Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 8 of 8

Thread: มาถามเพื่อนๆ คิดกันยังไง ... เวลาชอบอะไรหลายๆอย่าง

Hybrid View

  1. #1
    peeranutt's Avatar
    peeranutt is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    79
    ขอบคุณครับบบ

    คือ เราเองก็พยายามประหยัดนะ

    ของทุกชิ้น เราก็คิดก่อนซื้อ แต่บางทีคิดเร็วไปนิด (ฮา)

    บางทีเราก้อมองคนที่สูงกว่า อย่างที่ คุณ greenpark ว่าจริงๆ

    ต้องเปลี่ยนตัวเองจริงจังซะแล้ว





    ขอบคุณ ทุกความเห็นนะครับผม ต่อๆ มาได้เลยนะครับ อยากรับฟังมากมาย

  2. #2
    wnonach's Avatar
    wnonach is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    458
    แหมเนอะก็คนมันชอบอะนะ พี่เข้าใจน้อง peeranutt ค่ะแต่ก็อย่างที่พี่ๆข้างบนแนะนำนั้นละค่ะ พี่เองเริ่มกล้าซื้อเมื่อตอนมีงานทำและมีรายได้ที่แน่นอนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ซื้อบ่อยๆนะคะ นานๆจะตัดใจซื้อสักอย่าง

    ตอนนี้น้องยังเรียนอยู่แค่ปี 1 เอง ยังมีเวลาอีกเยอะมากๆที่จะหาเงิน พยายามเรียนให้เก่งและได้เกรดดีๆ น้องก็จะได้มีงานดีๆทำ แล้วตอนนี้เงินมันจะมาเอง อยากได้อะไรก็ซื้อไปเลยคร้า

    พี่แนะนำให้น้องใจเย็นๆเวลาผ่านไปเร็วมากนะคะ แป้บๆก็ปี เดี๋ยวจบแล้ว และถ้าช่วงนี้อยากได้ก็ซื้ออะไรที่เราพอซื้อได้ไปก่อน แต่อย่าให้ตัวเองและคุณพ่อคุณแม่เดือดร้อน ถ้าเราอยากได้ของชิ้นนั้นจริงๆแล้วเงินยังไม่พอ เราก็ให้เวลาตัวเองประหยัดเงินค่าขนม หรือหางานพิเศษทำ พอได้ครบแล้วค่อยซื้อ มันจะทำให้น้องภูมิใจของชิ้นนั้นมาก และถ้าคุณพ่อคุณแม่น้องทราบ ท่านก็จะชื่นชมและปลื้มใจด้วยค่ะ ลองดูนะคะพี่ว่าน้องทำได้ค่ะ
    You Can Try Without Succeeding. But You Can Not Succeed Unless You Try!



    BIG THANKS FOR SBN

  3. #3
    Join Date
    May 2010
    Posts
    6
    เท่าที่อ่าน น้อง จขกท ย้ำว่าซื้ออะไรไม่เคยคิดว่าเป็นการลงทุน แต่ซื้อเพราะชอบ

    คือพี่ไม่ทราบว่าคำว่ารายได้น้อยนี่คือเท่าไหร่เลยแนะนำไม่ถูก เพราะน้อยของน้องอาจจะมากกว่าเงินของพี่ก็ได้เพราะพื้นฐานทางบ้านอาจจะฐานะดี แต่อยากให้เข้าใจว่ากระเป๋ากับนาฬิกาถือเป็นของฟุ่มเฟือยนะคะ หมายความว่าจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเรามีเงินเหลือมากพอ ถ้าน้อง จขกท รู้จักและรู้สึกว่าตัวเองรายได้น้อย พี่ว่าน้องไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะใช้ซื้อของฟุ่มฟือยได้น่ะค่ะ คนรวยหลายคนกว่าเค้าจะควักเงินซื้อนาฬิกาหรือกระเป๋าแพง ๆ เค้าก็คิดแล้วคิดอีกนะคะ

    แนะนำอย่างนี้ละกันค่ะ คนที่พี่เคยเจอมี 3 ประเภท
    1. เงินตัวเองน้อย แต่ที่บ้านรวย คนแบบนี้จะซื้อทุกอย่างที่อยากได้เพราะถือว่าถ้าเงินหมดก็ไปขอกงสีได้ เค้าก็ไม่เดือดร้อน แต่จะติดนิสัยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีเงินกงสี เงินกงสีหมดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
    2. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย แต่ก็ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ไปเรื่อย พอถึงวันที่ต้องใช้เงินขึ้นมา พวกนาฬิกา กระเป๋าที่ซื้อมาเพราะใจรักต้องตัดใจขายสุด ๆ ทั้ง ๆ มูลค่าเหลือไม่ถึงครึ่งเพราะเดือดร้อนต้องใช้เงินจริง ๆ
    3. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย ซื้อนาฬิกาที่ชอบที่สุดปีละเรือน ซื้อกระเป๋าที่ชอบที่สุดปีละใบ เงินส่วนใหญ่หมดไปกับเพชร ถึงเวลาเดือดร้อนต้องใช้เงิน ขายเพชรถูกหักค่าเสื่อม 10% ได้เงินก้อนใหญ่มาและยังมีนาฬิกาใส่ มีกระเป๋าแบรนด์หิ้ว

