จบ ๆ จบเลยแบบนี้ ถ้าจูนเจอลูกค้าแบบนี้ จบตั้งแต่ครั้งแรกที่โอนเงินมาให้ไม่ครบแล้วล่ะค่ะ
แล้วยิ่งเขาเอาไปขายต่ออีก แต่ถ้าเอาไปใช้เองก็ไม่เป็นไร นี่เอาไปขายต่อ......... :twisted:
ต้องแตกหัก กันไปเลย อย่าไปยอมคนที่เอาเปรียบเรา
แต่โชคดีที่จูนเจอลูกค้าที่ดีทุกคนเลย อธิบายให้ฟังลูกค้าทุกคนก็เข้าใจ
เรื่องการนำสินค้าเข้าประเทศ ถ้าได้รับข่าวว่าจะมาวันไหน กินแทบไม่ได้ นอนแทบไม่หลับ ต้องนั่งภวนาจิตเลยค่ะ ศุลกากรจะสุ่มตรวจเจอกล่องของฉันไหมน้อ ตั้งนะโม สวดทุกอย่าง เช็ค สถานะสิ่งของทุกชั่วโมง ว่ามันรอดมาจากหลักสี่ไหม
ถ้ามันไม่รอด มันต้องไป แหลมฉบังต่ออีก ทีนี้เรื่องยาวภาษีใหญ่โต เคยโดนภาษีบวก shipping 7000 บาท ค่ะ เพราะมูลค่าของเกิน 30000 บาท อันนี้ราคารวมค่าส่ง ems นะคะ
ถ้าเกินราคา 30000 นี้โดนกักที่แหลมฉบัง ต้องจ่าภาษีให้ศุลกากร แล้วต้องใช้บริการของ shipping มาทำให้ แบบถ้าเราทำเองก็คงหลายวันกว่าจะเอาของออกได้ นี่เหมือนเขาทำงานกันเป็นทีม พอเจอเคสเรา คุณศุล ก็ โทรหา shipping มาบริการเราทันที วันรุ่งขึ้นมารับของพร้อมจ่าย อีก 7000 บาท แถมของที่เราส่งมาจากญี่ปุ่นเนี่ย มาทางไปรษณีย์ EMS มานะคะ กลายเป็นว่า ต้องมาจ่าย อีก เซงงงงงงงงง (ศุลกากร ปลอดเงินใต้โต๊ะ) ไปอ่านเจอมา
แต่รับ แบบที่เล่ามาน่ะค่ะ ศุลกากรทำงานเป็นทีม ส่วนแบ่งเท่าไหร่มิทราบได้
อิอิ มาตอนนี้นะ
ตอนนี้ ก็คำนวนของ คำนวนราคา คำนวนน้ำหนัก ต่อครั้งที่จะส่งมาด้วยอ่ะค่ะ ว่ามันจะรอด ไหม
มันเหนื่อยมาก ๆ ๆ แต่ก็สนุกนะคะ ถ้าไม่เอาของมาขายก็ไม่มีเงินส่วนเกินจากที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันมาสอยกระเป๋าค่ะ :lol:
คุณพี่เจ้าของกระทู้ ก็อย่าซีเรีสสสสสสสสไปเลย นะคะ มันจะทำให้งานอื่น ๆ ๆของเราโดนผลกระทบไปด้วย คิดว่า ปล่อยมันไปไอ้ลูกค้ารายนี้ ชื่อนามสกุลนั้นจำไว้เลย อย่าไปยุ่งอีก
แค่นี้เราก็ไม่ทุกข์แล้ว เพราะคุณพี่ก็มีลูกค้าที่น่ารัก ๆ อีกตั้งหลายคนใช่ไหมค๊ะ
เนื้อร้ายชิ้นเดียวตัดทิ้งไปเลย เห็นด้วยไหมค๊ะคุณหมอไบรท์ :roll:
อย่าปล่อยให้มากัดกินสมองเราอยู่ต่อไป
เป็นกำลังใจนะคะ สู้ๆ ๆ สู้ตาย![]()