Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 8 of 8

Thread: TM: เรื่องของมะเร็ง (ไม่ใช่มายิง)

  1. #1
    pangpor's Avatar
    pangpor is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1

    TM: เรื่องของมะเร็ง (ไม่ใช่มายิง)

    ได้รับ mail จากเพื่อน แล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆsbnค่ะ ลองอ่านดูนะคะยาวหน่อยแต่ดีมากมากค่ะ

    หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง
    > และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น
    > ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก
    ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์
    >
    > 1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย
    > เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน
    > จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล
    > เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งใน
    > ร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว
    > มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ
    > จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น
    >
    > 2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10
    > ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง
    >
    > 3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ
    > เซลมะเรงจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก
    >
    > 4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง
    > มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ
    > ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต
    >
    > 5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ
    > การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
    >
    > 6.
    > การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
    > แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก
    > ทำลายระบบทาง
    > เดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ
    > ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ
    >
    > 7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง
    > แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ
    >
    > 8. การบำบัดโดยคีโม
    > และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ
    > อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก
    >
    > 9.
    > เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป
    > ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง
    > ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อ
    > หลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
    >
    > 10.
    > การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา
    > และยากต่อการทำลาย
    > การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย
    >
    > 11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง
    > คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว
    >
    > อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
    >
    > a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง
    > การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง
    > สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น ' นิวตร้าสวีต ' ' อีควล ' ' สปูนฟูล ' ฯลฯ ล้วนทำ
    > มาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย
    > สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย
    > แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอก
    > ขาว ควรหันไปเลือกใช้ ' แบรก อมิโน ' หรือเกลือทะเลแทน
    >
    > b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก
    > โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะไ้ด้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก
    > การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซ
    > ลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร
    >
    > c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแงดล้อมที่เป็นกรด
    > อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น
    > ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด
    > รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ใน
    > เนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์
    > และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย
    > โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
    >
    > d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด
    > ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง
    > อาหารอีก 20% อาจได้มาจาก
    > การทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว
    > น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 15
    > นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้
    > ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด (
    > ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3
    > ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140
    > องศา F ( ประมาณ 40 องศา C)
    >
    > e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง
    > ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง
    > น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีก
    > เลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด
    > ให้หลีกเลี่ยง
    >
    > 12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก
    > และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย
    > เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น
    >
    > 13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้
    > การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง
    > จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง
    > และช่วยให้
    > เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น
    >
    > 14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6
    > [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac,
    > สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์
    > , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ)
    > เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น
    > วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ
    > กำหนดระยะเวลาการตายของเซล
    > ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย
    > ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป
    >
    > 15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ
    > การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงคราม
    กับมะเร็ง...
    > ความโกรธ การ
    > ไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ
    > จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น
    > ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย
    > เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุข
    > กับชีวิต
    >
    > 16.
    > เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก
    > การออกกำลังกายทุกวัน
    > และการหายใจลึกๆจะช่วยให้่ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล
    >
    > การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    68

    Thumbs up

    เป็นข้อมูลที่ดีมากคะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะที่หาเนื้อหาสาระดีๆมาให้

  3. #3
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ดีมากๆเลยค่ะ
    ขอบคุณมากๆที่นำความรู้ดีๆมาแบ่งปันกันนะคะ
    เดี๋ยวจะขอcopyส่งต่อไปให้พี่ชายค่ะ เค๊าเป็นมะเร็งลำใส้ใหญ่
    แต่ผ่าตัดและรักษาหายแล้ว ตอนนี้ต้องคอยรักษาร่างกายให้แข็งแรง
    แต่คนไข้ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลยค่ะ ชอบนอนดึก ทำงานหนัก
    แถมกินเหล้าอีกตะหาก
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  4. #4
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    ขอบคุณนะคะที่หาสาระดี ๆ มาให้อ่านกัน
    ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    339
    ขอบคุณนะคะ

    ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกแล้วค่ะ
    อิ่ม....................

  6. #6
    ting_ja's Avatar
    ting_ja is offline Senior Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,347
    ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้มากๆ เลยค่ะ

  7. #7
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากค่ะ และพยายามทำอย่างที่กล่าวมาด้วย เพราะเคยอ่านมาบ้าง เหมือนกัน แต่ยังทำไม่ได้คือ ยังชอบดื่มนมเปรี้ยวอยู่ ไม่รู้เกี่ยวไหมเนี่ย

  8. #8
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณนะคะที่มาแบ่งปันข้อมูลดีดีค่ะ

    ------------------------

    นานนาน จะผ่านมาสักทีนะ ...

    ------------------------



Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •