Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 5 of 5

Thread: ระวัง "คาเฟอีน" ในขนมเด็ก

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking ระวัง "คาเฟอีน" ในขนมเด็ก

    ชี้!! ออกฤทธิ์ต่อหลายระบบร่างกาย เหตุสุขภาพเยาวชนไทยเสื่อม





    “คาเฟอีน” คือ สารที่ได้จากธรรมชาติ พบได้ในพืชกว่า 60 ชนิด
    แต่ที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ ชา กาแฟ ผลโกโก้ ผลโคล่า
    (ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำอัดลม มีสีน้ำตาลดำ)
    คนส่วนใหญ่ที่กินอาหาร ขนม เครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมด้วยชา
    กาแฟ ผงโกโก้ อาจไม่ทราบหรือสนใจว่ามีสารคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย

    โดยเฉพาะในปัจจุบันจะเห็นพฤติกรรมการกินของเด็กไทยจะเปลี่ยนไป
    จากที่เคยกินขนมไทยๆ ที่มีประโยชน์ เช่น ขนมกล้วย ขนมถั่วแปบ
    กลับเปลี่ยนเป็นช็อกโกแลต เค้ก คุกกี้ ไอศกรีม
    ซึ่งจะมีการนำวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคาเฟอีนผสมลงไป
    เช่น เค้กรสกาแฟ รสช็อกโกแลต เป็นต้น

    อาหารขนม หรือเครื่องดื่มที่กล่าวมาเหล่านั้น จะเป็นของโปรดของเด็กๆ สัก 2 - 3 อย่าง
    หรือทั้งหมดก็เป็นได้ และถ้าของโปรดเหล่านั้นมีคาเฟอีนผสมอยู่ ก็ต้องมีผลเสียต่อสุขภาพของเด็กๆ อย่างแน่นอน

    “คาเฟอีน” เป็นสารที่สามารถออกฤทธิ์ต่อหลายระบบของร่างกายที่สำคัญ คือ


    ระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้ประสาทตื่นตัว รู้สึกสดชื่น หายอ่อนเพลียได้ชั่วขณะหนึ่ง
    แต่ถ้าได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่สูงขึ้น (200-500 มิลลิกรัม/ครั้ง)
    จะมีผลทำให้ปวดศีรษะ เครียด มือสั่น นอนไม่หลับ กระวนกระวาย



    ระบบการไหลเวียนเลือด ทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย 5-10 มิลลิเมตรปรอท
    แต่ถ้าได้รับคาเฟอีนบ่อยๆ อาจไม่มีผลต่อระบบการไหลเวียนเลือด
    เพราะจะเกิดการทนต่อฤทธิ์ของคาเฟอีนมากขึ้น แต่ถ้าได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่สูงขึ้น
    จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ปัสสาวะบ่อยขึ้น

    ระบบทางเดินอาหาร ทำให้มีการหลั่งของกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น

    เมื่อได้ทราบถึงผลเสียของคาเฟอีนต่อสุขภาพกันแล้ว ลองกลับไปดูของโปรดของเด็กๆ
    ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม และเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีการเติม ชา กาแฟ ผงโกโก้ลงไป
    หรือการราดด้านหน้าด้วยช็อกโกแลตว่า ถ้าเด็กๆ กินอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มเหล่านั้น
    จะได้รับคาเฟอีนเข้าไปมากน้อยเพียงใด

    ผู้วิจัยได้สำรวจการกินขนมชนิดต่างๆ ในเด็กตั้งแต่อายุ 6 - 17 ปี จำนวน 500 คน
    ในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงอายุ 6 - 11 ปี แยกเป็นชายและหญิงอย่างละ 125 คน
    และในช่วงอายุ 12 - 17ปี แยกเป็นชายหญิงอย่างละ 125 คนเช่นกัน

    โดยได้สัมภาษณ์ชนิดของขนมที่มีการปรุงแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีนแบ่งเป็น กลุ่มๆ
    ดังนี้ คือ เวเฟอร์ คุกกี้ ช็อกโกแลต ลูกอม ไอศกรีม เค้ก และอาหารเช้าที่ผลิตจากธัญพืช
    การกินขนมที่มีคาเฟอีนในช่วงอายุ 6 - 11 ปี อยู่ในช่วง 133 - 393 กรัมต่อวัน พบว่า


    เด็กอายุ 7 ขวบ มีการกินขนมชนิดต่างๆ ในปริมาณที่มากที่สุด รวม 393 กรัมต่อวัน
    ะทำให้ได้รับคาเฟอีน 60.8 มิลลิกรัมต่อวัน (รวมขนมทุกชนิด)
    และพบว่า ชนิดของขนมที่นิยมกินมากที่สุดจะเป็น เวเฟอร์ รองลงไปจะเป็นไอศกรีมและช็อกโกแลต

    เด็กอายุ 8 ขวบ ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิด 32.6 มิลลิกรัมต่อวัน พบว่า ชนิดของขนมที่นิยมกินมากที่สุด คือ ลูกกวาด รองลงไปจะเป็นเวเฟอร์และช็อกโกแลต

    เด็กอายุ 9 ขวบ ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิด 28.8 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่นิยมกินมากที่สุด คือ ไอศกรีม ลูกกวาด และคุกกี้

    เด็กอายุ 10 ปี ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิด 16.4 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่นิยมกินมากที่สุด คือ ไอศกรีม ช็อกโกแลต และคุกกี้

    เด็ก อายุ 11 ปี ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิดรวมกันเป็น 20.4 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่นิยมกินมากที่สุดจะเป็น ช็อกโกแลต ไอศกรีม และเวเฟอร์






    การกินขนมที่มีคาเฟอีนในช่วงอายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 119-209 กรัมต่อวัน และพบว่า ขนมที่เด็กในช่วงอายุนี้นิยมกิน คือ ไอศกรีม

    เด็ก อายุ 12 ปี ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิด 23 มิลลิกรัมต่อกรัม โดยที่ขนมที่นิยมกินมากที่สุดจะเป็น ลูกกวาด อาหารเช้าที่ผลิตจากธัญพืช และคุกกี้

    เด็กอายุ 13 ปี ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิดเป็น 14.9 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่นิยมกินมากที่สุด คือ ช็อกโกแลต ไอศกรีม และเวเฟอร์

    เด็กอายุ14 ปี ได้รับคาเฟอีนรวมจากขนมทุกชนิด 27.5 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่ชอบกินมากที่สุด คือ ไอศกรีม ลูกกวาด และช็อกโกแลต

    เด็ก อายุ 15 ปี ได้รับคาเฟอีนจากขนมต่างๆ รวมกันเป็น 18 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่ชอบกินมากที่สุด คือ เวเฟอร์และคุกกี้ ไอศกรีมและลูกกวาด

    เด็ก อายุ 16 ปี ได้รับคาเฟอีนจากขนมต่างๆ รวมกันเป็น 10.2 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่ชอบกินมากที่สุด อาหารเช้าที่ผลิตจากธัญพืช ช็อกโกแลต และคุกกี้

    เด็กอายุ 17 ปี ได้รับคาเฟอีนจากขนมต่างๆ รวมกันเป็น 14.9 มิลลิกรัมต่อวัน ขนมที่ชอบกินมากที่สุด คือ เค้ก คุกกี้ และช็อกโกแลต




    มีรายงานว่า ขนาดของคาเฟอีนที่ทำให้เสียชีวิตได้ในเด็กเล็กประมาณ 100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
    หมายความว่า ถ้าเด็กหนัก 10 กิโลกรัม ปริมาณคาเฟอีนที่จะทำให้เสียชีวิต คือ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก

    ในทางปฏิบัติจริงคงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าดูว่าการได้รับคาเฟอีนของเด็กอายุต่างๆ
    ในช่วง 6 - 17 ปี นั้นจะพบว่า การได้รับคาเฟอีนจากขนมกลุ่มต่างๆ ที่ทำการศึกษาในครั้งนี้
    แม้ว่าจะคิดว่าเด็กกินขนมทุกอย่าง (ยังไม่รวมน้ำอัดลมสีน้ำตาลดำ และนมรสกาแฟหรือช็อกโกแลต)
    การได้รับคาเฟอีนก็ยังไม่มากจนทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

    แม้ว่าคาเฟอีนไม่ได้จัดเป็นสารเสพติด แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นว่า
    ผู้กินอาจติดในลักษณะของการกินจนเป็นนิสัย แต่ขนมที่ได้ทำการศึกษาวิจัยนั้นเป็นขนมที่มีทั้งไขมันและน้ำตาลสูง
    ไม่ว่าจะเป็นเค้ก คุกกี้ ไอศกรีม ลูกกวาด เวเฟอร์ และช็อกโกแลต

    และหากเด็กได้รับปริมาณน้ำตาลและไขมันที่สูงบ่อยๆ และกินนอกเวลาอาหาร ก็จะทำให้เด็กอิ่มและไม่อยากทานอาหารหลัก
    เด็กก็จะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และมีสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม
    ก่อให้เกิดปัญหาโรคอ้วนตามมาได้ จึงเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองควรจะตระหนักและให้ความใส่ใจบุตรหลานของท่านใน เรื่องการกินที่ไม่เหมาะสมด้วย

    ที่มา วิชาการ.คอม
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    จริงเลยค่ะ ลูกสาวชอบทานขนมมากกกก!
    ไม่ค่อยทานข้าว ผอมมาก เหมือนเด็กเอธิโอเปีย
    อีกคนทานอาหารก็เยอะ ทานขนมก็เยอะ คนนีี้อ้วนไปเลย
    ผลไม้ไม่ค่อยได้ทานเพราะทานแต่ขนม สังคมมันเปลี่ยนไป
    โฆษณาชวนเชื่อเยอะ อยู่บ้านแม่ไม่ซื้อให้ทาน
    พอไปโรงเรียน ก็ไปซื้อที่โรงเรียน โรงเรียนก็ขายขนมไม่ดีเยอะเหมือนกัน
    เดี๋ยวนี้คนเราเห็นแก่ได้กันเยอะ ไม่ค่อยห่วงสุขภาพของเด็กเลย
    ขอบคุณน้องhutท่ี่นำข้อมูลดีๆมาแบ่งกันจ้า
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  3. #3
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    ขอบคุณข้อมูลดีๆจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

  4. #4
    Jellyfish's Avatar
    Jellyfish is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    5
    ขอบคุณที่นำข้อมูลมาแบ่งปันกันคะ ส่วนตัวทราบแค่ว่าให้เด็กกินขนมตอนเย็นเนี่ย เด็กจะไฮเปอร์ไม่ยอมหลับยอมนอน มาอ่านแล้วก็เข้าใจมากขึ้นคะ (ตอนแรกคิดว่าผลจากน้ำตาลอย่างเดียว) ขอบคุณมากนะคะ
    Mangkaprun
    Wish you all the best ปีใหม่นี้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ มีความสุขกันทุกท่านนะคะ

  5. #5
    Nakderntang's Avatar
    Nakderntang is offline Trusted Member
    Join Date
    May 2010
    Location
    Usa
    Posts
    721
    คราวหน้าต้องระวัง
    ถ้าต้องซื้อขนมให้เด็ก ๆ ทาน
    ไม่ใช่สนใจแค่รสชาติที่อร่อย

    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่มาแบ่งปัน

Similar Threads

  1. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 02:06 PM
  2. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 01:58 PM
  3. Replies: 2
    Last Post: 05-04-2021, 02:04 PM
  4. Replies: 1
    Last Post: 03-29-2021, 04:38 PM
  5. Replies: 1
    Last Post: 03-28-2021, 10:35 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •