Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 8 of 8

Thread: มาถามเพื่อนๆ คิดกันยังไง ... เวลาชอบอะไรหลายๆอย่าง

Hybrid View

  1. #1
    wnonach's Avatar
    wnonach is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    458
    แหมเนอะก็คนมันชอบอะนะ พี่เข้าใจน้อง peeranutt ค่ะแต่ก็อย่างที่พี่ๆข้างบนแนะนำนั้นละค่ะ พี่เองเริ่มกล้าซื้อเมื่อตอนมีงานทำและมีรายได้ที่แน่นอนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ซื้อบ่อยๆนะคะ นานๆจะตัดใจซื้อสักอย่าง

    ตอนนี้น้องยังเรียนอยู่แค่ปี 1 เอง ยังมีเวลาอีกเยอะมากๆที่จะหาเงิน พยายามเรียนให้เก่งและได้เกรดดีๆ น้องก็จะได้มีงานดีๆทำ แล้วตอนนี้เงินมันจะมาเอง อยากได้อะไรก็ซื้อไปเลยคร้า

    พี่แนะนำให้น้องใจเย็นๆเวลาผ่านไปเร็วมากนะคะ แป้บๆก็ปี เดี๋ยวจบแล้ว และถ้าช่วงนี้อยากได้ก็ซื้ออะไรที่เราพอซื้อได้ไปก่อน แต่อย่าให้ตัวเองและคุณพ่อคุณแม่เดือดร้อน ถ้าเราอยากได้ของชิ้นนั้นจริงๆแล้วเงินยังไม่พอ เราก็ให้เวลาตัวเองประหยัดเงินค่าขนม หรือหางานพิเศษทำ พอได้ครบแล้วค่อยซื้อ มันจะทำให้น้องภูมิใจของชิ้นนั้นมาก และถ้าคุณพ่อคุณแม่น้องทราบ ท่านก็จะชื่นชมและปลื้มใจด้วยค่ะ ลองดูนะคะพี่ว่าน้องทำได้ค่ะ
    You Can Try Without Succeeding. But You Can Not Succeed Unless You Try!



    BIG THANKS FOR SBN

  2. #2
    Join Date
    May 2010
    Posts
    6
    เท่าที่อ่าน น้อง จขกท ย้ำว่าซื้ออะไรไม่เคยคิดว่าเป็นการลงทุน แต่ซื้อเพราะชอบ

    คือพี่ไม่ทราบว่าคำว่ารายได้น้อยนี่คือเท่าไหร่เลยแนะนำไม่ถูก เพราะน้อยของน้องอาจจะมากกว่าเงินของพี่ก็ได้เพราะพื้นฐานทางบ้านอาจจะฐานะดี แต่อยากให้เข้าใจว่ากระเป๋ากับนาฬิกาถือเป็นของฟุ่มเฟือยนะคะ หมายความว่าจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเรามีเงินเหลือมากพอ ถ้าน้อง จขกท รู้จักและรู้สึกว่าตัวเองรายได้น้อย พี่ว่าน้องไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะใช้ซื้อของฟุ่มฟือยได้น่ะค่ะ คนรวยหลายคนกว่าเค้าจะควักเงินซื้อนาฬิกาหรือกระเป๋าแพง ๆ เค้าก็คิดแล้วคิดอีกนะคะ

    แนะนำอย่างนี้ละกันค่ะ คนที่พี่เคยเจอมี 3 ประเภท
    1. เงินตัวเองน้อย แต่ที่บ้านรวย คนแบบนี้จะซื้อทุกอย่างที่อยากได้เพราะถือว่าถ้าเงินหมดก็ไปขอกงสีได้ เค้าก็ไม่เดือดร้อน แต่จะติดนิสัยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีเงินกงสี เงินกงสีหมดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
    2. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย แต่ก็ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ไปเรื่อย พอถึงวันที่ต้องใช้เงินขึ้นมา พวกนาฬิกา กระเป๋าที่ซื้อมาเพราะใจรักต้องตัดใจขายสุด ๆ ทั้ง ๆ มูลค่าเหลือไม่ถึงครึ่งเพราะเดือดร้อนต้องใช้เงินจริง ๆ
    3. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย ซื้อนาฬิกาที่ชอบที่สุดปีละเรือน ซื้อกระเป๋าที่ชอบที่สุดปีละใบ เงินส่วนใหญ่หมดไปกับเพชร ถึงเวลาเดือดร้อนต้องใช้เงิน ขายเพชรถูกหักค่าเสื่อม 10% ได้เงินก้อนใหญ่มาและยังมีนาฬิกาใส่ มีกระเป๋าแบรนด์หิ้ว

    ทีนี้น้อง จขกท ลองเลือกดูค่ะว่าอยากอยู่ข้อไหน

    ปล. เพิ่งได้อ่านหนังสือแพรวเล่มล่าสุด มีสัมภาษณ์เศรษฐีรวยติดอันดับของโลก หนึ่งในนั้นมีเจ้าสัวกระทิงแดงรวมอยู่ด้วย (ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้ จำได้แต่ว่านามสกุล อยู่วิทยา) ท่านบอกว่า "การใช้เงินซื้อสิ่งใดอย่างไม่คิด อาจทำให้เราต้องขายสิ่งที่ต้องการที่สุดไป"

  3. #3
    pachcha's Avatar
    pachcha is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    Quote Originally Posted by 69 View Post
    เท่าที่อ่าน น้อง จขกท ย้ำว่าซื้ออะไรไม่เคยคิดว่าเป็นการลงทุน แต่ซื้อเพราะชอบ

    คือพี่ไม่ทราบว่าคำว่ารายได้น้อยนี่คือเท่าไหร่เลยแนะนำไม่ถูก เพราะน้อยของน้องอาจจะมากกว่าเงินของพี่ก็ได้เพราะพื้นฐานทางบ้านอาจจะฐานะดี แต่อยากให้เข้าใจว่ากระเป๋ากับนาฬิกาถือเป็นของฟุ่มเฟือยนะคะ หมายความว่าจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเรามีเงินเหลือมากพอ ถ้าน้อง จขกท รู้จักและรู้สึกว่าตัวเองรายได้น้อย พี่ว่าน้องไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะใช้ซื้อของฟุ่มฟือยได้น่ะค่ะ คนรวยหลายคนกว่าเค้าจะควักเงินซื้อนาฬิกาหรือกระเป๋าแพง ๆ เค้าก็คิดแล้วคิดอีกนะคะ

    แนะนำอย่างนี้ละกันค่ะ คนที่พี่เคยเจอมี 3 ประเภท
    1. เงินตัวเองน้อย แต่ที่บ้านรวย คนแบบนี้จะซื้อทุกอย่างที่อยากได้เพราะถือว่าถ้าเงินหมดก็ไปขอกงสีได้ เค้าก็ไม่เดือดร้อน แต่จะติดนิสัยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีเงินกงสี เงินกงสีหมดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
    2. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย แต่ก็ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ไปเรื่อย พอถึงวันที่ต้องใช้เงินขึ้นมา พวกนาฬิกา กระเป๋าที่ซื้อมาเพราะใจรักต้องตัดใจขายสุด ๆ ทั้ง ๆ มูลค่าเหลือไม่ถึงครึ่งเพราะเดือดร้อนต้องใช้เงินจริง ๆ
    3. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย ซื้อนาฬิกาที่ชอบที่สุดปีละเรือน ซื้อกระเป๋าที่ชอบที่สุดปีละใบ เงินส่วนใหญ่หมดไปกับเพชร ถึงเวลาเดือดร้อนต้องใช้เงิน ขายเพชรถูกหักค่าเสื่อม 10% ได้เงินก้อนใหญ่มาและยังมีนาฬิกาใส่ มีกระเป๋าแบรนด์หิ้ว

    ทีนี้น้อง จขกท ลองเลือกดูค่ะว่าอยากอยู่ข้อไหน

    ปล. เพิ่งได้อ่านหนังสือแพรวเล่มล่าสุด มีสัมภาษณ์เศรษฐีรวยติดอันดับของโลก หนึ่งในนั้นมีเจ้าสัวกระทิงแดงรวมอยู่ด้วย (ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้ จำได้แต่ว่านามสกุล อยู่วิทยา) ท่านบอกว่า "การใช้เงินซื้อสิ่งใดอย่างไม่คิด อาจทำให้เราต้องขายสิ่งที่ต้องการที่สุดไป"
    เห็นด้วยมากๆค่ะ

    ส่วนตัวเท่าที่เคยเห็นนะคะ ส่วนมากคนที่ซื้อทุกอย่างที่อยากได้โดยไม่คิดเลย เพราะเงินที่ใช้ไม่ได้หามาด้วยตัวเองเลยไม่ค่อยเห็นคุณค่าค่ะ

    ปล.ท่านเจ้าสัวกระทิงแดงเป็นบุคคลหนึ่งที่น่านับถือมากๆๆๆค่ะ
    --------------ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ก็เพื่อช่วยให้ชีวิตเราไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุด--------------

    "อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร"

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •