Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 4 1 2 3 ... LastLast
Results 1 to 10 of 36

Thread: *+*+* ปัญหาชีวิตคิดไม่ตก..ควรเปลี่ยนงานดีไหมคะ คิดหนักมาก..นอนไม่หลับเลยค่ะ *+*+*

  1. #1
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    Warning Points:
    0/5

    *+*+* ปัญหาชีวิตคิดไม่ตก..ควรเปลี่ยนงานดีไหมคะ คิดหนักมาก..นอนไม่หลับเลยค่ะ *+*+*

    ขอเล่า Background ของตัวเองก่อนนะคะอาจจะละเอียดไปซักหน่อย เพื่อการวิเคราะห์ค่ะ

    (( หวานเล่าความจริงทุกอย่าง อย่าหมั่นไส้นะคะ หวานอยากได้คำแนะนำอย่างจริงใจและจริงจังค่ะ ))

    อาจจะยาวหน่อย... รบกวนเพื่อนๆที่ใจดี อ่านทุกตัวอักษรนะคะ

  2. #2
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    Warning Points:
    0/5
    หวานเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว ที่มีอันจะกินมากพอสมควร ( แต่ไม่ใช่ธุรกิจส่วนตัวนะคะ )

    (( เพื่อนๆหลายคนใน SBN เคยมาซื้อกระเป๋าจากหวานที่บ้าน จะรู้ดีค่ะ ว่าคุณพ่อเป็นใคร ทำงานอะไร ))

    คุณพ่อคุณแม่ดูแล suppport ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ ที่บ้าน

    ค่าโทรศัพท์ รถ น้ำมันรถ คนขับรถและแม่บ้านส่วนตัว รวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน

    เงินเดือนของหวานก็ใช้ไปกับการช้อปปิ้งอย่างเดียว (แต่หวานก็มีเงินเก็บทุกเดือนค่ะ)

    แต่เงิน ช้อปปิ้งเนี่ย หวานไม่เคยขอ ไม่เคยเบิกนะคะ จะซื้อของแพงๆ ก็เงินเก็บตัวเองล้วนๆ

    เรียกได้เลยว่า ที่บ้านเลี้ยงลูกแบบ protect มาก แบบคุณหนูเลย

    ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ตั้งแต่เกิดไม่เคยขึ้นรถเมล์ หรือรถ taxi เพราะมีคนขับรถตลอด

    แล้ว lifestyle ของหวานและเพื่อนๆ ก็สบายๆ แต่เป็นเด็กดี ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม รักสวย รักงามไปวันๆ ^^

    คือเสาร์ ช้อปปิ้ง CTW อาทิตย์ก็เข้าร้านทำเล็บ คือใช้ชีวิตสบาย สนุกสนาน




    ตอนนี้หวานอายุ 29ปีค่ะ ทำงานที่บริษัทมหาชนที่ใหญ่ติดอันดับ TOP ของประเทศไทย

    ขอเล่าไปถึงประวัติการศึกษาก่อนนะคะ

    หวานจบปริญญาตรี (มหาวิทยาลัยของรัฐ) ตอนอายุ 21 ปี

    จากนั้น ก็ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส รวดเดียวมา 6 ปีค่ะ

    ในระหว่างที่เป็นแอร์หวานก็เรียน ป.โท ไปด้วยค่ะ (มหาวิทยาลัยของรัฐ)

    พอจบป.โท ก็เลยลองสมัครงานดู เพราะคิดว่าถ้าเป็นแอร์ต่อไปเรื่อยๆ วันนึงก็ต้องลงมาทำงานออฟฟิศอยู่ดี

    ไหนๆ ก็จะต้องเริ่มนับหนึ่งแล้ว ก็ขอนับหนึ่งเลยตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า

    และหวานก็เลยมาทำงานที่นี่ค่ะ บริษัทมหาชน อันดับ TOP ของเมืองไทย

    ((วัดจากผลประกอบการ และสถิติที่มีคนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด))

    จนถึงวันนี้ หวานก็ทำงานที่นี่มา 1 ปีครึ่งแล้วค่ะ



    งานที่นี่ หวานไม่ค่อยมีความสุขกับการทำงานเลยค่ะ

    อาจจะเป็นลักษณะงานที่เราไม่ชอบ

    แต่ข้อดี คือ เงินเดือนดี สวัสดิการดี ใกล้บ้าน และเป็นบริษัทที่มีความมั่งคงสูง

    แต่ !!! หวานอึดอัดมากค่ะ เหมือนกับการ "อยู่ผิดที่"

    แผนกของหวาน งานคล้ายเป็นงานล๊อบบี้ยีสต์อ่ะค่ะ แบบต้องออกแนวหน้าด้านๆหน่อย ซึ่งมันไม่ใช่เรา

    ซึ่งคนในแผนกส่วนมากจะเป็นผู้ชาย.. แล้วมีผู้หญิงอยู่แค่ 2 คนเอง (คือชอบรับผู้หญิงสวยๆไว้เป็นหน้าเป็นตา)

    พอหวานเข้ามา ก็จะโดนเพ่งเล็ง คล้ายโดนอิจฉา (ไม่ได้คิดไปเองนะคะ) <---- คนที่ชอบจิกกัด และอิจฉาเราก็เป็นผุ้ชายด้วยล่ะ แปลกเนอะ

    เพราะเข้ามาหวานเข้าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่า คนเก่าๆ (ที่อายุมากกว่าหวาน)

    และด้วยความเป็นผู้หญิง ก็ทำให้มีข้อจำกัด คือ การกลับดึกไม่ได้ พาลูกค้าไปกินเหล้า พาไปนวดไม่ได้ (เวลาล๊อบบี้ลูกค้า) อะไรแบบนี้

    ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็มาเหน็บแนมว่า พวกผู้หญิง สบายจังนะ อะไรแบบนี้

    มันอึดอัด ทนไม่ไหว เบื่อ และรุ้สึกตัวเองไม่มีค่า ตรงนี้อ่ะค่ะ T___T

    " ความรู้สึก ที่โดนมองว่า ไม่มีค่า มันเจ็บมากอ่ะค่ะ "



    ปัญหา อยู่ที่ว่า ... หวานได้งานใหม่ค่ะ เป็นองค์กรกึ่งภาครัฐ

    เป็นลักษณะงานที่ชอบ แต่..เงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 8 พันบาท T__T

    คือเงินมันน้อยจริงๆเลย แต่ก่อนหวานเป็นแอร์เงินเดือนค่อนข้างสูงมากเลย

    พอมาทำที่บริษัทปัจจุบัน เงินเดือนก็โอเค พอรับได้ แต่ก็น้อยกว่าตอนเป็นแอร์

    แต่นี่จะต้องมาทำงานเงินเดือน 8 พัน นี่ก็เครียดมากๆอ่ะค่ะ

    ไหนจะต้องไปแข่งกับเค้าอีก ว่าจะได้งานในส่วนที่ชอบรึเปล่า

    (( คือหวานอยากเป็นผู้ประกาศฯ น่ะค่ะ ก็คือต้องเข้าไปทำงานก่อน แล้วก็อบรม แล้วไปสอบ แล้วถึงจะได้เป็น

    ซึ่งเราเข้าไปทำงานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้เป็นรึเปล่า บางคนตัวเล็ก ออกทีวีแล้วหน้าบาน ก็อดอ่ะค่ะ))






    หวานจะทำยังไงดี อยากให้เพื่อนๆ หรือพี่ๆ ช่วยแนะนำหวานหน่อยค่ะ

    ปรึกษาคุณพ่อ พ่อก็บอกว่าให้คิดเอง โตแล้ว

    ตอนนี้หวานสับสนมากค่ะ.. อยู่ที่เดิมก็อึดอัด อยู่ที่ใหม่ ก็กลัวเงินไม่พอกิน

    นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว T___T เครียดมากค่ะ

    จริงๆแล้ว คุณพ่อหวานมี power มาก สามารถฝากงานให้ได้

    แต่คุณพ่อไม่ทำ กับลูกสาวตัวเองค่ะ

    คุณพ่ออยากให้หวานแข็งแกร่งมากขึ้น

    และคุณพ่อเป็นคนหน้าบางค่ะ ไม่ชอบระบบเส้นสาย และระบบอุปถัมภ์

    แต่หวานก็คิดอ่ะ...ถ้าไม่มีเส้น ก็ยากนะคะ งานสมัยเนี้ย




    point ของหวานคือ..อยากทำงานทีดี มีความมั่นคง

    เงินเดือนไม่ต้องสูงมาก แต่ก็ใช้จ่ายได้ ช้อปปิ้งได้

    และก็เป็นงานที่มีความสุขอ่ะค่ะ

    เดี๋ยวคุณพ่อ คุณแม่ก็แก่แล้ว อาจจะไม่มี power เหมือนปัจจุบันนี้แล้ว

    หวานเลยอยากได้งานที่ทำได้ยาวๆ และมีความมั่งคงสูงอ่ะค่ะ

  3. #3
    nonglilly's Avatar
    nonglilly is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    123
    Warning Points:
    0/5
    อืมมมมม
    เงินเดือน8000บาท
    โดยไม่ต้องมีภาระอะไร
    ก็อยู่อยากแล้วอะ
    คุณหวานลองคิดดูนะว่า
    คุณหวานซื้อเสื้อตัวละกี่บาท
    อาทิตย์นึงshoppingเท่าไร
    แล้วคุณจะมีความสุขมั้ย
    ส่วนงานเนี่ยต้องขอถามก่อนเลยว่า
    เงินเดือนแค่นี้นานขนาดไหน6เดือน 1ปี
    แล้วปรับเรทยังไง
    อันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะ
    เผื่อเป็นองค์กรเดียวกัน
    เมื่อ7ปีที่แล้ว เพื่อนเราสมัครเข้ารัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
    เป็นพนักงานฝึกหัด1ปีเงินเดือน8000บาท
    หมดปีแรกขึ้นมาเป็น16000บาทหลังจากนั้น3-4เดือน
    ปรับอีกเป็น3x,xxxบาท
    แล้วปรับขึ้นเรื่อยเรื่อย จนตอนนี้เกือบแสนแล้ว
    ถ้าเป็นเคสเหมือนเพื่อนเราก็โอมากมากนะ
    เพราะได้ทำงานที่ชอบแต่ต้องทนไป1ปีซึ่งคงไม่เป็นไร
    ที่บ้านคงช่วยได้
    แต่ให้ที่บ้านช่วยตลอดคงไม่ได้เพราะคุณหวานคงอยากเห็น
    คุณค่าในความสามารถของตนเองเหมือนกัน

  4. #4
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    Warning Points:
    0/5
    Quote Originally Posted by nonglilly View Post
    อืมมมมม
    เงินเดือน8000บาท
    โดยไม่ต้องมีภาระอะไร
    ก็อยู่อยากแล้วอะ
    คุณหวานลองคิดดูนะว่า
    คุณหวานซื้อเสื้อตัวละกี่บาท
    อาทิตย์นึงshoppingเท่าไร
    แล้วคุณจะมีความสุขมั้ย
    ส่วนงานเนี่ยต้องขอถามก่อนเลยว่า
    เงินเดือนแค่นี้นานขนาดไหน6เดือน 1ปี
    แล้วปรับเรทยังไง
    อันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะ
    เผื่อเป็นองค์กรเดียวกัน
    เมื่อ7ปีที่แล้ว เพื่อนเราสมัครเข้ารัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
    เป็นพนักงานฝึกหัด1ปีเงินเดือน8000บาท
    หมดปีแรกขึ้นมาเป็น16000บาทหลังจากนั้น3-4เดือน
    ปรับอีกเป็น3x,xxxบาท
    แล้วปรับขึ้นเรื่อยเรื่อย จนตอนนี้เกือบแสนแล้ว
    ถ้าเป็นเคสเหมือนเพื่อนเราก็โอมากมากนะ
    เพราะได้ทำงานที่ชอบแต่ต้องทนไป1ปีซึ่งคงไม่เป็นไร
    ที่บ้านคงช่วยได้
    แต่ให้ที่บ้านช่วยตลอดคงไม่ได้เพราะคุณหวานคงอยากเห็น
    คุณค่าในความสามารถของตนเองเหมือนกัน
    หวานก็คิดเหมือนกันค่ะ ถึงเรื่องการใช้เงินของตัวเอง

    เคยซื้อเสื้อผ้าตัวเป็นหมื่น กระเป๋าใบเป็นแสน

    จะมาให้ทำงานเงินเดือน 8 พัน หวานจะอยู่ได้ไง T___T ฮือๆๆ เครียด

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    23
    Warning Points:
    0/5
    คุณ้หวานเขียนจบอ๊ะยัง ถ้ายังไม่จบบุ๋มรออ่านต่อ

    แต่ตอนนี้ขอออกความเห็นเบื้องต้นก่อน

    คำว่า"งานที่ชอบ" ที่คุณหวานบอกว่าได้งานใหม่ที่ชอบเนี่ย คุณหวานชอบมากแค่ไหนคะ ชอบแบบชีวิตนี้ถ้าไม่ได้ทำแย่แน่นอน หรือว่าแค่ "ชอบกว่า" นิดหน่อย

    เพราะบุ๋มขออนุญาตเรียนตรงๆว่า เงินเดือนแปดพันมันน้อยมากๆ บุ๋มไม่ได้ดูถูกค่าของเงิน เพียงแต่ว่า ส่วนตัวแล้วบุ๋มเป็นคนที่ทำงานที่ชอบแต่จะขอเงินเดือนเยอะ เพราะเรารู้ว่า qualification เราแค่ไหน ความสามารถเรามีเท่าไหร่ และงานที่ชอบไม่ได้แปลว่ามีงานเดียว บริษัทนี้บริษัทเดียว หรือเงินเดือนแค่ระดับเดียวสำหรับงานที่ชอบ

    บุ๋มต้องทำงานข้างนอก เพราะว่าที่บ้านไม่มีกิจการส่วนตัว เพราะฉะนั้นคุณแม่จะสอนว่าให้ทำงานที่มั่นคง คำว่ามั่นคง นอกจากบริษัทมั่นคงแล้ว ต้องเป็นงานที่ support ชีวิตประจำวันเราได้ ไม่ขัดสน มีเงินเหลือเก็บ แม้ว่าที่บ้านจะพร้อมยื่นมือช่วยเหลือตลอดเวลา แต่เราก็ต้องพึ่งตัวเองก่อนอันดับแรก

    บุ๋มกับพี่ชายก็ถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูค่ะ คุณแม่รับส่งตั้งแต่เข้าอนุบาลจนเรียนจบทั้งสองคน ทุกวันนี้ทำงานก็คือคู่หมั้นรับส่ง ไม่มีการกลับเอง ถ้ากลับเองคือขับรถกลับเองเท่านั้น in case ว่าไม่มีใครมารับ แม้แต่ขึ้นแท็กซี่ คุณแม่จะโทรถามตลอดทาง ไม่มีการนั่งแท็กซี่ไกลๆคนเดียวเด็ดขาด พี่ชายบุ๋มเองเกิดมาไม่เคยขึ้นรถเมล์ เพราะเค้าถูกเลี้ยงมาแบบนั้น ตัวบุ๋มนั้นเคยขึ้นเพราะว่าเพื่อนมหาลัยชอบขึ้น ขึ้นตุ๊กๆเฮฮา ก็เลยขึ้นกับเค้าเพราะว่ามันสนุกดี แต่ชีวิตประจำวันไม่เคยขึ้นเลย

    ที่บ้านจะ protect แต่ก็สอนให้เรายืนด้วยตัวเอง ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ชีวิตของเรา เราทราบ lifestyle ของเรา ว่าเราใช้ชีวิตยังไง เพราะฉะนั้นเราทราบว่าเราใช้เงินแค่ไหนถึงจะพอ และเมื่อใช้ไม่พอ อาจจะมีที่บ้านช่วย แต่อย่างไรเราก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี เพราะว่าขออนุญาตเรียนตรงๆว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปได้ตลอดอ่ะเนอะ

    แต่อย่างไรก็ตาม บุ๋มชื่นชมคนที่ได้เงินเดือนไม่สูงมาก แต่สามารถ struggle ด้วยการใช้ชีวิตพอเพียงในเมืองกรุงได้ และก็มีเงินส่งให้ที่บ้าน ซึ่งน่าประทับใจมากๆ

    อย่างที่บุ๋มเรียนคือคุณหวานจะต้องทราบ lifestyle ตัวเองโดย common sense อยู่แล้วล่ะว่าเงินเดือนเท่านั้นเราพอมั้ย เราพอใจรึเปล่า มันจะเป็นยังไง เพราะโดยส่วนตัว บุ๋มคิดว่าทางเลือกในการทำงานที่เราชอบมันมี ถ้าทำงานที่ชอบ แต่เงินไม่พอใช้ ต้องขอคุณพ่อคุณแม่ เราจะภูมิใจได้อย่างไร เราจะมีความสุขเต็มร้อยได้อย่างไร ที่ว่าสุขเพราะได้ทำงานที่ชอบมันจะมาโดนบั่นทอนเพราะรายได้ที่ไม่ fit the reality รึเปล่า เทียบกับการได้ทำงานที่เราทำอยู่ แต่รายได้โอเค ไม่เดือดร้อน

    บางทีคนเราชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะมันใหม่ มันตื่นเต้น มันน่าไป มันยังไม่เคยเห็นไม่เคยลอง แต่เราไม่รู้ว่ามันจะสวยงามอย่างที่เราคิดมั้ย อย่างบุ๋มอ่ะค่ะ ที่ทำงานเดิมดีอยู่แล้ว บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เปลี่ยนงานใหม่ไปที่ทำงานอีกที่เราคิดว่าดี เท่ห์กว่า แต่พอมาทำจริงๆเจอนายห่วยมาก ที่เคยเขียนในกระทู้นู้น ก็ยังรู้สึกว่าเราไม่น่าเลย อยู่ที่เก่าดีอยู่แล้ว ออกมาทำไมเนี่ย แต่นี่ดีว่าบุ๋มไม่ได้หางานลำบากมาก บุ๋มเพิ่งได้งานใหม่เมื่อวานหลังจากลาออกจากที่ห่วยๆเดือนนึง บุ๋มเลยไม่ทรมานอยู่นาน

    อย่างไรก็ตาม คนอื่นได้แต่ชี้แนะให้ความเห็นนะคะ แต่คุณหวานคือผู้ตัดสินใจ เพราะฉะนั้นคุณหวานรู้อยู่แล้วแหละบุ๋มว่า แต่อยากได้ความเห็นมา support และช่วยบรรเทาความกังวลใจแค่นั้นเอง เนอะ....ยังไงสู้ๆนะคะ ปัญหามีไว้ให้แก้ค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]
    My Lovely Singh

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    23
    Warning Points:
    0/5
    หืมมม พิมพ์เสร็จแล้วเห็นคุณหวานมาเพิ่มอ่ะ ว่าเป็นงานผู้ประกาศ

    คุณหวานขา ในฐานะที่บุ๋มเคยอยู่วงการแบบนี้มาก่อนนะ personally เลยนะคะ มันเสือสิงห์กระทิงแรดมากๆ เพื่อนสนิทบุ๋มที่เคยฝึกงานกระทรวงการต่างประเทศด้วยกันก็เคยเป็นแล้วเพิ่งลาออกมาค่ะ เพื่อนบุ๋มก็บุคลิก lifestyle เหมือนคุณหวานอ่ะค่ะ เพื่อนบุ๋มก็อยู่ไม่ได้


    ตอนแรกบุ๋มเคยอยากทำมากๆๆๆ ทำทุกอย่าง กระเสือกกระสนเองให้ได้ทำ พอทำไปแล้ว หกเดือนออกค่ะ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา แต่ถ้าคุณหวานตั้งใจ อยากทำมากจริงๆ ลองดูก่อนก็ได้ค่ะ ไม่เสีหาย บุ๋มกับเพื่อนอาจจะเจอด้านแย่ๆมาก็ได้ แล้วแต่ดวงแล้วแต่จังหวะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]
    My Lovely Singh

  7. #7
    titled's Avatar
    titled is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    54
    Warning Points:
    0/5
    เติ้ลขอแนะนำอย่างนะครับ สำหรับเติ้ล เติ้ลเคยทำงานมาหลายอย่างมากๆ
    สุดท้ายเติ้ลเลือกงานที่สบายใจ เพราะเงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิตครับ
    ^^Love city glow *deLaCour

  8. #8
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    Warning Points:
    0/5
    Quote Originally Posted by Belinda View Post
    คุณ้หวานเขียนจบอ๊ะยัง ถ้ายังไม่จบบุ๋มรออ่านต่อ

    แต่ตอนนี้ขอออกความเห็นเบื้องต้นก่อน

    คำว่า"งานที่ชอบ" ที่คุณหวานบอกว่าได้งานใหม่ที่ชอบเนี่ย คุณหวานชอบมากแค่ไหนคะ ชอบแบบชีวิตนี้ถ้าไม่ได้ทำแย่แน่นอน หรือว่าแค่ "ชอบกว่า" นิดหน่อย

    เพราะบุ๋มขออนุญาตเรียนตรงๆว่า เงินเดือนแปดพันมันน้อยมากๆ บุ๋มไม่ได้ดูถูกค่าของเงิน เพียงแต่ว่า ส่วนตัวแล้วบุ๋มเป็นคนที่ทำงานที่ชอบแต่จะขอเงินเดือนเยอะ เพราะเรารู้ว่า qualification เราแค่ไหน ความสามารถเรามีเท่าไหร่ และงานที่ชอบไม่ได้แปลว่ามีงานเดียว บริษัทนี้บริษัทเดียว หรือเงินเดือนแค่ระดับเดียวสำหรับงานที่ชอบ

    บุ๋มต้องทำงานข้างนอก เพราะว่าที่บ้านไม่มีกิจการส่วนตัว เพราะฉะนั้นคุณแม่จะสอนว่าให้ทำงานที่มั่นคง คำว่ามั่นคง นอกจากบริษัทมั่นคงแล้ว ต้องเป็นงานที่ support ชีวิตประจำวันเราได้ ไม่ขัดสน มีเงินเหลือเก็บ แม้ว่าที่บ้านจะพร้อมยื่นมือช่วยเหลือตลอดเวลา แต่เราก็ต้องพึ่งตัวเองก่อนอันดับแรก

    บุ๋มกับพี่ชายก็ถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูค่ะ คุณแม่รับส่งตั้งแต่เข้าอนุบาลจนเรียนจบทั้งสองคน ทุกวันนี้ทำงานก็คือคู่หมั้นรับส่ง ไม่มีการกลับเอง ถ้ากลับเองคือขับรถกลับเองเท่านั้น in case ว่าไม่มีใครมารับ แม้แต่ขึ้นแท็กซี่ คุณแม่จะโทรถามตลอดทาง ไม่มีการนั่งแท็กซี่ไกลๆคนเดียวเด็ดขาด พี่ชายบุ๋มเองเกิดมาไม่เคยขึ้นรถเมล์ เพราะเค้าถูกเลี้ยงมาแบบนั้น ตัวบุ๋มนั้นเคยขึ้นเพราะว่าเพื่อนมหาลัยชอบขึ้น ขึ้นตุ๊กๆเฮฮา ก็เลยขึ้นกับเค้าเพราะว่ามันสนุกดี แต่ชีวิตประจำวันไม่เคยขึ้นเลย

    ที่บ้านจะ protect แต่ก็สอนให้เรายืนด้วยตัวเอง ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ชีวิตของเรา เราทราบ lifestyle ของเรา ว่าเราใช้ชีวิตยังไง เพราะฉะนั้นเราทราบว่าเราใช้เงินแค่ไหนถึงจะพอ และเมื่อใช้ไม่พอ อาจจะมีที่บ้านช่วย แต่อย่างไรเราก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี เพราะว่าขออนุญาตเรียนตรงๆว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปได้ตลอดอ่ะเนอะ

    แต่อย่างไรก็ตาม บุ๋มชื่นชมคนที่ได้เงินเดือนไม่สูงมาก แต่สามารถ struggle ด้วยการใช้ชีวิตพอเพียงในเมืองกรุงได้ และก็มีเงินส่งให้ที่บ้าน ซึ่งน่าประทับใจมากๆ

    อย่างที่บุ๋มเรียนคือคุณหวานจะต้องทราบ lifestyle ตัวเองโดย common sense อยู่แล้วล่ะว่าเงินเดือนเท่านั้นเราพอมั้ย เราพอใจรึเปล่า มันจะเป็นยังไง เพราะโดยส่วนตัว บุ๋มคิดว่าทางเลือกในการทำงานที่เราชอบมันมี ถ้าทำงานที่ชอบ แต่เงินไม่พอใช้ ต้องขอคุณพ่อคุณแม่ เราจะภูมิใจได้อย่างไร เราจะมีความสุขเต็มร้อยได้อย่างไร ที่ว่าสุขเพราะได้ทำงานที่ชอบมันจะมาโดนบั่นทอนเพราะรายได้ที่ไม่ fit the reality รึเปล่า เทียบกับการได้ทำงานที่เราทำอยู่ แต่รายได้โอเค ไม่เดือดร้อน

    บางทีคนเราชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะมันใหม่ มันตื่นเต้น มันน่าไป มันยังไม่เคยเห็นไม่เคยลอง แต่เราไม่รู้ว่ามันจะสวยงามอย่างที่เราคิดมั้ย อย่างบุ๋มอ่ะค่ะ ที่ทำงานเดิมดีอยู่แล้ว บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เปลี่ยนงานใหม่ไปที่ทำงานอีกที่เราคิดว่าดี เท่ห์กว่า แต่พอมาทำจริงๆเจอนายห่วยมาก ที่เคยเขียนในกระทู้นู้น ก็ยังรู้สึกว่าเราไม่น่าเลย อยู่ที่เก่าดีอยู่แล้ว ออกมาทำไมเนี่ย แต่นี่ดีว่าบุ๋มไม่ได้หางานลำบากมาก บุ๋มเพิ่งได้งานใหม่เมื่อวานหลังจากลาออกจากที่ห่วยๆเดือนนึง บุ๋มเลยไม่ทรมานอยู่นาน

    อย่างไรก็ตาม คนอื่นได้แต่ชี้แนะให้ความเห็นนะคะ แต่คุณหวานคือผู้ตัดสินใจ เพราะฉะนั้นคุณหวานรู้อยู่แล้วแหละบุ๋มว่า แต่อยากได้ความเห็นมา support และช่วยบรรเทาความกังวลใจแค่นั้นเอง เนอะ....ยังไงสู้ๆนะคะ ปัญหามีไว้ให้แก้ค่ะ

    ขอบคุณคุณบุ๋มมากค่ะ อ่านจากที่คุณบุ๋มเขียนมา

    หวานรับรู้จากคำตอบที่มีความจริงใจของคุณบุ๋มได้เลยค่ะ


    หากพูดถึงเรื่องงานเดิมที่ทำอยู่ หวานอึดอัดมากค่ะ

    เหมือนกับการ "อยู่ผิดที่" แผนกของหวาน งานคล้ายเป็นงานล๊อบบี้ยีสต์อ่ะค่ะ แบบต้องออกแนวหน้าด้านๆหน่อย ซึ่งมันไม่ใช่เรา

    ซึ่งคนในแผนกส่วนมากจะเป็นผู้ชาย.. แล้วมีผู้หญิงอยู่แค่ของ2คนเอง (คือชอบรับผู้หญิงสวยๆไว้เป็นหน้าเป็นตา)

    พอหวานเข้ามา ก็จะโดนเพ่งเล็ง คล้ายโดนอิจฉา (ไม่ได้คิดไปเองนะคะ)

    เพราะเข้ามาหวานเข้าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่า คนเก่าๆ (ที่อายุมากกว่าหวาน)

    และด้วยความเป็นผู้หญิง ก็ทำให้มีข้อจำกัด คือ การกลับดึกไม่ได้ พาลูกค้าไปกินเหล้า พาไปนวดไม่ได้ (เวลาล๊อบบี้ลูกค้า) อะไรแบบนี้

    ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็มาเหน็บแนมว่า พวกผู้หญิง สบายจังนะ อะไรแบบนี้

    มันอึดอัด ทนไม่ไหว เบื่อ และรุ้สึกตัวเองไม่มีค่า ตรงนี้อ่ะค่ะ T___T

  9. #9
    titled's Avatar
    titled is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    54
    Warning Points:
    0/5
    แต่ว่าก็ลองนั่งคิดดีๆ พอมาฟังดีๆก็เข้าใจ เป็นกำลังใจให้นะครับ
    ไม่ไหวเลยเนอะ สวยแล้วสบาย อะไรแบบนี้ไม่แมนเลย

    เติ้ลว่าถ้าครอบครัวพร้อมสนับสนุนน่าจะหาธุรกิจส่วนตัวทำดีกว่านะครับ
    ^^Love city glow *deLaCour

  10. #10
    Drmoonoi's Avatar
    Drmoonoi is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    782
    Warning Points:
    0/5
    ถ้าใจอยากลองทำ เพราะคิดว่าเป็นงานที่ชอบ พี่อยากให้เปลี่ยนงานดูนะคะ เพราะเท่าที่เล่าให้ฟัง ณ.เวลานี้ ทางครอบครัวของคุณหวานยังสามารถช่วย support ทางด้านการเงินเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้อยู่ เท่าที่คะเนดูจากที่เล่ามา พี่ว่าคุณหวาน อายุยังไม่น่าเยอะเท่าไหร่ ยังถือเป็นวัยที่สามารถลองผิดลองถูกกับเรื่องการงาน โดยที่ความเสี่ยงยังไม่สูงมากเท่าไหร่นัก ที่พี่อยากให้คุณหวานลองเปลี่ยนงานดูเมื่อมีโอกาส ก็เพราะไม่อยากให้เมื่อโอกาสนี้ผ่านไป แล้วเราไม่ได้คว้าไว้ ทั้งๆที่มันเป็นงานที่เราน่าจะชอบมากกว่า พี่ไม่อยากให้คุณหวานมารู้สึกทีหลังว่าเสียดายทีหลังหรือมีความรู้สึกว่า รู้อย่างนี้ลองทำดูดีกว่า โอกาสที่ผ่านมา บางครั้งก็ไม่ได้มาได้บ่อยๆ บางครั้งถ้าเราไม่คว้าไว้ มันก็เหมือนกับการปล่อยความฝันของเราให้หลุดลอยไป ไม่ลองไม่รู้ค่ะ

    แต่ไม่ว่าคุณหวานจะเลือกอะไรก็ตามให้กับตัวเอง พี่ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในทางที่เลือกดังกล่าวล่วงหน้าเลยนะคะ ไม่มีงานใดๆ ที่ไม่มีอุปสรรคจ้ะ


    ปล. อย่าว่าแต่คุณหวานเลยค่ะ พี่เอง ตอนนี้ รู้สึกบ่อยมาก กับความรู้สึกที่ว่า งานที่ใจเรารัก กับงานที่เราชอบที่จะทำ บางครั้งก็เป็นคนละอย่างกันค่ะ เป็นกำลังใจให้ได้คำตอบกับตัวเองเร็วๆนะคะ

Page 1 of 4 1 2 3 ... LastLast

Comments from Facebook

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •