จากกระทู้ของคุณ pepsi5510 ทำให้รู้ว่านอกจากแบรนด์เนมแล้ว
ยังมีพี่ๆสนใจพระเครื่องอยู่ไม่น้อย วันนี้มู๋มีพระเครื่ององค์นึงครับ
มาให้พี่ๆช่วยดูให้หน่อยครับ องค์นี้ครับผม
![]()
จากกระทู้ของคุณ pepsi5510 ทำให้รู้ว่านอกจากแบรนด์เนมแล้ว
ยังมีพี่ๆสนใจพระเครื่องอยู่ไม่น้อย วันนี้มู๋มีพระเครื่ององค์นึงครับ
มาให้พี่ๆช่วยดูให้หน่อยครับ องค์นี้ครับผม
![]()
องค์นี้สวย..สภาพดีมากครับ
ผมอาจจะไม่เก่ง พอดูเป็น แบบ งูๆ ปลาๆ...ครับ
องค์นี้ แท้ครับ...
ถ้าให้เดา....ผมขอเดาว่าเป็น สมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509 ที่วงการพระเครื่องเล่น หากันอยู่ครับ...เป็นพิมพ์ใหญ่
มวลสาร...จากพระสมเด็จบางขุนพรหม ของสมเด็จโต(วังระฆัง) ที่จอมพลประพาสท่านเปิดกรุเมื่อ ปี 2500 และเศษพระที่แตกหัก ชํารุด ทางวัดใหม่..ได้เอามาทําเป็นพิมพ์สมเด็จขึ้นมาใหม่ ที่มีมวลสารของท่านมากที่สุด ทําออกให้บูชาเมื่อปี 2509 ....ตอนนี้หายากแล้วครับ...
หลัก...ก็หลายก้อนอยู่เหมือนกันครับ..
(คําว่าก้อน...เซียนพระใช้เรียกแทนจํานวนเงิน)
เช่น....1 ก้อน (1 หมื่นบาท)
1 บาท.....(ก็คือ 100 บาท)
เช่นเราเดินเข้าสนามพระ...พอดีเค้ากําลังมีการซื้อขายพระอยู่....แต่เอ๊ะ...ทําไมราคาถูกจังเช่น....พี่องค์นี้ผมให้เต็มที่....5 บาท. นั่นหมายถึง ราคาพระ 500 บาท ครับ.
![]()
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.
http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72
คุณ pepsi5510
ผมได้ความรู้เยอะเลยครับ
ถ้าไม่รังเกียจมู๋จะขอเรียกพี่ว่า "เซียนแป๊ปซี่" ได้มั้ยครับ ^^
องค์นี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนเอามาให้ดันไปเอาน้ำยาล้างคารบกรุ รักต่างๆออกหมดเลย
เสียดายจัง
มีความรู้อะไรถ้าไม่รังเกียจมู๋อยากศึกษาไว้ครับ
ขอบคุณคับ
ยินดีครับ...
องค์นี้ถ้าไม่ล้างผิวออก....จะสวยกว่านี้ครับ จะออกคราบเหลืองๆผิวส่วนผสมของคราบกรุอ่อน...
ถ้าจะให้ผิวกลับ...ให้สวยดูซึ้งตา...
เอาแป้งเด็ก จอนส์สันเทลงฝ่ามือ แล้วเอาพระสมเด็จท่านคลุกกับแป้งเด็ก...แล้วค่อยๆเป่าผงแป้งออกนะครับ...อย่าเป่าแรง เดี๋ยวพระกระเด็นตกจากฝ่ามือเสียหายครับ...
เมื่อเป่าออกหมดแล้ว...ค่อยๆ ต้องค่อยๆนะครับ...แปรงผิวแป้งที่ยังติดอยู่ตามซอกองค์พระด้วยแปรงสีฟัน(สะอาดนะ ไม่ใช่แปรงที่ใช้แล้ว)...แปรงเบาๆ...
เมือหมดผงแป้งแล้ว...พระท่านจะสวยมาก เหมือนเพิ่งพิมพ์ออกมาใหม่ๆ..เมื่อ ปี 2509 เลยครับ...
แบบว่า ผิวคราบแป้งยังอยู่แบบ ลางๆ...เท่ากับรักษาผิวพระ อีกทั้ง ซึ้งตาด้วยครับ.
อย่า ใช้วิธีนี้กับ หลวงพ่อวัดปากน้ำ(รุ่น 1-3) หรือพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน 97 เด็ดขาด....เดี๋ยวพระท่านจะละลายไปกับน้ำหมดครับ.
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.
http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72
พี่เป็ปซี่ค่ะ ถามหน่อยสิว่า ถ้าเหรียญพระเป็นคราบเขียวๆ ทำไงดี ไม่กล้าเอาแปรงขัด แต่ อยากทำความสะอาด จะทำยังไงไ้ด้บ้างค่ะ
เมื่อรัก........เราจะให้อภัย
เมื่อให้อภัย.......เราจะรัก
สูตรนี้ผมเองใช้ประจำ แต่ต้องระวังอย่าแช่นานเกินไปเพราะจะทำให้รมดำที่เหรียญหลุดไปด้วย แต่เหรียญเอี่ยมแน่นอน หากเหรียญผิวปอกไปก็อาจต้องใช้เวลาหน่อยโดยทิ้งไว้ให้โดนอากาศ แล้วรอให้ผิวเหรียญกลับเองครับ
....ให้ทำดังนี้ครับ ให้ใช้น้ำอุ่น 1 ลิตร ผสมกับผงชูรส 1 ซองเล็กแล้วผสมคนให้ละลาย แค่นี้พร้อมใช้ครับ แล้วหาพาชนะมา วางเหรียญลงไปแบ่งเทน้ำที่ผสมผงชูรส ใสไปให้ท่วมเหรียญแช่ไว้ประมาณ 3-5 นาทีหรือนานกว่านั้น น้ำจะกัดสนิมออกเป็นสีน้ำเงินเห็นได้ชัดแล้ว ให้ใช้แรงนุ่มๆขัดเบาๆแค่นั้นพอครับ ส่วนน้ำที่เหลือในขวดเก็บไว้ใช้ได้เรื่อยๆจนหมด
.....ลองทำดูนะครับ......และหวังว่าสูตรนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆชาวเวปปทุกท่านคร๊าบบบบบ....![]()
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.
http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72
พี่เซียนแป๊ปซี่ครับ
ได้ความรู้เรื่อง ดูแลรักษาพระเครื่องเพิ่มขึ้นเลยครับ
ขอบคุณมากมากครับ
แต่มู๋มีเรื่องสงสัยดังนี้ครับ
ที่พี่เซียนบอกมาว่าสมเด็จบางขุพรหมนั้นเป็นรุ่น09
แต่ที่ผมได้นำองค์พระไปเปรียบเทียบกัน
เห็นความแตกต่างตามที่คุณตาบอกมาดังนีครับ
องค์ที่ผมลงเว็บนั้นจะมีขอบกระจกซึ่งคุณตาได้กรุณาอธิบายมาว่าสมัยก่อนนั้น ในขั้นตอนของการตัดพิมพ์พระนั้นช่างฝีมือจะใช้ "ไม้ไผ่" ตัดมาจากข้างหลังองค์พระ และจะเห็นได้จากด้านข้างว่าผิวนั้นไม่เรียบ
แต่พอมาในยุค09ได้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้พระในรุ่น09นั้นไม่มีขอบกระจก
อย่างไรก็ตามขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ต้องเข้าใจนะครับ...สมัยโบราณเค้าจะไม่ใช้มีดตัด..เค้าจะใช้ไม้ไผ่ตัด ซึ่งเรียกว่า การตัดด้วยตอก. การตัดถูกต้องครับ คือตัดจากด้านหลังองค์พระ จึงทําให้เห็นร่อยลอยการตัด...แต่ทุกวันนี้ของปลอมก็ทําได้แล้ว. เฉพาะแค่สังเกตแค่รอยตัดเดี๋ยวนี้ใช้ไม่ได้แล้ว...ต้องมีหลายๆองค์ประกอบรวมไปด้วย..เนื้อ มวลสาร พิมพฺทรง ความเก่า รอยธรรมชาติ รูพรุนเปลายเข็ม รอยปริของเนื้อที่เกิดจากการตัดด้วยตอก..พระสมเด็จทุกองค์ต้องเป็นกรอบกระจกหมดครับ...ยกเว้นซุ้มครอบองค์พระ ถ้าของสมเด็จวัดระฆังท่าน ซุ้มจะเหมือนหวายผ่าซีกครอบองค์ท่าน. และทุกวันนี้ผู้ที่มีสมเด็จท่านแท้ๆ...บางทีเราก็ไม่สามารถเห็นร่องรอยการตัดด้วยจอกนะครับ...ก็เพราะเกี่ยวกับการเก็บรักษา....บางทีสมัยก่อน ตามคําเชื่อว่าถ้าไม่สะบาย ก็ให้ขูดผงสมเด็จท่านมาผสมน้ำ รักษาโรคดีนักแล. จนมาถึงสมัยนี้ พระสมเด็จท่าน หาสมบูรณ์ สวยๆได้ยาก. และที่ผมบอกว่า ผมเดาว่าของน้องเป็นรุ่นปี 2509 ก็เพราะ...สมเด็จบางขุนพรหมท่าน ที่ทันยุคท่าน...ส่วนมากจะฝังในกรุ..ดังนั้นแล้ว ผิวคราบกรุย่อมมี...และการที่จะเกิดผิวคราบกรุ..ก็เกิดจากธรรมชาติ ฝุ่น ผง ทับถมกัน อีกทั้ง ดิน เลน...ทําให้เกิดคราบชึ้นมา...และ..คราบกรุนี้ไม่สามารถล้างออกได้เลย...นอกจากต้องชัดด้วยเครื่องมือเจียฟัน...ที่หมอฟันเค้าใช้กัน.. และการขัด...ส่วนมากจะทิ้งร่องรอยไว้ครับ...พระจะเป็นตลื่น...ผิวส่วนไหนเจียไม่ออก จะติดแน่นแบบถาวรในเนื้อพระครับ...
ส่วนสมเด็จวัดระฆัง...เป็นพระที่ดูยากที่สุด..เพราะอะไร...ก็เพราะเป็นพระที่ท่านทําออกมา เรื่องเนื้อ มวลสาร ไม่ตายตัวครับ...บางองค์เนื้อออกหนึกนุ่มมากๆๆ บางองค์ก็แกร่ง แต่แฝงไปด้วยมวลสารเกษรดอกไม้...และอีกทั้งด้านหลังองค์พระจะเห็นลอยกระดาน...เป็นเส้นๆๆ
ถ้าอธิบายเรื่องสมเด็จท่าน...3 หน้าไม้จบครับ....มีทั้งสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม สมเด็จวัดเกศ และสมเด็จ 2 คลอง...
![]()
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน.
ยินดีต้อนรับเพื่อนๆเข้ากลุ่ม Buddha Pra เพื่อเรียนรู้และถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องที่คุณมี ด้วยความเต็มใจและจริงใจ การแบ่งปันความรู้ เป็นกุศลอันใหญ่หลวง.
http://siambrandname.com/forum/forumdisplay.php?f=72
โอ้โห!
รายละเอียดต่างๆมันช่างเยอะเหลือเกินครับ
คงต้องอาศัยเจอของจริงและคำแนะนำอีกเยอะสำหรับมู๋
ซึ่งรู้สึกทึ่งในกรรมวิธีในการผลิตพระต่างๆในสมัยก่อน
อยากเก็บไว้ให้ลูกหลาน ^^
ขอบคุณครับพี่เซียนแป๊ปซี่
ได้ความรู้จริงๆเลยค่ะ กระทู้นี้
ปลูกต้นไม้ในดวงใจไว้ต้นหนึ่ง
ต้นกล้าซึ่ง ผลิบานช่อชูไสว
คือต้นไม้แห่งความรักในดวงใจ ... คือต้นรักแห่งสายใยความผูกพัน
[SIGPIC][/SIGPIC]