Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 6 of 6

Thread: ตัณหา และอุปาทาน ?

  1. #1
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2

    Lightbulb ตัณหา และอุปาทาน ?

    ตัณหา คือ อะไร ?
    ตัณหา แปลว่า ความอยาก อันได้แก่ ความอยากในอารมณ์ ๖ อย่าง

    ๑. รูปตัณหา ความอยากเห็นรูป

    ๒. สัททตัณหา ความอยากฟังเสียง

    ๓. คันธตัณหา ความอยากดมกลิ่น

    ๔. รสตัณหา ความอยากลิ้มรส

    ๕. โผฏฐัพพตัณหา ความอยากสัมผัสกับสิ่งสัมผัส

    ๖. ธัมมตัณหา ความอยากได้ธัมมารมณ์

    ตัณหาทั้ง ๖ อย่างนี้ เมื่อว่าโดยอาการ มี ๓ คือ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา

    ๑. กามตัณหา คือ ความอยากในกาม ได้แก่ อารมณ์ที่น่าใคร่และน่าติดใจ

    ๒. ภวตัณหา คือ ความอยากในอารมณ์ที่น่าใคร่ โดยประกอบไปด้วยภวทิฏฐิ หรือสัสสตทิฏฐิ อันได้แก่ ความอยากของคนที่เป็นสัสสตทิฏฐิ คือ เห็นว่าอารมณ์ หรือ คนและโลกนี้เป็นของเที่ยง เป็นของยั่งยืนเสมอไป

    ๓. วิภวตัณหา คือ ความอยากในอารมณ์ที่น่าใคร่ โดยประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ ที่เห็นว่า อารมณ์ของตน และโลกเป็นของสูญหมด

    อีกนัยหนึ่ง กามตัณหา คือ ความอยากในกามธาตุ หรือกามภพ ภวตัณหา คือ ความอยากในรูป ธาตุ อรูปธาตุ หรือ รูปภพ, อรูปภพ วิภวตัณหา คือ ความอยากโดยปฏิเสธภพทั้ง ๓

    อีกนัยหนึ่ง ซึ่งกล่าวโดยเกจิวาทะ ได้แก่ กามตัณหา ความอยากในกามธาตุ หรือ กามภพ, รูปตัณหา ความอยากในรูปธาตุ หรือรูปภพ อรูปตัณหา ความอยากในอรูปธาตุ หรือ อรูปภพ และความปฏิเสธในกามภพ รูปภพ อรูปภพ ประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ เรียกว่า นิโรธตัณหา (ความอยากที่ประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ)

    ตัณหาเมื่อว่าโดยพิสดาร ตัณหามีถึง ๑๐๘ ได้แก่ ตัณหา ๖ อย่างนั้น (โดยอารมณ์) เมื่อว่าโดยอาการมี ๓ คือ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา จึงเป็น ๑๘ ( ๖ x ๓ = ๑๘) เป็นตัณหาภายใน ๑๘ ตัณหาภายนอก ๑๘ จึงเป็น ๓๖ (๑๘ x ๒ = ๓๖) เป็นอดีต ๓๖ ปัจจุบัน ๓๖ อนาคต ๓๖ จึงเป็นตัณหา ๑๐๘ (๓๖ x ๓ = ๑๐๘)

    ตัณหาว่าโดยองค์ธรรม ได้แก่ โลภเจตสิก ซึ่งมีลักษณะเป็นเหตุแห่งทุกข์ มีหน้าที่ทำให้เพลิดเพลินในอารมณ์ มีความไม่รู้จักอิ่มเป็นผล มีเวทนาเป็นเหตุใกล้ให้เกิด

    ถ้าไม่มีเวทนา ตัณหาก็มีไม่ได้ เช่น สุขเวทนา ทำให้เกิดตัณหา เพราะผู้มีสุขจึงต้องการสุขยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกัน ทุกขเวทนาทำให้เกิดตัณหา เพราะผู้มีทุกข์จึงต้องการแสวงสุข บำบัดทุกข์ อุเบกขาเป็นความสงบภายใน คนจึงเข้าใจว่าเป็นสุข จึงต้องการสุขยิ่งๆ ขึ้นไป และตัณหานี้เองก็เป็นปัจจัยต่อให้อุปาทาน


    อุปาทาน คือ อะไร
    อุปาทาน แปลว่า ความยึดมั่นถือมั่น ๔ อย่าง คือ

    ๑. กามุปาทานํ ความยึดมั่นถือมั่น ในกามคุณอารมณ์ มีรูปารมณ์ เป็นต้น

    ๒. ทิฏฐุปาทานํ ความยึดมั่นถือมั่น ในความเห็นผิด เช่น เห็นว่า ทำบุญแล้วไม่มีผล ทำบาปแล้วไม่มีผล เป็นต้น

    ๓. สีลัพพัตตุปาทานํ ความยึดมั่นถือมั่น ข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด เช่น กินแบบสุนัข ปัสสาวะแบบโค

    ๔. อัตตวานุปาทานํ ความยึดมั่นถือมั่น อัตตวาทะ ยึดว่ามีอัตตาในขันธ์ ๕

    อุปาทานว่าโดยองค์ธรรม ได้แก่ โลภเจตสิกและทิฏฐิเจตสิก อุปาทานโดยสังเขป มี ๒ อย่าง คือ ยึดมั่นถือมั่นเพราะโลภะ ๑ ยึดมั่นถือมั่นเพราะทิฏฐิ ๑

    อุปาทาน มีการยึดอารมณ์เป็นลักษณะ มีหน้าที่ไม่ยอมปล่อยอารมณ์ มีความมักมากและเห็นผิดเป็นผล มีตัณหาเป็นเหตุใกล้ให้เกิด


    เพราะตัณหานี้เอง สัตว์โลกทั้งหลายจึงได้อุปาทานครอบครอง เมื่ออยากจึงยึดถ้าไม่อยากก็ไม่ยึด เมื่อหิวจึงกิน ถ้าไม่หิวก็ไม่กิน ตัณหาและอุปาทานเป็นพวก โลภะเหมือนกัน แต่ต่างกันคือ ตัณหาเป็นเหตุ อุปาทานเป็นผล ตัณหาเป็นความอยาก ความปรารถนาอารมณ์ที่ยังไม่ได้มาหรือยังมาไม่ถึง เป็นอนาคตอยู่ เช่น อยากมีบุตรสักคน เป็นอนาคตอยู่ แต่เมื่อไปตรวจแล้ว พบว่าท้อง อนาคตหายแล้ว เป็นอุปาทานว่าฉันท้อง อุปาทานจึงเป็นการยึดอารมณ์เมื่ออารมณ์นั้นมาปรากฏแล้ว

    ท่านเปรียบตัณหาว่าเหมือนอาการของขโมยที่เอื้อมมือไปควานหาของในที่มืด อุปาทานเหมือนอาการของขโมยที่เอามือจับของแล้วไม่ยอมปล่อย หรือ ความอยากอย่างอ่อน จัดเป็นตัณหา ความอยากอย่างแรงจัดเป็นกามุปาทาน ตัณหาตรงข้ามกับความปรารถนาน้อย อุปาทานตรงข้ามกับความสันโดษ และอุปาทานเป็นปัจจัยให้แก่ภพ



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    131
    แต่เราเป็นคน....ตัณหาย่อมบังเกิด....และอุปทานก็ตามมา...

    เราจะทำยังไง...กับตัณหา....ตัดมันทิ้งรึก็ไม่หมด.....

    ขอบคุณคุณprezzo มากนะคะ...ที่เอาความหมายดีๆมาฝาก

    อ่านแล้วก็ให้รีบปลง...และคิดตามว่าเออมันจริงแหะ...ตัณหาเกิดได้ทุกอย่าง
    " ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า คิดให้ดีก็จะรู้ว่า.....คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว "

  3. #3
    pepsi5510's Avatar
    pepsi5510 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    308
    ขอบคุณ คุณ PREZZO ที่นําสิ่งดีๆมานําเสนอครับ.
    กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
    ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.

    http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72

  4. #4
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    ขอบตุณมากๆจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

  5. #5
    xtrastrong's Avatar
    xtrastrong is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับ
    โอมเชื่อว่า ถ้าคนเรามีสติอยู่ตลอดเวลา
    สิ่งต่างๆในโลกนี้ ไม่มีอะไรมาทำเราได้ครับ

    แต่เมื่อคนเราขาดสติ ตัณหา จะครอบงำเรา
    ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
    ขอให้มีความทรงจำที่ดี ... ก็เพียงพอแล้ว
    อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
    และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้

    อยากให้คืนที่โหดร้ายนี้ ผ่านไปเร็วๆ

  6. #6
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ก็เหมือนกับความรักนั้นแหละ
    รู้ว่าเจ็บ แต่ก็อยากจะรัก

    ไม่มีเกิดก็ไม่มีตาย
    ไม่อยากตายก็อย่ามาเกิด

    ไม่อยากเจ็บ ก็อย่ารักไงคะ

    ขอบคุณน้องป๊อปสำหรับบทความธรรมะดีๆจ้า
    อนุโมทนา สาธุค่ะ _/\_
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •