Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 11

Thread: ความรู้เล็กๆน้อยๆครับ.

  1. #1
    pepsi5510's Avatar
    pepsi5510 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    308

    Wink ความรู้เล็กๆน้อยๆครับ.




    แบ่งปันความรู้เรื่องพระเครื่องครับ

    ผมว่าคงไม่มีเพื่อนๆสนใจในด้านนี้...บางท่านก็อาจบอกว่า เล่นไม่เป็น ไม่รู้จัก ไม่ค่อยสนใจ และอื่นๆ....แม้เพื่อนอาจจะไม่มีความต้องการต้านนี้ แต่ผมก็อยากจะให้เป็นวิทยาทาน เผื่อกาลข้างหน้าท่านอาจจะชอบขึ้นมา หรืออาจจะลูกๆหลานๆ ชอบก็ได้ครับ...

    วันนี้ผมจะมาว่าด้วยเรื่องพระสมเด็จวัดระฆัง เป็นพระเกจิที่โด่งดังทะลุฟ้า ซึ่งราคาพระเครื่องของท่าน(ของแท้ๆนะครับ) องค์สวยๆราคาไม่ต่ำกว่า 10-20 ล้านบาทครับ.ถ้าแบบทั่วๆไปหรือแค่ใช้ติดตัว ก็ไม่หนีหลัก ล้านบาทครับ...ส่วนถ้าเป็นพระที่หัก ราคาจะตกลงกว่า 50 เปอร์เซนต์.

    มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ.
    พระสมเด็จของท่านเป็นพระเครื่องที่หายากที่สุด ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร..และเป็นที่ค้องการของทุกๆคน. แต่ท่านหารู้ไม่ บางทีพระสมเด็จวัดระฆัง อาจจะตกอยู่กับท่าน แต่ท่านไม่สนใจ หรืออาจไม่รู้ก็ได้...

    วันนี้ผมจะมาแบบวิชาการการดูพระสมเด็จวัดระฆังแบบคร่าวๆนะครับ...แต่แบบคร่าวๆของผม ก็อาจเป็นแนวทางหรือพื้นฐาน ว่าองค์นี้เก่าถึงยุค หรือองค์นี้ใหม่ เราจะได้แยกแยะได้ถูก...บางท่านไม่รู้ที่มาของพระ...แต่เก็บมานานแสนนาน ตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ทวด พอให้เซียนดู หรือเอาไปปล่อย เซียนกลับตีเก๊...

    ผมจึงนําเสนอขั้นตอนการดูพระสมเด็จวัดระฆังแบบคร่าวๆให้ครับ...แต่ท่านใดสนใจมากขึ้น อยากจะให้เเก่งจริงๆ ท่านต้องศึกษามากกว่านี้...แบบภาษิตโบราณว่า....ไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วเราจะได้ลูกเสือได้อย่างไร. นั่นคือท่านต้องโดดเข้าสนามพระ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม เพราะสนามพระเครื่องเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระดีที่สุด...

    หลักสูตรเบื้องต้นในการดู...




    1.การยุบตัวของเนื้อ...พระสมเด็จท่านมีอายุกว่า 150 ปี ดังนั้นให้สังเกตุธรรมชาตของเนื้อพระสารอินทรีย์ต่างๆในเนื้อพระจะมีการสะลายไปตามกาลเวลา การยุบตัว มวลสารต่างๆจะหดรัดตัวยุบลงไปในเนื้อพระ ก้อนมวลสารที่ใหญ่ จะลอยขึ้นมาให้เห็น ส่วนที่ละเอียดจะยุบลง

    2.สังเกตุเนื้อพระจะเกิดรอยแตก ปริ รอยปรินั้นส่วนมากจะเกิดบริเวณด้านหลังองค์พระ ตามขอบๆ ถ้าด้านหน้าจะเกิดตามขอบเส้นซุ้มหรือตามวงแขน

    3.ผิวพระสมเด็จ....จะมีลักษณะคล้ายหนังไก่ เพราะเนื้อพระของท่านจะอะเอียด ดังนั้นการยุบ หด ตามกาลเวลาจะไม่เท่ากัน ตามธรรมชาติ เมื่อพระปั้มออกมา ความเปียก ส่วนไหนแห้เร็ว ส่วนไหนแห้ช้า...จะไม่เท่ากัน บางส่วนยุบ บางส่วนฟู ผสมผสานกันไป...เมื่อนานปี จะทําให้เห็นได้ง่าย ซึ่งของปลอมทําไม่ได้.

    4.รอยปูไต่ รอยหนอนด้น...นี่ก็เกิดตามธรรมชาติ ที่เกิดรอยเพราะตามกาลเวลา พวกสัตว์เล็กๆ บางที่ก็ไปแทะกินเนื้อพระ จึงทําให้เกิดรอยต่างๆ พวกหนอนกินเนื้อพระ เวลามันเครื่อนที่มันจะด้นไป...เป็นรอยคลื่นเล็กๆ

    5.การตัดองค์พระ...สมัยก่อนไม่นิยมใช้มีดตัด....ท่านจะใช้ต้นไผ่ฝานออกมาเป็นตอก เมื่อได้ตอก ท นก็จะเอามาตัดองค์พระให้เป็นองค์...ดังนั้นพระของท่านจะมีรอยการตัดด้วยตอกทุกองค์ ยิ่งนานวันเป็น 100ปี...รอยจะเลือนรางลงไป...แต่ก็ยังจะมีให้เห็นครับ.

    6.รอยเนื้อทลักจากการตัดด้วยตอก....ตามความเป็นจริง...ตอกเมื่อกดลงไปในเนื้อพระที่จะตัด...จะเกิดรอยบีบตัวของเนื้อในส่วนที่กดลงไป...ดังนั้นจะเกิดรอบบีบ และรอยแหว่งยามเมื่อดึงตอกขึ้นมา..เพราะเนื้อพระบางส่วนจะติดตอกออกมา จึงเกิดรอยตามขอบพระ ซึ่งจะทําให้ไม่เรียบ

    7.รูพรุนเท่าเข็มหมุด....หรือเรียกว่า รูพรุนปลายเข็ม...นี่ก็เกิดจากเมื่อเทพิมพ์พระออกมา ภายในเนื้อซึ่งมีส่วนผสมต่างๆมากมาย จะเกิดฝองอากาศ เมื่อฟองอากาศลอยตัว ก็จะเกิดหลุมเล็กๆมากมายในเนื้อพระ...บางส่วนก็ไม่มี เหตุเพราะเนื้อส่วนนั้นแน่นตัว ฟองอากาศจึงไม่ค่อยมี..แต่ส่วนที่เหลว จะเกิดฟอง...และลอยตัวขึ้น.


    นี่เป็นแค่พื้นฐานในการดูพระสมเด็จวัดระฆังนะครับ ...

    และถ้าเพื่อนๆสนใจพระเครื่อง แวะเข้ามาสอบถาม หรือโพสภาพพระที่มีและถามได้ครับ..เพราะขณะนี้ ผม คิดที่จะเปิดกรุ๊ป Sbn Buddha Pra ขึ้นครับ จุดประสงค์ เพื่อให้ความรู้แก่เพื่อนๆสมาชิกในเวปนี้ ได้เข้าใจ และรู้คุณค่า พระที่เรามีอยู่. ถ้าจะให้ดี เข้ามาสมัครเข้ากลุ่มได้เลย....ไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือ รายการขายพระใดๆทั้งสิ้น มีแต่ให้ความรู้อย่างเดียว และปัญหาต่างๆ ทั้งถาม-ตอบให้ท่าน.

    ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาอ่าน
    จะแวะเข้ามาอ่านหาความรู้เฉยๆก็ได้ครับ ผมยินดีต้อนรับเสมอ.

    หรือจะเข้ามาสมัครร่วมความคิดเห็นด้วยกัน ก็ตาม ด้านล่างนี้ครับ...

    http://forum.siambrandname.com/group.php?groupid=33


    กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
    ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.

    http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    911
    ขอขอบคุณสำหรับความรู้ที่เอามาแนะนำกันนะค่ะ

  3. #3
    pepsi5510's Avatar
    pepsi5510 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    308
    Quote Originally Posted by pomme View Post
    ขอขอบคุณสำหรับความรู้ที่เอามาแนะนำกันนะค่ะ
    ไม่เป็นไรครับ....แบ่งปันความรู้ เผื่อมีแวว ในด้านพระเครื่องนะครับ
    ของแบบนี้หาเรียนที่ไหนไม่ได้ด้วย ...
    กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
    ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.

    http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    911
    ส่วนตัวมีสะสมไว้พอสมควร ไว้ยังไงจะขอรบกวนด้วยนะค่ะ
    สะสมเอาไว้แต่ดูไม่เป็นนะค่ะ ว่า แท้หรือไม่แท้.....

  5. #5
    rycool's Avatar
    rycool is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ให้ความรู้ดีมากๆเลยค่ะ เรานี่อยู่ในตระกูลพระเครื่องเลยแต่ดูยังไงก็ดูไม่เป็น
    ลุงเราก็อยู่ในวงการพระ แต่ท่านเสียไปแล้ว ชื่อบิ ท่าพระจันทร์ค่ะ
    สมัยหนุ่มๆลุงกับพ่อเราเป็นเพื่อนกัน เลยสนใจด้านนี้กันทั้งคู่
    ต้องเก่งและมีพรสวรรค์มากๆนะคะ ถ้าจะเซียนเรื่องพระเครื่องเนี่ย
    อย่างเช่นคุณpepsiเป็นต้น
    RycooL RycooL

  6. #6
    pepsi5510's Avatar
    pepsi5510 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    308
    Quote Originally Posted by rycool View Post
    ให้ความรู้ดีมากๆเลยค่ะ เรานี่อยู่ในตระกูลพระเครื่องเลยแต่ดูยังไงก็ดูไม่เป็น
    ลุงเราก็อยู่ในวงการพระ แต่ท่านเสียไปแล้ว ชื่อบิ ท่าพระจันทร์ค่ะ
    สมัยหนุ่มๆลุงกับพ่อเราเป็นเพื่อนกัน เลยสนใจด้านนี้กันทั้งคู่
    ต้องเก่งและมีพรสวรรค์มากๆนะคะ ถ้าจะเซียนเรื่องพระเครื่องเนี่ย
    อย่างเช่นคุณpepsiเป็นต้น


    เฮีย บิ ท่าพระจันทร์ ผมก็รู้จักครับ ยังไปงานศพเฮีย บิ เลยครับ ที่วัดเจ้าอาม.
    ในสนามพระถ้าคบแบบจริงๆจังๆได้ไม่กี่คนครับ...นอกนั้นคบได้แบบผิวเผิน ถ้าคุณพลาดเมื่อไหร่คุณโดนทันที 5555

    แต่สําหรับเฮีย บิ แกไม่เป็นคนแบบนั้น ดีก็ว่าดี...ถ้าไม่ดี แกจะบอก ของเทียมฝีมือ อะไรทํานองนี้...แต่มายุคหลังๆลูกชายมาแทน ผมก็ห่างๆออกมาครับ.(อาจจะเป็นเพราะผลประโยชน์ มาก่อน) คนรู้จัก หรือเพื่อนฝูงมาทีหลัง เหอๆๆๆๆ

    การเล่นพระของผมสมัยก่อนๆ ผมจะคบเป็นคนๆไป...
    เช่นพระสมเด็จ ก็จะมีคนสนิท ด้านพระสมเด็จ คือ เฮียจั๋ว ท่าพระจันทร์
    พระตระกูลสายเหนือ...คนสนิทก็ อาจารย์เสรี ท่าพระจันทร์
    พระเหรียญ ก็ฮียเอี๋ยม
    พระเนื้อชินต่างๆ ก็อาจารย์ จําลอง สุริโย
    ถ้าเป็นพระรูปหล่อ หรือพระกริ่ง...ก็อาจารย์ เล็ก รูปหล่อครับ

    ท่านพวกนี้คืออาจารย์ผมครับ. ก็เป็นพระเครื่องจากพวกท่านๆที่กล่าวมา...อิอิ

    กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
    ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.

    http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72

  7. #7
    noii's Avatar
    noii is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    53
    คุณพี่เปปซี่คะ...ขอถามหน่อยว่า การที่คนเราสนใจในพระเครื่อง หรือ สนใจมากจนเรียกได้ว่าเป็นนักเล่นพระ เขาสนใจ ในจุดไหน ระหว่าง มูลค่าของราคาพระ หรือ พุทธคุณ ของพระองค์นั้น แล้วมีไม๊ที่ พระมีพุทธคุณสูง แต่ไม่เล่นราคากันในตลาดพระ เลยทำให้พระนั้น ไม่ได้รับความสนใจ หรือ ราคาของพระ ไม่ได้ เป็นตัวแปรสำคัญ ของ พระชิ้นนั้นในเรื่องความนิยม สรุปแล้วความนิยมชมชอบของพระชิ้นนั้น อยุ่ที่ไหนเป็นหลัก..โอ๊ย..งงงง
    เมื่อรัก........เราจะให้อภัย
    เมื่อให้อภัย.......เราจะรัก

  8. #8
    pepsi5510's Avatar
    pepsi5510 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    308
    ถ้าจะตอบแล้วคงยาวมากๆครับ...
    ว่ากันตั้งแต่สมัยโบราณกาลเลยนะครับ...สมัยก่อนพวกพระเครื่องต่างๆเราจะไม่ค่อยนํามาไว้ในบ้าน เพราะถือว่าของสูง ที่ผู้ทรงศิล หรือเกจิอาจารย์ต่างๆทําขึ้นมาเป็นเป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชาวบ้านชาวเมืองนับถือของแต่ละพื้นที่..เมื่อยามออกศึกจะได้มีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เหมือนกับว่าพระอยู่กับตัว...พอเสร็จศึก เหล่าชาวบ้าน ชาวประชา ก็จะนําพระที่ติดตัวไปไว้ที่วัด บางทีก็ไว้ตามต้นโพธิ์ หรือตามข้างกําแพงวัด เหล่านี้เป็นต้น...บางคนอาจจะลืมเก็บไว้ในบ้าน และอาจจะหาไม่เจอ...ก็เลยลืม...พอนานวันเข้า พระเครื่องต่างๆที่บางคนเก็บไว้จนลืมก็มี หรือจงใจเก็บไว้เพื่อเป็นศิริมงคลก็ดี...ลองสังเกตุสมัยก่อนๆ พระที่คืนกลับมา หรือเก็บรวบรวมไว้หลังเสร็จศึก หรือยสร้างขึ้นมาใหม่ก็จะนํามาฝังลงในเจดีย์ ตามกําแพงวัด ตามใต้ฐานพระพุทธรูป....พอวันเวลาผ่านมาก ก็เป็นของเก่าสมัยโบราณ ที่เราๆเรียกกันว่า พระกรุ.

    หลังจากนั้นก็เป็นสมัยของเกจิอาจารย์ต่างๆหลากสํานัก เช่นสมัยสมเด็จโต วัดระฆัง...บางคนก็ว่าท่านต่างๆนานา เช่นขรัวโตบ้า ขรัวโตเพี้ยน เป็นต้น...เพราะท่านจะชอบแจกจ่ายพระของท่าน ที่ท่านทําขึ้นมา...แต่ก็ไม่มีใครสนใจ...ท่านก็บอกว่า...เก็บไว้เถอะ อีกหน่อยจะหายาก...ก็ไม่มีใครสนใจ...แต่บางคนก็เก็บไว้..จนสมัย ห่าลง...อหิวา...ซึ่งคนตายมากมาย...แต่ก็น่าปาฏิหาร ที่คนที่มีสมเด็จของท่าน เอาเนื้อของท่านฝนเอาผงมาละลายน้ำดื่ม ปรากฏว่าหาย...เพราะพุทธคุณของท่านแท้ๆ...จนคนหาเก็บกัน จนทุกวันนี้ พระสมเด็จของท่าน หาสวยจริงๆยากมาก นอกนั้น หัก บิ่น สึก นี่ก็พุทธคุณ คนจึงเริ่งหา และ เมื่อความต้องการมาก ของย่อมหมดไปอย่างรวดเร็ว...

    และที่ถาม คนที่เล่นพระเป็นเซียนพระเสมอไปหรือไม่....ขอตอบเลยว่า ไม่. บางคนไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเป็นเซียนพระก็มี...เพราะการเป็นเซียนพระ มันไม่ได้เด่นดังอะไร..มีแต่คนไม่ค่อยชอบ...เพราะคําว่าเซียนพระในสายตาคนทั่วๆไป คิดว่าเป็นพวก โกหก หลอกลวง กะล่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงสําหรับบางคนที่มีจิตใจอยากได้ของคนอื่น...โดยการหามาด้วยการโกหก หลอกลวง เพื่อให้ได้มาเพื่อพรองค์นั้น...แต่บางคนจะหามาด้วย ความเป็นของเก่าควรค่าแก่การอนุลักษณ์ เพราะของแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว...

    ส่วนที่ถามว่าเขาสนใจกันส่วนไหน ราคา มูลค่า หรือพุทธคุณ...ขอตอบตามตรงว่า...ทุกอย่างครับ.ลองคิดดู อย่างเพชร มันมีมูลค่าในตัวมันเอง...พระเครื่องก็เช่นกัน ถ้าเกจิอาจารย์องค์ใดเก่ง ก็จะเป็นที่ต้องการมาก ถ้าองค์ใดเก่งในด้านโฆษณา ก็อาจจะดังในกลุ่มแคบๆ เพราะท่านดังทางโฆษณาชวนเชื่อ....และถามเรื่องราคา...ก็ตามกระแสความต้องการครับ...ยิ่งพระหายากมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคนต้องการมาก ก็ย่อมแพงเป็นเงาตามตัว..

    และพระที่มีพุทธคุณจริงๆก็มี เพราะอะไรจึงไม่ค่อยดัง หรือหากัน...ก็มีหลายประการครับ
    1.พระองค์นั้นเก่ง องค์นี้เก่ง และเป็นพระที่เก่าแก่ เวลาทําพระเครื่องขึ้นมาทําไมคนไม่เล่นหรือหาเก็บไว้เลย...อาจจะเป็นเพราะพระองค์นั้น สึกไปแล้ว(คือเป็นคนธรรมดา ไม่ได้ครองในผ้าเหลือง) ก็ถือว่าเป็นเหรียญไม่น่าเล่น
    2.พระปราชิก....คือมีเหตุที่ต้องอาบัติร้ายแรง แม้เหรียญจะหายากยังไงก็ตาม ก็ไม่มีคนเล่น คงเข้าใจนะครับ..
    3.เหรียญตาย..หมายความถึง พระที่มี เป็นเหรียญที่ทําขึ้นมาหลังท่านเสียไปแล้ว..ก็ไม่ค่อยมีใครเล่นเท่าไหร่.
    4.พระที่ไม่มีการทําลายบล๊อค...แม้พระท่านจะดังอย่างไร ถ้าไม่ทําลาบบล๊อค ก็จะมีออกมาเรื่อย ก็ย่อมไม่เปนพระที่หายาก แบบว่า ทําซ้ำขึ้นมา.ไม่มีวันหมด แม้ท่านเสียไปแล้ว ก็ยังมีออกมา.

    ดังนั้นความต้องการจึงเป็นตัวแปรสําหรับวงการพระ...ในเมื่อพระที่ดัง แต่มีมากมาย ก็ย่อมไม่ค่อยมีใครหาเท่าไหร่....แต่ถ้าท่านเสีย และมีพุทธคุณให้เห็น คนก็เฮโลกันไปเช่า...เมื่อออกจากวัด องค์ละ 50 บาท แต่พอท่านเสียและแสดงปาฏิหาร อย่างเช่น เผาไม่ไหม ร่างท่านไม่เน่าเปื่อย ราคาจะโดดทันที...จาก 50 บาท เป็น 2-3 พัน และถ้าหาของไม่ได้จริง คนที่ต้องการ ก็จะสู้ราคา จาก 2-3 พัน กลายเป็น 2-3หมื่น ดังนี้เป็นต้นครับ.

    ไม่ต้อง งง ครับ....ค่อยๆเรียนรู้ และจะรู้ว่าผมพูดความจริง...และเมื่อคุณ noii เริ่มศึกษา และเริ่มสะสมพระเครื่อง และคุณจะรู้ ว่า พระที่คนหากัน แทบเป็นแทบตาย...ถึงขนาดฆ่ากันเพื่อชิงพระก็มีมาก...ก็เพราะของดีย่อมมีความต้องการสูง เมื่อมีความต้องการสูง เล่ห์เหลี่ยม การโกหก การหลอกลวง การแย่งชิง ก็ตามมา...แต่สําหรับคนมีตังค์เค้าจะสู้กันด้วยราคา. เท่าไหร่ไม่ว่า แต่ขอให้ได้องค์นั้นมา...

    คงพอเข้าใจนะครับ ที่ผมยกเอามาแค่...1 ใน 100 ส่วนครับ.
    กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
    ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.

    http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72

  9. #9
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    80
    แอบสารภาพนะคะ ว่า ตอนวัยรุ่นตอนเรียนที่ต่างประเทศ คุณแม่ให้หลวงปู่ทวดติดตัวไปองค์นึง
    (หายากด้วยสิ) คุณแม่เอาไปเลี่ยมทองแล้วให้ใส่กับสร้อยทอง

    เราก็นึกว่าเป็นพระธรรมดา ก่อนกลับ เราก็เลยถอดให้ ชายคนนึง อายุ 65 ปี เป็นคนอินเดีย ซึ่ง เค้าทำงานที่เดียวกับเรา และดูแลเรามาตลอด เราเลยเรียกเค้าว่า ป่าป๊า วิลสัน

    กลับมา แม่ตีก้นลายเลยค่ะ

    ขอบคุณคุณ pepsi มากค่ะ ที่ให้ความรู้กัน
    You know u love me....XoXo "Gossip GirL"
    ติดงอมแงมไม่ได้นอนเลย แง๊ว

  10. #10
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    มาเอาความรู้ด้วยคน อิอิ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •