดให้เราส่งรายละเอียดไปทางอีเมล์ซึ่งเราก็ทำ แต่เราก็ต้องแปลกใจมากที่เขาก้ยังไม่ได้อ่านเมล์เราให้ละเอียด ทั้งๆที่ถ้าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเค้าจริงเขาคงจะต้องศึกษาราย ละเอียดให้ครบทุกทาง เราก็เล่ารายละเอียดไปเหมืนที่อยู่ในเมล์ พอเล่าเสร็จเขาก้บอกว่ากล้องวงจรปิดมันไม่เห็นใครเข้าไปทางประตูห้องเราเลย แต่คื่อเราก้ไม่ได้คิดอยู่แล้วว่ามันจะเข้าทางประตูห้องเพราะมันสามรถเข้า ทางหน้าต่างข้างๆห้องได้เพราะเปิดไว้ แต่มันก้สูงพอสมควร แต่เราไปดูมาแล้วถ้าเป้นผู้ชายมันก้ปีนได้เพราะตรงพื่นดินที่ตรงกับหน้าต่าง เรามันมีเนินดินอยู่ซึ่งสามารถปีนได้แน่นอนซึ่งตอนที่ตำรวจมาดูเขาก้ยังบอก เลยว่าปีนได้

    ซึ่งเราก็ต้องย้ำกับเขาหลายรอบมากว่าตำรวจก็ยังเห็นด้วยว่าปีนได้ เพราะเหมือนเขาจะไม่ยอมรับว่าทางรีสอรท์เค้ามีจุดด้อยอยู่ ไม่ใช่แค่ปีนได้นะแต่ใต้ถุนบ้านเราก็ยังมีบันไดงูยาวๆวางอยู่เลย มีกระป่องสีมีอะไรเหมือนเป็นที่เก็บของของคนงานแต่เข้าทางใต้บ้านเราได้ คุณโชติพูดจาดีแต่ก้แฝงด้วยจิตใจที่มีอคติเราเหมือนกันคือพูดเหมือนฝืนพูดดี เพราะก่อนเราจะวางเราก้เล่าให้เขาฟังเรื่องที่คุณโมพูดกับเราอย่างนั้นมัน หมิ่นประมาทกันชัดๆ เขาก็ตอบกลับมากว่า จะเอาหยังงั้นเลยหรอ?

    แล้วเราก็บอกว่าที่คุณโมทำเมื่อวานเป้นเรื่องที่เสียความรู้สึกมากแต่เขาด้น ตอบกลับมาว่า คือเราก้อต้องรับผิดชอบทั้งตัวเราเองแล้วก็ผู้อืน คุณเข้าใจประโยคนี้ไหมครับ เราก้คิดว่ามันเกียวไรกันวะ แล้วเค้าก้ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องคืนนั้น ซึ่งเราก้บอกว่าเราไม่ได้พูดถึงคืนนั้นเราพูดถึงแค่เมื่อวานนี้เนี่ยยยยที่ โทรไปหาคุณโมเนี่ยยย คุณโมเค้าพูดมาไม่ดีเลยแต่คุณโชติพูดดีมาก เค้ากลับตอบเรามาว่า นี่ผมไม่ได้โทรมาเพื่อจะปลอบคุณนะครับ ซึ่งเรารู้สึกแย่มากกับคำนี้เพราะมันแสดงออกมาว่าเค้าไม่ได้เสียใจกับสิ่ง ที่ภรรยาเขาเองพูดกับลูกค้าอย่างนี้ แถมยังทำให้เราคิดอีกว่า เค้าก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากภรรยาเขาสักนิดเพียงแค่แกล้งพูดดีๆเก่งกว่าแต่ ความคิดก็แย่พอกัน เราเลยบอกว่าแน่อยุ่แล้วเพราะไม่มีใครมาปลอบเราได้ก็ของเราหายนี่ใครจะปลอบ ได้

    หลังจากนั้นสักพักเค้าก็โทรมาหาแฟนเราอีกแต่คราวนี่คือแฟนเราเขา ไม่อยากให้เราคุยแล้วเพราะเขาเห้นเราเครียดแล้วก็เสียความรู้สึกมามากกแล้ว เค้าเลยบอกว่ามีอะไรก้คุยกับเค้าได้เลย ทางคุณโชติจึงบอกให้เราไปขอ call detail จาก GSM เราอยู่เซ็นทรัลพอดีก็เลยรีบขึ้นไปขอ

    เราได้ call detail มาแล้วจาก AIS แต่ในนั้นมันไม่มีข้อมูลที่จะบอกได้เลยว่าโทรศัพท์เราอยู่ที่ไหน พอได้มาเราก็ส่งไปให้ ไอ้โชติ ซึ่งต่อไปนี้ต้องขอเรียกว่า ไอ้ จริงๆ แล้วก็ช่วยๆกันดูรายละเอียด ประมาณ 3 วัน เรารู้สึกว่าไอ้โชติมันไม่ได้อยากจะช่วยเราจริงๆหรอกมันแค่อยากจะยื้อเวลา ออกไปเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจโทรไปถามว่า นี้มันก็หมดทางหาแล้วมันคงไม่เจอแล้วล่ะ แล้วถ้าไม่เจอคุณโชติจะรับผิดชอบยังไง จะไปเคลียร์กันที่ไหน แต่มันกลับตอบมาว่า มันจะไม่รับผิดชอบ เราเลยบอกว่าแต่ของมันหายในโรงแรมคุณนะ มันตอบว่า อ่าว แต่ผมไม่ได้หยิบไปนี่ครับ!! พูดกลับมาอย่างนี้ได้ยังไง เราเลยบอกว่าถ้าจะพูดหยั่งนี้ เราจะให้แม่เราโทรไปคุย แล้วเราก็วาง อีกวันหนึ่งแม่เราเลยโทรไปคุย มันก็พูดจายืดเยื้อ แถมยังบอกแม่เราอีกว่า กล้องวงจรปิดที่โรงแรมมันไม่ได้เอาไว้จับโจร แต่เอาไว้ดูว่าพนักงานหรือลูกน้องมันอยู่ไหน!!!!!!! พอได้ยินคำนี้แม่เราก็ปรี๊ดขึ้นมาทันที แม่ถามว่าจะรับผิดชอบไหม มันบอกว่าทำไมเด็กไม่รับผิดชอบของตัวเอง แม่เราก็ยิ่งงง กับความไม่มีจรรยาบรรณ ของโรงแรมนี้ ทั้งๆที่มีสัญญา อยู่แล้ว แม่เราเลยวาง แล้วก็ให้ตำรวจที่รู้จักกัน ติดต่อไปหาตำรวจที่ปาย ให้เขาเอาสัญญาไปทวงถามให้ที่โรงแรมมันเลย พอตำรวจไปถามมันบอกว่า “ถ้าอยากจะได้คืนก้ไปฟ้องเอา”ตอนนี้เราก้เลยกำลังคิดอยู่ว่าจะยังไงดี มันจะเสียมากกว่าได้รึเปล่า แต่ตำรวจเขาจะช่วยเราเราจะไปร้องเรียนที่ ททท.

    ถ้าใครที่กำลังคิดจะไปเที่ยวที่ปาย ก้เลือกรีสอร์ทที่ดีๆไม่ใช่ในเรื่องการตกแต่ง แต่เป็นการจริงใจบริการและ ความรับผิดชอบ ไม่ได้หวังแต่เงินของลูกค้า ฝากเรื่องนี้ไว้คิดก่อนจะเลือกรีสอร์ทด้วยนะคะ

    จากคุณ : InLovepeanut
    เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 00:26:05 [แก้ไข]

  3. #3
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    11
    Warning Points:
    0/5
    อ่านแล้วอึ้งไปเลยค่ะ!!! ทำไมเจ้าของโรงแรมถึงไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ละค่ะ
    เข้าใจนะค่ะว่าบางโรงแรมเค้าจะไม่รับผิดชอบเรื่องทรัพย์สินสูญหายระหว่างเข้าพักในโรงแรมอ่ะค่ะ คือเคยเจอหลายๆโรงแรมแล้วค่ะ ที่จะเขียนว่าไม่รับผิดชอบในกรณีที่ทรัพย์สินของลูกค้าสูญหาย ส่วนใหญ่จะเขียนไว้ว่ากรุณาเก็บรักษาทรัพย์สินที่มีค่าของท่านไว้กับตัว ถ้าทรัพย์สินสูญหายทางโรงแรมจะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆอ่ะค่ะ แต่สำหรับกรณีของคุณแล้วทางเจ้าของโรงแรมได้ให้ข้อตกลงและทำสัญญาขึ้นมาแล้วว่าจะรับผิดชอบในการสูญหายของทรัพย์สินนี่ค่ะ เค้าก็ต้องทำตามสัญญา ไม่งั้นคุณก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ค่ะ เพราะมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วอ่ะค่ะ แต่ว่ามันจะได้มากกว่าเสียรึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจนะค่ะ เพราะมือถือ bb เดี๋ยวนี้ก็ราคาก็ไม่แพงแล้วอ่ะค่ะ แต่ถ้าเทียบกับค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆในการฟ้องร้องซึ่งค่อนข้างสูงกว่า เมื่อเทียบกับค่ามือถือ bb ที่คุณต้องเสียไปอ่ะค่ะ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนิตานะค่ะ แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เพื่อนของคุณกวางนะค่ะ......สู้ๆค่ะ!!!
    [SIGPIC][/SIGPIC]

  4. #4
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    Warning Points:
    0/5
    มาให้กำลังใจคุณกวางนะคะ บางทีบางแห่งที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวถ้ามีความจริงใจในการให้บริการลูกค้าทั้งด้านบริการ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทุนประชาสัมพันธ์มากก็ได้ ปากต่อปากของแขกที่พักนั่นแหละจะเป็นคนดึงดูดให้กลับไปพักเอง พี่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเคยลืมสร้อยคอหนักสิบบาทพร้อมพระเหลี่ยมทองเอาไว้ใต้หมอน กลับจากท่องเที่ยวมาทั้งวันยังอยู่ที่เดิมแต่เตียงได้ทำความสะอาดแล้ว ของเราไม่มีมาตรฐานกันแบบนี้ยังอยากจะให้มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ กัน เฮ้อ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  5. #5
    Ohh's Avatar
    Ohh is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,124
    Warning Points:
    0/5
    เป็นเจ้าของโรงแรมที่แย่มากกก.กก

    ตามปกติ ถ้าของหายภายในโรงแรมของตัวเอง เจ้าของก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบอยุ่แล้ว

    นี่สัญญาก็มีเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วยังจะมาโกงกันหน้าด้านๆอีก

    ไร้จรรยาบรรณ และไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี แบบนี้ โรงแรมก็คงไม่เจริญ ขึ้นมาได้หรอก
    U r.. my L i F e

    ~~> ^ โอ๋ ^ <~~

  6. #6
    Chinwa's Avatar
    Chinwa is offline Junior Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    5
    Warning Points:
    0/5
    รบกวนถามคุณจขกท นิดนึงนะครับว่าจะทำอย่างไรต่อไปครับ

    ฟ้องศาลได้นะครับ..แต่กฎหมายมีช่องโหว่ให้เอาได้แค่เพียงห้าพันบาทอ่ะครับ

    แต่ถ้านึกถึงชื่อเสียงที่เค้าจะเสีย..ผมว่าคุ้มครับ

    เอาลงพันทิบด้วยนะครับ..ช่วยๆกัน
    แม่ครับ..ตังค์หมด!!!

  7. #7
    summer's Avatar
    summer is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    25
    Warning Points:
    0/5

    Don't worry about a thing.....

    มาให้กำลังใจ จขกท


    ยังไม่รวย "อยู่อย่างรวย" ไม่มีวันรวย
    ยังไม่จน "อยู่อย่างจน" ไม่มีวันจน


    BB: 20E8CD96

    080-0078988

  8. #8
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    131
    Warning Points:
    0/5
    ต้องถามเพื่อนของคุณกวางค่ะ...ถ้าจะฟ้องร้อง...ต้องศึกษาข้อกฎหมายดีๆค่ะ

    ทางเจ้าของโรงแรมน่าจะเสียหายเรื่อง ชื่อเสียง...แต่ทางเพื่อนคุณกวางจะได้คืนนั้น

    อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ศาลจะพิจารณาและไต่สวนสืบพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

    แต่ถ้าสู้แล้วชนะ...เพื่อนคุณกวางก็ให้ทางเจ้าของโรงแรมรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี

    ต้องลองปรึกษาทนายความเก่งๆดูค่ะ...หรือไปที่แถวราชดำเนิน..ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่ไหม

    ที่เขาจะให้คำปรึกษาจากทนายฟรีๆ..ต้องไปรับบัตรคิวค่ะ...(จำชื่อสำนักนั้นไม่ได้ค่ะ)
    " ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า คิดให้ดีก็จะรู้ว่า.....คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว "

Comments from Facebook

Similar Threads

  1. ว่างๆเลยมา Review บรรยากาศที่ Six Senses Hideaway - Koh Yao Noi - Phang Nga ค่า
    By nubeebee in forum Review ท่องเที่ยว ให้เช่า หรือ บริการ
    Replies: 9
    Last Post: 05-26-2021, 01:35 PM
  2. THE HIDEAWAY RESORT BHT 2850/NIGHT @ HUA HIN
    By fantastic_pammy in forum Review ท่องเที่ยว ให้เช่า หรือ บริการ
    Replies: 21
    Last Post: 05-25-2021, 04:02 PM
  3. นอกเรื่อง พาเที่ยว EVASON HIDEAWAY ปราณบุรีค่ะ
    By ledhara in forum Review ท่องเที่ยว ให้เช่า หรือ บริการ
    Replies: 28
    Last Post: 05-24-2021, 03:14 PM
  4. Six senses hideaway yao noi
    By ying al in forum โรงแรม รีสอร์ท ห้องพักสำหรับท่องเที่ยว บริการส่วนบุคคล
    Replies: 0
    Last Post: 02-28-2010, 09:53 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •