ไม่แน่ใจว่าจะตั้งถูกห้องไหมคะ...ถ้าไม่ใช่รบกวนย้ายได้เลยนะคะ....
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ....
ช่วงนี้เห็นมีคนตั้งกระทู้ซื้อ-ขาย ผ้าพันคอ ชนิดผ้าไหมกันเยอะ...
เลยเก็บเอามาฝากกันแบบถูกต้องค่ะ...วิธีซัก - รีด เก็บ แบบ เราสามารถทำเองได้...
ง่าย ง่าย .....ลอง search หา ดู ได้ความดังนี้ค่ะ
การดูแลรักษาผ้าไหม
คนไทยจำนวนไม่น้อยยังมีความเข้าใจว่า ผ้าไหมนอกจากราคาแพงแล้วยังดูแลรักษายาก ม่าสามารถซักแบบธรรมดาได้ ต้องส่งไปร้านซักแห้ง ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง จึงไม่ค่อยนิยมใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ในความจริงแล้วผ้าไหมนั้นดูแลรักษาง่าย สามารถซักโดยวิธีธรรมดาได้ อย่างผ้าไหมที่ซื้อมาใหม่ควรจะนำไปแช่น้ำหรืออบไอน้ำ เพื่อให้เนื้อผ้ามีความอยู่ตัวก่อนที่จะนำไปตัด
เมื่อตัดมาเป็นชุดแล้ว เวลาซักก็ควรซักด้วยน้ำยาซักแห้งชนิดอ่อน หรือซักด้วยน้ำยาสำหรับซักผ้าไหมโดยเฉพาะ และควรซักด้วยมือ อย่าให้ผ้าไหมกองหรือพับติดกัน ขยี้และบิดผ้าเบาๆซึ่งจะทำให้ผ้าไหมไม่เสียทรงและยับง่าย ไม่ควรแช่ผ้าไหมไว้เป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะผ้าโทนสีเข้มๆ เมื่อซักเสร็จแล้วเวลาตากควรสลัดผ้าเพื่อให้ผ้าคลายตัว และนำออกไปตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี หรือมีแดดอ่อนๆ ควรหลีกเลี่ยงการตากผ้าไหมในที่มีแดดจัดๆ เพราะจะทำให้สีผ้าไหมซีดได้
มาถึงขั้นตอนการรีด ก่อนรีดให้ฉีดพรมน้ำยาสำหรับรีดผ้าไหมให้ทั่ว และรีดด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ความร้อนตามที่เตารีดแต่ละชนิดกำหนด อุณหภูมิที่เหมาะสมในการรีดผ้าไหม โดยทั่วไปจะอยู่ในระหว่าง 120-140 องศาเซลเซียส แต่สำหรับผ้าไหมที่พิมพ์ลายให้ลดความร้อนลงจากปกติ 1-2 ระดับ และควรมีผ้าฝ้ายหนาๆทับบนผ้าไหม เพื่อป้องกันการสัมผัสผ้าไหมกับเตารีดโดยตรง อันจะทำให้คุณสมบัติต่างๆของผ้าไหมสูญเสียไปได้
หลังจากสวมใส่ทุกครั้ง ให้ตรวจสอบสิ่งสกปรกที่ติดอยู่อย่างระมัดระวัง ควรนำไปแขวนผึ่งไว้ให้คงรูปเดิมในที่ๆอากาศถ่ายเทได้ดี ปราศจากฝุ่นละออง เมื่อซักและรีดเรียบร้อยแล้วก่อนเก็บต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ยับ ต้องแห้งและสะอาดอยู่เสมออย่าเก็บในที่มีความชื้นและต้องปราศจากแมลงหรือราที่จะทำอันตรายกับผ้าไหม หรืออาจเก็บใส่ถุงที่มีอุณหภูมิต่ำและสะอาด
เคล็ดลับสำหรับการดูแลผ้าไหม
ผ้าไหมยับ รีดไม่ยาก ถ้าผ้าไหมยับมากๆ ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติกนำไปแช่ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงนำมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่ายและเรียบยิ่งขึ้น คุณสมบัติพิเศษของผ้าไหม ผ้าไหมเป็นเส้นใยธรรมชาติที่แปลกกว่าเส้นใยชนิดอื่น คือ มีการปรับตัวได้ดีเวลาสวมใส่ ในฤดูหนาวถ้าสวมใส่แล้วจะอบอุ่น ในฤดูร้อนสวมใส่แล้วเย็นสบาย นอกจากนี้สิ่งสกปรกเช่น ฝุ่น คราบเหงื่อไคล จะไม่เกาะติดแน่นกับเนื้อผ้า ดังนั้นการซักผ้าไหมจึงไม่ต้องขยี้มาก
วิธีซัก ให้ใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกใส่ลงในน้ำ คนให้ผงซักฟอกละลายหรือน้ำยาซักผ้าเข้ากันดี นำผ้าไหมที่ใส่แล้วจุ่มลงในน้ำ ขยี้เบาๆตรงรอยเปื้อน บริเวณปกเสื้อ และบริเวณที่สกปรก สิ่งสกปรกต่างๆจะหลุดออกมา ส่ายผ้าไปมาแล้วบีบเบาๆ ไม่ควรบิดจนแห้ง บีบเบาๆ แล้วนำผ้าไหมไปล้างด้วยน้ำสะอาดส่ายไปมาเปลี่ยนน้ำจนหมดฟอง นำขึ้นตากบนไม้แขวน ไม่ควรบิดเพราะจะทำให้รีดยาก
รักษาผิวผ้าไหม การอาบน้ำยาผ้าไหม มีความสำคัญมากที่จะช่วยให้ผ้ามีคุณสมบัติพิเศษขึ้น เช่น ขจัดความสกปรกในผ้า เพิ่มความเงา ปรับให้ผ้านิ่ม ไม่ยับง่าย คงทนต่อการถูอันเป็นสาเหตุทำให้ผ้าขึ้นขนง่าย และยังป้องกันการเคลื่อนตัวของเส้นไหมในผ้าอีกด้วย
ปรับสมดุลให้ผ้าก่อนการตัดเย็บ ของผ้าขั้นแรก ให้จุ่มผ้าไหมลงในน้ำร้อนเพื่อไล่สีที่หลงเหลือ หรือสีที่ไม่สามารถจับติดในเนื้อผ้าไหมให้ออกไป นอกจากนี้ยังทำให้มีความงามเป็นประกายดีขึ้น หลังจากนั้นรีดผ้าไหมทางด้านหลัง (ด้านใน) ด้วยไฟอ่อนๆ โดยพ่นน้ำเพียงเล็กน้อยก่อนรีด พึงระลึกเสมอว่า ให้พ่นน้ำเพียงบางๆเท่านั้น อย่าถึงกับให้เปียก เพราะจะทำให้ผ้ามีรอยด่างเป็นจุดๆที่ไม่สวยงามได้ หลังจากนั้นจึงจัดเส้นลายผ้าให้ตรง แล้วจึงทำการตัดและเย็บด้วยเข็มและด้ายที่เหมาะสมกับคุณภาพ
Credit
แหล่งข้อมูล.........หนังสือผ้าไทย Cotton & Silk Vol 2
ค้นโดย Administrator KobFaPaSuay.com
3 July 07
ขอบคุณข้อมูลจากขอบฟ้าผ้าสวยค่ะ
http://kobfapasuay.igetweb.com/index.php?mo=3&art=27154
ขอบคุณ SBN ด้วยค่ะ