ใช่ค่ะ....ทุกท่านลูก หลาน ของเราเป็นสิ่งมีค่า
ปกติเราเองก็ใช้สายจูงผูกข้อมือลูกสาวเหมือนคุณ pitcha_pk ค่ะ
แต่เรามักสังเกตว่ามีคนมองเยอะมาก
จนถึงขนาดมีคนทักว่าใส่สายจูงทำไม
คนที่ทักก็มีทั้งแม่เราเอง และคนอื่น ๆ อีกหลาย ๆ คนทั้งที่รู้จัก
และไม่รู้จัก...เค้ามองว่าเหมือนสัตว์เลี้ยง และจากสายตาเค้า
ที่เรามองเห็นก็คือ เค้าคงคิดว่าแม่มันเพี้ยน เพี้ยน หรือเปล่า
และมักตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ใช้มือจูงซึ่งดูดีกว่าเยอะ......
เราก็ตอบกลับไปอย่าง พร้อมทั้งอยากชี้แจงให้หลาย ๆ ท่านทราบว่า
ปกติเราก็ใช้มือจูง แต่เวลาที่เราไปซื้อของ
ก็จะต้องเลือกหยิบของ ก็เลยต้องใช้สายจูง
จึงไม่สามารถที่จะใช้มือจูงได้ตลอดเวลา
ประกอบกับนิสัยของเด็ก ๆ มักไม่ชอบอยู่กับที่ ทั้งนาน ๆ และไม่นาน
เค้าก็จะไปเรื่อยเปื่อย วิ่งเล่นบ้าง หรือไม่ก็งอแงดึงเราให้ไปจากตรงนั้นเสียที
และเราคิดของเราเองว่า ขนาดรถยนต์ เรายังต้องหาอุปกรณ์มากันขโมย
ฝนตกยังหาถุงพลาสติกมาคลุมกระเป๋า Brand name
แล้วนี่ลูก หลานอันเป็นสุดที่รัก ถ้าหายไปจะเสียใจขนาดไหน
แค่ไม่เจอหน้ากันวันสองวัน ยังคิดถึงใจจะขาด
ดังนั้น เราจึงไม่สนใจที่ใคร ๆ จะมองเวลาที่เราใช้สายจูง จูงลูกค่ะ
และเราเคยได้ยินมีพี่ ๆ ที่ทำงานเคยเล่าให้เราฟังว่า
มีแม่ของลูกชายอายุประมาณ 6 - 7 ปี เป็นเด็กที่หน้าตาน่ารัก
แม่ได้พาลูกชายไปเที่ยวห้างย่านสำโรง และพลัดหลงกันจนเด็กหายไป
ผู้เป็นแม่เสียใจมาก ตามหา และแจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล
เวลาผ่านไปหลายปี ......
วันนึงผู้เป็นแม่ได้เดินข้ามสะพานลอยย่านฝั่งธน
ซึ่งเป็นย่านที่มีขอทานเยอะมากพอสมควร คือมีทุกสะพานลอย
ก็ไม่ได้สังเกตหรือสนใจอะไร
จนเดินผ่านขอทานคนนึง .... ก็ได้ยินเสียงขอทานเรียกว่า แม่ แม่จ๋า
แม่จำนู๋ไม่ได้เหรอ....
ผู้เป็นแม่ก็หันไปมอง และพินิจอยู่นาน...
ไม่แปลกหรอกที่ทำไมผู้เป็นแม่ที่รักลูกมากจึงจำลูกไม่ได้
สาเหตุเพราะเวลาผ่านไปหลายปี เด็กมักมีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างหน้าตา
และที่มากกว่านั้น เด็กคนนั้นไม่มีแขนทั้งสองข้างแล้ว....
เมื่อผู้เป็นแม่จำได้ว่าเป็นลูกของตัวเอง ก็เข้าไปสวมกอดลูกไว้ พร้อมกับร้องไห้
ด้วยความดีใจ และเสียใจ ปนกัน............
นี่เป็นเรื่องเล่าที่ได้ฟังมานะค๊ะ... เลยมาเล่าให้ฟังว่าสมัยนี้ นี่น่ากลัวจริง ๆ ค่ะ
