"เมื่อได้เวลาพระฉัน ญาติโยมก็พากันกลับ สายใจพาหญิงชราและเพื่อนผู้พิการเดินกระย่องกระแย่งฝ่าแดดกล้าไปยังถนนใหญ่เ พื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งหลายสิบคันแล่นผ่านไป แต่ตลอดเส้นทางเกือบ 3 กิโลเมตร ไม่มีผู้ใจบุญคนใดรับผู้เฒ่าและคนพิการขึ้นรถเพื่อไปส่งถนนใหญ่เลย

เหตุการณ์ทำนองนี้มิใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดในสังคมไทย "ชอบทำบุญแต่ไร้น้ำใจ" เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไปในหมู่ชาวพุทธ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าคนไทยนับถือพุทธศาสนากันอย่างไรจึงมีพฤติกรรมแบบนี้ กันมาก เหตุใดการนับถือพุทธศาสนาจึงไม่ช่วยให้คนไทยมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่ทุกข์ยาก การทำบุญไม่ช่วยให้คนไทยมีเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเลยหรือ"



ขอยกเนื้อหาส่วนนี้มาประกอบนะคะ

เราคิดว่า การให้น้ำใจกับคนแปลกหน้า ถ้าทำได้ก็ดี
แต่ถ้าทำไม่ได้ หรือไม่ทำก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
เพราะสังคมปัจจุบันสอนให้คนเราต้องระแวดระวังภัยตัวเอง

การที่จะรับคนแปลกหน้าขึ้นรถ ถึงแม้จะเป็นผู้เฒ่าและคนพิการ
แต่เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย แล้วมาอยู่ในระยะประชิดแบบนี้
อาจจะเกิดอะไรขึ้นในรถ หรือมีใครดักระหว่างทางเพื่อ.....

เราขอบอกตามตรงว่า คงคิดหนัก (ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม)
หากรับมาแล้ว ระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้นไหม

แต่หากเป็นคนคุ้นเคยกันเราก็ยินดีเต็มใจอย่างยิ่งเลยเพราะรู้ว่าปลอดภัยแน่ๆ

อย่างที่เขาบอกว่าเอ็นดูเขา เอ็นเราขาด นั่นแหละ
ขอระวังตัวเองไว้ก่อนดีกว่า บางคนอาจจะมองว่าไม่มีน้ำใจ(กับคนแปลกหน้า) ก็ตาม

ขอบคุณที่นำบทความดีดีมาฝากกันนะคะ