Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 6 of 6

Thread: มาต่อกันค่ะ "พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน" ตอนที่2

  1. #1
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64

    Talking มาต่อกันค่ะ "พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน" ตอนที่2

    จากหนังสือ "พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน"
    เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก โดย อาจารย์ วศิน อินทสระ

    จะทยอยมาพิมพ์ให้อ่านกันนะคะ วันนี้ของเสนอ ตอนที่ 2


    และแล้วพระจอมศาสดาก็เสด็จไปยังภัณฑุคาม(พัน-ทุ-คาม) และโภคนคร(โพ-คะ-นะ-คอน)ตามลำดับ
    ในระหว่างนั้นทรงให้โอวาทภิกษุทั้งหลายด้วยพระธรรมเทศนา อันเป็นไปเพื่อ
    โลกุตตราริยธรรม* กล่าวคือ ศึล สมาธิ ปัญญา วิมุติ และ วิมุติญาณทรรศนะ**
    เป็นต้นว่า

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ศีลเป็นพื้นฐานเป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ ประหนึ่งแผ่นดินเป็นที่รองรับและตั้งลง
    แห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพและหาชีพมิได้ เป็นต้นว่า
    พฤกษาลดาวัลย์ มหาสิงขรและสัตว์จตุบททวิบาทนานาชนิด บุคคลผู้มีศึลเป็นพื้นใจย่อม
    อยู่สบาย มีความปลอดโปร่งเหมือนเรือนที่บุคคลปัดกวาด เช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือด
    และฝุ่นเป็นที่รบกวน"

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศึลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิคือความสงบใจ สมาธิท่ีมีศึล
    เป็นเบื้องต้น เป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ
    เหมือนเรือนที่มีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาสำหรับป้องกันลม
    แดด และฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิต
    เป็นสมาธิดีก็ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ ไม่กระวนกระวาย เมื่อลม แดด และฝน กล่าวคือ
    โลกธรรมแผดเผา กระพือพัดซัดสาดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิอย่างนี้ย่อมก่อให้เกิด
    ปัญญาในการฟาดฟันย่ำยีและเชือดเฉือนกิเลสอาสวะต่างๆ ให้เบาบางลงและหมดสิ้นไป
    เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจะบศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานกัน"

    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้นย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่
    กำจัดความมืดให้ปลาสนาการ มีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ
    ขับฝุ่นละอองคือกิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึงเป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ"

    " อันว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วย
    กิเลสนานาชนิด ศึล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอก
    ด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุพ้นจากอาสวะ(กิเลส)ทั้งปวง"

    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ(กิเลส) ย่อมพบกับความปีติ
    ปราโมทย์อันใหญ่หลวง รู้สึกตนว่าได้พบขุมทรัพย์มหึมา หาอะไรเปรียบมิได้ อิ่มอาบซาบซ่าน
    ด้วยธรรมตนของตนเองนั่นแลเป็นผู้รู้ว่า บัดนี้กิเลสนุสัยต่างๆ ได้สิ้นไปแล้ว ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว
    เหมือนบุคคลผู้ตัดแขนขาด ย่อมรู้ด้วยตนเองว่าบัดนี้แขนของตนได้ขาดแล้ว"



    จบตอนที่ 2

    *โลกุตตราริยธรรม=โลกุตตรธรรม=ธรรมที่แสดงเพื่อสภาวะพ้นโลก
    ได้แก่มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 (ตอนต่อไปจะได้พูดถึง)

    **วิมุติ และ วิมุติญาณทรรศนะ= สภาวะที่เกิดรู้อันหมดจดตื่นพร้อมและเบิกบานนิรันดร
    เหนือสนามแห่งการเวลาในโลกทั้งปวง สภาวะปราศจากนามรูปคือ พระนิพพาน


    ขออนุโมทนาส่วนกุศลผลบุญแด่ท่านทั้งหลายที่ได้อ่านบทความนี้
    และขอเป็นปัจจัยให้ทุกท่านประสบผลสำเร็จ ในสิ่งที่ปรารถนาในทางที่ดี
    ทั้งทางโลกและทางธรรม มีดวงตาเห็นธรรม เกิดภพชาติใด ให้ดวงจิต
    เจริญอยู่ในพุทธศาสนาสืบไป และเพื่อการประโยชน์สูงสุดในชีวิต
    คือการหลุดพ้นจากทุกข์

    ใครอ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนPMมาถามได้ค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  2. #2
    asiaticia's Avatar
    asiaticia is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    38

    Lightbulb

    กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ ขอมงคลแห่งธรรมในใจส่องสว่างให้เห็นทางพ้นทุกข์แต่ผู้สานธรรมพี่ดิวและครอบครัวและท่านทั้งหลาย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
    "อย่าแตะต้องอดีตมาริยงของพ่อ ให้สายน้ำดำเนินต่อไป

    มาริยงจะสมรักแต่แผ่นดินจะสูญสิ้น มาริยงจะสูญเสียแต่แผ่นดินจะสมดุล

    ไปกับอนาคตได้แต่ต้องไม่ลืมอดีต... อดีตต้องเป็นมิตรกับปัจจุบัน... ปัจจุบันต้องเป็นฉันท์มิตรกับอนาคต

    หากเรารู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร จะไปอย่างไร จะจบอย่างไร แล้วชีวิตเราจะมีความหมายอะไร"
    _____________________________________________________________________
    บทภาพยนตร์ทวิภพ ฉบับสุรพงษ์ พินิจค้า พ.ศ.๒๕๔๗

  3. #3
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  4. #4
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    ขอให้จขกท. เจริญในทางโลกและทางธรรม จากการที่ได้เผยแผ่ธรรมะสู่สาธารณะครับ



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    มาอ่านวันนี้แทนค่ะ

    เป็นสาวกพี่ดิวคนนึงแล้วค่ะ

    อนุโมทนาบุญต่อธรรมทานครั้งนี้ ครั้งก่อน และครั้งต่อๆไปด้วยค่ะ

  6. #6
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณมากๆจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

Similar Threads

  1. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 02:06 PM
  2. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 01:58 PM
  3. Replies: 1
    Last Post: 05-03-2021, 01:32 PM
  4. Replies: 1
    Last Post: 03-29-2021, 04:38 PM
  5. Replies: 1
    Last Post: 03-28-2021, 10:35 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •