Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 12

Thread: รักแท้ จริงหรือ................

Hybrid View

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking รักแท้ จริงหรือ................

    ธรรมใกล้ตัว : “รักแท้” หรือแค่.."วงจรอุบาทว์แห่งการจองเวร" ไม่สิ้นสุด


    พี่น้องค่ะ อ่านแล้ว “โดน” ใจอย่างแรงค่ะ ความรักที่แสนดี แสนสวยงามในความรู้สึกของเรา
    จนเราใฝ่ฝัน ค้นหา อยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น อยากเห็นคนๆนั้น
    รอเวลาที่เราจะได้พบกัน รักกัน สุข สมหวังแล้วก็กลายเป็นรักแท้ชั่วนิรันดร์
    แบบความตายก็มิอาจพรากรักของเราไปได้(ว้าว !) เคยไหมค่ะ
    ความรู้สึกที่อยากมีความรัก อยากเป็นเจ้าของความรักแบบนี้
    แล้วเราก็ตามหาใฝ่หาคนๆนั้นทีละคนหรือทีละหลายคน (ฮึๆ)
    เริ่มรู้จัก เรียนรู้ เข้าใจ สานสัมพันธ์รัก คิดถึง ห่วงใย สุขแล้วก็ทุกข์ แล้วก็สุข แล้วก็ทุกข์
    สลับกันอยู่อย่างนี้ สุดท้ายทนกันไปไม่ไหวก็ “เลิก” ทำใจกับอาการ “อกหัก” สักพัก
    แล้วก็เริ่มต้นค้นหากันใหม่ คนใหม่กับความรักใหม่ ทั้งๆที่แท้ก็เป็นเพียงแค่ ความหลงในวัฏฏสงสาร
    ความยึดมั่น ถือมั่น “ทุกข์” ที่มาในรูป วงจรอุบาทว์แห่งการจองเวรไม่สิ้นสุด (เฮ้อ !)
    อยากรู้ไหมค่ะว่า เป็นงั้นได้ไง งานเข้าแล้วค่ะพี่น้องค่ะ ต้องอ่านค่ะ...งานนี้



    นิตยสารธรรมะใกล้ตัวฉบับที่ ๔๔ ประจำวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๑
    จากใจบก.ใกล้ตัว

    เคยอ่านคำคมเก่าของปราชญ์ไร้นามอยู่ท่านหนึ่ง เขียนไว้นานแล้วค่ะว่า

    ใครจะทำร้ายคุณนั้น ง่ายนิดเดียว
    เพียงแต่เหยียบดอกกุหลาบที่คุณเด็ดมาเท่านั้น
    นั่นเพราะคุณ “โง่” เอง ที่เอาหัวใจไปฝากไว้กับดอกกุหลาบ

    อ่านแล้วก็นึกถึงเพลงในตลาดที่เราได้ยินกันจนชินหู ทำนองที่ว่า
    เธอคือทุกสิ่ง เธอคือทุกอย่าง เธอคือลมหายใจ ยูอาร์มายฮาร์ท ยูอาร์มายโซล ฯลฯ
    ในความวาดฝันของคนหนุ่มสาว การเทิดทูนใจทั้งใจให้คนรัก ย่อมฟังดูซาบซึ้งยิ่งใหญ่
    แต่ความจริงก็คือ เมื่อไหร่ที่เริ่มเอาใจไปพึ่งพิงไว้กับคนอื่น หายใจด้วยการเติมเต็มจากคนอื่น
    โดยที่ลืมไปว่า ใครอื่นคนนั้น ก็ตกอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ
    แบบที่ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันว่า "วันหนึ่ง ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป"
    ถึงวันนั้น ใจที่รู้สึก "ขาด" ย่อมดิ้นรนไม่ต่างอะไรกับคนป่วยที่ถูกถอดเครื่องช่วยหายใจเลย

    ความสุขที่ค่อย ๆ เติมเต็มด้วยการอิงอาศัยคนอื่นเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง
    จึงไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลาของความทุกข์ที่ค่อย ๆ นับถอยหลังรอวันปะทุ
    ยิ่งเข้าไปผูกพันเหนียวแน่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มแรงระเบิดในยามสุดท้ายให้แรงขึ้นเท่านั้น

    คำกล่าวของปราชญ์ข้างต้น จึงอาจจะไม่ผิดอะไรนัก
    หากจะใช้คำว่า "โง่" กับการที่ใครจะเอาใจไปฝากไว้กับดอกกุหลาบ
    เพราะแท้จริงโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารสาระให้ถือไว้เป็น "ของของเรา" แม้สักอย่างเดียว
    แม้มี ก็ไม่ได้มีจริง ได้มาเพียงเพื่อสูญเสีย มีกันเพียงเพื่อพลัดพราก ไม่จากเป็น ก็จากตาย
    อย่างที่คุณดังตฤณเคยเปรยไว้ครั้งหนึ่งว่า

    "มนุษย์เราถูกหลอกให้หลงติด
    หลงร้องไห้คร่ำครวญ กับสิ่งที่วันหนึ่งก็ต้องทิ้งไปอยู่ดี
    ไม่ว่าจะได้อะไรมาแค่ไหนก็เสียไปแค่นั้น
    หลงทำบาปกรรมติดตัวไปภพหน้ากัน ก็เพียงเพราะยังติด ยังไม่รู้ด้วยกันทั้งสิ้น"

    "ตัวผู้รัก ผู้ถูกรัก ผู้สมหวัง ผู้ผิดหวัง ปรากฏมีสาระอยู่แต่ในจิตอันปรุงแต่ง
    เสกปั้นสรรค์ไป จูงให้เราหลงไป เพ้อไป ปราศจากแก่นสาร…"
    แต่ในความเป็นจริง เรามักไม่ค่อยเห็นใครลงใจยอมรับความจริงนี้กันสักเท่าใดนัก
    เรายังคงเห็นคู่รักด่าทอหึงหวง ยังเห็นข่าวคนฆ่าตัวตายประชดรัก
    หึงโหดตัดอวัยวะเจ้าปัญหา หรือกระทั่งทำร้ายคนที่เราเคยเรียกว่าคนรักด้วยซ้ำไป

    หลายครั้ง ราคะ และ โทสะ จึงเป็นเสมือนสองด้านของเหรียญเดียวกัน
    เพราะความรักที่มีแต่ความยึดไว้ หวงไว้ มีแต่ความคับแคบ ติดใคร่ในคนรักของตัว
    เมื่อคนรักเป็นอื่น หรือไม่เป็นไปอย่างใจ ย่อมพร้อมจะพลิกไปเป็นโทสะคิดแค้นอย่างง่ายดาย

    ชีวิตที่ต้องลงเอยกับ "คู่เวร" หรือเจอแต่คนไม่จริงใจ ประเภทหันไปคบใครก็มีแต่เสียน้ำตา
    ที่จริงก็นับเป็นร่องรอยแห่งผลจากวิบากเก่า ที่ตัวตนเดิม ๆ ได้เคยทำไว้กับคนอื่นอยู่แล้ว
    เคยให้ความหวังใครเล่น ๆ เคยทำร้ายจิตใจใครอย่างไม่ใยดี เคยมีใครทีละหลาย ๆ คน
    กฎแห่งกรรมวิบากก็จะชักนำคนที่เหมาะสม มาให้ผลเป็นความรู้สึกทางใจแบบเดียวกัน

    หากเข้าใจและยอมรับกฎแห่งความจริงนี้ได้ คงไม่มีใครอยากต่อวงจรแห่งการคิดแค้นก่อเวร
    แต่คงคิดหันเหไปสร้างเหตุใหม่ ในแบบที่จะสร้างความสุขความสว่างให้กับชีวิตแทนเสียได้

    มีตัวละครตัวหนึ่งในนวนิยายของคุณดังตฤณ เรื่อง กรรมพยากรณ์ ตอนเลือกเกิดใหม่
    ที่เป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้หลายคนได้เป็นอย่างดี
    แม้หญิงสาวจะถูกเอาเปรียบและย่ำยีราวกับเห็นเธอเป็นของเล่น เป็นเพียงวัตถุบำเรอกาม
    และต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะได้พบจากชายคนที่เคยรู้สึกรัก
    แต่แทนความคิดพยาบาท เธอกลับเห็นตัวเองอยู่ภายใต้วงจรอุบาทว์แห่งการจองเวรไม่สิ้นสุด
    ที่ผลัดกันมาเอาคืน ในหน้ากากของความรัก เธอยอมรับ และเงยหน้าขึ้นรับกรรม
    และใช้ชาติที่มีปัญญาศรัทธากรรมวิบากนี้เอง ให้อภัย ในสิ่งที่ใครอาจทำกับเธอไว้ทั้งหมด

    ใครที่มีทุกข์จากความรัก และยังไม่เคยอ่าน ขอแนะนำให้ลองไปอ่านกันดูนะคะ
    ตัวละครบางตัวนั้น สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนอ่านบางคนมาได้แล้วในชีวิตจริง
    และหลายคนยอมรับความจริง คลายความดิ้นรนลงได้ ก็จากความเข้าใจเรื่องกรรมวิบากนี้เอง
    (อ่านได้ฟรีที่ www.dungtrin.com ค่ะ)

    แต่เมื่อถูกหลอกให้หลงติดกับเข้าให้แล้ว เจ็บปวดทุกข์ใจกับมันไปแล้ว
    จะให้ทำอย่างไรเล่า ในเมื่อความรัก ความผูกพัน ไม่ใช่ของถอดถอนกันได้ข้ามคืน?

    ตำราแก้ช้ำใจวันนี้ก็มีคนเขียนกันออกมาอยู่หลายตำรา ได้ผลลดหลั่นต่าง ๆ กันไป
    แต่ถ้าอยากได้วิธีที่ ถอนรากถอนโคนความทุกข์ แบบที่ชะงัดและได้ผลยั่งยืนที่สุด
    ลองปฏิบัติดูให้รู้ด้วยตัวเองเถิดค่ะว่า ไม่มีวิธีไหนดีไปกว่า การหัดเจริญสติ
    "ตามรู้" ให้ทันสิ่งที่เกิดขึ้นในกายในใจของเรา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกแล้ว

    เวลาที่ทุกข์หนัก ๆ อกหัก ช้ำใจ จิตยามนั้นก็ราวกับจะไม่อยากคิดถึงเรื่องอะไร
    นอกจากจะคิด ๆ ๆ วนอยู่แต่ภาพจากความทรงจำเดิม ๆ กับความรู้สึกนานาชนิด
    ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาแย็บกันคนละหมัดสองหมัดให้จิตเมาเล่นอย่างนั้นทั้งวัน
    แต่นี่ล่ะค่ะ จิตที่มีแต่ความเคลื่อนไหวหลากหลายทั้งวัน อุปกรณ์เจริญสติชั้นดีเลยทีเดียว

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ท่านเพิ่งเทศน์ให้โยมคนหนึ่งฟังเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองค่ะว่า
    "อย่างบางคนอกหักนะ อกหักแล้วคิดถึงแฟนทั้งวันเลย
    ทั้งรัก - ทั้งแค้น - ทั้งห่วงใย - ทั้งเสียดาย ใจหมุนจี๋ ๆ อยู่อย่างนี้ทั้งวันไปเรื่อย ๆ

    แต่ห้ามไม่ให้คิด ไม่ได้นะ

    จิตมันมีหน้าที่คิด มันก็จะคิดทั้งวันทั้งคืนอย่างนั้น ห้ามไม่ได้ ให้เรา รู้ทัน ไปว่าจิตฟุ้งซ่าน
    พอเราคิดไปแล้วเราไม่ชอบ เราไม่มีความสุขเลย ให้ รู้ทัน ว่าใจมันมีความทุกข์เกิดขึ้น
    แล้วก็ รู้ทัน ว่าใจมันไม่ชอบเลยที่มันคิดอย่างนี้ … ให้ "รู้ทัน" ไปเรื่อย ๆ

    ฝึกสติไปจนชำนิชำนาญ ปัญญาเราแก่รอบขึ้นมา
    เราจะรู้เลยว่า เรื่องนี้ไร้สาระที่จะคิด เรื่องนี้มีสาระที่จะคิด
    อันไหนมีสาระที่จะคิด เราก็ตั้งอกตั้งใจที่จะคิดไป
    อันไหนไร้สาระเป็นของฟุ้งซ่าน พอเรา รู้ทัน ว่าจิตฟุ้งซ่านปั๊บ มันจะหายไป
    แต่มันจะหายไปชั่วขณะ เดี๋ยวมันจะมาคิดใหม่ เราก็ตาม รู้ ไปอีก

    จนกระทั่งชำนาญมาก ๆ จิตจะมีปัญญารู้เลยว่า
    ถ้าหลงไปคิดอย่างนี้ก็ทุกข์เปล่า ๆ ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย
    จิตมีปัญญาฉลาด เห็นความทุกข์เกิดขึ้น จิตก็ทิ้งมันไปเอง มันก็ไม่เอาแล้วเรื่องนี้"

    คิดเอาก็ไม่ได้ด้วยนะคะ ถ้าไม่เห็นไปถึงระดับจิตระดับใจ ก็ยากที่จะเห็นมันไร้สาระได้จริง
    ท่านสรุปง่าย ๆ ให้ฟังว่า"ให้เราดูความรู้สึกของเราไปเรื่อย ๆ
    เราไม่ได้ตั้งเป้าของการปฏิบัติ ว่าจะปฏิบัติเพื่อเลิกคิด
    แต่เราจะปฏิบัติไปจนให้เห็นเลย
    ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรานี้เป็นของชั่วคราว เหมือนภาพลวงตาเท่านั้น"

    "วันหนึ่ง ปัญญามัน 'ปิ๊ง' ขึ้นมาว่า เอ๊... นี่มันทุกข์ทั้งนั้นเลยนี่
    มันจะสลัดเปรี้ยงออกไปเลย ขาดสะบั้นตรงนั้นเลย
    หมดรักหมดแค้นตรงนั้นเลย เพราะฉะนั้น ต้องดูไปเรื่อย จนมันพอ"

    ความรัก ความหลง ความทุกข์ ความฝัน
    เหมือนกันตรงที่เป็นของชั่วคราว เหมือนมีแต่ก็ไม่ได้มีอยู่จริงเหมือนภาพลวงตานี่เอง

    หลวงพ่อท่านว่า
    "ในความเป็นจริงแล้ว คนในโลกอยู่กับความไม่มีสาระทั้งนั้น
    เรื่องที่เรานึกว่ามีสาระแก่นสารมากมายนะ เอาเข้าจริง ก็ไร้สาระ
    สิ่งที่เป็นสาระแก่นสารจริง ๆ
    ต้องเป็นประโยชน์ที่ทำให้เราพ้นทุกข์ได้จริง
    แต่ว่าเราไปคลุกคลีอยู่กับสิ่งซึ่งทำให้เราทุกข์มากขึ้น
    ไม่ได้ทำให้เราพ้นทุกข์จริง นั่นเรียกว่าสิ่งไม่มีสาระ"

    อยากพ้นไปจากทุกข์ ก็ต้องถามตัวเองนะคะว่า
    วันนี้เราทำเหตุแห่งสุข หรือเหตุแห่งทุกข์มากกว่ากัน

    บางที ความสุขก็ไม่ได้เกิดจากการเอาชนะใจใครที่เราปรารถนาได้ทั้งโลก
    แต่การเอาชนะใจตัวเอง เอาชนะความทุกข์ได้ เมื่อใจไม่สมปรารถนาต่างหาก
    ที่จะทำให้เราได้ลิ้มรสสุขจากความเป็นอิสระพ้นจากพันธนาการทั้งปวงลงได้

    ขอขอบคุณและอนุโมทนากับบทความดี ๆ จาก http://gotoknow.org/blog/storydhamma/219752
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    titled's Avatar
    titled is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    54
    ขอบคุณนะครับ


    สำหรับเรื่องดีๆ
    ^^Love city glow *deLaCour

  3. #3
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    ขอบคุณมากๆจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

  4. #4
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    รักสิ่งใด ก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น....



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  5. #5
    story2lady's Avatar
    story2lady is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Location
    Smile Land
    Posts
    12
    Quote Originally Posted by PREZZO View Post
    รักสิ่งใด ก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น....
    โดนสุดๆเลยคะ คำนี้ สั้นๆแต่ได้ใจความจริงๆ
    ✿✿♥♥ Don't worry about people from the past because there's a reason they aren't in your future... ♥♥✿✿

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากๆนะคะ

  7. #7
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    19
    ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์
    [SIGPIC][/SIGPIC]

  8. #8
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    เอ้า! กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักไปซะแล้วววว!

    สาธุค่ะน้องhut
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  9. #9
    ladykaty's Avatar
    ladykaty is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    13
    อ่านไป ได้คิดตามไป ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์กับใจดีมากค่ะ
    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ hellokaty@windowslive.com
    หรือ PM เช็คตลอดนะคะ

  10. #10
    Join Date
    Apr 2010
    Location
    บางบัวทอง นนทบุรี
    Posts
    8
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับสิ่งดีๆ ที่เอามาฝากกัน
    .....รวยได้ ....โดยไม่ต้องโกง....

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Similar Threads

  1. ผิวใสปิ๊งด้วยBB CREAM จริงหรือ?
    By jaew_waw in forum VENUS; Beauty, Life, Love, Family ครอบครัว ความรัก ความงาม
    Replies: 1
    Last Post: 12-28-2009, 09:55 PM
  2. ตัดกรรมได้... จริงหรือ ?
    By PREZZO in forum WORLD; Around you เรื่องราวส่วนรวมรอบตัว
    Replies: 12
    Last Post: 10-11-2009, 11:29 AM
  3. รักแท้...........มีอยู่จริง
    By mol199 in forum VENUS; Beauty, Life, Love, Family ครอบครัว ความรัก ความงาม
    Replies: 22
    Last Post: 02-19-2009, 11:44 AM
  4. จริงหรือ ป่าวค่ะ ที่แค่คลิ๊ก ก็ได้ตังค์ อ่ะค่ะ
    By Supermink in forum MARS; Study, Work, Sport, Travel ความก้าวหน้า กีฬา ท่องเที่ยว
    Replies: 10
    Last Post: 08-09-2008, 05:23 AM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •