ขออนุญาติลบข้อความเดิม และเปลี่ยนเรื่องคุยจ้ะ เพราะมีคนเตือนบอกว่ามีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง เลยต้องขออนุญาติลบลิงค์และเอาข้อความออก นะค่ะ
เลยขอเปลี่ยนเรื่องโพสต์แล้วกัน เป็นเรื่อง ทำไมต้องบวช... แสนรูป ดีกว่า อ่านแล้วใจสบายๆ อยู่ด้านล่างอีกหน่อยนะค่ะ
พอดีได้รับข่าวสารเกี่ยวกับ สถานการณ์ ของพระพุทธศาสนาในประเทศของเรา กำลังจะถูกคุกคาม เลยเอามาให้เพื่อนๆลองศึกษากันดู อย่างเป็นกลางๆนะค่ะ
แต่ในฐานะชาวพุทธ และคนไทยคนหนึ่ง ก็ไม่อยากให้ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นกับเราในอนาคตเลยจริงๆค่ะ
ตื่นเถิดชาวไทย..
หมดเวลาต่างคนต่างคิด.. ต่างคนต่างทำแล้ว..
ถ้าคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ.. ก็เตรียมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย..
แบบเดียวกับที่เคยเกิดกับอดีตเมืองพุทธทั้งหลาย.. เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฯลฯ
แม้คุณจะตายก่อน.. แต่ลูกหลานคุณ.. จะต้องเผชิญกับมันแน่นอน..!!
Clip ไหนน่ากลัว.. ก็ไม่ต้องดูภาพนะ.. แต่ควรฟังเสียง เพื่อจะได้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้..
.............................................................
เปลี่ยนให้ใหม่เป็นอันนี้จ้ะ ยาวหน่อย แต่ดีมาก แนนตั้งใจคัดลอกพิมพ์จากหนังสือมาให้อ่านกันเลยค่ะ ไม่ได้ cop-paste นะ
ทำไม… ต้องบวช 100,000 รูป
สะเทือนวงการพระพุทธศานาโลก!
สังฆมณฑล จุดบวชแสนรูป เพื่ออะไร
ทุกฝ่ายจะได้อะไร
เคยบวชแล้ว ทำไมต้องบวชอีก
โครงการ “บวชพระ 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย” ทำไปเพื่ออะไร ?
โครงการ “บวชพระ 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย”เป็นหนึ่งในโครงการฟื้นฟูศิลธรรมโลก เพื่อรวมพลังพุทธบริษัท 4 ทั้งแผ่นดิน ช่วยกันฟื้นฟูประเพณีการบวช และสร้างศาสนทายาทเพื่อสืบอายุพระศาสนา สืบเนื่องมาจากความจริงที่ว่า ปัจจุบันนี้ วัดต่างๆมีผู้มาบวชจำพรรษาน้อยลงมาก ขนาดพระอารามหลวงในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ก่อนเคยมีผู้บวชจำพรรษาปีละ 40-50 รูป แต่ปีนี้มีผู้เข้ามาบวชเพียง 1-2 รูป บางวัดก็ไม่มีเลยแม้แต่รูปเดียว ทั้งที่ประชากรที่อยู่รายรอบวัดในเขตกรุงเทพฯ มีมากถึง 10 ล้านกว่าคน จุดนี้แสดงให้เห็นว่า ธรรมเนียมที่ชายไทยจะต้องบวชให้ได้อย่างน้อย 1 พรรษา เมื่ออายุครบกำหนด ได้เลือนรางหายไป อีกทั้งรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 แจ้งว่ามีวัดร้างถึง 5,937 วัด อีกทั้งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนน่าเป็นห่วงสถานการณ์ของพระพุทธศาสนา เพราะปัญหาสังคมกำลังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จากปัญหาศีลธรรมที่เสื่อมลง จากข่าวที่มีแทบทุกวัน เช่น โจรบุกวัดตัดเศียรพระพุทธรูปไปขาย ปัญหาการบุกรุกที่วัดในเขตภาคใต้ ขุดดินในเขตสงฆ์ไปขาย ปัญหาอบายมุขต่างๆทั้งที่เป็นเมืองพุทธ แต่กลับมีสถิติการดื่มเหล้ามากเป็นอันดับต้นๆของโลก ปัญหาโจรผู้ร้าย อาชญากรรม ยาเสพติด ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น สังคมกำลังโหยหาธรรมะอย่างยิ่ง แต่จำนวนพระภิกษุผู้จะทำหน้าที่สอนศีลธรรมกำลังลดลงไปทุกที ถึงเวลาแล้วที่เราควรหันมาช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรมภายในประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและขยายไปสู่สังคมโลกในที่สุด ซึ่งโครงการบวชพระ 100,000 รูป คือหนึ่งในโครงการที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็น
ทำไมต้องบวชตั้ง 100,000 รูป มากเกินไปหรือเปล่า ?
เราทราบไหมว่า หมู้บ้านในประเทศไทยมีเท่าไหร่? …ประเทศไทยมีหมู่บ้านรวมมากกว่า 80,000 หมู่บ้าน หากต้องการห็ศีลธรรมถูกฟื้นฟูบนแผ่นดินไทยทั้งประเทศ เบื้องต้นขอตัวแทนแค่หมู้บ้านละ 1-2 คน ก็จะได้คนประมาณ 100,000 คน ซึ่งเทียบแล้วไม่มากเลย
บวชมากขนาดนี้จัดระบบอย่างไร?
การอบรมจัดกระจายในวัดต่างๆทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย เพื่อความสะดวกตามภูมิลำเนาของแต่ละคน โดยพระผู้ใหญ่จากวัดต่างๆทั่วสังฆมณฑล ท่านยินดีเปิดวัดของท่านเป็นสถานที่จัดการอบรม มากถึง 333 วัด ทั่วประเทศ ซึ่งการอบรมนี้ จะเป็นมาตรฐานและหลักสูตรเดียวกันทั้งประเทศ เพราะจะมีการถ่ายทอดสดการอบรมเทศน์สอนจากพระเถระ ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมจากทั้งแผ่นดิน โดยผ่านทีวีดาวเทียม กระจายไปอย่างทั่วถึงพร้อมกัน
อยากบวชเอง เดี่ยวๆ สงบๆ มากกว่าบวชเป็นแสน วุ่นวาย
การบวชเป็นหมู่คณะ จะดีกว่าการบวชเดี่ยว ในกรณีที่ว่า พลังหมู่จะเสริมพลังเดี่ยว เหมือนเด็กที่ไม่ยอมไปโรงเรียน เพราะคนเยอะ อยู่อ่านหนังสือคนเดียวที่บ้าน ถ้าสมมุติว่าพ่อแม่อนุญาติ แล้วลองสังเกตุว่าเด็กจะอ่านหนังสือได้วันละ 7 ชั่วโมง ตามเวลาเรียนเหมือนที่โรงเรียนหรือเปล่า เราก็จะพบว่า มีเด็กน้อยคนมากที่จะอ่านหนังสือได้วันละ 7 ชั่วโมง ส่วนใหญ่สักพักก็แอบนอน แอบเล่นอินเตอร์เนต เป็นต้น แต่ถ้าเข้าโรงเรียนตามปกติ แน่นอนว่าจะมีเวลาเรียนเต็มเวลาคือ 7 ชั่วโมง เพราะมีกฎระเบียบ มีอาจารย์ มีเพื่อน มีพลังหมู่คอยเสริม การบวชเรียนธรรมะก็เช่นเดียวกัน พลังหมู่จะทำให้เราสามารถศึกษษธรรมะได้เต็มที่ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ตรงเวลา และครั้งนี้จะได้รับความรู้จากพระเถระ ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมจากทั้งแผ่นดิน ซึ่งการบวชเดี่ยวจะไม่ได้รับโอกาสอย่างนี้
อีกอย่างการบวช 100,000 รูป ก็ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่คิด เพราะมีการจัดระบบเหมือนโรงเรียนทั่วประเทศ ที่แม้นักเรียนกว่า 13 ล้านคนก็ต้องไปโรงเรียนพร้อมกันหมด มีการกระจายการบวชไปตามวัดต่างๆทั่วทุกภูมิภาคถึง 333 วัด บางวัดก็ 100 รูป บางวัดก็ 200 รูป หรือถ้าชอบหมู่คณะมากๆ ก็สามารถมาอบรมที่วัดพระธรรมกายซึ่งรองรับผู้บวชได้ 10,000 รูป
เคยบวชแล้วทำไมต้องบวชอีก
แล้วทำไมเมื่อวานกินข้าวแล้ว วันนี้ต้องกินข้าวอีก ก็เช่นเดียวกัน ร่างกายต้องการอาหารไปหล่อเลี้ยงให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ จิตใจก็เหมือนกัน ต้องการบุญกุศลไปหล่อเลี้ยงให้ใจผ่องใส มีพลังอยู่เสมอ ในเมื่อปัจจุบันจิตใจต้องเจอปัญหาต่างๆมากมาย ทำให้สภาพจิตใจเสียความปกติไป เครียด หงุดหงิด เศร้า วิตก หมดกำลังใจ แล้วก็แสวงหาทางออกที่ผิดพลาด ดังนั้นจิตใจที่มีกถศลหล่อเลี้ยงจะทำให้ชีวิตมีความสุข เจริญก้าวหน้า แก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง
ทำไมต้องบวช ในเมื่อทุกวันนี้ก็เป็นคนดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ถ้าเราลองพิจารณาเอาอย่างในหลวงของเรา ท่านก็เป็นคนดี เป็นพระมาหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม แต่ท่านก็ยังทรงบวชเรียน…. หลายคนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนดี ตามความเข้าใจของตน เช่น ชายคนหนึ่งตั้งใจทำมาหากิน แต่ติดเห้าต้องหาซื้อมากินหลังเลิกงานประจำ เจ้าตัวก็ว่าเขาเป็นคนดี แต่เราจะเห็นว่าอุบัติเหตุจากการขับรถชนคนตาย มีเยอะมาก นี่เพราะเขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนดี แต่กลับทำให้สังคมเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว อีกตัวอย่าง เด็กสมัยนี้ชอบเป็นตัวของตัวเอง เช่นเด็กแวนท์ เด็กสก๊อย ต้องการขับรถซิ่งดังกวนเมือง เขาก็บอกว่าเขาเป็นคนดี พอผู้ใหญ่เตือนก็ว่า หัวโบราณ ทำเสียงดังนิดดังหน่อยก็ทำมาบ่น ไม่รู้จักอดทน แล้วยังจะมาสอนให้เด็กอดทนอีก มันเป็นเทรนด์ใหม่ ที่ใครๆก็ทำกัน บางคนติดเหล้า ติดยา แชตอินเตอร์เนตทั้งคืน พ่อแม่ตักเตือน ก็บอกว่าใครๆก็ทำกันเป็นปกติ หากเราเป็นพ่อแม่ เราอยากได้ลูกแบบนี้หรืออยากได้ลูกที่บวชเรียน แล้วกลายเป็นเด็กที่มีศีลธรรม มีเหตุ มีผล กันแน่
ทำไมต้องบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่อีก ในเมื่อก็เลี้ยงดูท่านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
ความจริงการดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่โดยการหาเงินเลี้ยงดู คอยดูแลเท่านั้น ยังไม่ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่านได้ทั้งหมด เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า คนเราเมื่อตายไป แม้จะมีสมบัติมากมายมหาศาลก็ไม่สามารถเอาติดตัวไปได้ มีเพียงบุญกุศลเท่านั้น ที่จะติดตัวไปได้ และการที่เราจะตอบแทนคุณท่านได้หมดก็คือ การที่เราสามารถชักชวนท่านมาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำจิตใจให้ผ่องใส ซึ่งการบวชนั้น เป็นโอกาสที่ดียิ่งที่จะชักนำให้ท่านเข้าวัด มีโอกาสทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาไปพร้อมกับเราด้วย เป็นการทำตัวเราให้บริสุทธิ์ พ่อแม่ก็ได้บุญกุศลไปกับเราด้วย เพราะท่านให้กำเนิดเรามา ความดีทุกอย่างที่เราทำ ก็ล้วนแล้วแต่ได้ต้นทุนชีวิตมาจากท่านทั้งสิ้น พ่อแม่อุ้มท้องเรามา 9 เดือน เลี้ยงดูเรามาอีกจนโตไม่รู้กี่ปี ท่านลำบากแค่ไหน ทำบวชเรียนเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพื่อตอบแทนคุณ เราจะสามารถทำให้ท่านได้หรือไม่
กลัวความลำบาก
เคยถามผู้บวชรุ่นก่อนๆว่าลำบากไหม? …. หากความลำบากเพียงแค่นี้ ยังทนไม่ได้ ต่อไปเขาจะทนอะไรได้ เพราะชีวิตในสังคมต้องปากกัดตีนถีบมากกว่านี้หลายเท่านัก ถามต่อว่า คิดท้อไหม? … หากท้อแล้วคิดสึกออกไปก่อนจบโครงการ ก็แทบไม่ได้อะไรเลย กลายเป็นคนเหยีบยขี้ไก่ไม่ฝ่อ จะทำอะไรต่อไปก็ไม่สำเร็จ ขึ้นชื่อว่าลูกผู้ชาย ลำบากแค่นี้น่าจะลองไปทดสอบดู ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่เห็นลำบากมากมายอะไร
บวชแล้วได้บุญจริงหรือ คุ้มไหมกับการเสียเวลา?
ทั้งจริง ทั้งคุ้ม เพราะบุญบวชเป็นบุญใหญ่ ที่สามารถปิดนรก เปิดสวรรค์ให้กับผู้บวช หากตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งจะได้บุญอันนับจะประมาณมิได้ ดังตัวอย่างจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ถึงแม้จะมีผู้นำดอกไม้จากป่าหิมพานต์มาบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้ง 1,000 พระองค์ ทุกวัน ผลบุญจากการบูชายังไม่เท่าผลบุญจากการบวชเป็นพุทธบูชา
บวชเมื่อไหร่ก็เหมือนกัน รอพร้อมค่อยบวช
ไมมีใครรีบรองได้ว่าเราจะมีชีวิตยืนยาวแค่ไหน ยิ่งพ่อแม่เราท่านก็อายุมากขึ้นทุกวันทุกวัน และไม่แน่ว่าใครจะไปก่อน ถ้าบวชได้ก็บวชตอนนี้เลย ไม่ควรประมาท และอีกอย่างคราวหน้าถ้ารอจะได้บวชจริงหรือ ถ้าไม่บวชตอนนี้อาจพลาดโอกาสไม่ได้บวชอีกเลยก็ได้ ยิ่งบวชเร็ว ก็ได้บุญเร็ว
(ที่มา: หนังสือ “ทำไม…ต้องบวช 100,000 รูป”)