Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 4 of 4

Thread: สุขที่ไร้โทษ..........

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking สุขที่ไร้โทษ..........

    สุขที่ไร้โทษ
    จากหนังสือ ช่วงชีวิต ช่วงภาวนา เขมานันทะ์


    มองในแง่จิตวิทยา เรามักจะทำให้คนที่รักเจ็บปวด
    ถ้าคนเดินผ่านหน้าไม่รู้จักมักจี่ ก็ไม่มีเรื่องอะไรมาก
    แต่เรามักมีปัญหากับคนที่รู้จักแล้ว
    เรามักจะใช้ถ้อยคำที่เจ็บแสบทิ่มแทงคนที่เรารัก

    เพื่อ ให้เขาเจ็บปวด เพื่อแสดงว่าเราไม่แยแสเขา
    ทั้งๆ ที่เราอยากให้เขาแยแส พฤติกรรมของเรานั้นเป็นความสับสนในตัวเอง
    ทั้งที่เราอยากให้เขารัก แต่แทนที่เราจะทำตัวให้น่ารัก
    เรากลับเรียกร้องต้องการอย่างโง่เขลา ปฏิกริยาของเราคือ เราต้องทำร้ายเขา
    ทำให้คนอื่นสับสนไปกับอารมณ์สับสนของเรา เพื่อลงโทษเขาว่า ทำไมคุณไม่รักฉัน

    เราตบหน้าเขาแล้วเราดีขึ้นหรือเปล่า
    สามีหรือภรรยาก็ตาม เพื่อแสดงออกว่ารัก ก็ด้วยการข่วน หยิก ทำร้าย เตะ ถีบ ด่าทอ กลั่นแกล้ง

    สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดมากๆ เราไม่ควรหยิ่งกับคนที่เรารัก
    เราอาจจะหยิ่งกับคนอื่นได้บ้าง ถ้ามีเหตุสมควร เพราะความหยิ่งกับความรักนี้อยู่ร่วมกันไม่ได้

    แต่มนุษย์ก็มีสันดานอะไรบางอย่างที่เรียกว่า มานะ ต้องเล่นตัว ต้องหยิ่ง
    ราวกับว่าหยิ่งแล้วจะมีค่า แสดงว่าหัวใจเราไม่ซื่อ ไม่ซื่อกับความรู้สึกภายใน

    ที่จริงรักก็คือรัก เราคลั่งตัวตนหรือคลั่งผู้อื่นเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง
    สับสนไม่รู้ตัวไหนเป็นตัวแท้ของเรา เราไปไขว่คว้าหาตัวเองจากผู้อื่น

    ถ้าเราสติดี เราจะพบว่าเรามีความไม่มั่นใจมากมายในตัวเอง
    เรามักถามคนที่เรารักบ่อยๆ ว่า คุณรักผมหรือเปล่า และผมเป็นคนเดียวของคุณหรือเปล่า
    ถ้าเขาบอกไม่ใช่นี่นอนไม่หลับ กลัดกลุ้ม ดิ้นรน เจ็บปวด
    ในเมื่อตัวเองรักตัวเองไม่ได้แล้ว เราจะให้เขารักเราได้อย่างไร

    ควรแสวงหาความเข้าใจในความรักเสียก่อนที่จะพบคู่รัก
    ในเมื่อเราเข้าใจความรักดีแล้ว ปัญหาจะน้อย
    แต่ถ้าเราหาคู่รักก่อนแล้วค่อยๆ เรียนรู้ ความรักมันจะยุ่ง

    เมื่อเรากำลังเจริญภาวนา เรากำลังเข้าไปสู่ฐานแห่งความรัก ความสุขที่ไร้ตัวไร้ตน
    พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เราปฏิเสธความสุข ความรัก
    แม้จะพูดเรื่องอนัตตา เรื่องทุกข์ เรื่องไม่จีรังยั่งยืนก็ตาม

    แต่ว่านั่นเป็นการพูดให้พัฒนาสติ เพื่อรู้จักรู้แจ้งความจริง
    เพราะเมื่อรู้จักความจริงแล้ว ความรัก ความสุขที่แท้จริงก็ไม่ไปไหนเสีย

    มีคนๆ หนึ่งมาหาผม เขาอยากเห็นแม่เขาดีขึ้น ทุกครั้งที่ผมแนะนำเขาๆ โกรธขัดใจ
    ผมทุกที เพราะว่าผมแหย่ถามว่า แม่คุณไม่ดีตรงไหน เขาบอกว่าแม่เป็นคนขี้โกรธ
    ผมก็เห็นสาเหตุได้ชัดนะว่า คนที่จะช่วยคนโกรธยังโกรธอยู่ไม่มีทางที่จะช่วยได้เลย

    ต้องคนที่เอาชนะความโกรธได้แล้ว ความโกรธของผู้อื่นจึงจะถูกระงับลงได้
    ยากมากที่เราจะรักษาหัวใจของเราให้เต็มเปี่ยม และเราจะต้องต่อสู้
    ถ้าเราไม่ได้ต่อสู้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม เราไม่ได้รักเขา เพียงเราคิดว่าเรารัก
    เมื่อถึงคราวเขาบ้าๆ บอๆ เราเกลียดส่งไปเลย เรามักจะเป็นอย่างนั้น
    เรารักกันพอเขาเฉไฉหรือเขาเลวทรามลง เราแทนที่จะยังดีเท่าเก่าแต่เราถีบส่งเลย
    หรือไม่ก็เกลียดชังซ้ำเติม แล้วเราเองก็ไม่ได้ดีขึ้น แม้เราคิดว่าเราดีกว่าเขา
    แต่เราก็ไม่ได้ดีกว่าเขาเท่าไหร่ เราเพียงคิดเอาเองว่า เราดีกว่าคนที่เราคิดว่าเขาเลวเท่านั้น

    การรักคนที่เขารักเรานั้นง่ายนิดเดียว เหมือนไม่ได้ให้บทเรียนอะไรที่ล้ำค่านัก
    คนนั้นรักเรา เรารักเขาเท่านั้นจบแล้ว
    แต่ว่าเรารักษาความรักของเราไว้ได้ต่อคนซึ่งทำร้ายเรา นี่จึงจะพิสูจน์ว่าเราเป็นมนุษย์ที่ดีได้
    เราถูกยกระดับขึ้นแล้ว

    ชัยชนะนั้นต้องพิจารณาในช่วงยาว ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้เท่านั้น

    ถ้าเราสามารถชนะศัตรูของเราโดยที่ศัตรูหันมารักเราได้ นั่นแหละเราชนะจริงๆ
    แต่ถ้าเราทำให้ศัตรูของเราแพ้ เราข่มศัตรูของเราให้พังพินาศลงแล้ว
    เราชนะในช่วงนั้นแต่เราได้สร้างศัตรูผู้แพ้ขึ้นโดยไม่รู้ตัว และตราบลมหายใจสุดท้าย
    แล้วเราชนะหรือเปล่า มองให้ไกลอย่ามองใกล้ๆ มองการณ์ไกลช่วงยาวของชีวิต

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเราไม่มีศัตรูใดๆ ในโลกนี้
    เราไม่เป็นศัตรูกับโลก แต่โลกเป็นศัตรูกับเรา
    พอท่านไปสอนผู้คนที่ไม่ชอบก็จะโกรธท่าน เป็นศัตรูกับพระพุทธเจ้า
    แต่หารู้ไม่ว่าพระพุทธเจ้านั้นไม่เป็นศัตรูเลย

    ในแง่หนึ่งเราเลียนแบบพระพุทธเจ้าของเรา เรารู้นึกว่าในหัวใจของเราไม่มีศัตรู
    ที่ตรงนี้เองที่เป็นฐานแห่งความสุข

    ความสุขเกิดขึ้นได้ง่ายตามธรรมชาติด้วย คนที่รู้สึกว่าสิ้นเวรกับชีวิตแล้ว
    เดินทางมาเหนื่อยๆ ได้ดื่มน้ำแล้วรู้สึกสุขสำราญ ได้นั่งพักใต้ต้นไม้
    ด้สนทนากับเด็กๆ ก็รู้สึกเป็นสุขสำราญ แต่ถ้าหัวใจเราผูกเวรไว้
    เราอยากเก่ง เราถูกเสี้ยมสอนไว้ให้เป็นคนระห่ำ หัวใจกระด้าง
    จะสุขสำราญอย่างไร้ตัวตนนั้นยาก

    ความสุขของคนที่ยุ่งยากซับซ้อนนั้นไม่มีทางใดนอกจากการเบียดเบียนผู้อื่น
    ได้ข่มใครให้สยบแล้วรู้สึกเป็นสุข

    สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ความสุข เป็นความล่มสลายของความเป็นคน

    เมื่อใดที่เรารู้สึกเป็นสุขที่ทำให้คนอื่นพ่ายแพ้ยับเยิน เรานั่นเองได้ฝากรอยแผลลึกไว้ในหัวใจ

    ที่พระพุทธเจ้าท่านพูดเช่นนั้นมีความหมายลึก สุขที่เกิดจากการให้อภัย ดูแล้วมันจะคล้ายคนแหย คนไม่สู้คน แต่ถ้าเรียนรู้แล้ว คนแหยนั้นเป็นอีกประเภทหนึ่ง คือ คนโง่ดีๆ นี่เอง ขี้กลัว ไร้สติไร้การให้อภัย
    ส่วนคนดีนั้น คือ คนอยู่เหนืออารมณ์ที่โกรธเกลียด คืออยู่เหนือความคิดนั่นเอง

    “ชีวิตคู่เป็นสนามฝึกที่เราสามารถรู้ผลสะท้อนกลับทันทีว่า เราเข้าใจอย่างถ่องแท้
    แค่ไหนต่อ หลักการแห่งสันติ อิสรภาพ ความรัก และการยอมวางอัตตา........”

    “ชีวิตคู่สามารถช่วยเราปลดพันธนาการจากกรรม โดยเอื้อให้เราเห็นชัดว่า
    ตัวเองติดอยู่ในปัญหาอะไร ติดข้องอย่างไรบ้าง
    เมื่ออยู่คนเดียวเรามักจะไม่ค่อยตระหนักรู้ถึงนิสัยของตัวเอง
    เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ภายใต้นิสัยเหล่านั้น....”

    “ความรู้สึกโรแมนติกนั้นขึ้นๆ ลง ๆ อยู่ตลอดเวลา
    ส่วนความต้องการทางอารมณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย
    เมื่อสมใจอยากแล้วก็ไม่น่าสนใจอีก
    ทั้งยังเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะสนองความต้องการของเราได้ทั้งหมด
    ม่ว่าเขาจะเข้ากับเราได้ดีเพียงใดก็ตาม.......”

    เขมานันทะ

    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับบทความดี ๆ
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    ขอบคุณคุณhut2211 ค่ะ
    สิ่งทั้งปวงเกิดจากตัวเรา ไม่มีตัวเราสิ่งทั้งปวงไม่มี
    จะสุข จะทุกข์ ก็เกิดจากตัวเราทั้งปวงทั้งสิ้น
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  3. #3
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    ขอบคุณจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

  4. #4
    apinya40's Avatar
    apinya40 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    5

    Talking

    ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •