Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 2 of 2 FirstFirst 1 2
Results 11 to 20 of 36

Thread: *+*+* ปัญหาชีวิตคิดไม่ตก..ควรเปลี่ยนงานดีไหมคะ คิดหนักมาก..นอนไม่หลับเลยค่ะ *+*+*

Hybrid View

  1. #1
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    131
    Quote Originally Posted by titled View Post
    เติ้ลขอแนะนำอย่างนะครับ สำหรับเติ้ล เติ้ลเคยทำงานมาหลายอย่างมากๆ
    สุดท้ายเติ้ลเลือกงานที่สบายใจ เพราะเงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิตครับ

    คิดแบบเดียวกับคุณเติ้ลค่ะ...

    โดยเฉพาะอย่างคุณหวานด้วยแล้ว...มีครบทุกอย่าง...

    งานทุกที่ต้องมีกดดัน...(พูดในฐานะเจ้านายค่ะ.หุหุ.)...

    อย่าได้ท้อ...ทุกปัญหามีทางออก...ไม่ใช่พอรู้สึกอึดอัด...ก็เปลี่ยนงาน

    นั่นมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา...

    ทำงานดี ทำงานเด่น สวย รวย ย่อมมีคนอิจฉาเป็นธรรมดา...มันเป็นสัจธรรม...

    คุณหวานเป็นคนเผชิญให้คนอื่นมาตัดสินแทนไม่ได้หรอกค่ะว่าควรจะเลือกงานแบบไหน....

    คุณหวานโตมากแล้วค่ะ....คุณพ่อท่านพูดถูกค่ะต้องคิดเอง...

    เชื่อเถอะค่ะปัญหาแค่นี้...คุณหวานต้องผ่านไปได้..อดทนค่ะ...และคุณจะแกร่งขึ้น

    แนะนำได้แค่นี้หละค่ะ...เป็นกำลังใจให้นะคะ
    " ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า คิดให้ดีก็จะรู้ว่า.....คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว "

  2. #2
    Kathy P's Avatar
    Kathy P is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    29

    Wink

    มาเป็นกำลังใจให้คุณ(พี่)หวานนะคะ

    ขออนุญาตแชร์ด้วยค่ะ
    เคทก็เคยเป็นอารมณ์เดียวกับคุณหวานค่ะ แต่ตอนทำงานเคทอายุ23
    เราเป็นเด็ก เพิ่งจบ แค่6เดือนได้เลื่อนไปทำอะไรที่ใหญ่กว่าพี่ๆ30++
    (ผู้ชายด้วยค่ะ ชอบจิกกัด เหมือนคุณหวานเลย ขนาดทาเล็บยังจิกเลย มีอะไรใหม่ๆมาเพิ่มไม่ได้ต้องถามซื้อมาเท่าไหร่ อะไรยังงัย แล้วเคทแอบรู้มาว่าเมาท์ ว่าเราสิ้นเปลืองอายุแค่นี้)
    เพราะตอนนั้นไฟแรง อึดและถึกแค่ไหนไม่ว่า ทำไป2ปี ได้ทำครบทุกอย่างในการตลาดเลยค่ะ
    แต่มันเสียสุขภาพจิต ปรึกษากับคุณพ่อแล้ว และตัดสินใจลาออก (6เดือนแล้วค่ะ)
    คุณพ่อเลยให้มาช่วยกิจการที่บ้าน
    แต่โดยส่วนตัวเคทอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย
    โดยมีนายทุนคือคุณพ่อ(อิอิ เรียกว่าขอยืมดีกว่าค่ะ)
    และเราต้องมาต่อยอดเอง คุณพ่อให้ทำเองทุกอย่างเลยค่ะ
    ตั้งแต่จดทะเบียนพาณิชย์
    ตอนนี้เคทอายุ25และมีอะไรเป็นของตัวเอง
    ถึงยังไม่ใหญ่โต แต่เราได้แสดงให้คุณพ่อและคนรอบข้างเห็นว่า
    เรามีความสามารถพอที่จะมาทำอะไรด้วยตัวเอง คือเราเองรู้ถึงศักยภาพของเรา
    อย่างคุณหวานเคทว่ามีมากพอ ที่จะทำอะไรด้วยตัวเองได้เลยล่ะค่ะ
    เคทก็ได้แต่ให้กำลังใจค่ะ และอยากแนะนำนิดเดียว
    ว่าตอนนี้คุณหวานยังมีที่บ้านคอยSupportอยู่
    น่าจะหาอะไรทำเป็นของตัวเอง ที่เราชอบและสบายใจนะคะ
    เพราะคุณหวานถือว่ามีโอกาส มากกว่าหลายๆคนที่ตกงานอยู่ตอนนี้นะคะ
    ขอให้คุณหวานอย่าคิดมากค่ะ เดี๋ยวทุกอย่างจะผ่านไปได้

    ปล.ขออนุญาตแนะนำนะคะ
    Kathy Precious

  3. #3
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    พี่ๆ ทุกคนพูดมา ถูกต้องมากๆเลยค่ะ

    โดยเฉพาะที่พี่นีน่า บอกว่า ถ้าตัดความช่วยเหลือทางบ้านออกไป

    หวานคงจะย้ายไม่ไหวอ่ะค่ะ

    ขนาดที่เดิมเงินเดือนพออยู่ได้ ก็ยังใช้เก่งซะขนาดนี้

    ...แฟนก็บอกว่า ว่าถ้าหวานย้ายไปอยู่ที่ใหม่เงินเดือน 8 พัน ก็คงไม่ได้ช้อปปิ้ง

    แล้วการช้อปปิ้ง นี่มันก็ถือเป็นความสุขในชีวิตอย่างนึงเลยด้วย

    ถ้าเอาจริงๆ ถ้าไม่มีครบครัว support เงินเดือนปัจจุบัน หวานยังอยู่ไม่ได้เลย

    นับประสาอะไรกับการจะไปเอาเงินเดือน 8 พัน



    ถ้าอยู่ที่บริษัทเดิม ก็อยากย้ายแผนก

    การโอนย้ายมีค่ะ ทำได้... แต่ก็ไม่ใช่ย้ายกันง่ายๆ

    หวานไม่รู้จะเดินไปบอกนายยังไง ว่าเราขอย้าย... T___T เครียดไปซะทุกทาง

    อีกใจก็อยากทำตามฝันกับการเป็นผู้ประกาศด้วย ...

    (( ตอนเด็กๆเคยฝันค่ะ ว่าอยากเป็นแอร์ กะผู้ประกาศ ในเมื่อเคยเป็นแอร์มา 6 ปีแล้ว

    ก็อยากถามฝันอีกฝันนึงด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นได้แค่ฝันรึเปล่า )) T__T

    แต่พูดก็พูดค่ะ ว่าเราอยากอยู่กับความจริง ไม่ใช่ความฝัน

    หวานรู้ตัว ว่าเป็นคนเปราะบางมากค่ะ ไม่ใช่คนแข็งแกร่ง ไม่ชอบเถียง ทำให้ดูเหมือนเป็นคนไม่สู้คน

    อาจเพราะเคยเป็นแอร์มาก่อน.. เวลานายสั่งงาน หวานก็ ..ค่ะๆ ได้ค่ะ..

    นายยังบอกเลย ว่าหวานเรียบร้อยเกินไป..ให้ทำตัวบู๊ๆ กว่านี้หน่อย เพราะงานเรามันบู๊ๆ

    แต่มันทำไม่ได้นี่นา...ก็บุคลิกตัวเราเป็นแบบนี้

    ...พูดไป ก็เหมือนคนแก้ตัวข้างๆคูๆไปเรื่อยๆนะคะ พูดวนไปวนมา

    แต่ตอนนี้หวานสับสนจริงๆอ่ะค่ะ ...

  4. #4
    Join Date
    May 2010
    Posts
    6
    อ่านเรื่องของคุณหวานแล้ว....เหมือนจะอยู่บริษัทเดียวกันรึเปล่าคะเนี่ย วัฒนธรรมองค์กรแบบนี้คับคล้ายคับคลา

    พิมพ์ไม่ค่อยเก่งนะคะ แนะนำก็ไม่เป็น เอาเป็นว่าเล่าสู่กันฟังละกัน

    บริษัทที่ 69 อยู่นี่ก็เหมือนบริษัทคุณหวานแหละค่ะ (อาจจะบริษัทเดียวกันซะด้วย) อยู่มาตั้งแต่เรียนจบเลยค่ะ ทำมา 7 ปีกว่าแล้วและรู้ตลอดว่าเราไม่ชอบงานที่ทำอยู่...แต่สิ่งที่ทำให้เรา(ซึ่งฐานะทางบ้านปานกลางค่ะ คุณพ่อเป็นนายตำรวจจริงแต่ไม่ด้วยอยู่หน่วยที่จะสามารถหาเงินเบี้ยบ้ายรายทางได้) สามารถทนอยู่ได้คือ เราต้องการเงินเดือนสูงเท่านี้ เราต้องการบริษัทที่มั่นคงเท่านี้ เรายังไม่เห็นที่ไหนมีสวัสดิการได้มากเท่านี้และเราเห็นแล้วว่ามีคนอื่นอีกมากมายที่เค้าต้องการเข้าทำงานในบริษัทนี้

    สิ่งที่ทำให้ 69 ทนได้ บอกตามตรงว่าเป็นเพราะตัวเลขในสลิปเงินเดือน มันทำให้เรามีเครดิต ซื้อบ้านได้ ซื้อรถเบนซ์ได้ มีเงินเปิดร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัดได้และมีเงินเก็บ 6 หลักได้ มันอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับคนที่บ้านรวยอยู่แล้ว แต่สำหรับคนต่างจังหวัดอย่างเรา เรารรู้สึกเพอร์เฟคและแฮปปี้มาก ๆ ค่ะ ลึก ๆ ในใจตั้งใจไว้แล้วว่าจะทนงานนี้ให้ได้นานที่สุด เก็บเงินให้ได้มากที่สุดและเมื่อถึงเวลา เราจะไม่ขออยู่ในวัฏจักรชีวิตมนุษย์เงินเดือนอีกแล้ว ดังนั้นสำหรับเรา ยังไงก็ต้องทนค่ะ

    คุณหวานอยู่ในฐานะที่โชคดีกว่า 69 มาก ๆ เพราะสามารถจะเลือกได้ว่า ทน หรือ ไม่ทน

    แต่อยากให้คุณหวานนึกดี ๆ ว่า สิ่งที่คุณไม่ชอบ คือ เนื้องาน หรือว่า คน

    ในความเห็นเรานะคะ ถ้าไม่ชอบเนื้องาน แต่เพื่อนร่วมงานรอบ ๆ ดี อย่างน้อยมันก็แค่เหนื่อยกายค่ะ แต่ถ้าได้ทำงานที่เราชอบแต่ผู้คนรอบข้างไม่ดี แบบนี้จะเหนื่อยใจ อยู่ที่ว่าคุณหวานจะเลือกแบบไหนค่ะ

    การเปลี่ยนงาน บางทีมันไม่ใช่การแก้ปัญหานะคะ มันเป็นการเปลี่ยนที่แก้ปัญหามากกว่า

  5. #5
    SecretAdmier's Avatar
    SecretAdmier is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    93
    Quote Originally Posted by Belinda View Post
    คุณ้หวานเขียนจบอ๊ะยัง ถ้ายังไม่จบบุ๋มรออ่านต่อ

    แต่ตอนนี้ขอออกความเห็นเบื้องต้นก่อน

    คำว่า"งานที่ชอบ" ที่คุณหวานบอกว่าได้งานใหม่ที่ชอบเนี่ย คุณหวานชอบมากแค่ไหนคะ ชอบแบบชีวิตนี้ถ้าไม่ได้ทำแย่แน่นอน หรือว่าแค่ "ชอบกว่า" นิดหน่อย

    เพราะบุ๋มขออนุญาตเรียนตรงๆว่า เงินเดือนแปดพันมันน้อยมากๆ บุ๋มไม่ได้ดูถูกค่าของเงิน เพียงแต่ว่า ส่วนตัวแล้วบุ๋มเป็นคนที่ทำงานที่ชอบแต่จะขอเงินเดือนเยอะ เพราะเรารู้ว่า qualification เราแค่ไหน ความสามารถเรามีเท่าไหร่ และงานที่ชอบไม่ได้แปลว่ามีงานเดียว บริษัทนี้บริษัทเดียว หรือเงินเดือนแค่ระดับเดียวสำหรับงานที่ชอบ

    บุ๋มต้องทำงานข้างนอก เพราะว่าที่บ้านไม่มีกิจการส่วนตัว เพราะฉะนั้นคุณแม่จะสอนว่าให้ทำงานที่มั่นคง คำว่ามั่นคง นอกจากบริษัทมั่นคงแล้ว ต้องเป็นงานที่ support ชีวิตประจำวันเราได้ ไม่ขัดสน มีเงินเหลือเก็บ แม้ว่าที่บ้านจะพร้อมยื่นมือช่วยเหลือตลอดเวลา แต่เราก็ต้องพึ่งตัวเองก่อนอันดับแรก

    บุ๋มกับพี่ชายก็ถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูค่ะ คุณแม่รับส่งตั้งแต่เข้าอนุบาลจนเรียนจบทั้งสองคน ทุกวันนี้ทำงานก็คือคู่หมั้นรับส่ง ไม่มีการกลับเอง ถ้ากลับเองคือขับรถกลับเองเท่านั้น in case ว่าไม่มีใครมารับ แม้แต่ขึ้นแท็กซี่ คุณแม่จะโทรถามตลอดทาง ไม่มีการนั่งแท็กซี่ไกลๆคนเดียวเด็ดขาด พี่ชายบุ๋มเองเกิดมาไม่เคยขึ้นรถเมล์ เพราะเค้าถูกเลี้ยงมาแบบนั้น ตัวบุ๋มนั้นเคยขึ้นเพราะว่าเพื่อนมหาลัยชอบขึ้น ขึ้นตุ๊กๆเฮฮา ก็เลยขึ้นกับเค้าเพราะว่ามันสนุกดี แต่ชีวิตประจำวันไม่เคยขึ้นเลย

    ที่บ้านจะ protect แต่ก็สอนให้เรายืนด้วยตัวเอง ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ชีวิตของเรา เราทราบ lifestyle ของเรา ว่าเราใช้ชีวิตยังไง เพราะฉะนั้นเราทราบว่าเราใช้เงินแค่ไหนถึงจะพอ และเมื่อใช้ไม่พอ อาจจะมีที่บ้านช่วย แต่อย่างไรเราก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี เพราะว่าขออนุญาตเรียนตรงๆว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปได้ตลอดอ่ะเนอะ

    แต่อย่างไรก็ตาม บุ๋มชื่นชมคนที่ได้เงินเดือนไม่สูงมาก แต่สามารถ struggle ด้วยการใช้ชีวิตพอเพียงในเมืองกรุงได้ และก็มีเงินส่งให้ที่บ้าน ซึ่งน่าประทับใจมากๆ

    อย่างที่บุ๋มเรียนคือคุณหวานจะต้องทราบ lifestyle ตัวเองโดย common sense อยู่แล้วล่ะว่าเงินเดือนเท่านั้นเราพอมั้ย เราพอใจรึเปล่า มันจะเป็นยังไง เพราะโดยส่วนตัว บุ๋มคิดว่าทางเลือกในการทำงานที่เราชอบมันมี ถ้าทำงานที่ชอบ แต่เงินไม่พอใช้ ต้องขอคุณพ่อคุณแม่ เราจะภูมิใจได้อย่างไร เราจะมีความสุขเต็มร้อยได้อย่างไร ที่ว่าสุขเพราะได้ทำงานที่ชอบมันจะมาโดนบั่นทอนเพราะรายได้ที่ไม่ fit the reality รึเปล่า เทียบกับการได้ทำงานที่เราทำอยู่ แต่รายได้โอเค ไม่เดือดร้อน

    บางทีคนเราชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะมันใหม่ มันตื่นเต้น มันน่าไป มันยังไม่เคยเห็นไม่เคยลอง แต่เราไม่รู้ว่ามันจะสวยงามอย่างที่เราคิดมั้ย อย่างบุ๋มอ่ะค่ะ ที่ทำงานเดิมดีอยู่แล้ว บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เปลี่ยนงานใหม่ไปที่ทำงานอีกที่เราคิดว่าดี เท่ห์กว่า แต่พอมาทำจริงๆเจอนายห่วยมาก ที่เคยเขียนในกระทู้นู้น ก็ยังรู้สึกว่าเราไม่น่าเลย อยู่ที่เก่าดีอยู่แล้ว ออกมาทำไมเนี่ย แต่นี่ดีว่าบุ๋มไม่ได้หางานลำบากมาก บุ๋มเพิ่งได้งานใหม่เมื่อวานหลังจากลาออกจากที่ห่วยๆเดือนนึง บุ๋มเลยไม่ทรมานอยู่นาน

    อย่างไรก็ตาม คนอื่นได้แต่ชี้แนะให้ความเห็นนะคะ แต่คุณหวานคือผู้ตัดสินใจ เพราะฉะนั้นคุณหวานรู้อยู่แล้วแหละบุ๋มว่า แต่อยากได้ความเห็นมา support และช่วยบรรเทาความกังวลใจแค่นั้นเอง เนอะ....ยังไงสู้ๆนะคะ ปัญหามีไว้ให้แก้ค่ะ

    ขอบคุณคุณบุ๋มมากค่ะ อ่านจากที่คุณบุ๋มเขียนมา

    หวานรับรู้จากคำตอบที่มีความจริงใจของคุณบุ๋มได้เลยค่ะ


    หากพูดถึงเรื่องงานเดิมที่ทำอยู่ หวานอึดอัดมากค่ะ

    เหมือนกับการ "อยู่ผิดที่" แผนกของหวาน งานคล้ายเป็นงานล๊อบบี้ยีสต์อ่ะค่ะ แบบต้องออกแนวหน้าด้านๆหน่อย ซึ่งมันไม่ใช่เรา

    ซึ่งคนในแผนกส่วนมากจะเป็นผู้ชาย.. แล้วมีผู้หญิงอยู่แค่ของ2คนเอง (คือชอบรับผู้หญิงสวยๆไว้เป็นหน้าเป็นตา)

    พอหวานเข้ามา ก็จะโดนเพ่งเล็ง คล้ายโดนอิจฉา (ไม่ได้คิดไปเองนะคะ)

    เพราะเข้ามาหวานเข้าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่า คนเก่าๆ (ที่อายุมากกว่าหวาน)

    และด้วยความเป็นผู้หญิง ก็ทำให้มีข้อจำกัด คือ การกลับดึกไม่ได้ พาลูกค้าไปกินเหล้า พาไปนวดไม่ได้ (เวลาล๊อบบี้ลูกค้า) อะไรแบบนี้

    ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็มาเหน็บแนมว่า พวกผู้หญิง สบายจังนะ อะไรแบบนี้

    มันอึดอัด ทนไม่ไหว เบื่อ และรุ้สึกตัวเองไม่มีค่า ตรงนี้อ่ะค่ะ T___T

Page 2 of 2 FirstFirst 1 2

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •