สิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า "แสงทิพย์" นั้น จริงๆ แล้วในทางพระพุทธศาสนาท่านเรียกว่า "โอภาส"

ซึ่งเป็น 1 .ในวิปัสสนูปกิเลส หรือแปลอีกทีได้ว่าอุปกิเลสแห่งวิปัสสนา

วิปัสสนูปกิเลส คือ สภาพน่าชื่นชม แต่ที่แท้เป็นโทษ
เป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งวิปัสสนาซึ่งเกิดแก่ผู้ได้วิปัสสนาอ่อนๆ ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว จึงไม่ดำเนินก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ

วิปัสสนูปกิเลสมี 10 อย่างดังต่อไปนี้

1. โอภาส แสงสว่าง
2. ปีติ ความอิ่มใจ
3. ญาณ ความรู้
4. ปัสสัทธิ ความสงบกายและจิต
5. สุข ความสบายกาย สบายจิต
6. อธิโมกข์ ความน้อมใจเชื่อ
7. ปัคคาหะ ความเพียรที่พอดี
8. อุปัฏฐาน สติชัด
9. อุเบกขา ความวางจิตเป็นกลาง
10. นิกันติ ความพอใจ

ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

พระศาสดาเคยตรัสไว้ว่า "ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง" พระดำรัสนี้บอกไว้ชัดเจนว่า ใครอยากจะสำเร็จพระอรหัตผลต้องปฏิบัติเอง
การตรัสรู้ธรรมไม่ใช่ของง่าย ดังนั้นถ้าผู้ใดไม่ได้บำเพ็ญเพียรบารมีมามากพอ การจะหวังพระนิพพานนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

บางเวปไซต์เผยแพร่ความเชื่อที่ผิดๆ ออกมาสู่สาธารณะ
ดังนั้นการจะเชื่อสิ่งใด ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่เชื่อถือได้คอยชี้นำ จะเป็นอันตรายกับผู้ไม่เข้าใจการปฏิบัติภาวนาอย่างจริงจัง

ขออภัยคุณ pepsi5510 ถ้าทำให้ไม่พอใจในการเผยแพร่ข้อมูลนี้ เพียงแต่ผมไม่อยากให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการปฏิบัติภาวนา เชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า