มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมากคบกันมา 3 ปี
> > ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกันเมื่อกำหนดวันเรียบร้อยฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
> > ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่าคู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหันโดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
> > เมื่อได้ทราบข่าวเขาทั้งงงและเสียใจมากร้องไห้ไม่กินไม่นอนไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ
> > เวลาผ่านไปฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก้อไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้นมีหลวงตาแก่ๆผ่านมาเมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านแล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
> > เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่าเป็นพระจึงบอกว่า
> > ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
> > หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า
> > อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตรในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ยอาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อยไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว
> > เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน
> > เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
> > เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามาก็เข้ามา!
> > เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่าชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียวร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
> > เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตาพร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
> > หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
> > ชายคนนั้นนิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
> > หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธีจึงกล่าวว่าโทรมมากเลยนะ
> > ชายคนนั้นไม่สนใจ
> > หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อลองมองที่กระจกสิ
> > ชายคนนั้นไม่สนใจแต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
> > เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้นไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไปกลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล
> ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบไม่มีคนผ่านไปมาขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้นมองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบมีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาดเวลาผ่านไปซักครู่มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจแล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมาเขามองเห็นศพนั้นเขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น
แล้วเดินจากไปพักใหญ่ๆอีกเช่นกัน
> > มีชายอีกคนเดินผ่านมาเขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่จึงเปิดออกดูเมื่อพบว่าเป็นศพด้วยใจสงสารจึงจะฝังให้เรียบร้อย
แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุดเขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง2ข้างๆค่อยๆกอบทรายขึ้นมาเขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จนเย็นพอได้หลุมใหญ่พอสมควรจึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป
> > จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้นและก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก
> > เขาได้เห็นก็ตกใจพอซักพักก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
> > แล้วก็ค่อยๆจางหายไปเหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก
> > ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า
> > ทีนี้เข้าใจรึยังศพนั้นคือคู่รักของโยม
> > ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติๆนี้เธอเลยแต่งงานกับเขา
> > ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอจึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี แล้ว
> > วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน
> > เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา
> > เด็กรับใช้ตกใจมาก
> > หลวงตายิ้มแล้วบอกว่าโยมรอดแล้วเมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
> > ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด
> >
> > ******** คนเราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
> > ความสัมพันธ์ พ่อ,แม่,พี่,น้อง,ญาติ,เพื่อน,ศัตรู,คนรัก ฯลฯ
> > ไม่ใช่ของเลื่อนลอยเมื่อมีวาสนาไม่ต้องเรียกร้องถึงเวลาก็มาเจอกันเมื่อสิ้นวาสนาก็ต้องจากกันรั้งยังไงก็ไม่อยู่
> > ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้คุณได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยังเพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน
> > ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้าก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
> > ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า
> > เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ ^_^