เติ้ลว่าปัญหานี้เกิดกับทุกๆครอบครัวนะครับ เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนมากๆ
อาจจะเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆทั้งงานและครอบครัวสะสมกัน แล้วยิ่งสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ย่อมมีความเครียดสะสม เวลาคุยกับเพื่อนเค้าเลยรู้สึกสบายใจ ^^
ครอบครัวพี่สาวเติ้ลก็เคยเป็นแบบนี้ครับ พี่สาวเครียดมากๆ
เพราะตอนแรกพี่สาวคิดว่าแฟนไปมีคนอื่น แต่จริงๆมาจากหลายๆอย่าง
คือก่อนแต่งงาน ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ยังไม่รู้ตัวตนจริงๆของกันและกัน
ก่อนแต่งงานพี่สาวเป็นคนร่าเริง อารมย์ดี ชอบแต่งตัวชอบดูหนัง แต่หลังแต่งงาน
พี่สาวอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีความรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องแต่งตัว ปล่อยตัวให้โทรม
แฟนชวนไปไหนก็ไม่ค่อยไปเพราะติดดูหนังเกาหลีก็ปกติว่างจัดไม่ได้ทำงาน
และแถมพี่สาวไม่ได้เจอเพื่อนไม่ได้เมาท์เลยเบื่อ แถมยังกดดันเรื่องมีลูก
ผลปรากฎว่าอารมย์เลยแปรปรวนขึ้นลงแบบไม่รู้ตัว ทำให้แฟนค่อยๆสะสมและไม่อยากคุยด้วย
ตอนหลังเลยเปิดอกคุยกัน ว่ามีคนใหม่หรือยังไง สาเหตุมาจากด้านบน พอคุยกันก็ดีขึ้น
หลังจากนั้นสักพักคุณแม่คิดว่าน่าจะไปหาจิตแพทย์เพื่อระบายเปิดอก (ปกติฟรั่งเค้านิยมกัน )
จนจูนหากันได้อีกครั้ง แล้วหลังไม่นานพี่สาวก็ท้อง เติ้ลไม่รู้ว่าแต่ละกรณีจะเหมือนกันมั้ย
แต่เติ้ลแอบหวังว่าสิ่งที่เติ้ลเอามาเล่าอาจจะเป็นส่วนเล็กๆที่จะทำให้มีกำลังใจมากขึ้นนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ปรับความเข้าใจกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิม^^
อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆ เราอาจจะลองทำหน้าที่ให้ดีขึ้น (อันนี้คุณแม่และคุณหมอแนะนำพี่สาว)
เช่น ก่อนสามีไปทำงานอาจจะมีการหอมแก้มบ้าง ใจเย็นๆพูดจาเพราะๆ เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้
ก่อนนอนอาจจะมีการนวดเท้า นวดไหล่ ซื้อเสื้อผ้าให้เพื่อเอาใจ ชวนสามีไปดูหนัง กลับมาแต่งตัวสวยๆ
สามีกลับมาบ้านเตรียมน้ำส้มเย็นๆไว้เอาใจ ลองทำเมนูโปรด ทำในสิ่งที่อาจจะไม่เคยทำ
บางครั้งอาจจะต้องยอมบ้างเพื่อประครองชีวิตคู่ เพราะยังไงเราก็แต่งงานกับเค้าแล้ว
ลองทำดูก็ไม่เสียหลายนะครับ
^^Love city glow *deLaCour