ในที่สุดเราก็ตกงานโดยสมบูรณ์ แชร์ประสบการณ์นายห่วยๆ
ฮ่าๆๆๆๆๆ หัวเราะด้วยความสะใจ สาแก่ใจอีช้อยจริงๆ ..... เฮ้อ หัวเราะไปงั้นแหละ ปลอบใจตัวเอง
เราลาออกจากงานมาตั้งแต่วันที่ 10 ด้วยความคิดที่คิดว่า อยู่ไม่ได้แล้วที่นี่ ในเมื่อมีหัวหน้าพรรค์นี้ก็อย่าอยู่เลย
เล่าให้ฟังก่อนว่าเพิ่งเริ่มงานที่นี่ได้แค่สองเดือน ด้วยความตั้งใจว่า เออนะ งานที่ชั้นทำ สบายมาก ไม่ต้องยุ่งกับใคร ยุ่งแต่กับงานของตัวเอง เคลียร์งานตัวเอง เย็นกลับบ้าน เป็นงานแบบใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา วันๆอยู่แต่หน้าจอคอมกับกูเกิ้ล ทำงานๆๆๆ เปิดหาศัพท์ที่ไม่รู้ เพราะ field การเงินการธนาคารนี่ไม่เคยทำมาก่อน แต่มีความสุขดี ใช้ได้
นายของตัวเองเป็นคนไทย ใจร้อน ด่าลูกน้องคนอื่นตลอด ก็โอเค ทนได้ ไม่ได้มาด่าเรานี่ นายใหญ่ๆแผนกอื่น ที่เป็นต่างชาติบ้างคนไทยบ้าง ก็รักเรามาก ซื้อขนมมาฝากบ่อยๆเวลาเราทำงานให้ เราต้องเข้าประชุมระดับ Management ทุกอาทิตย์ ทุกคนก็เอ็นดู หยิกแก้มมั่งอะไรมั่ง
ฝั่ง PR เห็นหน่วยก้าน ดึงไปช่วยงานใหญ่ประจำปี แขกต่างชาติมากมาย ก็ทำได้ดี ผู้ใหญ่ชม
แต่......เราเป็นคนที่กลับบ้านตรงเวลาเป๊ะ ไม่ชอบอยู่ที่ทำงานนานๆ งานไม่เสร็จก็ขนกลับมาบ้าน งานไม่เคยขาดตกบกพร่อง ไม่ใช่ประเภทที่นั่งอยู่เย็นให้นายเห็น แต่ไม่ได้ทำงาน เปิดเวบกระปุกเหมือนคนบางคนในแผนกเพื่อใหนายคิดว่ายังนั่งทำงานอยู่ วันไหนที่ต้องกลับสี่ห้าทุ่มเพราะเคลียร์งานที่ต้องเอาด่วน เราก็ทำนะ ไม่เคยบ่น รู้ว่ามันคืองานน่ะ
แต่......เราไม่ค่อยสุงสิงกับใครในแผนก ทานข้าวคนเดียว เพราะเคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าคนในแผนกไม่มีน้ำใจ เห็นแก่ตัว
มีวันหนึ่ง ไปวัด ไปกันเกือบหมดบริษัท ก็คุยๆกันเล่นๆกันหลายคน อยู่ดีๆนายคนนี้ก็มาบอกว่า อยู่ที่นี่ห้ามมีลูกนะเว้ย พี่...ยังเสียสละทำลูกหลุดได้เลย แล้วก็หัวเราะฮ่าๆๆๆๆ วงแตกสิครับท่าน พี่คนนั้นเค้าเพิ่งแท้งลูกไปและกำลังเสียใจมาก อีตานี่มาพูดอย่างนี้ วันนั้นเราเลยคิดได้ว่าคนที่กล้าพูดแบบนี้ในวัด จิตใจมันต่ำจริงๆ
มีวันหนึ่ง นายเรียกเข้าไปถามว่างานชิ้นนี้เสร็จแล้วยัง จะเสร็จเมื่อไหร่ เราก็บอกไป เค้าบอกว่า "คนอื่นไม่ได้เปิดตูดกลับบ้านเร็วอย่างเธอนะ"
เรางง ต่ำจริงๆ ใช้คำพูดแบบนี้ เราไม่ว่าอะไร ทำงานให้เสร็จวันนั้นเลย ทำไมวันที่เรากลับบ้านดึกดื่นเค้าไม่ appreciate บ้างนะ
ปกติเราเป็นคนสงสัยอะไรไม่ทราบตรงไหนจะถาม จดประเด็นไปเป็นข้อๆ วันนั้นมีคำในที่ประชุมที่เราไม่เข้าใจ ไปถามเค้า เค้าตอบกลับมาว่า "ไม่รู้เว้ย".............อ้าว แล้วยังไงล่ะทีนี้ คือเรามีครูเป็นกูเกิ้ลใช่มั้ย ไม่ทราบ term ไหนเรียนรู้จากกูเกิ้ลเองตลอด เวรจริงๆ
มีอีกวัน ให้งานเรามายี่สิบหน้า จะเอาสองวัน ทั้งๆที่รู้ว่าวันนั้นเราต้องเคลียร์งานชิ้นหนึ่งให้เสร็จเพราะแบงก์ชาติรออยู่ เค้าด่าเราอีกครั้งต่อหน้าผู้ใหญ่ในระดับ Management เป็นสิบๆคน ด้วยคำพูดเดิม เราก็สวนกลับไปว่า "So mean เนอะ" เค้าก็สวนกลับมาว่า "Of course" ทำหน้ากวนๆ
เราต้องทำงานส่งที่ประชุมให้อีตานี่ตรวจ แต่โดนกรรมการผู้จัดการใหญ่ตำหนิในที่ประชุม มันก็หันมาด่าเรา เราก็งง อ้าว แล้วที่ทำส่งไปให้ ทำไมไม่ตรวจล่ะ มันเป็นหน้าที่ของเค้า เราเพิ่งมาทำงานสองเดือน เราจะรู้มั้ย ประเด็นของบริษัทใหญ่โตเนี่ย เรามีหน้าที่สรุปตามที่ประชุมพูด แต่คุณไม่ follow up เอง คุณไม่มีสิทธิ์มาด่าเรา
อีกวันหนึ่ง มีประชุมด่วนของระดับผู้บริหาร เค้าไม่ยอมเข้า ปล่อยเราเข้าไปกับเลขาบอร์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ถามทำไมเค้าไม่เข้า เลขาบอกว่าเค้าไปธุระ ซึ่งจริงๆแล้วเค้าไปตีกอล์ฟน่ะ
เราชักไม่ไหวแล้วเว้ยเฮ้ย....
เช้าตื่นมา คิดๆๆๆๆๆ จะไปทำงานดีมั้ย เราก็ไม่ไป กะแก้เผ็ดด้วยล่ะ เพราะวันนั้นมีประชุม เค้าต้องฟังเองคนเดียว สม...
ปรึกษาเพื่อน เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกออกเถอะแก เรากะจะออกอยู่แล้ว
เช้าอีกวัน ขับรถ ตั้งใจไปลาออก พี่เลขาโทรมาบอกว่า เค้าคุยกับนายแล้ว ว่าไปทำอย่างนั้นกับเราไม่ได้ เราเป็นเด็กรุ่นใหม่ รับความถ่อยของเค้าไม่ได้หรอก เค้าไม่พอใจ เรียกทุกคนในแผนกไปถามว่าเค้านิสัยไม่ดีตรงไหน ทุกคนก็บอกว่า "ป่าวนี่คะ ไม่มีอะไรเลย ผอ.ดีจะตาย ผอ.ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ บลา บลา บลา" เฮ้อ....เราเข้าใจว่าทุกคนต้องเอาตัวรอด
เราไปถึง กะเคลียร์งานให้เสร็จแล้วกลับบ้าน โทรศัพท์ดัง HR โทรมาถามว่าเราอยู่ไหน ทำไมไม่เข้ามาเคลียร์งาน เราบอกว่าเคลียร์งานอยู่ HR บอกว่านายเราโทรมาด่าเราให้ HR ฟังว่าเมื่อวานไม่มาทำงาน เราบอกว่าวันนี้เราตั้งใจมาลาออก
วางหูจาก HR เราเก็บของ เซ็นใบคืนอุปกรณ์ทุกอย่าง ไปเขียนใบลาออก และเล่าทุกอย่างให้ HR ฟัง พี่เค้าดีมาก รับฟัง ในที่สุดเราก็ได้เดินออกจากบริษัทนี้ สบายตัว
จะบอกว่าพี่เลขาคนนี้ เคยโดนตานี่มัน verbally sexual harass ด้วย เช่นชมว่าก้นสวย ก้นใหญ่ เอกซ์ บลา บลา บลา แก่จะตาย ha อยู่แล้วยังจะกามอีก นี่ก็เป็นอีกนิสัยที่เรารับไม่ได้ ตานี่ก็มีลูกสาวนะ ทำไมไม่คิดบ้างว่าใครมาทำกับลูกสาวตัวเองอย่างนี้บ้างจะทำไง
พี่เค้าบอกว่าเค้าไม่มีที่ไป ถ้าเค้าภาษาดีเค้าก็ไปแล้ว เคยไปสมัครงานที่หนึ่ง แต่เค้าพูดภาษาอังกฤษได้ไม่คล่อง ที่นั่นเลยไม่รับ ก็ไม่มีที่ไป
วันที่เราลาออก เราไม่คิดเลยว่าคิดผิด เราไม่สามารถทำงานกับคนจิตใจต่ำๆได้ โอเค คนอาจจะคิดว่าเราไม่อดทน แต่ถ้าเราต้องทนเพราะความต่ำของคน เราไม่ทนดีกว่า ทนงานหนักน่ะทนได้ โตแล้ว เรียนหนังสือมา ทำงานมาก็เยอะ รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องทน และอะไรที่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่ควรจะทน
วันที่ลาออกนั่นไมได้บอกแม่ แม่ไปเมืองนอก ก็ตุ๊มๆต่อมๆเหมือนกันว่าแม่กลับมาจะว่ามั้ย แต่เราก็บอกน้าบอกพี่ชาย น้าบอกว่าคนใกล้ตัวที่เราต้องแคร์มีอยู่แค่ไม่กี่คน นอกนั้นเราไม่ต้องไปแคร์
แม่กลับมาตอนเช้า เราโทรหาแม่ แม่อึ้งๆไปเหมือนกัน ถามว่าทำไมใจร้อนจัง ทำไมไม่รอถึงสิ้นเดือน เราบอกว่าทนต่อไม่ได้จริงๆ แต่แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร หางานใหม่ เรื่องอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องทน
ตอนนี้ก็อยู่บ้านทำงาน freelance อะไรไปเรื่อย ก็ไม่เหงานะ สัมภาษณ์งานไป 5 ที่ ก็รอผลอยู่ ไม่รู้จะได้ซักที่มั้ย เฮ้อ ก็คิดว่าต้องได้ซักที่แหละ แต่ช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง
โพสต์ซะยาวเลย ไม่รู้จะเล่าที่ไหนดี ก็มาเล่าที่นี่แล้วกัน ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
[SIGPIC][/SIGPIC]
My Lovely Singh