Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 10

Thread: *****ไข้หวัดใหญ่ 2009*****

Hybrid View

  1. #1
    nimnim's Avatar
    nimnim is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1

    *****ไข้หวัดใหญ่ 2009*****

    ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ เคยได้อ่านข้อมูลตรงนี้แล้วหรือยัง

    ขออนุญาตเอามาลงในที่ SBN นี้หน่อยนะคะ ต่ายเข้าไปอ่านใน Thaiclinic มา

    เจอประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับล่าสุดค่ะ

    คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้าง เลยเอามาให้ได้อ่านกันค่ะ

    ยาวหน่อยนะคะ ถ้าขี้เกียจอ่าน อ่านแค่ตรงที่ทำสีแดงๆไว้ให้ก็ได้จ้า
     





    ล่าสุด ๑๑ มิย ๕๒



    คำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข
    เรื่อง ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ(เอช1เอ็น1)
    ฉบับที่ 6

    --------------------------------

    ปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ(เอช1เอ็น 1) กำลังขยายตัวไปทั่วโลก และขณะนี้ประเทศไทยพบการระบาดภายในประเทศแล้ว ซึ่งแม้ว่าผู้ป่วยโรคนี้มีอาการไม่รุนแรง ใกล้เคียงกันกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิมที่เกิดขึ้นตามปกติ อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเชื้อสายพันธุใหม่ คนทั่วไปไม่มีภูมิต้านทานโรค

    สถาน ศึกษาเป็นแหล่งชุมชนกลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาด และนำไปสู่การแพร่กระจายเชื้อโรคออกไปสู่ชุมชนได้ ดังนั้นเพื่อความาปลอดภัยของนักเรียน ครู อาจารย์ และเพื่อป้องกันการระบาดในสถานศึกษา กระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้คำแนะนำสถานศึกษาในการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1 เอ็น 1) ดังต่อไปนี้


    1. คำแนะนำทั่วไปสำหรับสถานศึกษา :

    • เผยแพร่ความรู้เรื่องโรคแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองติดโรค หรือแพร่โรคไปยังคนรอบข้าง

    • แนะนำให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นต้น หยุดเรียนและพักรักษาตัวที่บ้านหรือหอพัก (ควรให้ผู้ป่วยนอนแยกห้อง) หรือหากมีอาการป่วยมาก ควรรีบไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์

    • ก่อนเริ่มการเรียนในแต่ละวัน ควรตรวจสอบจำนวนนักเรียน หากพบเด็กขาดเรียนมากผิดปกติ (ตั้งแต่ 3 คน ในห้องเรียนเดียวกัน) ขอให้ตรวจสอบสาเหตุ หากสงสัยว่าเด็กขาดเรียนจากอาการของไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนและควบคุมโรคได้ทันการณ์

    สังเกตอาการ เด็กนักเรียนในห้องเรียน หากพบเด็กป่วยด้วยอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว ฯลฯ

    เพื่อป้องกันการแพร่ กระจายเชื้อให้กับผู้อื่น ควรให้เด็กป่วยสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าปิดปากจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และแยกเด็กป่วยให้อยู่ห้องพยาบาล รวมทั้งติดต่อให้ผู้ปกครองพากลับบ้าน เพื่อให้การดูแลรักษาเบื้องต้นและพักผ่อนที่บ้าน แต่หากเด็กมีอาการมากควรต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา


    • หากมีนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ จากการศึกษาหรือหาประสบการณ์การทำงานและท่องเที่ยว

    ควร แนะนำให้เฝ้าติดตามอาการของตนเองอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วัน โดยในระยะ 3 วันแรกควรพักอยู่ที่บ้านก่อนไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสถานศึกษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ

    และขอให้สถานศึกษาพิจารณาผ่อนปรนการลง ทะเบียนหรือการเข้าเรียนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งอาจอยู่ระหว่างการพักเฝ้าติดตามอาการอยู่ที่บ้าน หรือระหว่างได้รับการดูแลกรณีป่วยหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ


    2. คำแนะนำกรณีพิจารณาปิดสถานศึกษา

    ใน การพิจารณาปิดสถานศึกษาเพื่อการชะลอการแพร่ระบาดของโรค ควรกำหนดกระบวนการมีส่วนร่วมที่มีใช้ดุลยพินิจร่วมกันระหว่างผู้บริหารและ คณะกรรมการสถานศึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งเครือข่ายผู้ปกครอง โดยพิจารณาข้อมูลทางวิชาการ ผลการสอบสวนโรคและปัจจัยเกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ

    สถานการณ์ ก (A) : พบว่ามีนักเรียน หรือนิสิต นักศึกษา เป็นผู้ป่วยยืนยันโรคว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ(เอช1 เอ็น 1) จำนวน 1 ราย หรือกลุ่มเล็ก ซึ่งทุกคนมีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่การระบาดของโรค

    ซึ่งแสดงว่าติดเชื้อจากต่างประเทศ และไม่ใช่การแพร่เชื้อภายในประเทศ

    แนวทางการดำเนินการ :

    • ไม่จำเป็นต้องปิดสถานศึกษา

    • ควรแจ้งผู้ปกครองให้รีบนำผู้ป่วยไปรับการวินิจฉัยโรคและการรักษาจากแพทย์

    • หากแพทย์ผู้รักษาอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน ขอให้หยุดเรียนและอยู่กับบ้านหรือหอพัก เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันหลังวันเริ่มป่วย เพื่อให้พ้นระยะการแพร่เชื้อ และกลับเข้าเรียนได้เมื่อหายป่วยแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง


    สถานการณ์ ข (B) : พบว่ามีนักเรียน หรือนิสิต นักศึกษา เป็นผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ(เอช1เอ็น 1) จำนวน 1 ราย หรือกลุ่มเล็ก และไม่มีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่ระบาดของโรค

    ซึ่งแสดงว่าติดเชื้อภายในประเทศ และมีการแพร่เชื้อเกิดขึ้นในชุมชนภายในประเทศ

    แนวทางการดำเนินการ :

    • ควรพิจารณาปิดสถานศึกษาที่ผู้ป่วยศึกษาอยู่ โดยอาจปิดเฉพาะห้องเรียนที่มีผู้ป่วย ปิดทั้งชั้นเรียน หรือทั้งโรงเรียน ตามความจำเป็น

    • ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา ควรปิดเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้พ้นระยะการแพร่เชื้อ

    • ศูนย์เด็กเล็กและสถานรับเลี้ยงเด็ก อาจจำเป็นต้องปิดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เพื่อให้พ้นระยะที่เด็กเล็กจะแพร่โรคให้ผู้อื่นได้ ซึ่งมักจะมีระยะเวลานานกว่าผู้ใหญ่

    • ระดับอุดมศึกษา ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อพิจารณาปิดสถานศึกษาเป็นกรณีไป

    • กรณีผู้สัมผัสโรคที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน มิได้อยู่สถานศึกษาเดียวกันกับผู้ป่วยรายแรก แต่มีกิจกรรมร่วมกันนานพอสมควร เช่น เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่คลุกคลีใกล้ชิด แข่งกีฬาหรือรับน้องร่วมกัน ฯลฯ ภายใน 7 วัน นับจากวันสุดท้ายที่ผู้ป่วยมีอาการป่วย

    o หากผู้สัมผัสโรครายนั้นมีอาการป่วย ให้หยุดเรียนไว้ก่อนและรีบไปพบแพทย์ ถ้าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า ไม่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ไม่ต้องปิดโรงเรียน

    o หากผู้สัมผัสโรครายนั้นมีอาการป่วย และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ (เอช1 เอ็น 1) ขอให้พิจารณาปิดโรงเรียนที่ผู้สัมผัสโรครายนี้เรียนอยู่ด้วย โดยใช้เกณฑ์การปิดสถานศึกษาเช่นเดียวกับข้างต้น


    สถานการณ์ ค (C) : พบว่ามีนักเรียนหรือนิสิต นักศึกษา เป็นผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ (เอช1 เอ็น 1) เป็นกลุ่มใหญ่ และผู้ป่วยไม่มีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่การระบาด

    ซึ่งแสดงว่ามีการระบาดอย่างกว้างขวางในสถานศึกษาแล้ว หรือในชุมชนอาจมีการระบาดด้วยในเวลาเดียวกัน

    แนวทางการดำเนินการ :

    แนะนำให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นต้น หยุดเรียนและพักรักษาตัวที่บ้านหรือหอพัก (ควรให้ผู้ป่วยนอนแยกห้อง) หรือหากมีอาการป่วยมาก ควรรีบไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์

    • ควรพิจารณาปิดสถานศึกษาที่ผู้ป่วยศึกษาอยู่ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน โดยปิดเฉพาะห้องเรียนที่มีผู้ป่วย ปิดทั้งชั้นเรียน หรือทั้งโรงเรียน ตามความจำเป็น 

    3. คำแนะนำการทำความสะอาดในสถานศึกษา

    เชื้อ ไวรัสนี้จะอยู่ในเสมหะ น้ำลาย น้ำมูก ของผู้ป่วย และแพร่ไปยังผู้อื่น โดยผู้ป่วยไอจามรดโดยตรง หรือรับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์ แก้วน้ำ ฯลฯ โดยมือที่เปื้อนเชื้อไปขยี้ตา แคะจมูก หรือใส่เข้าปาก เชื้อจะสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือพื้นผิวได้ประมาณ 2 ชั่วโมง

    ดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ จึงควรทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ โดยเฉพาะพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะเรียน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได ฯลฯ โดยการใช้น้ำผงซักฟอกทั่วไปเช็ดทำความสะอาด อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ภายในห้องควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง


    4. คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย ผู้ปกครอง และผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน

    ผู้ ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร บางรายอาจมีอาการอาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย

    ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการ จะทุเลาขึ้นตามลำดับ คือ ไข้ลดลง ไอน้อยลง รับประทานอาหารได้มากขึ้น และหายป่วยภายใน 5-7 วัน ยกเว้นบางรายอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดปอดบวม มีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว

    ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการไม่ รุนแรง ( เช่น ไข้ไม่สูงมาก ตัวไม่ร้อนจัด ไม่ซึม และพอรับประทานอาหารได้) สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ ผู้ป่วย ผู้ปกครอง และผู้ดูแลผู้ป่วยควรปฏิบัติดังนี้

    • ผู้ป่วยควรหยุดเรียน และพักอยู่กับบ้านหรือหอพัก เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันหลังวันเริ่มป่วย เพื่อให้พ้นระยะการแพร่เชื้อ และกลับเข้าเรียนได้ เมื่อหายป่วยแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

    • แจ้งทางโรงเรียนทราบ เพื่อจะได้ร่วมเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสถานศึกษา และป้องกันควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที

    • ให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซทามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพริน) และยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของเภสัชกรหรือสถานบริการทางการแพทย์ หรือคำสั่งของแพทย์

    • ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นพบเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ต้องรับประทานทานยาให้หมดตามที่แพทย์สั่ง

    • เช็ดตัวลดไข้ ด้วยน้ำสะอาดที่ไม่เย็น

    • ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด

    • พยายามรับประทานอาหารอ่อน ๆ รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก และผลไม้ให้พอเพียง

    • นอนพักผ่อนมากๆ ในห้องที่อากาศไม่เย็นเกินไป และมีอากาศถ่ายเทสะดวก

    • ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ปิดปาก และจมูก เวลาไอหรือ จามด้วยกระดาษทิชชูหรือแขนเสื้อของตนเอง

    ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ

    หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ร่วมบ้านหรือร่วมห้อง (หากเป็นไปได้ ควรให้ผู้ป่วยนอนแยกห้อง)

    รับประทานอาหารแยกจากผู้อื่น หรือใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน

    ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ร่วมกับผู้อื่น

    • หากอาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที


    5. คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน

    • ควรติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และคำแนะนำต่างๆ จากกระทรวงสาธารณสุขและสถานศึกษาเป็นระยะ

    แนะนำพฤติกรรมอนามัยให้แก่บุตรหลาน เช่น รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การป้องกันการติดเชื้อไวรัส โดยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ การใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน การรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่

    • แนะนำให้เด็กหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่

    • หากบุตรหลานของท่านมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ให้ใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูก และทิ้งลงถังขยะ และขอให้แจ้งทางโรงเรียนทราบ เพื่อจะได้ร่วมเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสถานศึกษาและป้องกัน ควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที

    • ปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้เป็นปกติเท่าที่จะเป็นไปได้ ถึงแม้ว่าจะมีการปิดสถานศึกษาหรือมีการระบาดของโรค

    • หมั่นพูดคุยกับบุตรหลาน ให้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้บ้าง และตอบคำถามที่เด็กสงสัยเท่าที่เด็กในแต่ละวัยจะเข้าใจได้

    • หากเด็กมีความรู้สึกกลัวหรือกังวล ควรแนะนำให้ระบายความรู้สึกของตนเองออกมา และตอบคำถาม รวมทั้งปลอบโยนให้คลายกังวล

    • เด็กมักจะต้องการความรู้สึกปลอดภัยและความรัก หากบุตรหลานของท่านมีความกังวล ท่านควรให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ

    • ดูแลมิให้บุตรหลานของท่านหมกมุ่นกับข้อมูล ข่าวสารสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากเกินไป จนเกิดความกลัวหรือวิตกกังวลจนเกินเหตุ


    6. คำแนะนำสำหรับด้านการบริหารจัดการอื่นๆ เมื่อเกิดโรคในสถานศึกษา

    • ควรจัดทำแนวทางปฏิบัติ สำหรับครู/อาจารย์ เมื่อมีการระบาดของโรค เช่น การแนะนำนักเรียนและผู้ปกครอง การติดตามนักเรียนในชั้นเรียนที่ป่วย เป็นต้น

    • ควรจัดระบบการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง/นักเรียน

    • มีผู้ประสานงานหลักของโรงเรียน เพื่อติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิด



    7. แหล่งข้อมูลการติดต่อ เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่

    1. กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ กองควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2245 8106, 0 2246 0358 และ 0 2354 1836

    2. ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง

    ท่านสามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข http://www.moph.go.th

    และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 3333

    และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 1994 ตลอด 24 ชั่วโมง


    กระทรวงสาธารณสุข
    วันที่ 11 มิถุนายน 2552
     
    <a href=http://i217.photobucket.com/albums/cc97/nimnimm/i76f-horz-1.jpg target=_blank>http://i217.photobucket.com/albums/c...76f-horz-1.jpg</a>

  2. #2
    nimnim's Avatar
    nimnim is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    จาก Thaiclinic เช่นกันค่ะ     




    http://beid.ddc.moph.go.th/th/index....tent&task=view &id=4933286&Itemid=240


    โลกเริ่มเข้าสู่ภาวะการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลกแล้ว
    (ดัดแปลงจากคำแถลงการณ์ของผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก)

    โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

    12 มิถุนายน 2552



    วัน ที่ 12 มิถุนายน 2552 (ตามเวลาในประเทศไทย) พญ.มากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศยกระดับเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ จากระดับ 5 เป็นระดับ 6 ซึ่งหมายถึง การระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) เริ่มแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้วโดยมีการติดต่อจากคนสู่คน ณ ขณะนี้ มีผู้ป่วยยืนยันโรคนี้ มากกว่า 30,000 ราย ใน 74 ประเทศทั่วโลก

    จาก การประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ พบว่า สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ถึงแม้ความรุนแรงของโรคในปัจจุบัน ผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง และสามารถหายได้เอง แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ประกอบกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในอดีตที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่า อย่างน้อยในช่วงแรกของการระบาดครั้งนี้ จะมีความรุนแรงในระดับปานกลาง

    ภาพรวมของผู้ป่วยจากการระบาดของโรคนี้ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า

    ผู้ป่วยมักเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ที่มีการระบาดในวงกว้าง

    ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอายุไม่เกิน 25 ปี ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต มักมีอายุระหว่าง 30-50 ปี

    ซึ่งลักษณะเช่นนี้ มีความแตกต่างไปจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ที่ผู้เสียชีวิตมักอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว

    อย่าง ไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ผู้ที่ภูมิต้านทานต่ำ ภาวะอ้วน และหญิงตั้งครรภ์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเป็นอย่างมาก


    การระบาดใหญ่ ของโรคไข้หวัดใหญ่ครั้งก่อนๆในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา การระบาดกระจายไปทั่วโลกในเวลา 6-9 เดือน โดยในเวลานั้นการเดินทางส่วนใหญ่ ใช้ทางเรือหรือรถไฟ ดังนั้นประเทศต่างๆ ควรเตรียมรับมือกับการที่จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

    ส่วน ประเทศที่มีการระบาดของโรคอย่างกว้างขวางไปแล้ว ควรเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดของโรคระลอกที่สอง โดยควรเน้นหนักในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม

    สำหรับการ ชันสูตรทางห้องปฏิบัติการและการสอบสวนโรคสำหรับพื้นที่ที่มีการ ระบาดในวงกว้างแล้ว ควรลดความสำคัญลง เพราะประโยชน์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับทรัพยากรที่ต้องทุ่มเทลงไป

    องค์การ อนามัยโลกกำลังประสานกับผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคนี้ อย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่า จะพยายามให้มีปริมาณวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ให้มากที่ สุด ภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

    ส่วนในระหว่างที่รอการผลิต วัคซีนนั้น ขอให้ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขและชุมชนหรือมาตรการที่ไม่ใช้ยา/เวชภัณฑ์ (Non-pharmaceutical Intervention) เช่น การส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคล การจำกัดการชุมนุม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อร่วมด้วย

    ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ยังคงแนะนำว่า ไม่ควรจำกัดการเดินทางหรือปิดพรมแดน 
    <a href=http://i217.photobucket.com/albums/cc97/nimnimm/i76f-horz-1.jpg target=_blank>http://i217.photobucket.com/albums/c...76f-horz-1.jpg</a>

  3. #3
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    ขอบคุณที่เอาข้อมูลดีๆ มาฝากกันค่ะ

    ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดีๆ แข็งแรงทั้งกายและใจนะคะ
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    4
    ขอบคุณที่เอามาบอกกันน่ะค่ะ

    เป็นประโยชน์มากๆค่ะ
    ความสงสัย คือ ต้นน้ำของมหาสมุทรแห่งปัญญา

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ขอบคุณมากนะค่ะ
    ตอนนี้โรงเรียนหนูกำลังหยุดอยู่ หนึ่งอาทิตย์เต็มเลยค่ะ

  6. #6
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ขอบคุณน้องต่ายมากๆค่ะ
    รายละเอียดยาวจริงๆด้วย
    ขอบคุณที่เป็นห่วงเพื่อนในSBNนี้นะจ๊ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  7. #7
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    80
    เห็นเค้าว่ากันว่า จะมีผู้เสียชีวิต 1 ใน 10 ของผู้ป่วย
    จริงหรือป่าวคะ

    แล้วยาที่รักษาเค้าบอกว่า อันตราย ถ้าใช้รักษาเด็ก
    เพราะรักษาไม่ได้กับเด็กบางคน
    เด็กที่อ่อนแอจะทนฤทธิ์ยาไม่ไหว จริง หรือป่าวคะ

    วอนผู้รู้ตอบด้วยค่ะ

    You know u love me....XoXo "Gossip GirL"
    ติดงอมแงมไม่ได้นอนเลย แง๊ว

  8. #8
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    49
    ขอบคุณมากนะคะที่มาเตือนกัน

    ตอนนี้มีเพื่อนในกลุ่มไปฉีดวัคซีนป้องกันมาแล้วค่ะ

    วิธีนี้น่าสนทีเดียวเพราะ ทุกวันเราคงหลีกเลี่ยงคนไม่ได้

Similar Threads

  1. การแสดงการบินผาดแผลง THUNDERBIRD 2009
    By PrimmRose in forum MARS; Study, Work, Sport, Travel ความก้าวหน้า กีฬา ท่องเที่ยว
    Replies: 5
    Last Post: 10-13-2009, 05:12 PM
  2. 7 August 2009
    By nooni in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 19
    Last Post: 08-05-2009, 01:47 AM
  3. FW เตือนเรื่องไข้หวัด 2009 ครับ
    By hut2211 in forum VENUS; Beauty, Life, Love, Family ครอบครัว ความรัก ความงาม
    Replies: 10
    Last Post: 07-15-2009, 04:39 PM
  4. บัตรมอเตอร์โชว์ 2009
    By Babinie in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 4
    Last Post: 04-02-2009, 12:15 AM
  5. HAPPY NEW YEAR 2009
    By TwinkleStar in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 32
    Last Post: 01-02-2009, 11:46 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •