ต้องเข้าใจนะครับ...สมัยโบราณเค้าจะไม่ใช้มีดตัด..เค้าจะใช้ไม้ไผ่ตัด ซึ่งเรียกว่า การตัดด้วยตอก. การตัดถูกต้องครับ คือตัดจากด้านหลังองค์พระ จึงทําให้เห็นร่อยลอยการตัด...แต่ทุกวันนี้ของปลอมก็ทําได้แล้ว. เฉพาะแค่สังเกตแค่รอยตัดเดี๋ยวนี้ใช้ไม่ได้แล้ว...ต้องมีหลายๆองค์ประกอบรวมไปด้วย..เนื้อ มวลสาร พิมพฺทรง ความเก่า รอยธรรมชาติ รูพรุนเปลายเข็ม รอยปริของเนื้อที่เกิดจากการตัดด้วยตอก..พระสมเด็จทุกองค์ต้องเป็นกรอบกระจกหมดครับ...ยกเว้นซุ้มครอบองค์พระ ถ้าของสมเด็จวัดระฆังท่าน ซุ้มจะเหมือนหวายผ่าซีกครอบองค์ท่าน. และทุกวันนี้ผู้ที่มีสมเด็จท่านแท้ๆ...บางทีเราก็ไม่สามารถเห็นร่องรอยการตัดด้วยจอกนะครับ...ก็เพราะเกี่ยวกับการเก็บรักษา....บางทีสมัยก่อน ตามคําเชื่อว่าถ้าไม่สะบาย ก็ให้ขูดผงสมเด็จท่านมาผสมน้ำ รักษาโรคดีนักแล. จนมาถึงสมัยนี้ พระสมเด็จท่าน หาสมบูรณ์ สวยๆได้ยาก. และที่ผมบอกว่า ผมเดาว่าของน้องเป็นรุ่นปี 2509 ก็เพราะ...สมเด็จบางขุนพรหมท่าน ที่ทันยุคท่าน...ส่วนมากจะฝังในกรุ..ดังนั้นแล้ว ผิวคราบกรุย่อมมี...และการที่จะเกิดผิวคราบกรุ..ก็เกิดจากธรรมชาติ ฝุ่น ผง ทับถมกัน อีกทั้ง ดิน เลน...ทําให้เกิดคราบชึ้นมา...และ..คราบกรุนี้ไม่สามารถล้างออกได้เลย...นอกจากต้องชัดด้วยเครื่องมือเจียฟัน...ที่หมอฟันเค้าใช้กัน.. และการขัด...ส่วนมากจะทิ้งร่องรอยไว้ครับ...พระจะเป็นตลื่น...ผิวส่วนไหนเจียไม่ออก จะติดแน่นแบบถาวรในเนื้อพระครับ...
ส่วนสมเด็จวัดระฆัง...เป็นพระที่ดูยากที่สุด..เพราะอะไร...ก็เพราะเป็นพระที่ท่านทําออกมา เรื่องเนื้อ มวลสาร ไม่ตายตัวครับ...บางองค์เนื้อออกหนึกนุ่มมากๆๆ บางองค์ก็แกร่ง แต่แฝงไปด้วยมวลสารเกษรดอกไม้...และอีกทั้งด้านหลังองค์พระจะเห็นลอยกระดาน...เป็นเส้นๆๆ
ถ้าอธิบายเรื่องสมเด็จท่าน...3 หน้าไม้จบครับ....มีทั้งสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม สมเด็จวัดเกศ และสมเด็จ 2 คลอง...
![]()
Citizen Member /
Trusted Member
เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
Previous
Downtown
pepsi5510
Reply With Quote