Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 12

Thread: บุพเพสันนิวาส และเนื้อคู่

  1. #1
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2

    Smile บุพเพสันนิวาส และเนื้อคู่

    บุพเพสันนิวาส คือ การได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ
    จนส่งผลให้ได้มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน
    ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าเคยอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาเท่านั้น
    แต่แท้จริงแล้วบุพเพสันนิวาสหมายถึงการที่อาจจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะอื่นก็ได้
    เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก เพื่อน ครูกับศิษย์ นายกับบ่าว เป็นต้น
    การที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันนี้เมื่อเกิดมาร่วมกัน ก็มักจะสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา
    ทำอะไรตามกัน มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข

    เนื้อคู่ คือ หญิงและชายที่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันมาก่อนในอดีตชาติ
    คู่ครอง คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบัน
    คู่กรรม คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสามีภรรยา แต่มักไม่มีความสุข
    เนื่องจากการมาอยู่ร่วมกันนั้นเกิดจากวิบากของกรรมที่ทำร่วมกัน
    หรือวิบากกรรมที่มีต่อกันมาส่งผล เช่น อาจเคยทำบาปร่วมกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน เป็นต้น
    คู่บารมี คือ เนื้อคู่ที่ได้ติดตามกันมา ส่งเสริมกันและกันในทางที่ดี
    ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาร่วมกันนับชาติไม่ถ้วน
    และจะติดตามกันต่อไปจนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้
    มักใช้คำนี้กับพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีกับเนื้อคู่ลำดับ ๑ ที่จะได้เป็นคู่ครองกันในชาติสุดท้าย



    เหตุแห่งการได้อยู่ร่วมกัน

    ดังที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเหตุที่หญิงชายได้รักและได้เป็นสามีภรรยากันนั้น มี ๒ ปัจจัย คือ
    ๑. การได้อยู่ร่วมกันในกาลก่อน
    ๒. การได้เกื้อหนุนกันในชาติปัจจุบัน
    เนื่องจากวัฏสงสารยาวไกลจนหาจุดเริ่มต้นและที่สุดไม่ได้

    หญิงชายแต่ละคนจึงมีเนื้อคู่มากมายเป็นหมื่นเป็นแสนคน
    แต่ละชาติที่เกิดมาก็อาจได้พบเจอเนื้อคู่ได้หลายๆ คนพร้อมๆ กัน
    หรืออาจไม่ได้เจอเนื้อคู่เลยสักคนก็เป็นได้
    กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น หญิงชายนั้นก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน
    ซึ่งเมื่อได้เป็นคู่กันในปัจจุบันแล้วหญิงชายนั้นก็จะได้เป็นเนื้อคู่กันต่อไป



    ลำดับของเนื้อคู่


    เพราะเหตุที่แต่ละคนมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย
    จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าแล้วใครกันเล่าที่สมควรจะได้อยู่เป็นคู่ครองกันมากที่สุด และจะมีวิธีการเลือกอย่างไร
    แม้จะมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วมีความสุขที่สุด
    เมื่อพบหน้ากันแล้วไม่อาจตัดใจรักให้ขาดจากกันได้
    บุคคลนี้คือเนื้อคู่ที่ได้อยู่ร่วมกันมามากที่สุดเป็นแสนเป็นล้านชาติ เป็นเนื้อคู่ลำดับที่ ๑
    กฎแห่งกรรมจะจัดสรรการมีคู่ไว้ให้เราเรียบร้อย คือ หากเรามีเนื้อคู่เกิดมาพร้อมกัน
    ใจเราจะเป็นผู้เลือกโดยจะเลือกเนื้อคู่ลำดับต้นเสมอ
    เมื่อเลือกแล้วคู่ลำดับอื่นเขาจะหลีกทางและไปหาคู่ของเขาต่อไป

    แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน ที่บางชาติ กลับทำให้คู่ลำดับต้นๆ ได้มาพบกันทีหลัง
    หลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้ว ซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง
    แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว จึงต้องรักกันอีกครั้ง
    ซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง
    กล่าวกันว่าแม้พระภิกษุผู้มั่นคงในศีล เมื่อได้เจอเนื้อคู่ลำดับต้นๆ ยังทนไม่ได้
    ต้องสึกหาลาเพศมาอยู่กับเนื้อคู่ของตนจนได้

    เหตุที่เนื้อคู่ลำดับต้นมาเกิดในชาติภพเดียวกัน แต่กลับไม่สมกันนั้น
    มีเหตุเดียว คือ กรรมพลัดพรากได้มาส่งผลเป็นวิบากแก่ทั้งคู่อย่างร้ายแรง
    หากกรรมนั้นใกล้จะหมดผล เขาทั้งสองก็อาจได้เป็นคู่ครองกันในชาตินั้น
    แต่หากกรรมนั้นยังรุนแรงอยู่ ทั้งสองก็ต้องทนทุกข์ทรมานชดใช้กรรมนั้นให้หมด
    แล้วจึงจะได้มีวาสนาอยู่ร่วมกันในชาติต่อๆ ไป



    เหตุที่อกหักผิดหวังในความรัก

    นอกจากการผิดหวังจากเนื้อคู่ลำดับต้นๆ ซึ่งเกิดจากกรรมพลัดพรากแล้ว
    บางครั้งคนเราก็อาจต้องผิดหวังในความรัก โดยมีเหตุมาจากกรรมทั้งสิ้น คือ
    อยู่กับคู่ครองไม่มีความสุข ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ
    หรือมีปัญหาให้ทุกข์ใจตลอด เหตุที่เป็นดังนี้ แสดงว่าคู่ครองนั้นไม่ใช่เนื้อคู่ลำดับที่ ๑-๕
    เนื่องจากกรรมจากการเป็นคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรม ส่งผลให้ไม่ได้พบเนื้อคู่ลำดับต้นๆ
    หรืออาจเป็นเพราะทั้งสองไม่ใช่เนื้อคู่กัน
    แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูคู่อาฆาต ได้เคยผูกใจเจ็บกันมา ชาตินี้จึงต้องมาแก้แค้นกันเอง
    และแรงอาฆาตได้ผลักดันให้ทั้งสองมาอยู่ร่วมกัน และแก้แค้นกันเองตามแรงอาฆาตนั้น
    หรือบางคน รักเขาข้างเดียว อกหักบ่อยครั้ง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจด้วยเลย
    เหตุนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอดีตชาติเคยอาฆาตเขาไว้
    แต่เขาไม่ได้อาฆาตตอบและไม่ได้ถือโกรธด้วย ชาตินี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียว
    อย่างนี้ไม่ได้เป็นเนื้อคู่ เป็นเพียงคู่กรรมเท่านั้น



    ทำอย่างไรจึงจะได้อยู่ร่วมกัน

    เมื่อความรักหวานชื่น คู่ครองทั้งหลายย่อมต้องอยากเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีก
    ซึ่งผลกรรมก็ได้จัดสรรการเกิดมาเป็นคู่ครองกันอีกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
    แต่นอกจากการรอให้กรรมเป็นตัวจัดสรรแล้ว
    เรายังสามารถเลือกที่จะได้พบและอยู่เป็นคู่ครองกับเนื้อคู่ของเราได้ในอนาคต โดยการอธิษฐาน
    แต่แม้จะมีอธิษฐานร่วมกัน
    สุดท้ายการได้อยู่ร่วมกันก็ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรมอยู่ดี

    การอธิษฐานนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ คือ ในด้านประโยชน์
    ทำให้เนื้อคู่ทั้งสองมีโอกาสกลับมาเป็นคู่ครองกันในชาติต่อๆ ไปได้ง่าย
    แต่ในแง่ของโทษ บางครั้งก็ทำให้การใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข
    เช่น หากเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้ไม่ได้มาเกิด
    หรือมาเกิดแล้วแต่ยังไม่ได้พบกัน ฝ่ายที่รออยู่จะไม่สามารถมีคู่ได้
    จิตใจไม่รักใคร หรือแม้จะได้พบเนื้อคู่ลำดับอื่นๆ
    แต่ก็มีเหตุให้ไม่สมหวังทุกครั้งไป เนื่องจากแรงอธิษฐานนั้นฉุดรั้งไว้
    หรือบางครั้งจิตใจก็มีสังหรณ์อยู่เสมอว่ารอคอยใครอยู่ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารอคอยใคร


    การแก้ปัญหาเรื่องอธิษฐาน

    หากแน่ใจว่าเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้คงไม่ได้พบเจอกันแน่แล้ว
    หรืออยากจะปล่อยวางเพื่อมีโอกาสได้ตัดสินใจกับเนื้อคู่ลำดับอื่น
    สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงอธิษฐานขออนุญาตเนื้อคู่ว่าขอละคำอธิษฐานนั้น
    ขอให้ชีวิตได้พบเนื้อคู่ที่สมกัน และได้ใช้ชีวิตคู่อย่างปกติและมีความสุข


    คู่บารมี

    สุดท้ายคือเรื่องของคู่บารมี เป็นคู่สำคัญ เป็นคู่ที่ยาวนาน
    เพราะต้องร่วมกันสร้างบารมีขณะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์
    และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเนื้อคู่ที่จะเคียงข้างกันไป
    การเป็นพระโพธิสัตว์นั้นต้องการกำลังใจที่เข้มแข็ง มั่นคง
    และเสียสละความสุขทั้งปวงเพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก
    พระโพธิสัตว์นั้นต้องใช้เวลายาวนานมากในการสร้างสมบุญบารมีกว่าที่จะสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
    อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป และอย่างช้าก็เนินนานจนถึง ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปเลยทีเดียว

    คนที่ตั้งใจเป็นคู่บารมีจึงต้องมีความเสียสละและเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน
    บุคคลผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีนั้น
    จะเป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากที่สุด ได้เป็นคู่ครองกันมากที่สุด
    และเป็นเนื้อคู่ลำดับ ๑ อย่างเที่ยงแท้
    การเป็นคู่บารมีนั้นลำบากมากยิ่งนัก
    เพราะคนเป็นคู่บารมีนั้นจะต้องพบกับสิ่งต่อไปนี้ คือ
    ต้องเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย
    ต้องช่วยพระโพธิสัตว์ทำงานอย่างเต็มกำลัง
    ในบางชาติอาจต้องร่วมการสร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์
    เช่น การต้องสละชีวิตร่วมกัน ต้องถูกบริจาคลูก หรือตัวเอง เพื่อเสริมบารมีให้พระโพธิสัตว์ เป็นต้น
    ตราบใดที่พระโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คู่บารมีนั้นก็ยังไม่มีโอกาสบรรลุโลกุตรธรรมได้

    เหตุแห่งความรัก
    คุณอังคาร
    http://www.geocities.com/kwamjing2/


    พระพุทธเจ้าตรัสว่าความรักจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากเหตุปัจจัยทั้งอดีตและปัจจุบันประกอบกัน

    ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ บุญที่สร้าง ‘คู่บุญ’ ขึ้นมาจะเหมือนๆกัน พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ได้แก่

    ๑) มี ศรัทธา ไปในแนวทางเดียวกัน เช่นถือศาสดาองค์เดียวกัน เชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องกรรมวิบากด้วยกัน เชื่อว่าโลกกลมหรือโลกแบนเหมือนๆกัน เชื่อแนวทางในการดำรงชีวิตรูปแบบเดียวกัน เป็นต้น เมื่อศรัทธาไม่ตรงกันก็คุยเรื่องไม่ตรงกัน เมื่อคุยเรื่องไม่ตรงกันก็คุยกันได้ไม่นาน เมื่อคุยกันได้ไม่นานก็เบื่อกันเร็ว อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นกับทุกรูปนาม ไม่จำเพาะเฉพาะคู่รักเท่านั้น ขนาดเพื่อนกันแต่เชื่อไม่เหมือนกันยังยากที่จะเป็นเพื่อนสนิทเลยครับ ศรัทธาที่ร่วมกันปลูกฝังให้มั่นคงย่อมทำหน้าที่สร้างสายตาที่มองไปในทิศเดียวกัน ไม่ก่อความรู้สึกเป็นอื่นจากกัน

    ๒) มี ศีล อันเป็นเครื่องหอมทางใจเสมอกัน คือมีความคิดงดเว้นข้อประพฤติผิดแบบเดียวกัน เป็นเหตุให้ไม่รังเกียจหรือหมั่นไส้กัน พรานหนุ่มกับพรานสาวทนกลิ่นอายฆ่าฟันของกันและกันได้ แต่ให้หมอศัลย์ที่มีรังสีช่วยชีวิตมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับมือปืนร้อยศพที่ทะมึนด้วยรังสีเอาชีวิต อย่างไรก็คงทนกลิ่นอายที่เป็นตรงข้ามของกันและกันไม่ไหว และนั่นก็เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งเจ้าชู้ ร้อยลิ้นกะลาวน สำส่อนไปเรื่อยโดยไม่สนใจความสกปรกหมกมุ่น ย่อมน่ารังเกียจยิ่งสำหรับคนใจซื่อถือความสะอาดผัวเดียวเมียเดียว ศีลที่ร่วมรักษาให้บริสุทธิ์ดีแล้วย่อมทำหน้าที่สร้างความอบอุ่นเชื่อมั่นในกันและกัน สนิทใจ ไว้วางใจกันเป็นมั่นเหมาะ

    ๓) มี จาคะ อันเป็นวิธีคิดแบ่งปันเสมอกัน อย่างน้อยต้องเป็นผู้ให้ซึ่งกันและกันในทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายหนึ่งคิดอยู่ข้างเดียว อีกฝ่ายเอาเปรียบตลอด เช่นอีกฝ่่ายสละเงินให้ใช้ อีกฝ่่ายสละแรงปรนนิบัติ เป็นต้น การเอารัดเอาเปรียบเกิดจากจาคะที่ไม่เสมอกันเป็นมูล ยิ่งหากต่างฝ่ายต่างคิดเจือจานคนอื่น เห็นข้าวของอะไรไม่ใช้แล้วก็คิดตรงกันว่าน่าบริจาคแก่คนที่เขาไม่มี อย่างนี้ยิ่งไปกันได้ มีโอกาสร่วมบุญกันบ่อยๆ ยิ่งให้คนอื่นมากก็ยิ่งได้ความสุขในการสละมาเสริมใยแก้วร้อยสัมพันธ์ให้กันแน่นแฟ้นขึ้น จาคะที่ร่วมกันยินดีโดยพร้อมเพรียงย่อมก่อความรู้สึกซึ้งใจอย่างใหญ่ เหมือนอยู่ด้วยกันจะเป็นที่พึ่งให้กัน ปลอดภัยร่วมกัน ประคับประคองกัน ไม่มีวันล้มพร้อมกัน

    ๔) มี ปัญญา เสมอกัน กล่าวทางโลกคือคุยกันรู้เรื่อง กล่าวทางธรรมคือมีระดับการเห็นตามจริงใกล้เคียงกัน หรืออย่างน้อยเป็นไปไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่พูดคนละภาษา ฝ่ายหนึ่งทำก่อนคิด อีกฝ่ายคิดก่อนทำ หรือฝ่ายหนึ่งเอาอารมณ์พูด อีกฝ่ายพูดด้วยสติปัญญา หรือฝ่ายหนึ่งเห็นชัดว่าอะไรๆไม่เที่ยง ความยึดมั่นถือมั่นเหลือน้อย แต่อีกฝ่ายหนึ่งแค่เรื่องน้อยก็ยึดมั่นถือมั่นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็คงนึกระอาหรือหมั่นไส้ในกันเป็นอย่างยิ่ง ปัญญาที่ร่วมเสริมส่งกันและกันย่อมทำหน้าที่สร้างความร่าเริงในการสนทนา และความไม่พรั่นที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน

    หากอดีตกาลคุณเคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ (อาจหย่อนนิดหย่อนหน่อยได้) ขอเพียงได้มาพบกันในชาตินี้ ก็จะเกิดแรงดึงดูดที่ก่อความรู้สึกแสนดีอย่างประหลาด เหมือนเข้ากันได้ทุกอย่าง เหมือนเห็นกันได้ทุกแง่มุมด้วยความเข้าใจกระจ่าง

    และขอเพียงเกื้อกูลกันนิดๆหน่อยๆ เช่นฝ่ายหนึ่งมาถามทาง อีกฝ่ายบอกทางให้ เท่านี้ก็จะเกิดแรงปฏิพัทธ์ขึ้นอย่างรุนแรง ชนิดที่ฝ่ายชาย (ซึ่งมีธรรมชาติเป็นรุก) อาจยื่นข้อเสนอเดินพาไปส่ง และฝ่ายหญิงก็ตกลงรับข้อเสนออย่างยินดีเต็มใจทันที แล้วการตกลงร่วมทางกันไปจนกว่าจะตายก็ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีเหตุการณ์น่าปวดหัว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคู่บุญประเภทนี้


    แน่นอนว่าสายตาทั่วไปมองแล้วย่อมนึกอิจฉา โดยไม่มีใครเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงมีคู่ที่น่าอิจฉาได้ปานนั้น รู้แต่ว่ามีจริง แต่ไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ต้องต่อว่าใครที่แกล้งลำเอียง ความจริงคือคู่บุญได้รับความยุติธรรมจากธรรมชาติกรรมวิบากต่างหาก แต่อาจเป็นความยุติธรรมที่ลึกลับ เพราะนำอดีตชาติมาแสดงให้เห็นเป็นภาพยนตร์ตามโรงไม่ได้

    http://dungtrin.com/.../prepare064.htm
    เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๔๘



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  2. #2
    Chinwa's Avatar
    Chinwa is offline Junior Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    5
    ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีครับ

    เดี๋ยวกลับมาอ่าน ไปนอนก่อน ไม่ไหวแล้ว
    แม่ครับ..ตังค์หมด!!!

  3. #3
    strawberrypink@sbn is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    20
    ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ แอบเข้าใจว่ามันเหมือนกันมาสะตั้งนาน ^^
    ขอบคุณ SBN ค่ะ สำหรับพื่นที่ดีๆๆที่แบ่งปันให้

    Suwimon Srisakul
    K-Bank 770-2-04394-2

    กติกาของแม่ค้าค่ะ
    1.ถ้าเพื่อนๆต้องการสินค้า โทรมาหาได้เลยค่ะ เพราะไม่ค่อยได้เช็คPM ค่ะ

    2. รบกวนถ้าเพื่อนๆโอนเงินมาแล้วรบกวนแจ้งทาง SMS สถานที่จัดส่งด้วยค่ะ

    3.ค่าส่งสินค้า ซื้อ 1 ชิ้นคิดค่าส่ง 25 บาท
    ซื้อตั้งแต่ 2 ชิ้นคิดเพิ่มชิ้นละ 10 บาท
    ซื้อครบ 800 บาทส่งฟรีค่ะ

    แม่ค้าใจดีค่ะ

    StrawberryPink
    081-101-5225

    ปุ้มปุ้ยค่ะ

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    131
    เชื่อค่ะ...เรื่องบุพเพสันนิวาศ....

    เชื่อว่าเขากำหนดมาให้แล้ว.....

    เพราะก่อนหน้านี้ก็ใช้กรรมกับอีกคนไปแล้วรวม 14 ปี...เป็นคู่กรรมค่ะ

    แต่จดจำแต่สิ่งที่ดีค่ะ....

    แล้วเชื่อค่ะเรื่องลำดับเนื้อคู่

    แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน ที่บางชาติ กลับทำให้คู่ลำดับต้นๆ ได้มาพบกันทีหลัง
    หลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้ว
    ซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง
    แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว จึงต้องรักกันอีกครั้ง
    ซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง

    กล่าวกันว่าแม้พระภิกษุผู้มั่นคงในศีล เมื่อได้เจอเนื้อคู่ลำดับต้นๆ ยังทนไม่ได้
    ต้องสึกหาลาเพศมาอยู่กับเนื้อคู่ของตนจนได้

    เพราะตอนนี้กำลังเผชิญอยู่...เมื่อ 14 ปีก่อนเราเลือกอีกคน.....และเราก็เลิกกัน

    พอกลับมาตอนนี้เขาเลือกอีกคน.....แต่จิตใจเราผูกพันธ์กันมาก....

    ผู้ชายคนนี้เป็นคนรักคนแรกเมื่อ 20 ปีก่อน...สมัยเรายังเด็ก....

    ตอนนี้ก็แอบติดต่อกัน..แต่ไม่มีอะไรเกินเลย...แค่คุยกันถามถึงสารทุกข์สุขดิบ....

    พยายามให้อยู่ในศีลธรรมค่ะ...กลัวบาป...

    ขอบคุณคุณPREZZO อีกครั้ง
    " ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า คิดให้ดีก็จะรู้ว่า.....คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว "

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    29
    ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับบทความที่ดีๆ ให้ข้อคิดดีๆ เป็นกำลังใจให้ทำดีๆๆๆๆ ต่อๆๆไปค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]@@OrgaN@@♥♥♥.·:*¨¨*:·.A.·:*¨¨*:·.FIVE.·:*¨¨*:·.STAR.·:*¨¨*:·.BUYER.·:*¨¨*:·.♥♥♥






  6. #6
    natanitii's Avatar
    natanitii is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    เหมือนกินยาถูกตัวถูกกับโรคที่เป็นอยู่...
    "ขอบคุณค่ะ"
    JEANS

  7. #7
    wnonach's Avatar
    wnonach is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    458
    ขอบคุณ คุณ PREZZO เป็นอย่างมาก ที่ทำให้รู้เรื่องแบบนี้นะคะ จะพูดยังไงดี คือหนึ่งกับสามีเป็นแบบนี้ตามข้อความนี้เลยค่ะ ไม่น่าเชื่อแต่อ่านแล้วไม่มีอะไรแตกต่างเลย หนึ่งกับสามีเจอกันตอนแรกเขาก็เข้ามาถามทาง พอเราเห็นหน้าเขาก็เอะเคยเห็นเขาที่ไหนหนอ ก็คิดว่าเขาคงเป็นลูกค้าที่เราเคยเจอ หรือไม่ก็ supplier ที่ไหนสักที่แน่นอน

    แล้วเราก็คุยกันเรื่องที่เขาถาม แล้วเราก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ มันเป็นไปได้จริงๆหรือนี่ แล้วความรักก็ไม่เคยจืดจางวันแรกรู้สึกอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ เราคุยกันบ่อยมากค่ะ เกี่ยวกับเรื่องความรัก ว่าทำไมเรามีความรักให้กันได้มากมายขนาดนี้ เราทั้งคู่ไม่เคยมีความรักแบบนี้กับใคร มันไม่สามารถพูดได้ว่ารักของเราเป็นแบบไหนอะค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ


    ปล รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแปลเป็น english ให้หน่อยได้ไหมค่ะ จะไปให้สามีอ่าน หนึ่งแปลไม่ค่อยเก่งอะค่ะ เฉพาะข้อความข้างล่างนี้ค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ

    หากอดีตกาลคุณเคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ (อาจหย่อนนิดหย่อนหน่อยได้) ขอเพียงได้มาพบกันในชาตินี้ ก็จะเกิดแรงดึงดูดที่ก่อความรู้สึกแสนดีอย่างประหลาด เหมือนเข้ากันได้ทุกอย่าง เหมือนเห็นกันได้ทุกแง่มุมด้วยความเข้าใจกระจ่าง

    และขอเพียงเกื้อกูลกันนิดๆหน่อยๆ เช่นฝ่ายหนึ่งมาถามทาง อีกฝ่ายบอกทางให้ เท่านี้ก็จะเกิดแรงปฏิพัทธ์ขึ้นอย่างรุนแรง ชนิดที่ฝ่ายชาย (ซึ่งมีธรรมชาติเป็นรุก) อาจยื่นข้อเสนอเดินพาไปส่ง และฝ่ายหญิงก็ตกลงรับข้อเสนออย่างยินดีเต็มใจทันที แล้วการตกลงร่วมทางกันไปจนกว่าจะตายก็ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีเหตุการณ์น่าปวดหัว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคู่บุญประเภทนี้


    แน่นอนว่าสายตาทั่วไปมองแล้วย่อมนึกอิจฉา โดยไม่มีใครเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงมีคู่ที่น่าอิจฉาได้ปานนั้น รู้แต่ว่ามีจริง แต่ไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ต้องต่อว่าใครที่แกล้งลำเอียง ความจริงคือคู่บุญได้รับความยุติธรรมจากธรรมชาติกรรมวิบากต่างหาก แต่อาจเป็นความยุติธรรมที่ลึกลับ เพราะนำอดีตชาติมาแสดงให้เห็นเป็นภาพยนตร์ตามโรงไม่ได้
    You Can Try Without Succeeding. But You Can Not Succeed Unless You Try!



    BIG THANKS FOR SBN

  8. #8
    Wiarathis's Avatar
    Wiarathis is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    106

    Talking

    ชอบมากๆ เลยค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีดีมาปรับใช้กับชีวิตเยอะมาก
    ขอบคุณนะคะ
    คิดดี ทำดี ได้ดี
    Self-conquest is the greats of victory.

  9. #9
    story2lady's Avatar
    story2lady is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Location
    Smile Land
    Posts
    12
    อ่านแล้วยิ่งเชื่อเลยว่า ทุกอย่างฟ้ากำหนดมาแล้วจริงๆๆๆๆ
    ✿✿♥♥ Don't worry about people from the past because there's a reason they aren't in your future... ♥♥✿✿

  10. #10
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากๆนะคะ เคยได้อ่านมาบ้าง และก้อเชื่อด้วยค่ะ

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •