
จําได้เมื่อครั้งอยู่แถววงเวียนใหญ่ หรือตอนนี้เป็นสะพานข้ามสาธร-ถนนตากสิน.
ตอนที่อยู่ตอนนั้น ยังไม่มีถนนใหม่ตัดผ่าน อายุก็ 7-8 ขวบ ถนนหนทางยังเป็น ป่าสวน อยู่ เป็นถนนสายเดียว เล็กๆ รถก็ยังไม่มาก.
เรื่องอาหารการกิน ก็หายากพอสมควร แต่จะมีเจ้าประจําคือ..
บะหมี่เกี๊ยว รถเข็น คนขายก็เป็นอาแป๊ะ แก่ๆ ที่พูดไทยไม่ค่อยชัด แกจะเข็นมาขายแถวๆบ้านผมเป็นประจํา.และก็เป็นที่มา บะหมี่น้ำใส่กาแฟ.
อาแป๊ะ แกจะจอดรถเข็นของแกอยู่หน้าศาลเจ้า และแกจะมีกระบอกไม้ไผ่ และ ไม้ตี ซึ่งแกจะตีไปตลอดทาง โป๊กๆๆ..บะหมี่เกี๊ยวมาแล้ว...โป๊กๆๆๆบะหมี่เกี๊ยวมาแล้ว..ผมก็ดีใจ ว่าได้กินบะหมี่แล้ว..
จัดการของสตางค์แม่..ตอนนั้น ชามละ 5 บาท..พอได้ตังค์ ก็ไปยืนรอแกที่รถขายบะหมี่.
พออาแป๊ะกลับมาจากการร้องขาย..
อาแป๊ะ.....อาหลู๋ ลื้อจาเอาอารายยย
ผม....บะหมี่น้ำ ครับ อาแป๊ะ.
อาแป๊ะ...ล่ายยยย...
แกก็จัดการเอาบะหมี่ลวกน้ำร้อน และสาระวนอยู่กับการทําบะหมี่ให้ผม..สงสัยแกคงจะกระหายน้ำ หรืออย่างไร แกก็คว้า กระบอกน้ำ ที่แกเตรียมมา..แล้วดื่มอย่างกระหาย ที่ไหนได้ แกสําลัก เหอๆๆออกจมูกครับ..เป็นน้ำสีดําๆ..นั่นคือ โอเลี้ยง หรือกาแฟไม่ใส่นม.
และไอ้ที่มันไหลออกจากจมูกแก..มันดันลงในชามบะหมี่น้ำผมพอดี..บะหมี่น้ำไสๆ กลายเป็นบะหมี่สีออก น้ำตาลไปทันที..และแค่นั้นยังไม่พอ แกกลับทําเป็นไม่รู้เรื่อง ก็ทําบะหมี่น้ำให้ผมจนเสร็จ..ผมได้แต่มองดู ตาค้าง แล้วก็มองชามก๋วยเตี๋ยวของผม
แกคงเห็นผมเป็นเด็กมั้ง..แล้วแกก็ยื่นชามให้ผม..บอกตรงๆตอนนั้น แทบไม่อยากจับชามเลย...แล้วแกก็พูดว่า..
อาแป๊ะ......5 บาท
ผม....อึกอักๆๆ...งึมงัมๆๆ..
แบบว่า เหอๆๆๆพูดไม่ออก จ่ายตังค์ พร้อมรับชามก๋วยเตี๋ยว พอห่างออกมาได้ ผมก็เททิ้งหมดเลย..
เหอๆๆๆบะหมี่น้ำสูตรใหม่ ใส่กาแฟดํา.
แล้ววตรู..จะกล้ากินหรอๆๆ.
ตั้งแต่นั้นมา..บะหมี่น้ำ เจ้าอาแป๊ะ ผมไม่กินอีกเลย ยอมหิวดีกว่า.
เลยเป็นที่มา สมัยเด็กๆ อิอิ
บะหมี่น้ำใส่กาแฟ