ตอนนี้น้องน่าจะกำลังสับสนเพราะเหนื่อยล้ากับการทำงานหนัก
เราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำงานหนักมาก ถ้าฟ้าสว่างอยู่ กลับบ้านไม่ค่อยถูก
นั่งทำงานถึง 3 - 4 ทุ่ม โดยไม่มีโอที พอมองย้อนกลับไปก็คิดเหมือนกันว่าทำไปด้ายยย
แต่สิ่งนึงที่จะได้มาโดยไม่รู้ตัว คือประสบการณ์และความรู้จากการทำงานค่ะ
อยากให้กำลังใจนะคะ ดูจากที่ระบายแล้วเหมือนจะไม่ได้รับ feedback ที่ดี
ถ้ายังอายุน้อย ยังไม่อยากให้ท้อนะคะ ให้มองว่าเป็นการฝึกให้เราเก่งค่ะ
เมื่อไหร่ที่เก่งแล้ว งานที่เคยใช้เวลามาก จะใช้เวลาน้อยลง แล้วงานจะเบาขึ้นเองนะคะ
ความเก่งนี้ ไม่ได้เกิดผลดีกับบริษัทที่น้องทำเท่านั้น แต่มันจะติดตัวน้องไปด้วย ถือเป็นสมบัติติดตัวไป
เหมือนตอนนี้ ที่เราสามารถนำสิ่งที่ได้จากการทำงาน มาใช้ในการทำธุรกิจของตัวเอง
ในส่วนของผลตอบแทน ไม่อยากให้มองแค่เราทุ่มเทกับงาน แล้วทำไมหัวหน้าไม่เห็นปรับเงินเดือนให้แค่เพียงอย่างเดียวนะคะ
ในฐานะที่เป็นทั้งลูกน้องและหัวหน้ามาก่อน
การพิจารณาผลงาน ต้องดู 2 อย่างค่ะ ทั้งความทุ่มเท และคุณภาพของงาน
และต้องรู้จักนำเสนอด้วยนะคะ
เคยเจอมาเยอะค่ะ พวกทำงานไม่เป็น แต่นำเสนอเก่ง ได้ดีซะงั้น อย่ายอมแพ้พวกนี้ค่ะ
ถ้าเชือ่มั่นว่าทำงานออกมาได้ดี ต้องรู้จักนำเสนอด้วยค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจเข้าข่าย ทำดีแล้วไม่มีคนเห็น
อดทนนิดนึงนะคะ การที่เค้าให้โอกาส ถือว่าเค้าให้เครดิตเรานะคะ บางคนไม่มีโอกาสแบบนี้ ความก้าวหน้าก็จะไม่มีค่ะ
ในส่วนของพนักงานอื่นๆ อยากให้ทำใจนะคะ หลีกเลี่ยงยาก ถ้าทำงานร่วมกับคนอื่น
อยากให้มองในแง่บริษัท บางครั้งก็ไม่ได้อยากได้พนักงานพวกนี้ไว้นะคะ
แต่ตามกฎหมายแรงงานแล้ว ไม่สามารถไล่ใครออกได้ง่ายๆนะคะ ต้องชดเชยกันอานเลย
ดังนั้น ถ้าไม่เหลือขอจริงๆ เค้าก็คงยังทำงานได้ต่อไปอะคะ
มองโลกในแง่ดีนะคะ อย่างที่เพื่อนๆคอมเมนท์ มีงานทำยังดีกว่าไม่มี
คนที่ได้ทำงานที่ชอบถือเป็นคนที่โชคดีที่สุด แต่มีคนจำนวนน้อยมากที่จะโชคดีแบบนั้น
ดังนั้น ความสุขในการทำงาน อยู่ทีใจนะคะ ทำใจให้รักในงานที่ทำให้ได้ จะดีที่สุดค่ะ