บุญที่ให้ทานแก่ปลา



ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี
ทรงปรารภพ่อค้าโกงชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกชายของพ่อค้า
ตระกูลหนึ่งในเมืองพาราณสี มีน้องชายอยู่คนหนึ่ง
เมื่อบิดาเสียชีวิตแล้วสองพี่น้องได้ปรึกษาหารือกัน
เรื่องบริหารกิจการค้าขาย ตกลงกันเดินทางไปสะสางบัญชีการค้า
ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ได้เงินพันหนึ่งแล้วก็เดินทางกลับมา
นั่งกินข้าวห่อรอเรือข้ามฟากที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว พระโพธิสัตว์ได้ให้อาหารที่เหลือ
แก่ปลาในแม่น้ำแล้วอุทิศส่วนบุญกุศลให้สรรพสัตว์
รวมถึงเทวดาที่แม่น้ำนั้นด้วย เทวดาพออนุโมทนารับส่วนบุญเท่านั้น
ก็เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยลาภยศอันเป็นทิพย์
เมื่อให้อาหารปลาหมดแล้วเขาก็ลาดผ้าบนหาดทรายล้มตัวลงนอน
หลับไป ส่วนน้องชายของเขามีนิสัยเป็นหัวขโมยมาตั้งแต่เด็ก
นั่งคิดวางแผนฉกเอาทรัพย์จึงห่อก้อนหินขึ้นห่อหนึ่ง
ขนาดเท่ากับถุงห่อเงินนั้น

เมื่อเรือข้ามฟากมาถึง เขาก็ปลุกพี่ชายแล้วถือถุงสองถุง
ขึ้นเรือไปก่อน เมื่อเรือไปถึงกลางแม่น้ำ เขาก็ทำให้เรือโครงเครง
ทำทีเป็นเสียหลักโยนถุงหนึ่งลงน้ำไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า

" พี่ ถุงห่อเงินตกน้ำไปแล้ว เราจะทำอย่างไรละทีนี้ "

" เมื่อมันตกน้ำไปแล้วก็ช่างมันเถอะ อย่าคิดถึงมันเลย
หาเอาใหม่ได้มากกว่านี้ " พี่ชายตอบ

เทวดาประจำแม่น้ำคงคาเห็นเหตุการณ์นั้นตลอดจึงบันดาลให้
ปลาปากกว้างตัวหนึ่งมากลืนกินถุงเงินนั้นไป
ฝ่ายน้องชายเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็รีบแก้ถุงเงินอีกถุงหนึ่งออกดู
ด้วยความกระหยิ่มใจ แต่พอแก้ห่อดูกลับเป็นถุงห่อก้อนหิน
จึงได้แต่นั่งคร่ำครวญเสียใจอยู่คนเดียวที่หลงทิ้งถุงห่อเงินลงน้ำไป
ฝ่ายพี่ชายก็กลับไปบ้านของตนโดยไม่คิดอะไร

หลายวันต่อมา พวกชาวประมงไปหาปลาจับได้ปลาปากกว้างตัวนั้น
จึงเที่ยวเดินขายปลาอยู่ว่า

" ปลาสดๆ จ้า ตัวนี้ขายตัวละ ๑,๗๐๐ บาท สนไหมครับ "

ชาวบ้านพากันหัวเราะเยาะว่า " ปลาอะไรจะแพงขนาดนั้นละ "

จึงไม่มีใครซื้อไป พวกเขาเดินขายไปจนถึงประตูร้านบ้าน
ของพระโพธิสัตว์ได้ร้องขายปลาอยู่หน้าร้านนั้น
พระโพธิสัตว์เดินออกมาดูปลา สนใจปลาปากกว้างตัวนั้น
จึงถามราคาว่า

" ปลาตัวนี้ราคาเท่าไหร่จ้ะ "

" ผมขายให้ ๒๘ บาทละกันครับ " ชาวประมงตอบ

เขาจึงซื้อปลาตัวนั้นไปมอบให้ภรรยาปรุงอาหาร
พอภรรยาผ่าท้องปลาเท่านั้นก็พบถุงเงินจึงมอบให้เขา
เขาเปิดดูเห็นตราประทับห่อของตนก็จำได้
จึงนั่งคิดแปลกใจอยู่คนเดียวว่า

" แปลกจัง ชาวประมงร้องขายปลาให้คนอื่น ๑,๗๐๐ บาท
แต่ขายให้เราเพียง ๒๘ บาท เราได้เงินคืนมาเพราะอะไรหนอ "

ขณะนั้น เทวดาได้ปรากฏร่างยืนอยู่ในอากาศพูดว่า

" เราเป็นเทวดาประจำแม่น้ำคงคา ท่านให้อาหารปลาวันนั้นแล้วอุทิศส่วนบุญแก่เรา

เราจึงขอมอบทรัพย์แก่ท่านคืน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแผนการณ์ของ
น้องชายท่านเอง ชื่อว่าความเจริญย่อมไม่เกิดแก่คนผู้มีจิตคิดร้ายผู้อื่น "

แล้วได้กล่าวคาถาว่า

" ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์สมบัติของพี่น้องและของพ่อแม่
ผู้นั้นจัดว่าเป็นผู้มีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดา
ก็ไม่นับถือเขา "กล่าวคาถาจบก็หายร่างไป


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
ผลบุญกุศลช่วยให้ผู้มีจิตไม่ประทุษร้ายได้รับของคืน
แม้เทวดาก็สรรเสริญยกย่อง



ที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๒
โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย) : เว็บไซด์ธรรมะไทย