เป็น เรื่องจริงที่เกิดขึ้น และอยากขอเตือนเพื่อนๆอย่าใช้ทางลัด เพราะเห็นว่ามันใกล้ เส้นทางนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น วันแห่งการพักผ่อน คุณจะเสียใจ ถ้า....คุณไม่มีประสบการณ์พอ. มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า....
เส้นทางลัด ที่เกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ที่ภูหินร่องกล้า
หลัง จากทําธุระที่ขอนแก่นเรียบร้อย ก็เลยคิดว่าจะทํางานต่อทางสายเหนือดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา จัดการกางแผนที่...ซึงเส้นทางที่ผมจะต้องไปคือ เชียงใหม่ เชียงรายและแม่สาย และเส้นทางที่จะตีออกไปก็มีอยู่ 2 เส้นทาง คือเส้นทางจากวังทอง
(พิษณุโลก) และเส้นทางหล่มเก่า.
พอขับมาเรื่อยๆ ผ่านน้ำหนาว ก็แวะซื้อของกินจิปาถะ และ พักเหนื่อยแก้ง่วงด้วย..ขอบอกตรงๆว่าตลอดเส้นทางคดเคี้ยวบนเขาสวยมากๆ...แดด อ่อน หมอกบางๆซึ่งคลุมมาบนพื้นถนน เสียงสัตว์ป่า...เสียงเรไร...เสียงนกป่า ดังแว่วมาไกลๆ...ได้
บรรยากาศ และธรรมชาติจริงๆครับ. เมื่อหายเหนื่อยก็จัดการกางแผนที่เพื่อดูเส้นทาง...เพราะทางเมื่อถึง เพชรบูรณ์ จะมีทางแยก ออกซ้ายไปทางวังทอง ถ้าออกขวามือไปหล่มเก่า เมื่อมาดูระยะทาง จากแยกเพชรบูรณ์ไปวังทอง ก็ปาเข้าไปกว่า
200 กม....แล้วจากวังทองตีขึ้นอุตรดิตถ์ก็กว่า 100 กม...รวมแล้ว 300 กว่า-400 กม. เพราะกะให้ไปเย็นที่อุตรดิตถ์ และพักค้างคืนที่โรงแรมสีหราชอุตรดิตถ์ แต่อีกเส้นทางคือออกขวามือไปหล่มเก่า ขึ้นเขาเส้นทางเขาภูหินร่องกล้า ออกไปทาง
นครไทย ผ่านน้ำตกชาติตระการ ออกทองแสนขัน ไปออกอุตรดิตถ์ แค่ 200 กว่า กม....ซึ่งเป็นทางที่ลัดมาก. จึงเลยเป็นที่มาการเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง.
ผม จึงตัดสินใจไปทางขวาเพราะทางใกล้กว่ากันมาก...แต่หารู้ไม่ถึงเส้นทางที่จะไป ...แต่ในใจก็คิดว่า รถผมเป็นรถขับ 4 ล้อ เครื่อง 3000 ซซ ไปเกือบทั่วประเทศแล้ว คงไม่มีปัญหา...พอมาถึงเชิงเขา ก็สังเกตุเห็นป้ายอันใหญ่....ซึ่งอ่านแล้วทําให้
ขนลุกเหมือนกัน...ป้ายเขียน ว่า...ห้ามรถบรรทุกทุกชนิด รถโดยสาร รถเกีย auto รถที่มีกําลังม้าต่ำกว่า 2000 cc ขึ้นเด็ดขาด.....แต่รถผมไม่อยู่ในข่าย จึงดื้อดึงขับขึ้นไป....
เมื่อขับขึ้นไปได้ 10 กว่ากิโล....จึงรู้ได้ว่าเส้นทางไม่ดี เป็นทางลาดยางและชํารุด อีกทั้งกรวด ตลอดทาง....ถนนก็แคบมากๆแบบถ้ารถสวนทางกันแทบจะไปไม่ได้....ส่วนสองข้างทาง ก็สุดยอดครับ...ซ้ายก็เหว ขวาก็เหว ซึ่งถ้ามีต้นไม้ใบหญ้าบังก็
ไม่เท่าไหร่ แต่นี่...เหอๆๆๆๆ เตียนโล่ง...ทั้งซ้ายและขวา...และขอชอบอกตรงๆว่าเกียรถใช้ได้แค่ เกีย 1 กับ 2 เท่านั้น เพราะเวลาอัดขึ้นเขา...ซึ่งชันมากๆ ต้องลากเกีย 1 พอได้กําลัง ก็ต่อด้วยเกีย2 อ้าวววเจอทางโค้งอีกแล้ว ก็ต้องอัดด้วยเกีย 1 เพื่อ
มีกําลังส่งขึ้นเขา....พอลงเกีย2 ก็เจอทางโค้งอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้ตลอด...ทางมันขึ้นเขาและชันขึ้นเรื่อยๆ....ความเร็วในตอน นั้นอยู่ที่ 15-20 กม/ชม.....อีกอย่างผมยังต้องปิดแอร์ขณะขับ...เพราะกลัวว่าแรงฉุดจากแอร์ จะมีผลกับกําลังรถ....ลม
บนเขาแรงมาก...เชื่อไหม...ขนาดลมแรง เหงื่อที่แผ่นหลังผมยังไหลเลยครับ...เปียกชุ่มไปหมด...55555 ใครรู้บ้างเพราะอะไร...อิอิ ก็เพราะว่ามันกลัวไงครับ...มือที่จับพวงมาลัย เหอๆๆๆเหงื่อหยดติ๋งๆเลยจ้าๆๆๆๆ กร๊ากๆๆๆๆๆดูแล้วเหมือนรถขับรถ
อยู่บนฟ้า......และขอบอกเลยว่า ถ้าเครื่องรถคุณดับเมื่อไหร่...อิอิ บอกได้เลยว่า....ตกเขาครับ....เพราะแรงฉุดบนเขาที่ชันมากๆ จึงต้องประครอง เท้าซ้ายเลี้ยงครัช เท้าขวาเลี้ยงคันเร่ง....ให้มันสัมพันธ์กัน ถ้าผิดจังหวะ เครื่องดับแน่ๆ....เป็นแบบนี้
ไปตลอดเส้นทาง......อ๊ากๆๆๆๆๆๆ
และ แล้วเหตุตื่นเต้นก็มาถึง........เพื่อนๆรู้หรือเปล่าครับ......55555 จะรู้ได้อย่างไร เพราะผมยังไม่ได้เล่า....นั่นก็คือ คือ..............ป้ายเล็กๆที่เขียนอยู่ข้างเขา...ซึ่งเขียนว่า...
" ระวังช้างป่า "
พระ เจ้าช่วย กล้วยทอด.....ทางก็ชัน เขาก็สูงลิบ รถก็ช้า เหงื่อก็ไหล กลัวก็กลัว พระเจ้ายังไม่ช่วย ยังเอากล้วยทอดมาให้..กร๊ากๆๆๆๆๆ.......จากความเร็วรถช้าอยู่แล้ว...ก็ยิ่ง ชลอรถให้ช้ากว่าเดิม...ก็เพราะกลัวจะไปเจอช้างข้างหน้า....ช้างป่าไม่
ใช่ ช้างบ้าน ลองขับรถผ่ามันไปหรือเที่ยบข้างมัน มันก็กระทืบ หรือดันรถเราตกเขาแล้ว....งานนี้ตูดผมไม่ติดเบาะเลย เพราะมันเปียกไปด้วยเหงื่อที่ไหลจากแผ่นหลังลงไปที่ก้นแล้ว....สันหลังเสียว ว๊าปปไปหมด เพราะคิดว่าเมื่อไหร่จะเจอ....และ
ตลอดเส้นทางที่รถคลานไป ก็ไม่เจอครับ..พอมาถึงบนสุดของยอดเขา...สิ่งแรกที่เจอหลังจากผมเว้งว้างงบน เขาอยู่คันเดียวคือ..ด่านป่าไม้..ซึ่งคอยตรวจตราคนแอบนําสัตว์ หรือล่าสตว์ออกนอกพื้นที่..และด้วยสีหน้าของตํารวจป่าไม้ ที่แสดงออกมา
และ ถามออกมาว่า...คุณมาได้ยังไง.....แต่ คําพูดจากผม ไม่มีออกมาจากลําคอเลย...จอดรถ ...ดับเครื่อง...เดินดิ่วๆๆๆๆไปที่แคร่ของป่าไม้...ผมลงไปนอนแผ่ 2 แขน 2 ขา กางแบบหมดสะภาพครับ...มันหมดแรงเลย. หลับไปร่วมๆ30 นาที..ก็พบ
ตํารวจป่าไม้ นำน้ำเย็น และยาดมมาให้ผม...55555 แล้วถามคําถามเดิม...คุณขึ้นมาได้ยังไง...เส้นทางนี้เค้าเลิกใช้ไปนานแล้ว เพราะมันน่ากลัวมาก มีรถตกเขามามาก...และยิ่งถ้าฝนตก คุณ เอ๋ยยย รถขับมาดีๆมันไหลลงเขาไปเองก็มี...เหอๆๆๆ
ผมก็บอกไปว่า..ผมเห็นว่ามันเป็นทาง ลัดและใกล้...และถ้าผมรู้ว่าเส้นทางมันจะเป็นแบบนี้ ผมไม่ขึ้นมาแน่ๆ และตํารวจป่าไม้ก็บอกผม...คุณ โชคดีที่ไม่เจอช้าง...เพราะช้างจะออกมาเดินบนถนนนี้ ตอนเย็นๆใกล้ค่ำ....ไม่อย่างนั้นคุณแย่แน่
....555555
นี่ ครับ...เป็นเส้นทางลัดของผมในชีวิตที่เกือบเอาไปทิ้ง ที่ภูหินร่องกล้า...และอยากเตือนเพื่อนๆว่าถ้าจะไปเที่ยว...อย่าขึ้นทางหล่ม เก่าเด็ดขาดครับ...แต่ถ้ามีเพื่อนชอบความตื่นเต้นและสัมผัสความน่ากลัว ...และฝีมือ ก็ลองไปใช้เส้นทางนั้นดู...และคุณจะรู้ว่า...อากาศเย็นแค่ไหน เหงื่อคุณสามารถไหลเป็นน้ำได้เลย....555555