Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 5 of 5

Thread: “…คำเตือนที่น่าฟัง…”

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking “…คำเตือนที่น่าฟัง…”

    บทความข้อธรรมะจากพระไตรปิฏก เพื่อเตือนสติคนไทยวันนี้
    ของ พันเอกสุทัศน์ฯ “…คำเตือนที่น่าฟัง…”

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า
    เอาเลื่อยที่มีด้ามสองข้างมาเลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ

    แม้ในเหตุนั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น
    ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น ไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา
    เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
    จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ชั่ว
    เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยประโยชน์
    เราจักมีเมตตาจิตไม่มีโทสะ
    ใจภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น

    และเราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้
    ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง
    ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น
    ดังนี้ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล…”

    จาก...มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ กกจูปมสูตร
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking

    ใคร่ครวญธรรมะจาก...พุทธศาสนสุภาษิต

    อตฺตนา โจทยตฺตานํ ( อ่านว่า อัดตะนา โจทะยัดตานัง )

    จงเตือนตนด้วยตนเอง

    โดย...มรรคาสามัญ

    ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน

    ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน อย่าแชเชือนเตือนตนให้พ้นภัย

    จำไม่ได้แล้วว่าเป็นบทกวีหรืองานเขียนของใครแต่จดจำไว้เตือนใจตนเองมานานแล้ว

    ด้วยกิเลสตัณหาบังตาบังใจ มนุษย์ส่วนใหญ่ จึงไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดทำชั่ว
    รู้แต่ว่าตัวเองทำถูกทำดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าคนอื่นไม่เตือนก็ไม่มีวันรู้ตัว
    เมื่อเสพกิเลสตัณหา อุปาทาน นานวันเข้า ยิ่งถลำลึกจมปลักโคลนแห่งกิเลส
    จนยากที่จะถอนตัวขึ้นจากหล่มได้ เหมือนมดตอมน้ำตาลปึกหลงรสหวานของมัน
    ในที่สุดขาติดความหนืดของน้ำตาลเหลวนั้นขึ้นไม่ได้จึงตายอยู่ตรงนั้นเอง

    ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือผู้เป็นหัวหน้าก็เช่นกัน
    ทำอะไรแล้ว แม้เป็นเรื่องผิดพลาด ลูกน้องหรือคนอื่นไหนเลยจะบังอาจกล้าตักเตือน
    ด้วยเกรงท่านจะว้ากหรือสำรากอุปาทานพ่นพิษใส่
    ได้แต่กล้ำกลืนฝืนข่ม อยู่ร่วมกันไป ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลัก กฏแห่งกรรม
    อีกประการหนึ่งผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก ๆ ค่านิยมของสังคมไทยไม่กล้าเสียมารยาทหักหน้าผู้ใหญ่โดยตรง
    เพราะเชื่อมานมนานแล้วว่า เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
    แม้ผู้หลักผู้ใหญ่เหล่านั้นจะเป็นเหมือนแม่ปูสอนลูกปูให้เดินตรงแบบคดไปคดมาก็ตาม
    ดังนั้นกับผู้ใหญ่แล้วจึงปล่อยให้คิดได้เอง

    ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า อตฺตนา โจทยตฺตานํ : จงเตือนตนด้วยตนเอง



    ................................................................
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  3. #3
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking

    มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ เหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในตู้
    ว่ายวนเวียนไปมาไม่รู้จบ จะไม่สามารถหลุดพ้นจากตู้ได้
    นอกจากความตายหรือหลุมศพนั่นเอง มนุษย์ทุกชีวิต
    จะต้องเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย เป็นของแน่นอนที่สุด...

    แล้วทำไมจึงต้องมากลั่นแกล้งกัน ทะเลาะกัน เกลียดชัง
    กัน อิจฉาริษยากันเพื่ออะไร ทำไมไม่อภัยให้ซึ่งกันและกัน
    ทำให้เกิดสุข จิตจะได้สงบไม่กลุ้มใจ ทำให้ประสาทไม่ตึง
    เครียด.....

    ดังนั้น...เรามาร่วมกันหันเข้าหาธรรมะ เพื่อจะได้มีจิตสงบ
    สบายคลายทุกข์และจะได้ละ โลภ-โกรธ-หลง เพื่อตัดกิเลส
    พวกอยากดัง อยากเด่น อยากสวย อยากรวย อยากได้
    เกียรติยศ ล้วนแต่เมื่อได้แล้วไม่จีรังยั่งยืนตลอดไป เมื่อได้
    แล้ว ถึงเวลาก็เสื่อมได้เช่นกัน...

    ดังนั้น...จงปลงเสียเถิดแล้วจะอยู่อย่างสุขสบาย โดยรีบ
    สร้างความดีตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่มีเวลาทำ....
    1. ทางบุญ - ขึ้นสวรรค์...(ผลกรรมดีที่เคยทำไว้)
    2. ทางบาป - ลงนรก...(ผลกรรมชั่วที่ทำไว้)

    ดังนั้น...เราจงหมั่นสร้างกุศลผลบุญต่างๆ เพื่อเป็นสัมภาระ
    ให้เรา ติดตัวนำไปใช้บนสวรรค์ อย่ามัวแต่โง่สร้างความบาป
    สร้างความทุกข์ให้กับผู้อื่น เบียดเบียนตัวเอง สะสมทรัพย์
    เงินทองที่ดินตึกแถวมากมาย โดยไม่สร้างกุศลเลย...

    ~~บทความจากหนังสือ...สมเด็จพระพุทธจารย์ (โต พรหมรํสี)~~
    ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์


    ขอบคุณธรรมะดี ๆ ------------------------------------- ที่นี่ดอดคอม

    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  4. #4
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    คนเราไม่รู้จะตายเมื่อไหร่
    อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขดีกว่า
    ความสุขที่ทุกคนต้องการคืออะไร
    คิดดูให้ดี ความสุขที่แท้จริงคืออะไร
    ใครตอบถูกให้5บาท

    ขอบคุณน้องhutสำหรับบทความดีที่คอยมาเตือนสติกันอยู่เรื่อยๆนะคะ
    สาธุค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  5. #5
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2

    Smile

    ธรรมะง่ายๆ สไตล์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ก็คือ "ดูจิต" คำสั้นๆ แต่ทำยากมาก

    ของคุณที่นำธรรมะดีๆ มาเตือนสติครับ



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •