อันนี้อยากถามคุณจขกท.ว่าพี่สาวคุณเขาสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมากไหมคะ ถ้าใช่บางทีเรื่องนี้พูดยากเพราะ ชายหญิงบางที "click" กันแค่จากบทสนทนาที่แสดงว่าเป็นคนที่สนใจในสิ่งเดียวกัน ฝรั่งว่ามัน connected อะไรอย่างนั้น เรื่องความรักและการแต่งงานเป็นเรื่องของคน 2 คนและเรื่องแบบนี้ไม่มีแบบแผนหรือกฎเกณฑ์แน่นอนมาวัด ระยะเวลาไม่ใช่คำตอบเป็นเพียงเครื่องมือในการช่วยชั่งและตัดสินใจ เช่น เพื่อนของเรารู้จักคบหากับแฟนไม่กี่เดือน ฝ่ายชายไม่อยากให้ฝ่ายหญิงกลับเมืองไทยเลยขอเธอแต่งงาน ทุกวันนี้เป็นสามีภรรยามาจะ 4 ปีแล้วมีความสุขดีเป็นคู่สามี-ภรรยาที่น่ารักทีเดียว ส่วนของเราคบหากันมานาน เราปีนขึ้นคานจนจะถึงจั่วบ้านแล้วยังไม่มาขอเราสักที
สำหรับเรื่องการได้วีซ่าไม่ใช่หลักประกันว่าผู้หญิงจะไม่ถูกหลอก หากหลักฐานที่ทั้ง 2 ฝ่ายยื่นให้จนท.เพื่อยื่นขอวีซ่าคู่สมรสนั้นสมบูรณ์ ทางจนท.ไม่สามารถหาข้อโต้แย้งถึงความเป็นเท็จหรือเจตนาแฝงใดๆ เขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธวีซ่าแก่บุคคลนั้นๆค่ะ ผู้หญิงไทยหรือแม้แต่ผู้หญิงในประเทศโลกที่สามทั่วไปที่มีวีซ่าถูกต้องตามกฎหมายถูกสามีในนามหรือสามีทางพฤตินัยทารุณและบังคับให้ค้าประเวณีมีอยู่ คือหาเมียมาช่วยหาเลี้ยงว่างั้น อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อกลายร่างเป็นแมงดาก็มาก อยากที่คุณ Ketsy บอกให้ดูประเภทวีซ่าที่ขอด้วย นัย ข้อบังคับ สิทธิและรายละเอียดมันต่างกันมากเลยนะคะ
ข้อนี้ต่างหากที่เราว่าเป็นตัวแปรทุกอย่าง ฟังดูพี่สาวคุณคงอยากใช้ชีวิตในต่างประเทศ มีสามีฝรั่งอาจด้วยทัศนคติที่เห็นคนผิวขาวเหนือกว่าเอเชีย ตรงนี้ที่ทำให้เธอเสี่ยงตกในสถานการณ์เลวร้ายภายหลังได้ เพราะมีอคติและมองสิ่งที่เกิดขึ้นแบบมีม่านมาบังตา ส่วนตัวคิดว่าคุณจขกท.ถ้าเป็นห่วงจริงๆควรไปด้วยในฐานะนักเรียนแต่อาศัยอยู่คนละที่ ช่วยสังเกตและคอยช่วยเหลือห่างๆโดยมีข้อมูลของศูนย์ช่วยเหลือต่างๆให้เรียบร้อยในมือ เช่น สถานทูตไทย ศูนย์ช่วยเหลือหญิงไทยใน U.K. สถานีตำรวจในเมืองหรือเขตที่ไปพำนัก เห็นอะไรผิดปกติเก็บหลักฐานไว้ทำนองนี้