อืมมมมมมมมมม..........มาให้เห็นชัดๆเลย
ยังไงลองไปทำบุญใหญ่ๆให้เค้าดูนะคะ ให้เพื่อนด้วย
เราเป็นคนตาขาวที่สุดของที่สุด แต่เจอประจำเลยค่ะ
เรื่องที่เราไม่เห็นเองนั้นไม่แปลกค่ะ
เพราะสมัยก่อนตอนที่เรามีคนมาตาม เรานอนกับน้องสาว เรานอนอยู่ แล้วน้องสาวเพิ่งขึ้นนอนได้ 5 นาที อยู่ๆเราก็ใจหายว๊าบบบบบบบบ เสียวสันหลังวูบบบบบบบ เราลืมตาขึ้นทันที แล้วเค้าคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงปลายเท้าเราค่ะ ......... สรุป เราเห็นอยู่คนเดียว น้องสาวเพิ่งหลับตามันไม่เห้นอะไรด้วยเลยไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น........... เราเห็นคนเดียวกันนี้ 4 ครั้ง ในที่แตกต่างกัน
ในที่สุดเรางงงงงงงงมาก เพราะลักษณะการเจอ ความรู้สึกที่เจอคือแบบเดียวกันหมด
เราจึงไปหาคนรู้ (พี่ทิพย์ ตอนนั้นไม่รู้จักกัน.....) ก็ได้ความมา พี่เค้าอธิบายรูปร่างได้ตรงหมดทุกอย่าง เค้าก็บอกเราว่าให้เราไปทำอะไรบ้างบอกว่าคนๆนี้คือใคร หาเจอได้ที่ไหน ณ ตอนนั้น.......... ก็ไปทำตามที่พี่เค้าบอก จากนั้นก็ไม่เจออีกเลยค่ะ ทำบุญ หรือทำอะไรที่ตรงจุดจะสำเร็จ ถ้าทำบุญทั่วๆไปบางทีจะไม่ถึงค่ะ
ถ้าตะเองไม่อยากเห็นอะไรเลยนะคะ....ก่อนนอนให้สวดมนต์ สวด บทพาหุงมหากา แล้วแผ่เมตตา ทุกคืนค่ะ จะไม่เห็นอะไรเลย แต่ต้องสวดให้จบนะคะ ไม่งั้นกลางคืนจะนอนฝันร้าย น้องเราเป็นมาแล้วค่ะ ตอนแรกก็งงว่าทำไมตอนหลังเพิ่งคุยแล้วน้องบอกว่าสวดอะไรบ้าง สรุปสวดไม่จบสลับบทอีกต่างหาก ....ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวยาวไปให้สวด ชิณบัญชร ก่อนก็ได้ค่ะ ผลของชินบัญชรจะอ่อนกว่าบทพาหุงมหากา นิดหน่อย เพราะจริงๆจะต้องสวดต่อกัน 3 บท ถึงจะครบสูตรค่ะ
แต่ละท่านมีประสบการณ์น่ากลัวมาก ๆ ค่ะ
อ่านแล้วขนลุก...กกก
เราก็เหมือนจะเคยเจออยู่บ้างแต่ไม่รู้ว่าคืออะไรแน่ เลยคิดว่า คิดไปเองๆๆ ตลอด
อย่างน้อยก็รู้สึกดีขึ้นนิดนึง -_-"
น่ากลัวจังสงสัยคืนนี้นอนไม่หลับแน่ ๆ
จขกท. ลองทำบุญแผ่เมตตาไปนะคะ เข้าใจว่าเค้าคงไม่คิดจะมายุ่งกับจขกท.
แต่ว่าเราก็อุทิศส่วนกุศลให้เราจะได้สบายใจด้วยค่ะ
fashion & style updates at::http://whatacatsaw.blogspot.com/
เราเชื่อในพระเจ้าค่ะ เราหลุดพ้นจากพวกนี้มานานแล้ว
แฟนเราเป็นพุทธ แต่เค้าไม่กลัวเรื่องพวกนี้
เค้าว่ากันว่า ยิ่งกลัว ยิ่งเจอค่ะ !!!
ไม่ได้ลบหลู่นะคะ แต่ว่า อย่าไปกลัวมันค่ะ
ยิ่งเราให้ความสำคัญกับมันมากเท่าไหร่
มันจะยิ่งมีฤทธิ์อำนาจค่ะ
อยากจะบอกว่า เมื่อก่อน เราโดนหลอกทุกวันค่ะ
กราบ บน ไหว้ ทุกศาล ทุกพระ ทุกวัดค่ะ
กลัวผี มาก ๆ ค่ะ นอนหงายไม่ได้เลยมาเป็นเวลาสิบกว่าปี
เพราะเวลานอนหงาย มันจะมาค่ะ มาเป็นเงา ๆ ตัวใหญ่ ๆ
เสียงกระซิบข้างหูบ้าง เราขยับตัวไม่ได้เลย
ท่องคาถาร้อยแปดมันก็ไม่ไป
วันนึงเราทนไม่ไหวแล้ว นอนกลางวัน มันก็มา
เราเลยบอกมันว่า ถ้ามาอีกขอให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
ขอให้เป็นผีเร่ร่อนไปตลอดไป๊ ๆๆๆ
พระเจ้า มันไปค่ะ มันไปจริง ๆ ค่ะ
มันไม่กลับมาอำเราตอนหลับอีกเลยค่ะ
แต่จะมีมาในรูปแบบอื่น ๆ มาแบบแซว ๆ
เช่น แว๊ป ๆ ตอนขึ้นบันได
อะไรงี้เป็นต้น
ยอมรับว่าเราก็มีตุ้ม ๆ ต่อม ๆ บ้าง แต่พอตั้งสติได้ก็ไล่มันไปค่ะ
ไม่ได้เป็นหมอผีนะคะแต่...กว่าจะผ่านตรงนี้มาได้ก็นานเอาการอยู่ค่ะ
กรณีคุณส้ม เราไม่รู้จะแนะนำยังไง ได้แต่เป็นห่วงด้วยความสัตย์จริง
และปรารถนาให้คุณส้ม รอดพ้นจากวิญญาณชั่วทั้งหลายนะคะ
You know u love me....XoXo "Gossip GirL"ติดงอมแงมไม่ได้นอนเลย แง๊ว
แงงงงงงงงงงงงง ขนลุกเลยอ่าาาา
เค้าอยู่คนเดียวด้วยอ่าาาา น้องหมาก็ไม่มี
กลัวอ่าาาาาาาาาาาาา งือ งือ
ทำบุญค่ะ อุทิศส่วนกุศล
ขอบคุณ SBN มากมายค๊าาา
กะว่าหลอนแน่แล้วตรู!!..พออ่านข้อความคุณเอ
ขำก๊ากเลยค่ะ
เฮ้อ..จะมาเหยียดขาอะไรกันตอนนี้เนี่ย คุณสามี อิอิ
แค่ช่วยกลัวเป็นเพื่อนก็ซึ้งละค่ะพี่โก้..
ถ้าไม่นึกภาพตามมันจะไม่หลอนนะคะพี่มล..ส้มว่า!!
ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
55555++คุณโอ๋ก้อ..กลัวเป็นเพื่อนหน่อยน่า
ใช่ค่ะพี่ดิว มีผู้ใหญ่และใครหลายๆคน
บอกกับ ก. อย่างนี้เหมือนกัน
แต่เค้านึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกน่ะค่ะ
เป็นไปได้ไม๊คะ เรื่องชาติที่แล้วอ่ะค่ะพี่ดิว
ขอบคุณคุณฝ้ายมากค่ะ
ถ้าส้มเจออย่างคุณฝ้ายคงเป็นลมแน่ๆเลย
รุ่งเรือง หรือ???...เจริญ ไหม???...แน่ใจ เหรอ???...
==Pavla==
[quote=asiaticia;1063405719]แนะนำนะคะคุณส้ม ให้คุณก.ไปทำสังฆทาน อย่าทำแค่ครั้งเดียวเผื่อไม่มีกำลังพอส่งให้ไปในทันที เน้นให้เลือกของแบบที่ถ้าคุณ ก.ใช้คุณก.จะซื้อ ที่บอกแบบนี้เพราะหลักของการทำทานคือสละสิ่งที่เรามีหรือต้องการแก่ผู้อื่น เลือกไปวัดทุรกันดารหรือวัดป่าที่คนไปทำสัฆทานน้อยเพราะพระท่านจะต้องการปัจจัยนี้มากกว่าจึงส่งผลเร็วกว่า นิมนต์กล่าวแก่สงฆ์ท่านด้วยว่าช่วยสวดบอกกล่าวสิ่งที่ติดตามมาให้รับทานนี้ไปเป็นกำลังเป็นพาหนะไปสู่ที่พึงที่ชอบ อันนี้คุณส้มว่างควรไปด้วยเพราะอย่างน้อยเรารู้แล้วยังเคยมาบ้านเราด้วย
อีกอย่างที่เจตสงสัยนะคะยังไงคุณส้มลองถามคุณก.ว่าเคยไปรับปากหรือสัญญากับใครอย่างไรที่ไหนเมื่อไหร่นึกให้ดี
เห็นข้อความคุณเจต ก็ทำให้นึกถึงตอนที่ ก.กับส้มและเพื่อนๆอีก 4-5 คน
ไปทำบุญกันที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจ.เพชรบุรี ทุรกันดารพอสมควร
ข้อความที่คุณเจตแนะนำในเรื่องสิ่งที่ต้องนำไปทำสังฆทาน
พระท่านก็แนะนำก. อย่างนี้เหมือนกันค่ะ
แต่ระหว่างทางที่ไปก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตอนไปถึงที่วัดแห่งนั้นครั้งแรก
เจอพระลูกวัด ท่านก็มองมาที่กลุ่มเรา
ด้วยสายตาผิดปกติ ย้ำๆๆๆว่าผิดปกติมาก
แต่สายตาที่ทอดมาในระยะไกลกันนั้น
พวกเราไม่ทราบกันจริงๆว่าท่านมองเจาะจงที่ใครกันแน่
แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ ก.น่ะค่ะ
และก็ไม่ใช่ส้มอีกต่างหาก
เจ้าอาวาสวัดนั้นท่านชราในระดับหนึ่งแล้ว
ไม่ได้เอ่ยปากถามเหมือนในหนังในละคร ประเภทว่า "พาใครมาด้วยล่ะ"
หรือ "ทำไมไม่เรียกให้เข้ามานั่งซะด้วยกันล่ะ" เลยค่ะ
แต่ท่านทักว่า "บาปใครบาปมันนะโยม จะให้เค้ามารับแทนไม่ได้หรอก"
เท่านั้นล่ะค่ะ
พวกเราก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก มองซ้ายมองขวา คนที่โดนมองมีอยู่ 2 คน
คือส้มกับ ก. แต่สายตาเจ้าอาวาสกลับไม่ได้มองที่เรา2คน
ท่านมองไปที่พี่สาวของเจ้าของรถตู้ที่เราเช่ามา
บอกตามตรง
ตอนนั้นอยากรู้ใจจะขาดว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่
แต่อีกใจพวกเราก็ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้เรื่องราว(คือก.ปกปิดบุคคลอื่นที่ไม่สนิทน่ะค่ะ)
ก .เลยตัดบทพระท่านว่า "จะมาทำสังฆทาน ไม่รู้ว่าตัวดิฉันมีเจ้ากรรม นายเวร หรือทำมิดีมิร้ายกับใครไว้บ้าง"
พระท่านก็พยักหน้ารับ .. แต่ก็ยังไม่ละสายตาจากพี่ผู้หญิงคนนั้น
ส้มยอมรับว่ากลัว แต่บอกแล้วไงคะว่า
ไม่เคยเห็นอะไรเลยที่คนอื่นเค้าเห็นกัน
พยายามคิดไปต่างๆนานาว่า จะเหมือนกับที่ลูกศิษย์คุณแม่เห็นรึปล่าว
ประมาณคล้องแขนไว้เหมือนก. ฯลฯ
จนพิธีทุกอย่างเสร็จสิ้น ก.รู้สึกเศร้าๆเพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
ที่สำคัญ ก.ก็ไม่เห็นอะไรอย่างที่(ท่าทาง)ของเจ้าอาวาสเห็น
เลยแอบกระซิบกับเพื่อนว่า "เราคิดไปเองมากกว่า ท่าทางเราอาจเลิ่กลั่กว่ะ ไม่น่ามีอะไรมั้ง พี่เค้านั่งหน้าบึ้งไง พระท่านคงมองว่าไม่เคารพสถานที่อะไรทำนองเนี้ย" ฯลฯ
สารพัดค่ะ สารพัดจะขุดกันมาปลอบ มาพูดเพื่อให้มันดีขึ้น
ตอนใกล้จะกลับ เพื่อนอีกคนตัดสินใจให้พี่ผู้ชายคนขับรถตู้ลงไปถามพระลูกวัดว่า
"เห็นเพื่อนผมบ้างไม๊ครับ" (ประมาณว่าเพื่อนหลง..บาปค่ะ คือหลอกพระนั่นเอง)
พระลูกวัดตอบว่า "เค้าไม่น่าใช่เพื่อนนะโยม หลวงพ่อคุยกับเค้าหรือเปล่าล่ะ"
เท่านั้นล่ะคับพี่น้อง พี่ผู้ชายคนขับรถตู้ ก็วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกพวกเรา
เราก็ไม่รอช้า วิ่งไปถามกันพัลวัน
"หน้าตายังไงคะ"..."ผู้หญิง ผู้ชายครับ".. "เห็นเค้าตรงไหนคะ"...ฯลฯ
พระลูกวัดท่านตอบว่า "มาทำสังฆทานในสิ่งที่เค้าชอบหรือตรงจุดประสงค์หรือเปล่าล่ะ ถ้าใช่ เดี๋ยวเค้าก็ไป"
ถึงตอนนี้ทุกคนหันไปทาง ก. ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่าลืม ก. ไปสนิทเลยค่ะ
เห็นอีกทีนั่งบนรถตู้ แต่นั่งเบาะข้างคนขับ
ซึ่งเป็นที่พี่สาวคนนั้นนั่ง ส้มก็เดินไปถามว่า
"แกมานั่งทำไมตรงนี้เนี่ย ไปนั่งหลัง เร็ว!"
ก. ตอบว่าไงรู้ไม๊คะ "ชั้นจะบ้าละแก..ชั้นกลัวมาก เค้าไม่ได้อยุ่กับใครหรอกมั้ง
เค้าอยู่ในรถตลอดรึปล่าว แกไปถามเจ้าอาวาสให้ทีได้ไม๊ หรือไม่ก็ให้พี่ช้าง(รุ่นพี่ผู้ชาย)
มาไล่เค้าแบบตะคอกดังๆไปเลย!!"
เอาอีกแล้ว ก. ทำส้ม งง แล้วก็กลัวอีกแล้ว เลยถามกลับว่า "เอาดีๆ..แกเห็นเค้าอยู่ไหน"
(ตอนนั้นรู้จักคำว่าขนหัวลุกเป็นยังไงเลยค่ะ นี่ขนาดไม่เห็นเป็นตัวๆนะเนี่ย)
ก.ตอบแบบขอไปทีว่า "บนพนักพิงแถว2!!"
ตอนนั้นส้มกระเด้งไปไกลโดยไม่รุ้ตัว อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆเห็นหน้า ก.ตอนนั้น
ประมาณว่าเหมือนคนพูดกวนประสาทน่ะค่ะ (จริงๆนะคะ)
เพราะเห็นแล้วยังจะไปนั่งอยู่ในรถคันเดียวกันกะ(เค้า)อยู่ได้!!
ก.เหมือนคนบ้าน่ะในความรู้สึกของส้มตอนนั้น
แล้วเพื่อนๆก็เฮโลไปจับกลุ่มจนเรื่องมาเปิดแบบแจ่มแจ้งให้พี่สาวคนขับฟังอย่างละเอียด
แกร้องให้โฮออกมาเลยค่ะ
เข้าใจเลย หัวอกเดียวกับส้ม
ก็ในเมื่อเราไม่เห็นนี่หน่า มีแต่คนอื่นเห็น .......
เรื่องนี้ยาวน่ะค่ะ
เคยคิดจะเล่าให้พี่ป๋องฟังตอนไปทานข้าวต้มที่ร้าน
แต่เสียงเพลงดังมาก ละอีกอย่างเค้าจะมีเวลามานั่งฟังไม๊เนี่ย??
เรื่องเกิดตอนปลายเดือนมีนาคม 2552 นี้ใช่ไม๊คะ
เราไปทำบุญกันช่วงต้นเมษาแบบไป-กลับ
หลังจากนั้น ก.ก็ตระเวนทำบุญ ทั้งขาวทั้งดำ (เค้าว่างั้น) ไปเกาะเกร็ดก็โดนทัก
ไม่ต้องอะไรมากค่ะ
อยู่ในลานจอดรถห้างหนึ่งแถวรามอินทรา
ยามก็ทัก แต่ไม่ได้ทักว่าเห็นผีนะคะ
แต่ทักทำนองว่า ก.เหมือนไม่ดูแลคนพิการที่พามาด้วย...ประมาณนั้นน่ะค่ะ !!....
(เมื่อยมือมากเลย!!~)...
เคยถามก.นะคะว่าที่บอกเค้าหน้าคุ้น คิดว่าเคยเจอที่ไหน ลองนึกมั่วๆดูก็ได้
ก.ตอบอย่างเดียวว่า
"เหมือนลุงที่พาไปอนามัยตอนแขนซ้ายกระแทกกับราวรถไฟ!!"
???
แต่...ลุงคนนั้นเป็นมนุษย์นี่คะ???..แล้วนี่(เค้า)ไม่ใช่นี่หน่า??
(มีเพื่อนมาเตือนค่ะ..............
ยังไงจะพยายามรวบรวมความกล้ามาเล่าถึงความน่ากลัวของ(เค้า)คนนั้นอีกทีค่ะ
(ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นซะก่อน)
หมายเหตุ: ขออนุญาติดวงวิญญาณที่กล่าวถึง ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาใดๆ
ทั้งนี้มิได้ลบหลู่และมิได้หลงงมงายจนเกินไป
ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี
ทั้งนี้ข้าพเจ้าและเพื่อน มิทราบจริงๆถึงที่มาของท่าน
รุ่งเรือง หรือ???...เจริญ ไหม???...แน่ใจ เหรอ???...
==Pavla==
คุณส้มขา
เอจะปูเสื่อรอฟัง ขนหัวตั้ง ขนลุกขนพอง อีกรอบนะคะ
รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นกับเหตุการณ์มากเลยค่ะ
ป.ล.ขออภัย มิได้ลบหลู่ท่าน...แต่ประการใดนะคะ
------------------------
นานนาน จะผ่านมาสักทีนะ ...
------------------------
จริงๆเจตเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องผีนะคะคุณส้ม ไม่ปฏิเสธการมีหรือไม่มีอยู่เลยไม่กลัวเพราะเราอยู่กันคนละที่ไปกันคนละทาง คงเหมือนคลื่นวิทยุ กระแสไฟฟ้า จับต้องเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ จะมีหรือไม่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ชีวิตปัจจุบันดีขึ้น เพียงแต่พอคนรู้แล้วคนเรามันเอาไปคิดไปนึกไปกลัว พระพุทธเจ้าท่านก็ว่า ความกลัวเกิดจากความไม่รู้ แล้วมันเป็นทุกข์ไงคะเลยแนะนำอย่างที่ว่า ทำไปก็ไม่เสียหายกลับดีเสียอีกที่เป็นการสอนจิตใจให้รู้ว่าของที่เราทำเราให้นั้นมันเป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่น อันนี้คือสิ่งที่เราได้จริงคือรู้จักสละ พอสละแล้วอะไรต่อมิอะไรที่จะมาผูกกับเราก็หาห่วงมาเกี่ยวมาผูกไม่เจอค่ะ
บางครั้งเวลาคนเราไปตบปากรับคำหรือแม้แต่เอาจิตไปเกี่ยวกับใครแล้วทำให้อีกฝ่ายนั้นเกิด "ความรู้สึก" ขึ้นมาก็เป็นเหตุให้ติดตามกันมาได้ คุณก.หรือพี่ผู้หญิงของคนขับรถนั้นก็คงเหมือนกันในลักษณะที่ไปทิ้งห่วงให้อะไรมาผูกมาเกี่ยวได้ง่ายเลยมีตามมาหนะค่ะ
โบราณว่าบาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนก่อ กรรมคือตัวส่งผลและเกิดจากความรู้สึก เปรียบเทียบง่ายๆสิ่งมีชีวิตถ้าเราไปทำให้เกิด "รู้สึก" ขึ้นมาก็เกิดเป็นกรรมแก่เราเป็นเหมือนกุญแจคล้องลงกลอนเรียบร้อย เช่น ต้นไม้เวลาเราไปเด็ดไปกินหรือไปโค่นมันหรือจำพวกไวรัสแบคทีเรียเวลาเราล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อจึงไม่เกิดกรรมเพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตแต่ไม่มีความรู้สึกจึงไม่เกิดกรรมที่ผูกกันให้ไปแก้ แต่พวกหมูหมากาไก่ ฯลฯ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกตามสัญชาตญาณ เราไปทำกรรมกับมันก็ต้องชดใช้กัน ยิ่งมนุษย์ด้วยกันนี้ก่อกรรมจากความรู้สึกล้วนๆเลยค่ะเพราะมนุษย์มีสิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นๆไม่มีคือสติและสัมปชัญญะ
เลยอยากแนะนำคุณส้มว่าอย่าไปกลัวค่ะเขาทำอะไรเราไม่ได้หรอกถ้าทำได้ไม่มาเป็นอะไรก็ไม่รู้ติดตามเราไปมาและหาความสงบเองไม่ได้ เราไม่เห็นไม่รู้หนะดีแล้วเป็นกุศลของตัวเราเอง รู้เห็นและยังรับมือหรือทำใจไม่ได้นี่มันทุกข์ขนาดจ้า เลยให้คิดว่าเวลาเราไปทำทานซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ให้มองที่แก่นคือการสละ พลังของการสละจะส่งเป็นกุศลให้บ่วงทั้งหลายมันคลายลงแต่จะไม่หลุดทันทีถ้าเราไม่รักษาศีล ไม่ทำจิตเราให้นิ่งให้เรียบให้สงบ(ภาวนา)ไม่ก่อให้เกิดตะขอไปเกี่ยวโน่นนี่นั่นมาอีก ทำยากแต่ต้องทำค่ะ เจตว่าไม่ร้ายแรงนะกรณีคุณก.แต่ต้องหมั่นทำเพราะเราไม่รู้ว่าเคยไปก่อให้อะไรต่อมิอะไรมีความรู้สึกแรงกล้าต่อเรามากกี่มากน้อย
กรณีกรรมเจตปัจจุบันคือว่าจะไปขออโหสิปลวกที่ขึ้นบ้านเจตอยู่เหมือนกันค่ะ เพิ่งฉีดตายไปทั้งรังและต้องเรียกเค้ามาตั้งสถานีล่อเหยื่อด้วย(แพงอีกต่างหาก Y-Y) ทำไงได้ไม่งั้นบ้านพังแน่เลยยังผ่อนไม่หมดเป็นหนี้ธนาคารอีกตั้งเป็นสิบๆปี เค้าว่าให้อธิษฐานจิตเดี๋ยวมันก็ไปแต่จิตไม่แข็งไม่เป็นกุศลพอเลยต้องใช้วิธีทางโลกไปก่อน กรรมแท้ๆเลยค่ะT-T
"อย่าแตะต้องอดีตมาริยงของพ่อ ให้สายน้ำดำเนินต่อไป
มาริยงจะสมรักแต่แผ่นดินจะสูญสิ้น มาริยงจะสูญเสียแต่แผ่นดินจะสมดุล
ไปกับอนาคตได้แต่ต้องไม่ลืมอดีต... อดีตต้องเป็นมิตรกับปัจจุบัน... ปัจจุบันต้องเป็นฉันท์มิตรกับอนาคต
หากเรารู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร จะไปอย่างไร จะจบอย่างไร แล้วชีวิตเราจะมีความหมายอะไร"_____________________________________________________________________
บทภาพยนตร์ทวิภพ ฉบับสุรพงษ์ พินิจค้า พ.ศ.๒๕๔๗
ทำบุญแล้วอุทิศบุญไปให้เค้าตรง ๆ เดี๋ยวเค้าก็ไปครับ
ขอบุญกุศลทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วนี้จงประสบแด่วิญญาณที่ตามนี้ด้วยเทอญ
แล้วตามด้วย
คาถาแผ่เมตตา
(แผ่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย)
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ
อะนีฆา โหนตุ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ
บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา
ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81