และคุณสื่อมวลชนครับ ... ผมว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องพูดความจริง.....
ถ้าจำไม่ได้ว่าผมพล่ามอะไร ให้ พูดดังนี้นะครับ
1. โรคนี้ อันตรายครับ .... และยังกลายพันธุ์ให้อันตรายกว่านี้ได้อีกในปลายปีนี้ครับ
2. โรคนี้ หวังพึ่งยารักษา ไม่ได้ครับ และตอนนี้เริ่มดื้อยาแล้วด้วยครับ
3. โรคนี้ต้องป้องกันอย่างเดียวครับ
4. จะควบคุมการระบาดได้ ต้องพร้อมใจกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกันทั้งสังคมครับ
5. จะควบคุมการระบาดได้ ปิดโรงเรียน โรงหนัง ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แล้วครับ ขอแค่ 3 วันก็ยังดีครับ!!!!!
ของแถม (ส่วนนี้ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็ช่างเถอะนะ)
ขออธิบายเรื่องการกลายพันธุ์ ของไวรัสล้วนๆ จะได้รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าเราควรตื่นตัว
อธิบายความรู้พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจก่อน
HOST = เหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( มนุษย์ หรือ หมู / นก สัตว์ต่างๆที่มันเข้าไปสิง)
HOST cell = เซลล์ ของเหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( เซลล์ มนุษย์ หรือ สัตว์)
+++ปฏิบัติการเมื่อไวรัสเข้าไปใน HOST Cell+++
ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นเซลล์ มันจึงไม่สามารถแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้ แต่จะแพร่พันธุ์โดยการฝังตัวเข้าไปใน HOST cell
ดูรูปประกอบ พื้นที่ สีชมพูทั้งหมด คือ HOST cell
รูปหกเหลี่ยมสีเหลือง คือไวรัส
หมายเลข 1-2 คือ ไวรัส สัมผัสผิวเซลล์ แล้วจะละลายตัวเองเข้ากับผนังเซลล์ บุกเข้ามาภายใน Host Cell
หมายเลข 3 เมื่อเข้ามาแล้ว ไวรัสจะสลายเปลือกตัวเอง เหลือแต่ RNA คือเกลียวสีแดงในรูป
หมายเลข 4a RNA คือสารพันธุกรรมของไวรัส ที่จะหลอกล่อ RNA ของHost ( เกลียวสีน้ำเงิน) ให้มาประกบตัว เพื่อสร้างไวรัสตัวใหม่ออกมามากมาย ( ปกติ RNA ของมนุษย์ มีไว้สร้าง โปรตีน และสารจำเป็นอื่นๆต่อร่างกาย และแน่นอนมันเป็นสารที่มีรหัสพันธุกรรมมนุษย์อยู่ด้วย)
ในรูป
4b คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้างเปลือกใหม่ ให้มันแทนอันที่มันสลายทิ้งไปตอนแรก
4c คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้าง RNA ไวรัสใหม่ (ที่ปะปนกับ RNA มนุษย์ เรียบร้อยแล้ว จะกลายพันธ์ได้ช่วงที่หนึ่งก็ตอนนี้แหละ)
หมายเลข 5-6 ประกอบร่างกันใหม่อีกครั้ง ได้เป็นไวรัสลูก (ที่ขโมย RNA ของ Host มาผสมเรียบร้อย) จำนวนนับหมื่นนับแสน เข้าละลายผนังเซลล์ ของ Host แล้ว บุกออกจากตัว Host ออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง.......ระบาดดด นั่นเอง.....
ไวรัสกลายพันธ์อย่างไร
1. Mutation =การผ่าเหล่าของพันธุกรรม : วิธีนี้ช้า ในมนุษย์ ใช้เวลาหลายร้อยชั่วคน แต่ในไวรัส ไม่กี่รุ่นก็ทำได้ (จำคำอธิบายข้างต้นว่า เพียงพ่อเดียว( host ที่ไวรัสไปฝังตัว--> ไวรัสก็ออกลูกได้เป็นหมื่น จึงไม่ต้องรอหลายรุ่นอย่างมนุษย์) และแน่นอน ไม่ต้องรอนับพันปีอย่างมนุษย์ ไวรัสใช้เวลาเป็นวัน หรือ ชั่วโมงเท่านั้น
2. Genetic Recombination เป็นวิธีที่เร็วอย่างน่ากลัวเข้าไปอีก อธิบายดังนี้.....
โปรดดูรูปประกอบอีกครั้ง เกลียวสีแดงๆนั้นแทน RNA ซึ่งล่องลอยไปมาในเซล
คราวนี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปบุกเข้าไปในเซล์Host พร้อมกัน ไวรัสนั้นจะสลายเกราะ ปล่อย RNA ของมันออกมาล่องลอยในเซลล์ ก่อนจะประกอบร่างตัวเองขึ้นมาใหม่เป็นไวรัสลูกหลานออกนอกเซลล์ ไอ้ตอนนี้แหละท่านผู้ชม... มันก็ลากเอา RNA อะไรก็ได้มาประกอบร่าง ( ทั้งของไวรัสอีกตัวนึง กับของ Host ) ผสมกันออกจากเซลล์ กลายเป็น ไวรัสพันธุ์ใหม่เสร็จสรรพ.....
นี่คือที่มาว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ธรรมด๊าธรรมดา กลายมาเป็นไข้หวัดหมู เม็กซิโก 2009 ได้ยังไง
สรุปง่ายๆคือ Host ( คนหรือสัตว์) เกิดแจ็คพ็อตติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปในคราวเดียวกัน ไวรัสก็จะไปผสมพันธุ์กันในร่างเหยื่อคนนั้น ก่อให้เกิดไวรัสพันธ์ใหม่ พร้อมกันทีเดียวหลายพันหลายหมื่นเผ่าพันธ์ แต่แน่นอน การผสมมั่วซั่วเหล่านี้ ไวรัสพันธ์ใหม่ที่ได้ส่วนใหญ่ จะอยู่ไม่รอดในธรรมชาติ แต่มันหลุดมาเป็นหมื่นชนิดมีหรือจะไม่มีชนิดนึงเล็ดรอด ใช่แล้ว และตัวที่รอดออกมาก็คือ “ ไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก 2009 SWINE FLU ”
ดูแล้วพอจินตนาการได้มั้ยครับ ว่า ถ้ามันจะกลายพันธุ์ต่อก็ใช้วิธีเดียวกันได้ไม่ยากเลย!!!!!!
The bad news: the flu vaccine will not protect you.
ข่าวร้าย วัคซีนไข้หวัดแบบปัจจุบันยังป้องกันอะไรไม่ได้
The good news: antiviral drugs (Tamiflu and Relenza) will work.
ข่าวดี : เค้าว่า ยา Tamiflu ช่วยได้
The bad news: antiviral drugs are not very effective after symptoms start, which is why they are not commonly used in medical practice.
ข่าวร้าย : ยาพวกนั้น จะใช้ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเริ่มมีอาการแล้วววว นั่นคือสาเหตุที่หมอเองยังไม่ค่อยมีโอกาสสั่งยาพวกนี้เลย ( ใครมันจะไปหาหมอกินยาก่อนมีอาการฟะ????)
![]()