    ทีนี้น้อง จขกท ลองเลือกดูค่ะว่าอยากอยู่ข้อไหน

    ปล. เพิ่งได้อ่านหนังสือแพรวเล่มล่าสุด มีสัมภาษณ์เศรษฐีรวยติดอันดับของโลก หนึ่งในนั้นมีเจ้าสัวกระทิงแดงรวมอยู่ด้วย (ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้ จำได้แต่ว่านามสกุล อยู่วิทยา) ท่านบอกว่า "การใช้เงินซื้อสิ่งใดอย่างไม่คิด อาจทำให้เราต้องขายสิ่งที่ต้องการที่สุดไป"

  4. #4
    pachcha's Avatar
    pachcha is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    Quote Originally Posted by 69 View Post
    เท่าที่อ่าน น้อง จขกท ย้ำว่าซื้ออะไรไม่เคยคิดว่าเป็นการลงทุน แต่ซื้อเพราะชอบ

    คือพี่ไม่ทราบว่าคำว่ารายได้น้อยนี่คือเท่าไหร่เลยแนะนำไม่ถูก เพราะน้อยของน้องอาจจะมากกว่าเงินของพี่ก็ได้เพราะพื้นฐานทางบ้านอาจจะฐานะดี แต่อยากให้เข้าใจว่ากระเป๋ากับนาฬิกาถือเป็นของฟุ่มเฟือยนะคะ หมายความว่าจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเรามีเงินเหลือมากพอ ถ้าน้อง จขกท รู้จักและรู้สึกว่าตัวเองรายได้น้อย พี่ว่าน้องไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะใช้ซื้อของฟุ่มฟือยได้น่ะค่ะ คนรวยหลายคนกว่าเค้าจะควักเงินซื้อนาฬิกาหรือกระเป๋าแพง ๆ เค้าก็คิดแล้วคิดอีกนะคะ

    แนะนำอย่างนี้ละกันค่ะ คนที่พี่เคยเจอมี 3 ประเภท
    1. เงินตัวเองน้อย แต่ที่บ้านรวย คนแบบนี้จะซื้อทุกอย่างที่อยากได้เพราะถือว่าถ้าเงินหมดก็ไปขอกงสีได้ เค้าก็ไม่เดือดร้อน แต่จะติดนิสัยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีเงินกงสี เงินกงสีหมดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
    2. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย แต่ก็ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ไปเรื่อย พอถึงวันที่ต้องใช้เงินขึ้นมา พวกนาฬิกา กระเป๋าที่ซื้อมาเพราะใจรักต้องตัดใจขายสุด ๆ ทั้ง ๆ มูลค่าเหลือไม่ถึงครึ่งเพราะเดือดร้อนต้องใช้เงินจริง ๆ
    3. เงินตัวเองน้อย ที่บ้านไม่รวย ซื้อนาฬิกาที่ชอบที่สุดปีละเรือน ซื้อกระเป๋าที่ชอบที่สุดปีละใบ เงินส่วนใหญ่หมดไปกับเพชร ถึงเวลาเดือดร้อนต้องใช้เงิน ขายเพชรถูกหักค่าเสื่อม 10% ได้เงินก้อนใหญ่มาและยังมีนาฬิกาใส่ มีกระเป๋าแบรนด์หิ้ว

    ทีนี้น้อง จขกท ลองเลือกดูค่ะว่าอยากอยู่ข้อไหน

    ปล. เพิ่งได้อ่านหนังสือแพรวเล่มล่าสุด มีสัมภาษณ์เศรษฐีรวยติดอันดับของโลก หนึ่งในนั้นมีเจ้าสัวกระทิงแดงรวมอยู่ด้วย (ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้ จำได้แต่ว่านามสกุล อยู่วิทยา) ท่านบอกว่า "การใช้เงินซื้อสิ่งใดอย่างไม่คิด อาจทำให้เราต้องขายสิ่งที่ต้องการที่สุดไป"
    เห็นด้วยมากๆค่ะ

    ส่วนตัวเท่าที่เคยเห็นนะคะ ส่วนมากคนที่ซื้อทุกอย่างที่อยากได้โดยไม่คิดเลย เพราะเงินที่ใช้ไม่ได้หามาด้วยตัวเองเลยไม่ค่อยเห็นคุณค่าค่ะ

    ปล.ท่านเจ้าสัวกระทิงแดงเป็นบุคคลหนึ่งที่น่านับถือมากๆๆๆค่ะ
    --------------ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ก็เพื่อช่วยให้ชีวิตเราไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุด--------------

    "อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร"

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •