Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 13

Thread: ปาฏิหาริย์จากการเห็นความคิด........

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking ปาฏิหาริย์จากการเห็นความคิด........

    ปาฏิหาริย์จากการเห็นความคิด

    ใครจะไปคิดบ้าง ว่าสิ่งที่นำความทุกข์มาให้ตลอดชีวิตของเรา
    มีจุดเริ่มต้นมาจากเจ้าความคิดนี่เอง

    เราใช้ความคิด นำความสำเร็จทางด้านการศึกษา หรือหน้าที่การงานมาให้เรา
    นั่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการคิดด้วยปัญญา

    แต่บ่อยครั้งเหลือเกินที่เราปล่อยให้ความคิดนำความทุกข์มาให้ไม่รู้จักจบสิ้น
    เศร้า เพราะคิดถึงแฟนเก่า เศร้า เพราะคิดถึงอดีตอันขมขื่น
    กลัว เพราะคิดกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ฟุ้งซ่านเพราะคิดไม่มีระเบียบ

    ความทุกข์ทุกชนิด ที่เจอๆกันอยู่ แล้วมักจะเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส
    ทำให้ต้องเสียน้ำตา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งฆ่าตัวตาย
    จุดเริ่มต้นของมันคืออะไรเล่า ถ้าไม่ใช่ความคิด

    เราลองมายอมรับความจริงกันดีไหม
    ว่าบ่อยครั้ง ที่ความคิดมันเกิดขึ้นมาเองโดยเราไม่ได้เชื้อเชิญมัน
    นำพาให้เราเข้าไปในความคิด ปรุงแต่งต่อไม่รู้จักจบสิ้น กลายเป็นทุกข์ในที่สุด

    มันแสดงความจริงให้เห็นอยู่ตรงหน้า ว่าจิตมันทำงานได้เอง
    ลองบังคับไม่ให้มันคิด ไม่ให้มันเหม่อสิ ว่าทำได้ไหม คนที่ลองทำส่วนใหญ่ต้องปวดหัวทุกราย
    เพราะว่าเราบังคับมันไม่ได้ ยิ่งบังคับมันก็จะยิ่งดิ้น

    แต่เจ้าความคิดที่เราไม่ได้จงใจคิดนั้น แม้จะเป็นศัตรูที่ไร้เทียมทานมาตลอดชีวิตของเรา
    แต่เราก็มีเพื่อนที่รักเรา และพร้อมจะช่วยเราทุกเมื่ออยู่ คือ "สติ"

    ขอเพียงเรามีสติอยู่ ขณะที่ความคิดเกิดขึ้นมา เราจะรู้ทันมันอย่างเป็นกลาง
    หากเราเห็นว่ามันเป็นความคิดไร้สาระ ที่ถ้าเราเข้าไปร่วมผสมโรง เล่นละครกับมัน เข้าไปช่วยมันคิด
    มันจะต้องนำความทุกข์มาให้เราแน่ๆ เราก็สามารถวางมันลงได้อย่างง่ายดาย

    แต่ถ้าสติยังไม่เข้มแข็ง หรือเรื่องที่คิดนั้น มันรุนแรงมาก เช่น อกหัก รักคุด ไม่สมหวัง
    ขณะที่มันคิดขึ้นมา อารมณ์เศร้าย่อมตามมาอย่างรุนแรง เป็นเรื่องธรรมดา
    แต่สิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิต คือไปช่วยมันคิด ทำไมเขาต้องทิ้งเรา ทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น
    ทำไมเขาไม่ทำอย่างนี้ แล้วก็ทุกข์ซ้อนทุกข์ ไปเรื่อยๆ ไม่มีใครช่วยได้เลย

    ขอเพียงเรามีสติรู้ว่า เจ้าความคิดมันกำลังมาเล่นงานเราอีกแล้ว
    เราก็จะไม่ไปช่วยมันคิดต่อ แม้อารมณ์เศร้าได้เกิดขึ้นมาแล้ว แต่มันก็จะจางหายลงไปเอง

    ถ้าใครได้เคยสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้ เขาก็จะรู้ซึ้งถึงใจเลยว่า
    ความทุกข์ที่เกิดขึ้นมานั้น มันไม่จีรัง ขอเพียงไม่สร้างเหตุเพิ่มให้มัน มันก็พร้อมที่จะหายไปเองอยู่แล้ว
    ไม่ต้องพยายามหนี ไม่ต้องพยายามหาอะไร มาเพื่อแก้ไขมันเลย
    ขอเพียงดูอยู่อย่างเป็นกลาง ไม่เข้าไปช่วยคิด ซ้ำเติมให้ตัวเองทุกข์เพิ่ม แค่นั้นเอง

    แล้วคุณจะมีศรัทธาในคำสอนขององค์ปฐมศาสดา และพระอริยเจ้าทั้งหลาย ผู้สอนวิธีดับทุกข์ให้อย่างสิ้นเชิง
    มาเถิดเพื่อน มาหมั่นเจริญสติ สร้างกำลังให้เพื่อนรักกล้าแข็งพอ
    ที่จะช่วยกำจัดทุกข์อันเกิดจากความคิด ออกไปจากเราทุกคน
    แรกเริ่มเดิมที เราคิดต้องการสิ่งใด มากกว่าใจก็ไขว่คว้า
    พอได้มาด้วยใจอวิชชา ก็สรรหาวิธี รักษามัน
    แต่อนิจจา จิตอวิชชาน่าสงสาร
    ในสักวันสิ่งที่รักษานั้น ก็ตั้งอยู่ เสื่อมลง และดับไป

    ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : http://dekchaiboy.spaces.live.com/bl...3B8!1914.entry
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    19
    ขอบคุณค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]

  3. #3
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    โมทนา สาธุ



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  4. #4
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ต้องมีสติรู้ทันความคิด จะได้ไม่ทุกข์จนเกินไป

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆจ้า

    สาธุค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    แรกเริ่มเดิมที เราคิดต้องการสิ่งใด มากกว่าใจก็ไขว่คว้า
    พอได้มาด้วยใจอวิชชา ก็สรรหาวิธี รักษามัน
    แต่อนิจจา จิตอวิชชาน่าสงสาร
    ในสักวันสิ่งที่รักษานั้น ก็ตั้งอยู่ เสื่อมลง และดับไป


    ดีค่ะ ชอบมากได้ข้อคิด ขอบคุณค่ะ
    Do what you know best, if you are a runner, run!
    if you are a bell, ring!

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    สติมา ปัญญามี

    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ

    ------------------------

    นานนาน จะผ่านมาสักทีนะ ...

    ------------------------



  7. #7
    nimnim's Avatar
    nimnim is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ขอบคุณมากมายค่ะ จิตตกพอดีเลย อ่านแล้วได้คิดเยอะเลยค่ะ
    <a href=http://i217.photobucket.com/albums/cc97/nimnimm/i76f-horz-1.jpg target=_blank>http://i217.photobucket.com/albums/c...76f-horz-1.jpg</a>

  8. #8
    noo_pizza's Avatar
    noo_pizza is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,683
    ขอบคุณ และสาธุค่ะลุง
    __________________________

    "ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"

    #### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####

  9. #9
    ratkatu's Avatar
    ratkatu is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    173
    สาธุค่า............
    AcHTuNg BiSSiGeR HuNd!!!!!

  10. #10
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากๆ ค่ะ

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •