พอใกล้จะเบญจเพสในเดือนพฤษภาที่ผ่านมา คุณแม่ก็แซะบุ๋มออกจากเตียงตั้งแต่ตีห้าของซักวันในเดือนเมษา แล้วก็บอกว่า “ป่ะ ไปสะเดาะเคราะห์ค่ะลูก” ก็งัวเงียๆ ไปวัดอะไรก็ไม่รู้ จำทางไม่ได้ ไปไหว้ราหู ไปไหว้เทพเจ็ดองค์ แล้วก็กินน้ำมนต์ เอาน้ำมนต์ทั้งถังราดตัว แต่ราดทีละขันเล็กๆ หนาวมาก………..
แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เอาชุดเก่าทิ้งเลย ไม่ต้องหันมามอง
หลังจากทำบุญครั้งนั้นก็มีเรื่องราวหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายในปีนี้ ซึ่งปีที่ผ่านมาชีวิตไม่ได้โลดโผนขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีดังนี้ค่ะ
1. ประตูรถหนีบนิ้วก้อยจนต้องดามเฝือก-เช้าวันนั้นแฟนขับรถไปส่งที่ทำงาน ก็ลงจากรถ เปิดประตูหลังจะหยิบกระเป๋า แต่อีท่าไหนไม่รู้เอานิ้วก้อยไปนาบไว้กับประตู พร้อมกับปิดประตูรถเอง! ดังปัง! แฟนไม่รู้เรื่อง จะขับรถออกไป บุ๋มก็เคาะกระจก บอกว่าเปิดประตูให้หน่อย แฟนทำหน้างง ไม่ได้ยิน บุ๋มก็เอื้อมมือไปเปิดประตูด้านคนนั่งด้านหน้า ตะโกนเข้าไปว่า นิ้วหนูติด เปิดประตูให้หน่อย เพราะว่าล็อกประตูหลังมันไม่ยอมเปิดเพราะมันคิดว่ามีอะไรคาอยู่ ก็เลยเปิดไม่ออก แฟนบุ๋มก็เลยเอี้ยวตัวมาเปิดให้จากที่นั่งคนขับ แล้วคิดดูสิคะ ทั้งหมดนี่ใช้เวลากี่วินาทีที่นิ้วก้อยโดนหนีบอยู่ บุ๋มไม่อยากนึกเลยว่าถ้าแฟนออกรถไปโดยที่นิ้วบุ๋มยังคาอยู่จะเกิดอะไรขึ้น
ผลก็คือ นิ้วก้อยพับลงมาเล้ยยย แต่โชคดีที่มันเป็นนิ้วที่กระดูกเล็กๆ ถ้าเป็นนิ้วโป้งคงหักไปแล้ว ก็ไปบีเอ็นเอช เล่าให้หมอฟัง หมอทำหน้าสยอง ฮ่าๆๆๆๆ แล้วก็ได้เฝือกมา พร้อมกับยา
2. เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากอีเจ้านายห่วยๆมันห้ามบุ๋มออกไปฉี่เวลาเข้าประชุม แล้วเป็นครั้งนี่นี่แทบตาย เจ็บมากๆ คือปกติค่อนข้างเป็นบ่อย ไปบีเอ็นเอชอีกแล้ว หมอก็ใจดีมากๆ แล้วก็ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างแรงมา ไปทำงานไม่ได้ แต่ก็ต้องส่งงานตามที่กำหนด ส่งอีเมลล์ไป ก็คือเอาโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานหน้าห้องน้ำ จะได้เข้าไปฉี่ง่ายๆ เป็นอยู่สองอาทิตย์กว่าจะหายขาด ทรมานที่สุด
3. ตกงาน อันนี้เล่าไปแล้ว
4. เมื่อวาน ล่าสุด ตอนค่ำ กลับรถจากสาธรเหนือ(ใช่ป่ะคะ) จะไปอีกเลนตรงข้าม หน้าโรงพยาบาลบางรัก แต่บุ๋มเอ๋อมาก มองไม่เห็นว่ามีฟุตบาท รถทั้งคันก็ปีนฟุตบาท เลี้ยวเสยขึ้นไปบนฟุตบาททั้งสี่ล้อ แล้วหล่นลงมาดังตึง! เสียงดังมากจริงๆ เพราะรถหล่นลงมาทั้งคัน มอเตอร์ไซค์ตรงนั้นหันมามองหมด บุ๋มก็ยังคงทำหน้าเฉยๆ แต่ในใจนี่ตกใจมาก รู้สึกสำนึกความดีของรถฟิล์มมืดขนาด 80 ก็วันนี้ (แต่ก็เพราะไอ้ฟิล์มมืดขนาดนี้แหละ ทำให้บุ๋มมองฟุตบาทไม่ชัด)
ก็ไม่กล้าบอกแฟน ไปบอกตอนดึกแล้ว เพราะรู้ว่าวันนี้เค้าต้องขับรถทางไกล ทีแรกเค้าก็ไม่ว่าอะไร ไม่เป็นไร ตอนเช้าเค้าลงไปจะออกไปทำงาน เห็นปุ๊บ โทรขึ้นมาหาบุ๋มให้ลงมาดูรถเดี๋ยวนี้เลย สรุปคือยางฉีกอ่ะค่ะ ลึกเข้าไปสามเซนต์ได้ตรงแก้มยางอ่ะค่ะ แล้วแมกซ์ก็เป็นผงเลยตรงนั้น คือกระจุยเลย แฟนบุ๋มต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงาน
แต่เค้าไม่ว่าบุ๋มเลยซักคำ บุ๋มเลยยิ่งรู้สึกผิด แค่บอกให้บุ๋มเอารถไปเข้าอู่ ขับไปที่อู่ ก็อธิบายช่าง ช่างเอารถไปเช็คอย่างละเอียด สรุปว่าปีกนกตรงล้อสองข้างด้านหน้ามันเบี้ยวเลย รถเสียศูนย์ แล้วก็แม็กซ์เบี้ยว แก้มยางหลังฉีก
แฟนบุ๋มก็เลยบอกว่า ถ้าเมื่อคืนหนูไม่บอกพี่ วันนี้พี่คงไม่ได้กลับบ้าน แล้วหนูก็ไปจุดธูปบอกพี่เองแล้วกันนะคะ เค้าพูดแค่นี้บุ๋มก็ใจหล่นไปตาตุ่มเลยอ่ะค่ะ เพราะยางเป็นอย่างนั้นถ้าขับทางไกลคือระเบิดแน่ แล้วล้อหลังด้วยแต่เค้าไม่ได้พูดแบบดุ คือพูดไปก็ยังจูงมือเราไป บุ๋มก็เลยทำมือแบบหมาไปตะกุยๆตรงหน้าอกเค้าแล้วบอกว่าหมาขอโทษ T T
แต่เรื่องดีๆก็มีนะคะ คือได้งานใหม่ จะแต่งงานเดือนกุมภา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่บุ๋มรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็มาจากความประมาทของตัวเอง เรื่องรถเนี่ย แม่บอกว่าเงินไม่ใช่ปัญหา แต่แม่เป็นห่วงหนูมาก หนูเจ็บมั้ยเป็นอะไรรึเปล่า เพราะเวลาแม่นั่งรถบุ๋มแม่จะบอกว่าอย่าขับเร็ว
แล้วของพี่ๆเพื่อนๆน้องๆท่านอื่นเป็นไงบ้างคะเบญจเพส แต่จริงๆแล้ว เรื่องแย่ๆมันอาจจะเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้มันอาจจะแย่หน่อยก็ได้ แย่เกินปกติ เราเลยจำ แล้วมาโยงว่าเป็นเพราะเบญจเพส ยังไงก็อยากให้ทุกคนไม่ประมาทนะคะ บุ๋มเองเจอเรื่องพวกนั้นมาก็ระวังมากขึ้นเวลาปิดประตูรถ แล้วก็พยายามไม่อั้นฉี่ แล้วก็จะขับรถให้ระวังมากขึ้น