Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 13

Thread: อยากให้คนอื่นปรับตัว...แล้วเคยย้อนมองตัวเองไหม:พระอาจารย์มิตซูโอะ ...

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking อยากให้คนอื่นปรับตัว...แล้วเคยย้อนมองตัวเองไหม:พระอาจารย์มิตซูโอะ ...

    อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามากๆ ดูตัวเองมาก ๆ
    หลวงปู่ชา สุภัทโท พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) บอกว่า . . .

    "ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %"

    คือ คอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น
    กลับเสียใหม่นะ . . .
    ดูคนอื่นเหลือไว้ 10 % ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร
    เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
    ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90 % จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่
    ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
    โบราณพูดว่า "เรามักจะเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา . . .
    ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม"


    มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย
    เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มากๆ

    เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
    เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10 จึงจะใกล้เคียง

    กับความจริงและยุติธรรม

    เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ
    และตำหนิติเตียนตัวเองมากๆ

    แต่ถึงอย่างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

    พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
    ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมากๆ
    เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ
    ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก
    รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
    เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็นๆ ไว้ก่อน
    ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ . . . ไม่แน่
    อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้ เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
    สักแต่ว่า . . . สักแต่ว่า . . . ใจเย็นๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

    ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
    เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น
    พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
    ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
    ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

    เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิดๆ ๆ
    ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มากๆ
    พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา . . . นั่นแหละ
    เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
    เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
    ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ
    หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
    มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
    อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง

    ระวังนะ . . .
    พยายามตามดูจิตของเรา รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
    ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
    แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา . . . ก็เรื่องของเขา
    อย่าเอามาเป็นอารมณ์ . . .อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา
    ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ . . .
    ทำใจเราให้ปกติ สบายๆ มากๆ
    หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง ไม่มีอะไรหรอก

    "ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา
    คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข"


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    tamdee.org

    เรื่อง สอนคนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น
    โดย
    พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    rita-1's Avatar
    rita-1 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    ได้รับความรู้เพิ่มอีกแล้วจ้า

  3. #3
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986
    เมื่อใดที่ได้เห็น "ความคิด" ชีวิตก็จะอยู่กับ “ความจริง”
    . . . สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริง
    ให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเรากำลังนั่งดูหนังดูละครอยู่
    สิ่งนั้นก็คือความรู้สึกตัว หรือที่เรียกว่า “สติ” นั่นแหละครับ . . .

    ผมมองว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในโลก 2 โลกครับ คือโลกแห่งความคิดและโลกแห่งความจริง
    มันก็คล้ายๆ กับการที่เรานั่งดูโทรทัศน์หรือนั่งอยู่ในโรงละครนั่นแหละครับ ถ้าเรามีสติ
    มีความระลึกรู้ รู้กาย รู้ใจ ว่าเรากำลังนั่งดูหนัง ดูละครอยู่ เราก็อยู่ในโลกแห่งความจริง
    เมื่อใดก็ตามที่เราลืมตัว เผลอตัว เผลอใจ (ของการเป็นผู้ดู) เรียกได้ว่า “หลง”
    เข้าไปในสิ่งที่กำลังดู “อิน (in)” กับมันอย่างเต็มที่ มีอารมณ์ความรู้สึกไปกับหนังกับละครนั้น
    โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หนังหรือละครที่ผมพูดถึงนี้ที่จริงแล้วผมหมายถึง “ความคิด” ครับ
    เราทุกคนต่างก็เป็น “ผู้กำกับ” เป็นผู้สร้างหนังกันทั้งนั้น หลายครั้งเราก็ “ลงไปเล่น”
    หนังที่เราสร้างนี้โดยไม่รู้ตัว ลงไปอยู่ในโลกแห่งความคิด ในโลกแห่งมายา
    โดยนึกไปว่าเป็นโลกแห่งความจริง

    ผมยอมรับครับว่าที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความคิดเป็นส่วนใหญ่
    เนื่องจากถูกฝึกมาให้ “ช่างคิด” จึงไปติดอยู่แต่ในโลกแห่งมายา
    หลายครั้งหลายครา“ไม่รู้ตัว” ว่าเราได้ “กระโดดเข้าไป” ในความคิด
    โดดเข้าไปเป็น “ผู้เล่น” อยู่ในละครเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว ...
    ในวันนี้ได้ความชัดเจนแล้วครับว่ามีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริง
    ให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเรากำลังนั่งดูหนังดูละครอยู่ สิ่งนั้นก็คือความรู้สึกตัว
    หรือที่เรียกว่า“สติ” นั่นแหละครับ คือจะต้องมีสติรู้สึกตัวว่าเรากำลังนั่งอยู่
    รู้สึกตัวว่าเรากำลังมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
    เช่น รู้สึกว่ากำลังมีความสุขกับฉากในละคร รู้สึกตัวว่าเรากำลังโกรธตัวอิจฉา เป็นต้น

    ถึงเวลาที่เราต้องกลับมาเป็น “ผู้ดู” กันแล้วครับ
    จะได้ “หลุด” จากโลกแห่งมายา
    กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงซะที!


    ทีมา : http://gotoknow.org/blog/beyondkm/82784
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    25

    Red face ชอบจัง

    555 อ่านแล้วชอบค่ะ โดนใจ คนเรามักจามองแต่ข้อเสียของคนอื่นจริงๆด้วยค่ะ ของตัวเองก็มองเป็นเรื่องเล็กๆ

    อยากให้คนบางคนแวะผ่านมาอ่านจังค่ะ เผื่อจารู้สึกตัวบ้างว่า ไอ้สิ่งที่ตัวเองทำแล้วบอก "มันก็แค่เรื่องเล็กๆ" มันเรียกว่าเอาเปรียบกันอยู่
    เงิน....ทำให้รู้สันดานคน[SIGPIC][/SIGPIC]

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากนะคะ

  6. #6
    JuNeJuNe's Avatar
    JuNeJuNe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    4

    อ่านกี่ทีๆ ก็เหมือนจะปลงแล้วคิดได้

    ไปๆ มาๆ ก็มาทุกข์เพราะ คำว่าคนอื่นนี่แล่ะค่ะ

  7. #7
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    บทความนี้ ตรงกับตัวเราเองมา คือชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น
    บางทีพูดอะไรไปโดยไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับใคร
    แต่บางครั้งกลับเป็นการทำร้ายคนอื่นไปซะได้
    ไม่ดีเลย ไม่ดีเลย ต่อไปนี้จะปล่อยวางให้มากๆกว่านี้แล้วค่ะ
    ดูตัวเองก่อน ทำตัวเองให้ดีก่อน

    อนุโมทนา สาธุค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  8. #8
    nimnim's Avatar
    nimnim is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ สำหรับบทความดีๆ
    <a href=http://i217.photobucket.com/albums/cc97/nimnimm/i76f-horz-1.jpg target=_blank>http://i217.photobucket.com/albums/c...76f-horz-1.jpg</a>

  9. #9
    noo_pizza's Avatar
    noo_pizza is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,683
    จริงๆ แหละ เรามักจะมองกันแต่ความผิดคนอื่น

    สาธุค่ะลุง ขอบคุณนะคะ
    __________________________

    "ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"

    #### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####

  10. #10
    ratkatu's Avatar
    ratkatu is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    173
    อ่านแล้วโดนค่ะ
    AcHTuNg BiSSiGeR HuNd!!!!!

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •