Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 2 of 2 FirstFirst 1 2
Results 11 to 20 of 20

Thread: เคยมีความรู้สึกนี้บ้างมั้ย แล้วทำยังงัย

  1. #11
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    10
    ตอนนี้น้องน่าจะกำลังสับสนเพราะเหนื่อยล้ากับการทำงานหนัก
    เราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำงานหนักมาก ถ้าฟ้าสว่างอยู่ กลับบ้านไม่ค่อยถูก
    นั่งทำงานถึง 3 - 4 ทุ่ม โดยไม่มีโอที พอมองย้อนกลับไปก็คิดเหมือนกันว่าทำไปด้ายยย
    แต่สิ่งนึงที่จะได้มาโดยไม่รู้ตัว คือประสบการณ์และความรู้จากการทำงานค่ะ

    อยากให้กำลังใจนะคะ ดูจากที่ระบายแล้วเหมือนจะไม่ได้รับ feedback ที่ดี
    ถ้ายังอายุน้อย ยังไม่อยากให้ท้อนะคะ ให้มองว่าเป็นการฝึกให้เราเก่งค่ะ
    เมื่อไหร่ที่เก่งแล้ว งานที่เคยใช้เวลามาก จะใช้เวลาน้อยลง แล้วงานจะเบาขึ้นเองนะคะ
    ความเก่งนี้ ไม่ได้เกิดผลดีกับบริษัทที่น้องทำเท่านั้น แต่มันจะติดตัวน้องไปด้วย ถือเป็นสมบัติติดตัวไป
    เหมือนตอนนี้ ที่เราสามารถนำสิ่งที่ได้จากการทำงาน มาใช้ในการทำธุรกิจของตัวเอง

    ในส่วนของผลตอบแทน ไม่อยากให้มองแค่เราทุ่มเทกับงาน แล้วทำไมหัวหน้าไม่เห็นปรับเงินเดือนให้แค่เพียงอย่างเดียวนะคะ
    ในฐานะที่เป็นทั้งลูกน้องและหัวหน้ามาก่อน
    การพิจารณาผลงาน ต้องดู 2 อย่างค่ะ ทั้งความทุ่มเท และคุณภาพของงาน
    และต้องรู้จักนำเสนอด้วยนะคะ
    เคยเจอมาเยอะค่ะ พวกทำงานไม่เป็น แต่นำเสนอเก่ง ได้ดีซะงั้น อย่ายอมแพ้พวกนี้ค่ะ
    ถ้าเชือ่มั่นว่าทำงานออกมาได้ดี ต้องรู้จักนำเสนอด้วยค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจเข้าข่าย ทำดีแล้วไม่มีคนเห็น
    อดทนนิดนึงนะคะ การที่เค้าให้โอกาส ถือว่าเค้าให้เครดิตเรานะคะ บางคนไม่มีโอกาสแบบนี้ ความก้าวหน้าก็จะไม่มีค่ะ

    ในส่วนของพนักงานอื่นๆ อยากให้ทำใจนะคะ หลีกเลี่ยงยาก ถ้าทำงานร่วมกับคนอื่น
    อยากให้มองในแง่บริษัท บางครั้งก็ไม่ได้อยากได้พนักงานพวกนี้ไว้นะคะ
    แต่ตามกฎหมายแรงงานแล้ว ไม่สามารถไล่ใครออกได้ง่ายๆนะคะ ต้องชดเชยกันอานเลย
    ดังนั้น ถ้าไม่เหลือขอจริงๆ เค้าก็คงยังทำงานได้ต่อไปอะคะ

    มองโลกในแง่ดีนะคะ อย่างที่เพื่อนๆคอมเมนท์ มีงานทำยังดีกว่าไม่มี
    คนที่ได้ทำงานที่ชอบถือเป็นคนที่โชคดีที่สุด แต่มีคนจำนวนน้อยมากที่จะโชคดีแบบนั้น
    ดังนั้น ความสุขในการทำงาน อยู่ทีใจนะคะ ทำใจให้รักในงานที่ทำให้ได้ จะดีที่สุดค่ะ

  2. #12
    SuperMonkey's Avatar
    SuperMonkey is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    81
    เคยเป็นครับ...เข้าใจเลย

  3. #13
    nikio's Avatar
    nikio is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    49
    เคยเป้นเลยคะ....ซักเมื่อเริ่มตั้งแต่เมื่อกลางๆเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง...
    เป้นมาสามอาทิตย์ได้..
    เพิ่งหายได้อาทิตย์เดียวเอง...
    ปัญหาคล้ายครึงกัน...ร้องไห้ทุกวันเลย...
    กลางคืนก็ผวาตื่นตลอดแล้วก็นอนไม่หลับ...เป้นแบบนี้นานเลยคะ...
    นน.ลดเลย...รู้สึกว่าตัวเองเครียด...อยู่คนเดียว...
    ไม่มีใครเลย....พูดกับใครก้ไม่มีใครเข้าใจ...
    จะพึ่งแฟน...มันก็พึ่งไม่ได้...ดูมันไม่สนใจเรา (แต่ปากมันบอกว่ามันสนใจ)
    พอตอนนี้หายแล้วคะ....จู่ๆพอทุกอย่างคลี่คลายก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม...

    ส่วนแฟนก็บอกเลิกเลยคะ....ยามเราต้องการเพื่อนเพื่อระบาย แต่พึ่งไม่ได้ไม่รู้จะเก้บไว้ทำไม...(แต่เค้าขอเวลาแก้ตัวนะค่ะ แต่คงต้องเริ่มพยายามใหม่ เพราะตอนนั้น เค้าทำให้เราเห้นอะไร หลายๆอย่างคะ)

    เอาเป้นว่าเป้นกำลังใจให้นะค่ะ....เดี๋ยวก็จะผ่านไปได้คะ....
    เข็มแข็งไว้นะค่ะ...ถ้าไม่ไหวก็ร้องไห้โฮเลยนะค่ะ....ช่วยได้เยอะจิงๆคะ....

  4. #14
    cherry_k's Avatar
    cherry_k is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    584
    มาให้กำลังใจค่ะ เข้มแข็งเข้าไว้นะคะ

    ถ้ามันยังเครียดๆอยู่ ลองพักสักหน่อยดีกว่ามั๊ยคะ

    ลาหยุดไปอยู่เงียบๆสักสองสามวัน ปิดมือถือ มันอาจจะทำให้เราได้อยู่คนเดียวและคิดอะไรบางอย่างได้นะคะ

    เข้มแข็งค่ะ สู้สู้นะคะ เอาใจช่วยค่ะ
    ***************************************

    เก็บตัว จำศีล ท่องไว้ เก็บตัว จำศีล

    ***************************************

  5. #15
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    4

    Thumbs up

    เป็น"กำลังใจ"ให้นะค่ะ

    เคยเป็นค่ะ บางทีเหมือนเรากำลังแบกอะไรอยู่นะค่ะ แล้วพอมีเหตุการณ์อะไรเข้ามาก็เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้เราทั้งเหนื่อยและท้อค่ะ

    ลองถอยออกมาจากตรงนั้นสักหนึ่งก้าวนะค่ะ แล้วเราจะได้เห็นอะไรชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

    ร้องเพลงให้ฟังหนึ่งเพลง (หนึ่งท่อนค่ะ) "หากเหนื่อยนัก ก็จงหยุดพัก" ใช้ได้จริงค่ะ

    พักร้อนสัก 2-3 วันนะค่ะ แล้วไปเที่ยวเงียบๆ สงบๆ ชาร์ตแบตหน่อยค่ะ ลองคุยกับคนที่บ้านดูนะค่ะ ยังไงๆ พ่อแม่ พี่น้อง คือคนที่จะไม่ทิ้งเราไปไหนค่ะ

    สู้ๆ ค่ะ
    ฉันเป็นมายังไง ไม่สำคัญใดใด ไม่สำคัญแม้ว่าฉันเกิดจากชาติใด
    ขอแค่เพียงวันนึง ฉันตายในเมืองไทย
    ฉันภูมิใจ ฉันคือคนไทย


    "I am THAI"



  6. #16
    AAA is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    19
    เคยคิดค่ะ ในอดีตเมื่อตอนเริ่มทำงานใหม่ ๆ ค่ะ คิดคล้าย ๆ น้องแหละค่ะตอนนั้นพี่ทำงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึงกลับบ้านนอนบ้านแควันเดียว แล้วก็ต้องไปทำงานอีก เหงามากกกกกกกกกกก......ร้องไห้บ่อย ๆ ด้วย ถามตัวเองว่าทำไม ตรู......ต้องลำบากทำงานอย่างนี้ด้วยนะ งานของพี่ไม่มีเพื่อนคนอื่น ๆ นะค๊ะ เป็น saleman ตจว. ทำงานเสร็จก็เข้าที่พัก วัน ๆ ไม่ได้คุยกับใครนอกจากลูกค้า ลูกค้าก็มีแต่ผู้ชายยิ่งทำตัวลำบากใหญ่ เครียดมากกกกกกกค่ะ

    คำตอบคือ เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีหน้าที่การงานที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ มีรายได้มากกว่าเดิม ทนสักพัก แล้วทุกอย่างก็เป็นอย่างที่คาดไว้

    หลังจากนั้นพอมีหน้าที่การงานดีขึ้น รายได้มากขึ้น คำถามก็มีอีกอยู่ดีว่าทำไมต้องให้ลูกค้า เจ้านาย บ่นด่าทุกวัน ทำไมมันเครียดอย่างนี้ ทำไมต้องเหนื่อยต้องดิ้นรนอย่างนี้ เพื่ออะไร คำตอบคือเพื่อเงินค่ะ เพื่อตอบสนองความต้องการ กิเลสของตัวเองค่ะ

    หลังจากได้คำตอบพี่เอาเงินในธนาคารมาคำนวณเลยค่ะว่าจะอยู่ได้กี่ปีโดยใช้เงินเท่าที่จำเป็นค่ะ โดยลดละทุกอย่าง หยุดความต้องการทั้งหมด หลังจากนั้นลาออกจากงานเลยค่ะ อยู่บ้านเฉย ๆ วัน ๆ เอาแต่กินนอน ไม่ทำอะไรเลยอยู่ปีกว่า ๆ ค่ะ

    แล้วค้นพบว่า...... ทำไมเราทำตัวไร้สาระอย่างนี้ เรียนมาก็เยอะ ทำไมไม่ทำอะไรเลย ทำตัวเป็นคนไร้ค่าไร้ประโยชน์มากค่ะ ยิ่งนานวันเราก็เริ่มแก่ เด็กรุ่นหลังก็มีแต่พัฒนาขึ้น ..... เริ่มเลยค่ะ หางานใหม่ ..... หลังจากนั้นจึงรู้ว่า.... นี่แหละค่ะคือชีวิต ทุกคนมีความอยาก และไม่อยากอยู่ในคน คนเดียวกัน วันนี้เราทุกข์ พรุ่งนี้เราสุข ....

    ..... วันนี้คุณอาจจะเหนื่อย ล้า ลองหยุดสักพัก ..... แล้วคุณก็จะค้นพบตัวเองว่าต้องการอะไร.... และต้องทำอย่างไรค่ะ

    หรือไม่ก็ตอนนี้น้องยังเด็กยังเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ถ้าน้องโตขึ้นมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้น อาวุโสขึ้น ตอนนั้นน้องอาจจะเป็นผู้กระทำก็ได้ค่ะ มันเป็นวัฎจักรค่ะ
    __________________________________________
    ***We love Baleniciaga ...............................***

    สังคมเริ่มแตกแยก ความคิดเริ่มแตกต่าง คนไทยเริ่มไม่รักในสิ่งเดียวกัน
    เกิดจากอะไร สาเหตุมาจากไหน จุดจบจะเป็นอย่างไร
    ในเมื่อสิ่งที่รักสิ่งที่บูชา ไม่ใช่สิ่งเดียวกันอีกต่อไป

  7. #17
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    เคยเป็นค่ะ แต่หายเร็ว เพราะ "งานไม่ใช่ชีวิต" ค่ะ

    แต่อย่างไรก็ตาม การมีปัญกาในชีวิต หรือความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ เนี่ย เราต้องยอมรับว่าเป็นธรรมดาของชีวิตค่ะ แต่เดี๋ยวอารมณ์ท้อแท้นี้มันก็หายไป และเดี๋ยวมันก็จะมาอีกได้ หรือไม่ก็มีปัญหาอื่นอีก นี่คือชีวิตค่ะ

    อยากแนะนำให้น้องมองที่ตัวเองเป็นนะคะ และชื่นชมตัวเอง เรื่องผลงาน หรือการโปรโมทนั้น เป็นเพียงรางวัลเปลือกนอกค่ะ รางวัลที่แท้จริงคือน้องได้เรียนรู้ค่ะ แค่ได้ทำงาน ก็ได้รางวัลแล้วค่ะ

    แนะนำหนังสือสองเรื่อง A Conversation with God อันนี้ไม่ใช่พระคริสต์นะคะ ต้องลองไปอ่านดู และอีกเล่มนึง The Tao of Pooh ค่ะ ใช่ชีวิตตามวิถีหมีพูห์นั้น ตรงกับที่เต๋าบอกไว้ค่ะ และจะทำให้ไม่เครียดอีกเลยด้วยค่ะ

    ส่วนเรื่องคนที่ทำงานนั้น อย่าเอาอารมณ์ไปอยู่ตรงนั้นเลยนะคะ เพราะคนพวกนี้ไม่สำคัญกับชีวิตเราค่ะ เราเจอคนพวกนี้ก็แค่ไม่กี่ปี พอน้องลาออก หรือเค้าลาออก ชีวิตก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วค่ะ คนที่เราควรจะแคร์ คือคนที่สำคัญในชีวิตค่ะ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อนสนิท แฟน...

    น้องควรจะพักผ่อนบ้างค่ะ หยุดงานซักเดือน หรือสองอาทิตย์ ใช้ชีวิตสบายๆ นอนเยอะๆ ออกกำลัง ไปทำบุญบ้างฝึกวิปัสสนาก็ดีนะคะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ไปฝีกตอนจิตใจว้าวุ่น เพราะมันจะฟุ้งซ่านเยอะ

    อ้อ แนะนำอีกอย่าง ลองแบ่งเวลาไปช่วยงานตามมูลนิธิต่างๆ สิคะ แบบนี้ จะทำให้เราฝึกการ ทำดีโดยไม่หวังผลค่ะ เพราะมูลนิธิ ไม่มีเงินจ่ายให้ แต่ความจริงเราได้ผลตอบแทนดีเยี่ยมเลยค่ะ คือเราได้เรรียนรู้ชีวิต จากชีวิตของคนอื่นค่ะ ทำให้มองคนอื่น มากกว่ามองแต่ตัวเอง ก็จะเลิกหมกมุ่นกับปัญหาของตัวเองไปได้

    Meesook เองงานยุ่งมาก และเดินทางตลอดเวลา แต่ก็แบ่งเวลาไปช่วยมูลนิธิ Wishing Well เป็นมูลนิธิสำหรับเด็กที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทำให้ชีวิตช่วงที่เหลืออยู่ของเด็กๆ เหล่านั้น มีความสุขที่สุด

    พอได้ไปทำงานใกล้ชิดกับเด็กที่ป่วยเหล่านี้นะคะ เห็นได้เลยว่าปัญหาของเรานี่มันน้อยนิดจริงๆ เพราะมีปัญหาเดี๋ยวก็หาย แต่ปัญหาของน้องที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายน่ะ ไม่มีทางหายได้เลยค่ะ น้องๆ พวกนี้ mature มาก ไม่เคยงอแงอะไรเลย ไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อย เพราะเค้ารู้ว่าเค้ามีเวลาน้อย ต้องทำทุกเวลาให้มีความสุขที่สุด

    น้องบางคน ความสุขของเค้าคือ แค่ได้กินพิซซ่า ก็มีความสุขแล้ว... มีน้องที่ใกล้จะไปแล้ว ขอกินพิซซ่า เราก็จัดหามาทำปาร์ตี้พิซซ่าให้ในโรงพยาบาล ให้เพื่อนๆ และญาตอของน้องกินด้วย น้องคนนั้นมีความสุขมากจนลืมความปวดจากโรคมะเร็ง น้องหลับไปพร้อมรอยยิ้ม และไม่ตื่นมาอีก...

    เห็นแล้วก็ซึ้ง แล้วก็ย้อนมาดูตัวเองค่ะ ว่าทำไมต้องอยากมี อยากได้อะไรมากมาย (โดยเฉพาะกระเป๋า ฮี่ ฮี่ ฮี่... เอ้ย นอกเรื่อง!) ได้เข้าใจการอยู่อย่างพอเพียงอย่างแท้จริงค่ะ
    ป.ล.ถ้าใครสนใจจะไปช่วยมูลนิธิ ติดต่อมาทางพีเอ็มนะคะ แต่ทางมูลนิธิไม่ได้รับทุกคนนะคะ ต้องไปสัมภาษณ์ให้ผ่านก่อน จึงจะไปเป็นอาสาสมัครได้ค่ะ
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  8. #18
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    [QUOTE=srichardson;277922]มีใครไม่รู้เค้าบอกว่า " เหนื่อยเพราะทำงาน ก้อยังดีกว่าไม่มีงานทำ ท้อแท้ที่ผิดหวัง ก้อยังดีที่มีชีวิตอยู่" เวลาน้องขับรถไปทำงานให้มองออกไปนอกหน้าต่างซิค่ะ ดูคนตามถนน ตามข้างทางที่เค้าลำบากกว่าเราตั้งเยอะ พวกขายของรถเข็น ต่างๆเด็กกำพร้าที่ไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีแม้แต่บ้านจะอยู่ เรายังสบายกว่าพวกเค้าตั้งเยอะ


    ถูกต้องค่า เวลารู้สึกว่าตัวเองมีปัญหามากมาย แต่พอเห็นคนขาด้วนยังนั่งขายหนังสือพิมพ์เลย

    ลองมองดูรอบๆตัวอย่างที่พี่เค้าบอกอะค่า จะรู้เลยว่าปัญหามันเล็กนิดเดียวเองเนอะ

    เคยมีคนบอกว่า "ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความคิดของเราแล้ว"

    สู้ๆๆ

  9. #19
    authentic_only's Avatar
    authentic_only is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2,832

    Wink เป็นกำลังใจให้ จขกท ค่ะ

    เป็นกำลังใจให้ จขกท ค่ะ

    ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องธรรมะมากนัก แต่คิดว่าทุกอย่างต้องเดินทางสายกลาง
    ซึ่งทางสายกลางของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกค่ะ


    อยากส่งต่อ เรื่อง ลิงกำถั่ว/ถั่วในกำมือลิง ค่ะ

    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า.....จิตของคนเรานั้น เหมือนกับลิง
    เราจึงเรียนรู้เรื่องของจิตใจของเราได้มากมายจากพฤติกรรมของลิง
    ลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อใด
    มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหายในที่สุด
    จนกลายเป็นว่า “กะปิ” ถึงจะร้าย ก็ไม่ร้ายเท่า “ความเกลียดกะปิ”
    ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิ
    หากเป็นเพราะความจงเกลียดจงชังกะปิต่างหาก

    สิ่งที่เราเกลียดนั้น บ่อยครั้งไม่น่ากลัวเท่ากับความเกลียดชังในจิตใจเรา
    ความเกลียดชัง หรือพูดให้ถูกก็คือความรู้สึกอยากผลักไส
    ซึ่งรวมทั้งความโกรธและความกลัว
    แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความจริงเท่านั้น
    นอกจากความอยากผลักไสแล้ว ความยึดติดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังไม่แพ้กัน

    กลับมาที่ลิงจอมซนอีกที
    ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน
    เพราะชอบขโมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง
    โดยใช้กล่องไม้ (บางเรื่องเล่าว่าเป็น กะลามะพร้าวที่เจาะรูเล็กๆ)
    ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้
    ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิง วางไว้เป็นเหยื่อล่อ
    วันดีคืนดี ลิงมาที่สวน เห็นถั่วอยู่ในกล่อง ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว
    แต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่อง
    เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้
    ลิงพยายามดึงมือเท่าไรก็ไม่ออก
    พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้
    เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายก็ถูกคนจับได้

    ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่า เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น
    มันก็เอาตัวรอดได้ แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย จึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก


    มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เราใฝ่ฝันอยากได้ จนถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่น
    เวลาประสบปัญหา เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลาย
    แต่เป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อย
    จึงเกิดผลเสียตามมาอย่างมากมาย..ไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึด


    ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น ถ้าเรารู้จักปล่อยวางเสียบ้าง มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ
    บ่อยครั้งการปล่อยวางไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น
    หากแต่เป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว
    ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่าง ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่ง


    ทั้งๆ ที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือ
    ก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ในหลายๆกรณี ความทุกข์ไม่ได้มาจากไหน
    หากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อย
    ดั่งเจ้าลิงหวงถั่ว
    รักในหลวง และ ครอบครัว...

  10. #20
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3,485
    น้องเค้าหายไปไหนแล้วเนี้ย ป่านนี้จะเป็นยังงัยบ้างหนอ สบายใจขึ้นหรือยังจ้ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]


    Good friends are like stars..... You don't always see them, but you know they are always there.

Page 2 of 2 FirstFirst 1 2

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •