Quote Originally Posted by asiaticia View Post
เพิ่งทราบข่าวค่ะเพราะไม่ได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนแต่ก่อน
ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้นะคะ น้องนาตาลีจากไปไม่เสียเปล่าค่ะ
เป็นแรงผลักดันให้เด็กๆได้อานิสงส์นี้ กุศลส่งให้น้องอยู่ในที่ดีที่เจริญค่ะ

อันนี้ฝากไว้ช่วยเป็นกำลังในยามที่พี่น้ำเศร้าหมองและร้องไห้คิดถึงน้องนะคะ

เมล็ดผักกาดชุบชีวิต

สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี ครั้งนั้นแลบุตรของนางกีสาโคตมีซึ่งกำลังน่ารักน่าเอ็นดูได้ตายลง นางกีสาเสียใจแทบเป็นบ้า เพราะนางมีลูกคนเดียว นางได้อุ้มลูกน้อยผู้ไร้วิญญาณไปบ้านโน้นเรือนนี้ขอให้ชาวบ้านช่วยรักษาลูกนางให้ฟื้นคืนมา

ชาวบ้านหลายคนก็มีความสงสารหัวอกของแม่ แต่ก็สุดที่ใครๆจะช่วยนางได้ จึงแนะให้นางไปหาพระพุทธเจ้า นางจึงอุ้มร่างของลูกน้อยผู้สิ้นลมไว้แนบอกแล้วรีบวิ่งไปยังสำนักพระเชตวันซึ่งขณะนั้นพระพุทธเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่

นางกีสาผู้มีหน้านองด้วยน้ำตายื่นแขนทั้งสองที่รองรับร่างหนูน้อยไว้ไปทางพระพุทธเจ้า พลางพูดด้วยเสียงสั่นแกมสะอื้นว่า
"ท่านเจ้าขา…โปรดช่วยชุบชีวิตลูกน้อยของดิฉันให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยเถิดพระเจ้าข้า…"
"กีสาโคตมี เธอจงไปหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดในบ้านที่ไม่มีคนเคยตายเลยมาสักหยิบมือ แล้วเราจะประกอบยาชุบชีวิตลูกของเธอให้"

นางได้อุ้มลูกไว้แนบอกรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านถามหาเมล็ดผักกาด แทบทุกเรือนก็บอกว่ามีเมล็ดผักกาดแต่พอถามถึงว่า "ที่บ้านนี้เคยมีคนตายมาก่อนบ้างไหม?" ทุกบ้านก็ตอบตรงกันว่า "เคย" นางกีสาตระเวนหาตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนลูกเหม็นเน่าก็ไม่ได้เมล็ดผักกาดแม้แต่เมล็ดเดียว จึงต้องกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยความผิดหวัง พระพุทธเจ้าได้ทรงให้สตินางว่า

"กีสาเอ๋ย อนิจจตาธรรมนี้ มิใช่ธรรมเฉพาะบ้าน มิใช่ธรรมเฉพาะนิคม มิใช่ธรรมเฉพาะสกุลเดียว แต่เป็นธรรมของโลกทั้งปวงพร้อมกันทั้งเทวโลกฯ"
ขอบคุณมากๆนะคะ จิตใจตอนนี้ดีขึ้นคะ แต่ทุกลมหายใจเข้าออกก็ยังมีแต่น้องอยู่คะ