เผื่อเอาไว้จับผิด...คุณสามีมี กิ๊ก ซ่อนไว้หรือเปล่า....หรือซื้อของแล้วนัดดูของและพร้อมจะจ่ายเงิน....เมื่อมีการพูดคุยเรื่องสินค้า...แค่มอง ตา ...ก็รู้ จริงหรือปลอม. เค้าพูดจริงหรือโกหกเรา.(โดยเฉพาะแม่บ้าน เอาไว้จับผิดคุณ สา-ละ-มี ได้ )
นักวิจัยแนะถ้าอยากรู้ว่าคนตรงหน้าพูดจริงหรือโกหก ให้มองตาคนๆ นั้นให้ดี เพราะระหว่างและหลังจากที่ปั้นเรื่อง จังหวะการกระพริบตาของคนเรามักไม่เหมือนเดิม
ดร.ชารอน ลีล จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัท อังกฤษ ผู้ร่วมจัดทำรายงานฉบับนี้ แจงว่า ระหว่างเล่าความเท็จ คนๆ นั้นจะไม่กระพริบตา...แต่หลังจากนั้นจะกระพริบตาาถี่ขึ้น 8 เท่า
“ที่ผ่านมาความแตกต่างด้านพฤติกรรมระหว่างคนพูดจริงกับคนพูดโกหกไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญมากนักในการวิจัยเกี่ยวกับการตบตา”
นักจิตวิทยาพูดถึงการค้นพบนี้ที่รายงานอยู่ในเจอร์นัล ออฟ นอน-เวอร์บัล บีแฮฟวิเออร์ว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถนำอัตราการกระพริบตาไปใช้ในการจับเท็จได้
นักวิจัย อธิบายว่า การใช้สมาธิเพื่อสร้างเรื่องเท็จอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้กลุ่มที่โกหกไม่กระพริบตาระหว่างที่ปั้นเรื่อง
“คนโกหกต้องพยายามกุเรื่อง และต้องจดจ่อกับเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อให้เรื่องนั้นดูน่าเชื่อถือ แถมยังต้องพยายามจำเรื่องที่โกหกให้ได้ตั้งแต่ประโยคแรกๆ เพื่อที่ว่าเมื่อเล่าใหม่เรื่องราวจะเหมือนเดิม รวมทั้งต้องจำให้ได้ด้วยว่าเล่าให้ใครฟังบ้าง
“คนโกหกมีแนวโน้มมากกว่าคนพูดจริงที่จะพยายามควบคุมพฤติกรรมของตนเองเพื่อให้ดูน่าไว้ใจ
“ส่วนเหตุผลที่อัตราการกระพริบตาถี่ขึ้นหลังการโกหกนั้นอาจเป็นเพราะการกระพริบตาบ่งบอกถึงความรู้สึกปลอดภัย เหมือนการปลดปล่อยพลังงานหลังจากความเครียดในการโกหก”