เคยเป็นค่ะ แต่หายเร็ว เพราะ "งานไม่ใช่ชีวิต" ค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม การมีปัญกาในชีวิต หรือความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ เนี่ย เราต้องยอมรับว่าเป็นธรรมดาของชีวิตค่ะ แต่เดี๋ยวอารมณ์ท้อแท้นี้มันก็หายไป และเดี๋ยวมันก็จะมาอีกได้ หรือไม่ก็มีปัญหาอื่นอีก นี่คือชีวิตค่ะ
อยากแนะนำให้น้องมองที่ตัวเองเป็นนะคะ และชื่นชมตัวเอง เรื่องผลงาน หรือการโปรโมทนั้น เป็นเพียงรางวัลเปลือกนอกค่ะ รางวัลที่แท้จริงคือน้องได้เรียนรู้ค่ะ แค่ได้ทำงาน ก็ได้รางวัลแล้วค่ะ
แนะนำหนังสือสองเรื่อง A Conversation with God อันนี้ไม่ใช่พระคริสต์นะคะ ต้องลองไปอ่านดู และอีกเล่มนึง The Tao of Pooh ค่ะ ใช่ชีวิตตามวิถีหมีพูห์นั้น ตรงกับที่เต๋าบอกไว้ค่ะ และจะทำให้ไม่เครียดอีกเลยด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องคนที่ทำงานนั้น อย่าเอาอารมณ์ไปอยู่ตรงนั้นเลยนะคะ เพราะคนพวกนี้ไม่สำคัญกับชีวิตเราค่ะ เราเจอคนพวกนี้ก็แค่ไม่กี่ปี พอน้องลาออก หรือเค้าลาออก ชีวิตก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วค่ะ คนที่เราควรจะแคร์ คือคนที่สำคัญในชีวิตค่ะ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อนสนิท แฟน...
น้องควรจะพักผ่อนบ้างค่ะ หยุดงานซักเดือน หรือสองอาทิตย์ ใช้ชีวิตสบายๆ นอนเยอะๆ ออกกำลัง ไปทำบุญบ้างฝึกวิปัสสนาก็ดีนะคะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ไปฝีกตอนจิตใจว้าวุ่น เพราะมันจะฟุ้งซ่านเยอะ
อ้อ แนะนำอีกอย่าง ลองแบ่งเวลาไปช่วยงานตามมูลนิธิต่างๆ สิคะ แบบนี้ จะทำให้เราฝึกการ ทำดีโดยไม่หวังผลค่ะ เพราะมูลนิธิ ไม่มีเงินจ่ายให้ แต่ความจริงเราได้ผลตอบแทนดีเยี่ยมเลยค่ะ คือเราได้เรรียนรู้ชีวิต จากชีวิตของคนอื่นค่ะ ทำให้มองคนอื่น มากกว่ามองแต่ตัวเอง ก็จะเลิกหมกมุ่นกับปัญหาของตัวเองไปได้
Meesook เองงานยุ่งมาก และเดินทางตลอดเวลา แต่ก็แบ่งเวลาไปช่วยมูลนิธิ Wishing Well เป็นมูลนิธิสำหรับเด็กที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทำให้ชีวิตช่วงที่เหลืออยู่ของเด็กๆ เหล่านั้น มีความสุขที่สุด
พอได้ไปทำงานใกล้ชิดกับเด็กที่ป่วยเหล่านี้นะคะ เห็นได้เลยว่าปัญหาของเรานี่มันน้อยนิดจริงๆ เพราะมีปัญหาเดี๋ยวก็หาย แต่ปัญหาของน้องที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายน่ะ ไม่มีทางหายได้เลยค่ะ น้องๆ พวกนี้ mature มาก ไม่เคยงอแงอะไรเลย ไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อย เพราะเค้ารู้ว่าเค้ามีเวลาน้อย ต้องทำทุกเวลาให้มีความสุขที่สุด
น้องบางคน ความสุขของเค้าคือ แค่ได้กินพิซซ่า ก็มีความสุขแล้ว... มีน้องที่ใกล้จะไปแล้ว ขอกินพิซซ่า เราก็จัดหามาทำปาร์ตี้พิซซ่าให้ในโรงพยาบาล ให้เพื่อนๆ และญาตอของน้องกินด้วย น้องคนนั้นมีความสุขมากจนลืมความปวดจากโรคมะเร็ง น้องหลับไปพร้อมรอยยิ้ม และไม่ตื่นมาอีก...
เห็นแล้วก็ซึ้ง แล้วก็ย้อนมาดูตัวเองค่ะ ว่าทำไมต้องอยากมี อยากได้อะไรมากมาย (โดยเฉพาะกระเป๋า ฮี่ ฮี่ ฮี่...เอ้ย นอกเรื่อง!) ได้เข้าใจการอยู่อย่างพอเพียงอย่างแท้จริงค่ะ
ป.ล.ถ้าใครสนใจจะไปช่วยมูลนิธิ ติดต่อมาทางพีเอ็มนะคะ แต่ทางมูลนิธิไม่ได้รับทุกคนนะคะ ต้องไปสัมภาษณ์ให้ผ่านก่อน จึงจะไปเป็นอาสาสมัครได้ค่ะ
Citizen Member /
Trusted Member
เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
Previous
Downtown
Meesook
เอ้ย นอกเรื่อง!) ได้เข้าใจการอยู่อย่างพอเพียงอย่างแท้จริงค่ะ
Reply With Quote